ท่านประธานที่รัก – บทที่422 ฉันเป็นผู้หญิงที่คุณเกลียดที่สุด

บทที่422 ฉันเป็นผู้หญิงที่คุณเกลียดที่สุด

“คุณไม่ชอบคนแบบผมใช่ไหม ผู้ชายที่ไม่มีความทะเยอทะยานแบบผม คงจะเป็นพวกที่ผู้หญิงเกลียดที่สุด”เหยียนเฟิงไม่รับคำปลอบใจจากมั่วอวี่ แต่ถามเธอกลับแทน

มั่วอวี่ปัดผมที่ปะหน้าไปทัดหู ได้ยินคำถามของเหยียนเฟิงแล้วหัวเราะ”คำถามนี้แล้วแต่คนจะตอบนะ แต่สำหรับฉันคิดว่าคุณหน่ะดีแล้ว”

มั่วอวี่เธอไม่ว่าจะเมื่อก่อนหรือตอนนี้ตราบใดที่ใส่ใจคนคนหนึ่ง ไม่ว่าเขาจะทำจะพูดอะไรเธอจะเปิดเผยสิ่งที่อยู่ในใจอย่างตรงไปตรงมาให้ฝ่ายตรงข้ามรู้

เพราะเธอรู้สึกว่าในโลกของความรู้สึกไม่จำเป็นต้องปิดบัง

เห็นได้ชัดว่าเหยียนเฟิงคิดไม่ถึงว่าจะได้รับคำตอบเช่นนี้เขาตกตะลึงไปชั่วขณะและความร้อนที่อธิบายไม่ได้ก็ปรากฏขึ้นในดวงตาหลังจากนั้นไม่นานเขาก็ไอเล็กน้อยและแกล้งทำเป็นพูด: “พวกเราแยกกับพวกเขาเดินดีไหม ผมมีเรื่องอยากจะทำกับคุณ ”

ดวงตาที่ลุกเป็นไฟของเหยียนเฟิงจ้องมองเป็นเวลานานและมั่วอวี่ที่ร่างกายอ่อนไหวใส่สั่นไปหมด

เธอเบ้ปาก ทำเป็นสงบนิ่ง: “ได้สิ งั้นคุณไปบอกพวกเขานะ”

ทันทีที่เหยียนเฟิงได้ยินว่ามั่วอวี่ตอบตกลง หัวใจเขาก็เต้นรัวอย่างมีความสุข

หลังจากบอกลาซังหลินจวินสองสามประโยค เขาจูงมั่วอวี่ขึ้นรถอย่างรวดเร็ว และออกรถไปในทางตรงกันข้าม

เฉินเฉียวคิดว่ากิจกรรมของวันนี้น่าจะจบลงที่นี่และเธอควรจะกลับไปพร้อมกับหลินจวิน

หลินจวินมีนัดกับซู้เหยี้ยน ทั้งสี่คนเข้าไปในร้านไอศกรีม ถึงแม้เฉินเฉียวจะไม่ค่อยเข้าใจที่พวกเขาตัดสินใจมาที่นี้ แต่ก็ไม่ได้ถามออกมา

หลังจากนั่งลง ก็เห็นซู้เหยี้ยนสั่งไอศกรีมเรือกล้วยและไอศกรีมสตรอเบอรี่ให้เชินชิง เธอก็เข้าใจทันทีว่าใครเสนอให้มาที่นี้

นั่งตรงข้ามซู้เหยี้ยน เห็นซู้เหยี้ยนส่งถ้วยไอศกรีมให้เชินชิง ในโลกนี้มีแค่บางคนที่สามารถแสดงความรักให้ใจกระชุ่มกระชวยได้

เมื่อเห็นเฉียวเฉียวจ้องมองที่ไอศกรีมของเชินชิงแน่นอนว่าซังหลินจวินรู้ว่า เฉียวเฉียวก็อยากกินเช่นกัน

แต่พอคิดได้ว่าประจำเดือนเฉียวเฉียวเพิ่งหมดไป เขาเลยต้องปฏิเสธความคิดนี้

เขาสั่งชาร้อนให้เฉียวเฉียว แต่ไม่ได้สั่งอะไรให้ตัวเอง

เขาไม่ชอบกินอะไรแบบนี้ แต่เฉียวเฉียวยังไม่ได้กินอะไรเลย ในฐานะที่เป็นผู้ชายเขาควรจะอยู่ดูแลเธอ

