ซังหลินจวินรู้ดี ช่วงเวลานี้ปู้ฮวานเหยียนลำบากไม่น้อย
ถึงแม้ว่าจะมีความสัมพันธ์ห่างๆกับสามีเธอ แต่การติดต่อเพียงนิดเดียวก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาใช้ชีวิตอย่างไม่สบายใจ
ยังไงซะเขาก็ไม่ได้ควบคุมภรรยาของเขาให้ดี เลยทำให้ปู้ฮวานเหยียนไปรังแกคนที่อ่อนแอได้
สามีของปู้ฮวานเหยียนทำธุรกิจอย่างไม่มีความสุข เขาเลยหาคนรักเพื่อปลอบโยนตัวเอง
ปู้ฮวานเหยียนเป็นคนที่เกลียดมือที่สามมากๆ เมื่อสามีไม่เห็นแก่หน้าเธอ หลังจากสองสามเดือนที่ไม่ได้กลับบ้าน ก็กลับมาหาด้วยความโกรธ
เรื่องมือที่สามแบบนี้ทำให้เป็นจุดสนใจเป็นวงกว้าง
ไม่เพียงแค่นั้น เรื่องแบบนี้ทำให้เสียหน้าและสถานะ
ปู้ฮวานเหยียนรู้สึกหดหู่ใจมาตลอดหลายปีที่ผ่านมาเมื่อเธอเห็นซังหลินจวินมากับผู้หญิงคนอื่นเธอรู้สึกอึดอัด เมื่อเห็นสามีที่ดูถูกเธอ คิดไม่ถึงว่าจะกล้าดูหมิ่นเธอ
เธออารมณ์ร้ายปากจัดมากตอนอายุ 20 ปี
ตอนด่าเฉินเฉียว ด่าตรงๆ
ตอนนี้พอเผชิญหน้ากับมือที่สาม เธอก็คิดว่าเป็นเฉินเฉียวที่เธอเกลียดแล้วตบหน้า
แม้ว่าสามีของปู้ฮวานเหยียนจะเป็นเศรษฐีใหม่ แต่เขาก็ร่ำรวยและสถานที่ที่ เมียน้อยอาศัยอยู่ก็ยังเป็นคฤหาสน์ เพราะว่าเป็นเมียน้อยจะให้ใครเห็นไม่ได้ คฤหาสน์แห่งนี้จึงตั้งอยู่ไกล
ตอนโทรมาจะได้สะดวกกับปู้ฮวานเหยียน
รอจนการทะเลาะจบลง สามีของปู้ฮวานเหยียนประคองเมียน้อยเข้าบ้าน พูดกับเธออย่างโมโหว่า: “หย่า ต้องหย่าแน่”
ดังนั้นตอนที่ทุกคนกำลังฉลองปีใหม่ ปู้ฮวานเหยียนกับสามีของเธอกำลังง่วนกับเรื่องหย่า
ซังหลินจวินเห็นสิ่งเหล่านี้
ดังนั้นเขาไม่เคยคิดว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับเขาเลยแม้แต่นิด
หลังจากที่ทั้ง เฉินเฉียว และซังหลินจวินพักค้างคืนที่บ้านของคุณผู้หญิง ถึงแม้ทั้งสองในใจยังมีความรู้สึกว่าไม่อยากจากกัน แต่ก็ต้องนั่งรถจากไป
เฉินเฉียวไม่ได้นอนกับเหมิงเหมิงมานานแล้วเมื่อวานเหมิงเหมิงให้เธอเล่านิทานให้ฟัง ในฝันได้เจอกับเจ้าหญิงและเจ้าชายกบ
เมื่อตื่นมาในตอนเช้า ขอบตาดำอย่างเห็นได้ชัด แสดงให้เห็นถึงว่าพักผ่อนไม่เพียงพอ
ซังหลินจวินมองไปที่กระจกมองหลังและพูด: “เฉียวเฉียว นอนในรถก่อนก็ได้นะ”
จากนั้นเขาก็มองไปที่โย่วอีที่นั่งข้างๆเฉียวเฉียวแล้วพูดว่า “โย่วอีช่วยแม่อุ้มน้องนั่งดีๆ อย่ารบกวนเวลาพักผ่อนแม่”
โย่วอีพยักหน้าเข้าใจ ถึงแม้เขาจะเวียนหัวเล็กน้อยก็ตาม
เมื่อคืนโย่วอีได้ยินเสียงซุบซิบมากมายรู้สึกตื่นเต้น เลยไม่ได้นอน ตื่นมาตอนเช้า รู้สึกมึน
เดิมทีโย่วอีตั้งใจจะนอนในรถ แต่หลังจากเห็นแม่เขาที่ซีดเซียวแล้วก็ล้มเลิกความคิดนี้
เฉินเฉียวถูกปลุกโดย ซังหลินจวินเมื่อลงจากรถ
เธอยังสลึมสลือไม่ได้สติกลับมา
ถึงแล้วหรอ?ตอนที่ถาม เป็นเพราะนอนน้อยเสียงเธอเลยถามอย่างอ่อนแรง
“อื้อ ถึงบ้านเก่าแล้ว”เธอสัมผัสเส้นผมของเฉียวเฉียวด้วยความรักและ ซังหลินจวินก็ช่วยประคองเธอออกจากรถ
หลังจากลงรถ มองดูบ้านเก่าๆที่ต้อนนี้เหมือนไม่มีคนอยู่
