“แม่ง รู้อยู่แล้วว่าไอ้เจียงมันเห็นน้องสาวดีกว่าเพื่อน”เหยียนเฟิงสบถออกมาโดยไม่รู้ตัว แล้วเขาก็นึกขึ้นได้ว่าตอนนี้ความสัมพันธ์เจียงฉยงฉยงกับไอ้เจียงเพื่อนเขาเปลี่ยนไปแล้ว เห็นผู้หญิงดีกว่าเพื่อนชัดๆ
ลู้หมีเหลือบไปมองและพูดว่า “แกเพิ่งรู้หรือไง? รู้สึกตัวช้าจังนะ ”
“เฮ้ย แกแขวะฉันแบบนี้ ยังเป็นเพื่อนฉันอยู่หรือเปล่า”เหยียนเฟิงไม่พอใจ แต่ก่อนลู้หมีเข้าข้างเขา ทำไมจู่ๆถึงไปพูดเข้าข้างไอ้เจียงแล้วล่ะ ต้องมีเรื่องอะไรที่เขาไม่รู้แน่ๆ
นึกได้แบบนี้ เหยียนเฟิงก็รีบไปกอดคอเขา โน้มคอเขาลงมา:“ลู้หมี บอกมาซะดีๆไอ้เจียงให้อะไรแก ไม่งั้นแกจะพูดเข้าข้างมันได้ยังไง”
ลู้หมีปัดมือของเขาลง แล้วพูดพลางยิ้ม: “อย่ามาพูดใกล้ๆแบบนี้ แกอย่าลืมสิครั้งที่แล้วใครพูดว่าฉันทำไม่ได้”
เหยียนเฟิงที่โดนปัดมือลงได้ยินก็หัวเราะ แล้วลูบจมูกพลางพูด “ไม่ใช่ว่าได้ยินคนอื่นพูดมาหรอ? ฉันก็สงสัยเหมือนกัน ”
ถ้ารู้ว่าเขาไปผับหรือที่ไหนได้ก็ตามมีผู้หญิงแจ่มๆมานอนด้วยฟินที่สุด
คิดไม่ถึงเลยจริงๆ เพื่อนที่ดูห้าวๆเหมือนเขาที่แท้ก็แค่พวกเก่งแต่ปาก
แทนที่จะพูดว่าสงสัย พูดว่าอยากรู้อยากเห็นจะดีกว่า
หรือว่าลู้หมีพยายามรักษาความบริสุทธิ์สำหรับรักแรกของเขา?
แต่พวกเขาทั้งคู่เติบโตมาด้วยกัน ไม่เคยเห็นเขาเคยรู้สึกดีๆกับผู้หญิงรอบๆตัวเขาเลย
ไม่ใช่ว่าเขาไม่ชอบผู้หญิงหรอกมั้ง
เมื่อคิดเช่นนี้แล้วเหยียนเฟิงก็รู้สึกกังวลเกี่ยวกับความบริสุทธิ์ของเขา
มือของลู้หมีที่ยังคงจับอยู่ก็ปล่อยมันออกไปโดยไม่รู้ตัว
เฉินเฉียวมองพวกเขาเหมือนกับว่าคิดอะไรบางอย่างออก
ตอนที่เฉินเฉียวอยู่กับฉยงฉยง ตอนนั้นเพื่อที่จะปลอบฉยงฉยงอ่านหนังสือนิทานให้ฉยงฉยงฟังไปหลายเล่มเลย
จากนั้นก็อ่านหนังสือหลายเล่มที่เปิดโลกใหม่ให้เธอ
อย่างเช่นผู้ชายกับผู้ชายก็ทำเรื่องอย่างว่าได้
แม้กระทั่งเพศเดียวกันก็รักกันได้
ไม่รู้ว่ามีคนอ่านเรื่องแบบนี้กี่คน
แต่ถ้าการได้เห็นด้วยตาตัวเองแทบจะไม่มีเลย
แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่ลู้หมีทำเพื่อทำลายชื่อเสียงของตัวเอง การทำเรื่องแบบนั้นเป็นการทำลายชื่อเสียงตัวเองเพื่อปกป้องความรักที่แท้จริงของเขา
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้แววตาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
ซังหลินจวินที่สังเกตเฉินเฉียวอยู่ที่จับมือเธอและพูด “อย่าคิดมาก ลู้หมีไม่ได้ชอบผู้ชาย เขาแค่ยังไม่เจอคนที่ชอบ”
เมื่อความคิดตัวเองถูกดูออก เฉินเฉียวก็ถามอย่างไม่สบายใจ: “งั้นลู้หมีทำไมถึงดีกับเหยียนเฟิงขนาดนี้?”