ซู้เหยี้ยนจิบกาแฟร้อนอย่างระมัดระวังเขารู้ว่าซังหลินจวินมีบางอย่างจะพูดกับเขา แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะถูกเก็บไว้ในใจ

ยังไงซะคนข้างๆเขาก็รู้ดี

คำพูดเหล่านั้นไม่เหมาะสำหรับพวกเธอทั้งสองคนที่จะฟัง

ดวงตาของทั้งสองคนสบตากันโดยไม่ได้ตั้งใจและพวกเขาก็เข้าใจความหมายของกันและกัน

ก่อนที่ไอศกรีมจะมาเสิร์ฟ ซังหลินจวินลุกขึ้นจากเก้าอี้มองไปที่เฉินเฉียวและพูดว่า “เฉียวเฉียว ผมไปห้องน้ำก่อนนะ”

เฉินเฉียวพยักหน้าโบกมือและพูดว่า “ไปเลย”

ซังหลินจวินไปได้ไม่ถึงห้านาที ซู้เหยี้ยนที่อยู่ตรงข้ามก็ลุกขึ้น

“ ผมก็ขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะครับ”

ซู้เหยี้ยนที่มีบุคลิกเย็นชากล่าวและเดินจากไป

จนกระทั่งทั้งสองคนเดินจากไปเฉินเฉียวจึงพูดกับเชินชิง: “เสี่ยวชิงคุณคิดว่าพวกเขาสองคนนัดกันไว้ก่อนหรือเปล่า พวกเขามีความลับที่ไม่อยากให้พวกเรารู้ใช่ไหม?

เชินชิงส่ายบอกว่าเธอไม่รู้

เฉินเฉียวเข้าใจว่าถามเชินชิงไปก็ไม่ได้รับคำตอบ เธอแค่พูดเหน็บเฉยๆ

แม้ว่าซังหลินจวินและซู้เหยี้ยนบอกว่าพวกเขากำลังไปห้องน้ำ แต่จริงๆแล้วพวกเขาไม่ได้ไปห้องน้ำ แต่ไปที่ระเบียงใกล้กับห้องน้ำของร้าน

จากระเบียงสามารถมองเห็นฝูงชนที่กำลังเดินไปเดินมา

ซังหลินจวินรออยู่ที่นั่นสักพักหลังจากได้ยินเสียงฝีเท้าเขาก็หันไปและเห็นว่ากดที่มาเป็นคนที่เขาคิดไว้

“แกมีอะไรอยากจะคุยกับฉัน”ซู้เหยี้ยนถามดัง ๆ ขณะยืนอยู่อีกด้านหนึ่งของตำแหน่งของซังหลินจวิน

เนื่องจากทั้งสองคนจู่ๆก็ไปห้องน้ำ จะออกมานานไม่ได้ ซังหลินจวินเลยกระชับเรื่องให้สั้นลง

“เดิมที่เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับฉัน แต่เรื่องที่เกิดขึ้นช่วงนี้มันบังเอิญเกินไปจริงๆ ? ดันไปเกี่ยวพันกับแก ฉันเลยอยากจะถาม แกกับคุณเชินตอนที่อยู่อิตาลีเตรียมการวางแผนไว้ทั้งหมดตั้งนานแล้วใช่ไหม ถ้าตอนแรกฉันไม่เกิดเรื่องขึ้นก่อน พวกแกคงช่วยฉันกลับประเทศไปแล้ว ใช่ไหม ”

ซู้เหยี้ยนคาดว่าซังหลินจวินจะสงสัย

เขาส่ายหัวและพูดว่า “ฉันไม่ได้มีอำนาจมากขนาดนั้น ความสัมพันธ์ของฉันกับเชินหยูไม่ได้ดีแบบที่คุณคิด จะบอกให้นะบางทีเขาอาจจะรักใคร่ชิงเอ่อร์ก็ได้ แต่สำหรับฉันแล้วอยากจะฆ่าแกงกันจะตาย”

ทำไมล่ะซังหลินจวินขมวดคิ้วแน่น เวลาไม่กี่ชั่วโมงนั้นในอิตาลี เขาดูไม่ออกเลยว่าความสัมพันธ์เซินหยูกับซู้เหยี้ยนจะฝืดเคืองกันขนาดนี้