โคมไฟสีแดงที่มีชีวิตชีวาถูกแขวนไว้ที่คฤหาสน์หลังเก่าและมีการวางคำอวยพรปีใหม่ไว้ที่ประตู
เฉินเฉียวมองไปที่มัน
“ไม่เห็นการฉลองปีใหม่บ้านๆแบบนี้หรอ”ทันทีที่ ซังหลินจวินเห็นสายตาที่จ้องมองของเฉินเฉียว เขาก็อยากจะแซวเธอ
เฉินเฉียวส่ายหัว: “ไม่เคย แต่ฉันว่ามันน่าสนใจดีนะ บ้านพวกคุณดูเก่าแก่ ฉันนึกไม่ถึงเลยว่าจะฉลองปีใหม่กันแบบนี้ อันที่ติดอยู่ตรงประตูฉันเคยเห็นแต่ในทีวี ”
จริงๆซังหลินจวินอยากจะพูดว่า เมื่อก่อนเคยเห็นมาแล้วนับไม่ถ้วน ยังไงซะตอนนี้ไม่เหมือนสองสามปีมานี้ ฉลองปีใหม่น้อยลงเรื่อยๆ
มีเพียงไม่กี่คนที่ยังคงปฏิบัติตามวิธีขึ้นปีใหม่แบบเก่า
ซังหลินจวินหัวเราะ“ ไหนๆก็รู้สึกสนใจแล้ว ไปดูอีกหน่อยแล้วกัน รอกินข้าวเสร็จพวกเราค่อยกลับ”
ถ้าไม่ใช่ช่วงปีใหม่เขาแทบจะไม่ได้มาที่บ้านหลังเก่า
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเนื่องจากซังอวี้เกิดเรื่อง คนในบ้านเก่ายิ่งเงียบเหงา
แม้ว่าซังหลินจวินจะไม่ได้เก็บเรื่องนี้มาใส่ใจมากนัก แต่ในฐานะลูกก็ให้เงินพ่อตัวเองไม่ขาด
หลังจากเข้าไปในบ้านหลังเก่าเฉินเฉียวพบว่า “แม่” ในชุดเสื้อคลุมขนฟูสีแดงสดกำลังแขวนโคมไฟไว้ที่ระเบียงท่าทางของเธอดูคุ้นเคยเป็นอย่างดี
ถือไม้ไผ่และค่อยๆแขวน
ซังหลินจวินที่สังเกตเห็นเฉียวเฉียวหยุดกะทันหันเขาจึงหันไปมอง และถามคนรับใช้ข้างๆ
“ พวกคุณถูกใช้ให้มายืนเฉยๆหรอ? ไม่รู้จักช่วย? ”
คนรับใช้ที่เพิ่งมาใหม่หน้าแดงน้ำตาตลอเบ้า รีบวิ่งขึ้นไปช่วยที่ชั้นบน
เฉินเฉียวรู้ว่า หลินจวินทำสิ่งนี้เพื่อใครและพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ: “ขอบคุณนะ แต่ฉันว่าเธอน่าจะสนุกกับการแขวนโคมไฟ”
ท้ายที่สุดถ้าไม่ได้อยู่ในบ้านเก่าเฉินเฉียวก็อยากลองแขวนโคมไฟเหล่านี้ด้วยตัวเอง
ซังหลินจวินมองความคิดที่กระตือรือร้นของเฉียวเฉียวออกเดินขึ้นไปและหยิบโคมไฟดวงหนึ่งที่วางเรียงกันเป็นแถวบนทางเดินด้านนอกห้องโถง
หลังจากส่งให้เฉินเฉียวแล้วเขากล่าวว่า “โคมไฟเหล่านี้ทำจากกระดาษสีแดงสดมันดูสวยงาม มีรสนิยม เฉียวเฉียว ถ้าคุณชอบผมจะแขวน ใน จิ้งหย่วน”
เมื่อหลินจวินกำลังหยอกล้อกับเธอเฉินเฉียว ก็พยักหน้าและพูดว่า “งั้นก็ดีเลยค่ะ รอพวกเรากลับไป ฉันจะแขวนโคมไฟทุกชั้นเลย”
โย่วอีที่จูงเหมิงเหมิงอยู่แอบเบ้ปาก
โคมไฟอะไรพวกนี้เขาเลิกเล่นไปตั้งนานแล้ว
เหมิงเหมิงที่ไดยินเรื่องแขวนโคมไฟ ก็ดึงแขนเสื้อพ่อ แล้วพูดว่า”พ่อคะ หนูก็อยากได้”
“ โอเคๆๆ ได้ทุกคน”ซังหลินจวินยิ้ม
สำหรับคำขอของลูกสาวของเขาซังหลินจวินก็ตอบรับ
ยังไงซะลูกสาวก็เป็นของรักของหวงของเขา
ตอนนี้เขามีลูกชายและลูกสาวและภรรยาที่รักมากทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เขาคาดหวังในอดีตตอนนี้เขามีมันจริงๆแล้วเขารู้สึกพอใจมาก แม้แต่การได้เซ็นสัญญาร้อยล้านยังเทียบไม่ติด
ไม่ว่าจะมีเงิน หรืออำนาจมากแค่ไหน เมื่อเทียบกันแล้วเขาอยากจะเก็บความสุขตรงหน้าเขาเอาไว้
ด้วยเหตุนี้เขาจึงยอมทุกอย่าง