ท่านประธานที่รัก – บทที่ 230 เซอร์ไพรส์อย่างไม่ทันตั้งตัว

บทที่ 230 เซอร์ไพรส์อย่างไม่ทันตั้งตัว

“คุณหลู ทำไมคุณถึงมาบริษัทเราเหรอคะ โปรเจ็คครั้งก่อนมีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ?” เฉินเฉียววางแก้วในมือ เอ่ยถามด้วยสายตาใจเย็น

หลูตงซิงส่ายหน้า ไม่ได้พูดถึงเรื่องบริษัท แต่กลับเอ่ยอย่างกังวล “คุณเฉิน เราก็รู้จักกันนานแล้ว เลยไม่อยากปิดบังคุณ โปรเจ็คนั้นเรียบร้อยแล้วครับ เครื่องมือก็กระจายไปตามบริษัทต่างๆแล้ว ที่ผมมาวันนี้ ไม่ใช่จะมาคุยเรื่องนี้กับคุณ เพราะครั้งก่อนมาบริษัทพวกคุณแล้วคุณไม่อยู่ ได้ข่าวว่าคุณลาเลยเป็นห่วงคุณ”

เฉินเฉียวไม่ได้คิดว่าที่คุณหลูมาเพราะเป็นห่วงเธอจริงๆ

เพราะเธอรู้ดีกว่าใครๆ สถานการณ์ตอนนี้ ที่มาที่นี่ก็มีแค่จุดประสงค์เดียว มาเพื่ออยากรู้ว่าโปรเจ็คมูลค่ามหาศาลนั้นอยู่ที่พวกเธอหรือเปล่า ถ้าอยู่ ต้องใช้วิธีอะไรเพื่อแย่งจากพวกเธอ

ถึงแม้เฉินเฉียวยังไม่แน่ใจว่าต้นตอมาจากใคร แต่ไม่พูดไม่ได้เลยว่า เรื่องนี้มีทั้งผลดีทั้งผลเสียกับบริษัทเธอ

“ขอบคุณคุณหลูนะคะ ช่วงก่อนฉันลาเพราะเรื่องส่วนตัวจริงๆ เพราะแบบนี้ เลยไม่ได้ช่วยโปรเจ็คนั้นของคุณหลู ในใจก็รู้สึกเสียใจมากค่ะ ถ้าคุณหลูไม่ว่าอะไร วันนี้เดี๋ยวเราไปทานข้าวด้วยกันเป็นการไถ่โทษนะคะ” เฉินเฉียวไม่ได้ใจร้อน แต่ก็ไม่ได้พูดคำพูดที่ฝ่ายตรงข้ามอยากได้ยิน

ใบหน้าของหลูตงซิงค่อยข้างอ้วน มีคางสองชั้น มือที่วางอยู่ข้างเก้าอี้ก็ถูไปมา ผ่านไปสักพัก เขาค่อยเอ่ยอย่างจริงจัง “คุณเฉิน ผมพูดตรงๆกับคุณก็ได้ครับ ที่ผมมาครั้งนี้ ความจริงอยากจะถามว่า ข่าวลือโปรเจ็คที่บริษัทพวกคุณรับจริงหรือเปล่า ถ้าเป็นจริง ให้โอกาสยื่ออังเราได้ไหมครับ เพราะยื่ออังของเราก็ร่วมงานกับพวกคุณมาหลายครั้งแล้ว ไม่ว่าจะด้านไหน เราก็เหมาะสมที่สุด”

ยอมพูดแล้วสินะ ในใจเฉินเฉียวหมดคำพูด แต่ยังอธิบายกับเขาอย่างอดทน “คุณหลูคะ ยื่ออังกับเราเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีจริง แต่ข่าวที่คุณได้ยินเป็นข่าวปลอมจริงๆค่ะ พูดแล้วคุณอาจจะไม่เชื่อ แม้แต่เรื่องนี้ ฉันก็เพิ่งรู้วันนี้เหมือนกันค่ะ ถึงแม้ฉันไม่รู้ว่าพวกคุณได้ข่าวมาจากไหน แต่ฝ่ายตรงข้ามปล่อยข่าวแบบนี้ อาจจะอยากสร้างความวุ่นวายให้เรานะคะ”