“เพราะฉันได้ใจน้องสาวสุดที่รักของเขาไป เป็นผู้หญิงที่ฉันรักที่สุด”จู่ๆริมฝีปากของซู้เหยี้ยนก็ยิ้ม

ทั้งสองคนมีบุคลิกเหมือนกันและทั้งคู่เป็นคนที่ไม่ค่อยแสดงรอยยิ้ม แต่เมื่อเทียบกับซู้เหยี้ยนแล้วซังหลินจวินแทบจะหมดยุคของการแสดงหน้านิ่งไปแล้ว

หลังจากรู้ว่าเรื่องในอิตาลีไม่ได้เกี่ยวข้องกับซู้เหยี้ยนมากนักเขาก็ไม่ได้ถามอะไรอีก

ท้ายที่สุดแล้วคำถามเหล่านั้นเกี่ยวข้องกับความเป็นส่วนตัว เขาเลยไม่ได้ตั้งใจจะถาม

ทั้งสองอยู่ที่ระเบียงสักพักจากนั้นก็กลับไปที่ที่นั่งของพวกเขาทีละคน

ถึงแม้เขาจะออกมาข้างนอกไม่นาน แต่ก็ไม่ได้สั้น

หลังจากพวกเขากลับมา ถ้วยใหญ่ๆที่วางอยู่บนโต๊ะกลมตรงหน้าเฉินเฉียวกับเชินชิง โดนพวกเธอกินจนหมดเกลี้ยง

ซู้เหยี้ยนถึงกับก้มหน้าและพูดอย่างเซ็งว่า “ชิงเอ่อร์คุณกินหมดแล้ว”

ของพวกนั้นหันไปตรงหน้าเธอ ซู้เหยี้ยนก็มองออกว่าใครกิน

เชินชิงรู้สึกน้อยใจ อยู่ที่บ้านซู้เหยี้ยนไม่เคยจำกัดการกินของเธอ พออยู่ข้างนอกกลับมาห้ามโน่นห้ามนี่ไม่ให้กิน

เธอก้มหน้าลงไม่อยากคุยกับเขา

บรรยากาศบนโต๊ะกลายเป็นอึดอัด เฉินเฉียวแอบยื่นมือออกมาและดึงมือของหลินจวินจากนั้นลุกและพูดกับซู้เหยี้ยนและคนอื่น ๆ : “ลูกๆของพวกเรากำลังจะเลิกเรียนแล้ว พวกเราขอตัวก่อนนะคะ พวกคุณนั่งเล่นกันต่อเถอะนะคะ ”

ซู้เหยี้ยนพยักหน้าและกล่าวว่า “งั้นพวกคุณรีบไปเถอะ ผมกับชิงเอ่อร์ ชิงเอ่อร์ ….”

เดิมทีซู้เหยี้ยนอยากจะพูดว่าจะอยู่กับเธอต่อ แต่คิดไม่ถึงว่ายังไม่ทันพูดจบเชินชิงก็เดินออกจากร้านไอศกรีม

เป็นห่วงว่าอาจมีบางอย่างเกิดขึ้นกับชิงเอ่อร์เขาจึงตามออกไปทันที

เหลือเพียงเฉินเฉียวและซังหลินจวินที่มองหน้ากันและกัน

ท่านประธานที่รัก

ท่านประธานที่รัก

Status: Ongoing

เฉินเฉียวต้องมานอนกับผู้ชายลึกลับคนหนึ่งอย่างไม่ได้ตั้งใจ เธอไม่รู้ ชื่อหรืออาชีพของเขา และไม่รู้เลยว่าเขานั้นได้แต่งานมาแล้ว แต่เขามักจะมาช่วยเธอให้หลุดพ้นจากความอับอายอยู่เสมอ อะไรนะ!!! ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่เธอคิด แต่เขาเป็นถึงซังหลินจวินที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเป่ยเฉิง และมีข่าวลือมาว่า ชายผู้มีอำนาจคนนี้ทั้งได้ผ่านการแต่งงานมาแล้วหลายครั้ง และมีลูกแล้วอีกด้วย และมีข่าวลือกอีกว่าชายคนนี้มีนิสัยเย็นชา………….

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท