ตอนที่ซังหลินจวินกับเฉินเฉียวไปถึงสนามบิน เด็กน้อยทั้งสองคนนั่งพิงอยู่บนเก้าอี้
ลุงฟู่ยืนอยู่ข้างๆ กำลังดูแลคุณชายน้อยกับคุณหญิงน้อยอยู่
เฉินเฉียวที่ยังหอบเล็กน้อยหยุดฝีก้าวแล้วสบตากับหลินจวิน เลยเห็นว่าอีกฝ่ายก็เหมือนโล่งอกเหมือนกัน
ยังไงซังหลินจวินก็เป็นผู้ชาย ถึงจะรีบวิ่งจากรถเหมือนเฉินเฉียว แต่หน้าไม่แดง ไม่หอบ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย
ทั้งสองเดินไปพร้อมกัน ยังไม่ทันเดินไปถึงหน้าเด็กสองคน ก็ได้ยินหนูน้อยกำลังพูดว่า
“พี่ชาย ทำไมคุณพ่อคุณแม่ยังไม่มาคะ พี่บอกว่าคุณพ่อคุณแม่จะรีบมาไม่ใช่เหรอคะ? พี่โกหก” เหมิงเหมิงเบะปาก แววตากับน้ำเสียงกำลังไม่พอใจ
กับคำถามของน้องสาว โยว่อีรับมือสบายมาก
“เหมิงเหมิง น้องอย่าอารมณ์ไม่ดี พ่อบอกว่าจะมา แต่เราไม่รู้สักหน่อยว่าพ่อแม่อยู่ห่างจากเราแค่ไหน ไม่แน่อาจจะไกลกับเรามากๆก็ได้ อย่าใจร้อนนะ รออีกหน่อยนะ”
“ฮึ่ม รอมาหนึ่งชั่วโมงแล้ว” เหมิงเหมิงยื่นนาฬิกาข้อมือน่ารักๆของตัวเองให้พี่ชายดู
โยว่อีที่สอนเหมิงเหมิงดูนาฬิกาเอ่ยว่า “หนึ่งชั่วโมงก็ไม่นานสักหน่อย”
ตอนที่เด็กสองคนนั่งหันหลังให้กันยังไม่รู้สึกอะไร แต่ตอนที่นั่งด้วยกันกลับทำให้คนดูสบายตามาก
คนหนึ่งเป็นเด็กหล่อ อีกคนก็เป็นเด็กที่น่ารัก หนูน้อยสองคนนั่งด้วยกัน คนมองใจละลายแน่
ตอนที่เฉินเฉียวเห็น ในแววตามีแต่ความภูมิใจ
ดูสิ ลูกชายกับลูกสาวของเธอ ทั้งฉลาดทั้งน่ารัก ใครเห็นจะไม่รักล่ะ
คิดแบบนี้ เฉินเฉียวเลยเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น
ถึงเฉินเฉียวจะเดินเร็ว แต่ถ้าเทียบกับซังหลินจวินที่ตัวสูงขายาว เธอดูเสียเปรียบมาก
ซังหลินจวินก้าวเดินไปหา มือทั้งสองข้างวางลงบนศีรษะลูกทั้งสองคน
โยว่อีที่ไม่โดนขยี้หัวนานแล้วเกือบจะระเบิดอารมณ์ แต่พอเห็นว่าเป็นพ่อตัวเอง ขอบตาก็แดงทันที
ยังไงเขาก็เป็นแค่เด็ก พ่อกับแม่หายตัวไปพร้อมกัน เขาจะไม่เป็นห่วงไม่เสียใจได้ยังไง แต่เขายังมีน้องสาวที่ต้องดูแล เขาเลยต้องแกล้งเป็นเข้มแข็ง ตอนดึกดื่น ใครจะรู้ว่าเขาแอบร้องไห้ใต้ผ้าห่ม
ตอนนี้เห็นพ่อแม่ยืนอยู่ต่อหน้าอย่างปลอดภัย เลยหักห้ามความน้อยใจไม่อยู่
ซังหลินจวินที่ขยี้หัวโยว่อีเห็นว่าขอบตาโยว่อีแดง มือเขาเลยหยุดชะงัก คิดว่าเขาขยี้หัวแล้วโยว่อีเสียหน้า ตอนที่กำลังจะวางมือลง กลับมีมือเล็กๆมารั้งมือของเขาไว้
ซังหลินจวินเลยเข้าใจแล้วขยี้หัวเขาต่อ
ถึงแม้จะดูอบอุ่น แต่บัญชีที่ควรคิดก็ต้องคิด
เฉินเฉียวอุ้มเหมิงเหมิงไว้ เหมิงเหมิงที่โตขึ้นแต่น้ำหนักเบาลง เฉินเฉียวเลยรู้สึกเสียใจ
แล้วซังหลินจวินก็เดินไปคุยกับลุงฟู่ พอรู้ว่าเด็กสองคนงอแจะมาให้ได้แล้ว ซังหลินจวินเลยส่งสายตาให้โยว่อี โยว่อีที่สบตาด้วยรู้สึกเสียวสันหลังวาบ
เขารู้ว่าเรื่องของเขากับน้องสาวต้องถูกเปิดโปง คุณพ่อตามใจน้องสาวอยู่แล้ว พ่อต้องคิดบัญชีบนหัวเขาแน่ๆ สีหน้าเขาเลยหม่นหมอง