ซังหลินจวินครุ่นคิดสักพักแล้วพูด: “อาจเป็นเพราะปกป้องเขามาตั้งแต่เด็กๆจนชินแล้ว ไม่ว่าจะเป็นความรักในครอบครัวหรือความรักก็ตาม ลู้หมีให้ความสำคัญกับมิตรภาพของเพื่อนมากที่สุด เพราะอย่างนี้ใครก็ไม่มีสิทธิ์ไปว่าเขา”
เฉินเฉียวพยักหน้า
เฉินเฉียวค่อนข้างเข้าใจคำอธิบายของหลินจวิน
เพราะเธอก็มีความคิดที่ว่าอยากปกป้องฉยงฉยง เพราะว่ารู้สึกว่าเธอสำคัญ
นี่อาจถือได้ว่าเป็นตรรกะเดียวกัน
สายตาที่มองพวกเขาสองคนกลับมาเป็นปกติ
เหยียนเฟิงฟังคำพูดนี้ในใจ แต่เพื่อรักษาความบริสุทธิ์สุดท้ายของเขาเขาจึงเดินออกจากลู้หมีอย่างเงียบ ๆ จากนั้นเดินไปหา เฉินเฉียว และ ซังหลินจวินพลางถามว่า: “ไอซัง ตะกี้ทำไมแกต้องอวยพรให้ไอ้เจียงด้วยวะ ถึงแม้เจียงฉยงฉยงจะคลอดลูก แต่นั่นมันลูกของกู้ซี ไม่ได้เกี่ยวกับไอ้เจียงเลย ไอกู้ซีนี้มันจริงๆเลย ทำเฉียงฉยงฉยงท้องแล้วยังจะทำลายงานแต่งอีก พวกผู้หญิงบอกว่าฉันเลว แต่ถ้าเทียบกับกู้ซีแล้วไอนั่นเลวยิ่งกว่า ”
เหยียนเฟิงพ่นหัวเราะออกมา เห็นได้ชัดว่าฉายาคนเลวของเขาไม่เป็นความจริง
เฉินเฉียวก้มหน้าลงแอบกลอกตาเบาๆ
รู้จักคนมาเยอะแยะ เหยียนเฟิงเป็นคนแปลกที่สุดในคนที่เธอรู้จักมา
เธอไม่เคยเจอคนที่เปรียบเทียบระดับความเลว มีหรือไม่มีคนที่เลวกว่านี้ ไม่ใช่ว่ารู้อยู่แก่ใจหรอ
เฉินเฉียวก็เข้าใจเหตุผลที่ทำไมฉยงฉยงบอกว่าเกลียดเหยียนเฟิงที่สุด
ผู้ชายคนนี้ จริงๆแล้วไม่ได้รู้อะไรเลย
เฉินเฉียวยังเห็นเขาแขวะไม่หยุด ไม่อยากจะฟังต่อแล้ว เลยพูดลาสองสามคำ: “จริงๆแล้วเรื่องกู้ซีกับฉยงฉยงโดนจัดฉาก จริงๆแล้วพวกเขาไม่ได้มีอะไรกัน เพราะฉะนั้นไม่ได้มีลูก ”
เหยียนเฟิงได้ยิน ตะลึงตาโต เผลอสบถคำหยาบ: “แม่ง ไอลู้หมีมีคนไม่บ้ากามแบบแกด้วยวะ นับถือจริงๆ”
เฉินเฉียวเห็นท่าทางเหยียนเฟิงยิ่งพูดไม่ออก
คำพูดนี้โฟกัสไม่ถูกเรื่องละมั้ง
หรือว่าเจียงอี้ฝานไม่ได้โดนนอกใจ
เดี๋ยวนี้ นี้มันมุกอะไรเนี่ย
ทันใดนั้นเฉินเฉียวก็พบว่าเธอโดนหลอกแล้ว เลยแอบกลอกตามองบนใส่เหยียนเฟิง และค่อยๆเดินจากเขามาเงียบๆ
วันนี้ที่รู้ว่าเฉียงฉยงฉยงใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และมีลูกตัวน้อย ตลอดทางกลับบ้านเฉียวเฉียวก็อารมณ์ดีไปตลอดทาง
ขณะที่ซังหลินจวินกำลังขับรถ เฉินเฉียวพิงเบาะและพูดกับเขาอย่างยิ้ม ๆ
“หลินจวิน ในที่สุดฉยงฉยงก็หมดทุกข์เสียที ฉันดีใจจริงๆ”
“หลินจวินฉันควรจะซื้อเสื้อให้ลูกฉยงฉยงดีไหมคะ นอกจากเสื้อผ้าจะซื้ออะไรให้ดีนะ ของเล่นดีไหม เอ่ ยังไม่ลูกเลยว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย อุ๊ย ข้างนอกมีร้านขายชุดเด็ก หลินจวิน จอดรถแปปนึง ”
ซังหลินจวินที่ถูกให้จอดรถมองไปที่เฉียวเฉียวอย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า: “ของพวกนี้ที่ต่างประเทศก็มีเยอะแยะ พวกเราจะซื้อให้เขาไปทำไมกัน?”
เฉินเฉียวได้ยิน ก็รู้สึกมีน้ำโห พูดเสียงดังขึ้นเล็กน้อย “หลินจวิน คุณไม่รู้อะไรเลยฉันซื้อให้กับคนอื่นซื้อให้จะเหมือนกันได้ยังไง ”
เหตุผลนี้ดีมาก
ซังหลินจวินที่รู้สึกว่าเหตุผลนี้ดูมีเหตุผล ทำได้แค่จอดรถให้ที่ปากทางเข้าร้านชุดเด็ก
จากนั้นซังหลินจวินมองไปที่เฉียวเฉียวที่คิดจะซื้อชุดให้คนอื่น ราวกับว่าชุดไหนชอบก็จะเอามากองไว้ที่เค้าเตอร์ทั้งหมด
จากนั้นพยักงานร้านก็รีบงัดไม้เด็ดออกมา แนะนำชุดให้พวกเขาไม่หยุดหย่อน
เห็นว่าหยิบมาเยอะขึ้นเรื่อยๆ ซังหลินจวินทำได้แค่เหล่ตามองทำเป็นมองไม่เห็น
ตอนที่ถึงเวลาต้องจ่ายเงิน ซังหลินจวินรู้สึกว่ามีสายตาที่แวววาวมองมา