หลูตงซิงดูเหมือนยังไม่ค่อยเชื่อ สายตาจึงจ้องมองเธอไปครู่หนึ่ง

ในใจเฉินเฉียวก็ไม่ได้ทำอะไรผิด เลยปล่อยให้เขาจ้อง

ผ่านไปสักพัก หลูตงซิงเหมือนเชื่อที่เธอพูด จึงลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ย “วันนี้ที่บริษัทผมยังมีธุระ คงทานข้าวกับคุณเฉินไม่ได้ ไว้โอกาสหน้านะครับ”

จนกระทั่งหลูตงซิงเดินไปไกลแล้ว เจียงฉยงฉยงค่อยเดินมาจากอีกห้อง แล้วเอ่ยอย่างหงุดหงิด “เฉียวเฉียว จะทำยังไงเนี่ย เราต้องรีบจับตัวคนปล่อยข่าวให้ได้ ไม่งั้นเดี๋ยวปล่อยข่าวอีกจะทำยังไง”

“แกพูดถูก” เฉินเฉียวเห็นด้วยกับเจียงฉยงฉยง

“แต่ว่า จะจับยังไงล่ะ”

นี่สิปัญหา ถ้าเฉินเฉียวเดาไม่ผิด ต้นตอนั่นน่าจะเป็นปู้อี้เฉิน ถ้าเป็นเขา แต่ไม่มีหลักฐาน ถึงอยากจะฟ้องร้องก็ทำไม่ได้

เรื่องนี้คงต้องกลืนลงท้องเอง

เหมือนเจียงฉยงฉยงก็เข้าใจ ริมฝีปากเธอซีดขาด เธอกัดริมฝีปากแน่แล้วเอ่ย “เดี๋ยวฉันไปบอกพี่ฉัน”

เจียงฉยงฉยงพูดจบ ก็เดินตรงออกจากห้องทำงาน ตอนที่เฉินเฉียวไล่ตามไปก็ไม่เจอตัวเธอแล้ว

ยังดีที่เธอยังจำได้แล้วโทรหาซังหลินจวิน

“ฮัลโหล หลินจวิน ตอนนี้นายว่างหรือเปล่า?”

ทีแรกซังหลินจวินกำลังหงุดหงิดที่เฉินเฉียวแอบไปหาซังอวิน แต่ตอนที่เห็นเธอโทรมา อารมณ์ก็ดีขึ้นไม่น้อย

แต่พอได้ยินน้ำเสียงที่ร้อนรนของเฉินเฉียว เขาจึงถามอย่างกังวล “ฉันว่าง ทำไม เกิดเรื่องอะไรหรือเปล่า”

เฉินเฉียวเล่าเรื่องคร่าวๆ สุดท้ายก็สรุปว่า “เจียงฉยงฉยงอาจจะให้เจียงอี้ฟานไปกระทืบปู้อี้เฉิน”

ซังหลินจวินได้ยินแล้วไม่ใส่ใจเลย เขาจึงเอ่ยว่า “ก็กระทืบไปสิ ถึงอี้ฟานจะกระทืบมัน ก็ไม่ทำให้ตัวเองเสียเปรียบหรอก”

เฉินเฉียวหมดคำพูด ทีแรกที่เธอโทรหาเขา คืออยากให้เขาโทรไปห้ามไม่ให้เจียงอี้ฟานวู่วาม คิดไม่ถึงจริงๆ ซังหลินจวินไม่ใจร้อนอะไรเลย

พอซังหลินจวินไม่ได้ยินเฉินเฉียวตอบ เลยเดาได้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ เลยพูดปลอบเธอว่า “เฉียวเฉียว เธอไว้ใจเถอะ อี้ฟานไม่ใช่คนที่วู่วามแบบนั้น เขามีวิธีของเขา เธอเอาแต่เป็นห่วงพวกเขา หันมาใส่ใจฉันดีกว่า”

น้ำเสียงซังหลินจวินเริ่มไม่ใจเย็น เหมือนกำลังโกรธ

พอเฉินเฉียวได้ยิน ก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไร จึงถามอย่างเป็นห่วง “นายเป็นอะไร?”