ตอนที่ซังหลินจวินเดินมา ใช้มือข้างหนึ่งตบไหล่โยว่อีเบาๆ “ตอนนี้เริ่มเสียใจแล้วสินะ”
เขามองโยว่อีที่ทำหน้าเศร้า
โยว่อีที่หัวดื้อตบหน้าอกแล้วเอ่ย “ผมทำคนเดียวผมรับผิดชอบเอง ผมไม่กลัวหรอก”
ซังหลินจวินหลุดขำแล้วดีดหน้าผากโยว่อี “ไปเถอะ กลับบ้าน”
เขามองคุณพ่อที่เดินนำไปแล้ว แต่โยว่อีกลับหยุดนิ่งไม่ขยับเลย
เขาไม่อยากเชื่อ พ่อไม่ลงโทษอะไรเขาเลย ในใจแอบดีใจแต่ก็ปนไปด้วยความไม่สบายใจ
เดินไปไกลแล้ว เห็นว่าโยว่อียังไม่เดินตามมา ซังหลินจวินเลยหันไปพูดเสียงเข้ม “ยังไม่ไปอีก จะอยู่ที่นี่ถึงปีหน้าเหรอ”
โยว่อีรีบตอบทันที “มาแล้วครับ”
เรียวขายาวที่ได้จากกรรมพันธุ์รีบวิ่งไปหา
ลุงฟู่ที่รับผิดชอบซื้อตั๋วกลับประเทศให้คุณชายคุณหนูไว้แล้วยื่นให้เจ้าหน้าที่ตรวจ จนกระทั่งเข้าไปข้างในอย่างปลอดภัยแล้วค่อยโล่งใจ
ในใจแอบคิดว่า ขัดใจเจ้านายน้อยไม่ได้ คุณผู้ชายยิ่งขัดใจไม่ได้
ชีวิตในวันข้างหน้าต้องน่าตื่นเต้นแน่ๆ
ตอนที่ซังหลินจวินกับเฉินเฉียวอยู่บนเครื่อง รู้สึกว่าโทรศัพท์ดัง แต่ทันใดนั้นก็มีประกาศว่าเครื่องบินจะบินแล้ว เขาเลยจำเป็นต้องปิดเครื่อง รอลงเครื่องแล้วค่อยดู
อวี้เฟยที่อยู่ในห้องทำงานผู้บริหารใจร้อนมาก เอาแต่ภาวนาให้คุณชายรีบรับสาย แต่ในโทรศัพท์กลับไม่มีเสียงที่เขาต้องการ คิ้วเลยขมวดแน่นขึ้น
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก” มีคนเคาะประตู
อวี้เฟยรีบเก็บโทรศัพท์ แล้วรีบอุ้มเอกสารไว้ในมือ
พอประตูเปิด เลยเห็นซังเสี่ยนเดินมาหา
“หยิบขอเสร็จหรือยัง?” ซังเสี่ยนรู้ว่านี่เป็นผู้ช่วยที่ซังหลินจวินเชื่อใจมากที่สุด แล้วความซื่อสัตย์ที่มีต่อซังหลินจวิน ไม่สามารถใช้เงินทองล่อได้ เพราะฉะนั้นกับเขา ซังเสี่ยนไม่แสดงสีหน้าดีๆด้วยเลย
อวี้เฟยก็เหมือนไม่สนใจน้ำเสียงที่ไม่แยแสของซังเสี่ยน แค่พยักหน้า “หยิบเอกสารเรียบร้อยแล้วครับ”
“เอามา” ซังเสี่ยนยื่นมือมาแย่งเอกสารจากอวี้เฟย
“คุณซังครับ รอผลสรุปจากที่ประชุมพรุ่งนี้ค่อยว่ากันดีกว่าครับ” อวี้เฟยขยับไปข้างๆ ไม่มีทีท่าจะให้เอกสารเขาเลย
ซังเสี่ยนใจร้อนกว่าเดิม มองเห็นผู้ช่วยที่จงรักภักดีตรงหน้า ในใจเลยคิดว่า ถ้าเขาได้ตำแหน่งผู้บริหารมาแล้ว สิ่งแรกที่จะทำคือไล่ผู้ช่วยคนนี้ออกไปซะ
อวี้เฟยไม่รู้ว่าซังเสี่ยนกำลังคิดว่าจะไล่เขาออก
ในใจเขา เชื่อใจคุณชายตลอด เขาเชื่อว่าถ้าคุณชายกลับมา ต้องแก้ไขสถานการณ์ตอนนี้ได้แน่ แต่เขา คงทำตามที่คุณชายคาดหวังไม่ได้
นึกถึงคำพูดตอนที่คุณชายไป อวี้เฟยก็เริ่มแสบตา
พอซังหลินจวินลงจากเครื่องแล้ว เขาจึงรีบเปิดโทรศัพท์ทันที
มีสายจากอวี้เฟยหลายสาย ซังหลินจวินที่คิดว่าเกิดเรื่องใหญ่กับบริษัทรีบโทรกลับทันที
“ขอโทษค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้”
พอได้ยินเสียงแบบนี้ ซังหลินจวินจึงรู้สึกไม่สบายใจมากกว่าเดิม