ซังหลินจวินได้ยินความกังวลจากเฉินเฉียว เลยระบายว่า “เฉียวเฉียว เราคบกันนานขนาดนี้ เธอไม่เคยมาหาฉันที่หยวนเซิ่งเลย ถึงจะเจอกันก็เพราะเรื่องงาน เมื่อไหร่เธอ จะมาเพราะมาหาฉันสักที”

ซังหลินจวินพูดบ่น เฉินเฉียวรู้สึกว่าซังหลินจวินทำแบบนี้ตลกมาก มุมปากเลยยิ้ม แล้วเอ่ยปลอบใจเขาเหมือนเดิม “ได้ได้ได้ รอจัดการงานที่บริษัทเสร็จ ครั้งหน้าฉันจะไปหานายที่หยวนเซิ่งเอง”

“เมื่อไหร่?” ถ้าไม่มีเวลาที่แน่ชัด ซังหลินจวินไม่เชื่อเธอหรอก

ไม่แน่ ถ้าเธอเสียใจทีหลัง แล้วตั้งวันเวลาไว้ไกลเกินไป แม้แต่เขาก็ยังจำไม่ได้

ซังหลินจวินที่อ้อนคนแบบนี้ไม่ได้มีบ่อย เฉินเฉียวเลยมีความสุข จึงเอ่ยสัญญา “พรุ่งนี้ พรุ่งนี้ไปแน่นอน”

“ได้ เธอรับปากแล้วนะ” พอได้คำตอบแล้ว ซังหลินจวินก็กลับไปเป็นเหมือนเดิม เขาเอ่ยว่า “เฉียวเฉียว วันนี้ถ้าเธอเลิกงาน เดี๋ยวฉันไปรับนะ”

เฉินเฉียวมองเอกสารบนโต๊ะที่มีไม่เยอะ คิดว่าซังหลินจวินน่าจะยังอยู่บริษัท รอเธอเคลียร์งานเสร็จ ไปหาเขาที่หยวนเซิ่งดีกว่า เธอเลยปฏิเสธเขา “ไม่ต้อง ฉันกลับเองก็ได้ ฉันยังมีงานที่ต้องเคลียร์ ค่อยคุยกันเลิกงานนะ บ๊ายบาย”

พูดจบเธอก็วางสายทันที มีแค่ซังหลินจวินที่ยังพูดไม่จบเอาแต่จ้องโทรศัพท์ เหมือนอยากจะจ้องจนมันแตกอย่างงั้น

ส่วนเฉินเฉียวกลับหุบยิ้มไม่ได้ กำลังนึกถึงสีหน้าซังหลินจวินตอนที่เธอวางสาย เธอกลับไปนั่งเคลียร์งานเหมือนเดิม เพราะว่า เดี๋ยวเธอจะไปเซอร์ไพรส์เขาอย่างไม่ทันตั้งตัว

ท่านประธานที่รัก

ท่านประธานที่รัก

Status: Ongoing

เฉินเฉียวต้องมานอนกับผู้ชายลึกลับคนหนึ่งอย่างไม่ได้ตั้งใจ เธอไม่รู้ ชื่อหรืออาชีพของเขา และไม่รู้เลยว่าเขานั้นได้แต่งานมาแล้ว แต่เขามักจะมาช่วยเธอให้หลุดพ้นจากความอับอายอยู่เสมอ อะไรนะ!!! ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่เธอคิด แต่เขาเป็นถึงซังหลินจวินที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเป่ยเฉิง และมีข่าวลือมาว่า ชายผู้มีอำนาจคนนี้ทั้งได้ผ่านการแต่งงานมาแล้วหลายครั้ง และมีลูกแล้วอีกด้วย และมีข่าวลือกอีกว่าชายคนนี้มีนิสัยเย็นชา………….

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท