แต่ชู่จี้ห้ามไว้ก่อน “คุณม่ายเอ๋อร์ รักนวลสงวนตัวหน่อยครับ” เสียงของเขาเยือกเย็นมาก
ม่ายเอ่อร์กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ซังอี๋จึงมานั่งระหว่างทั้งสอง “คุณม่ายเอ๋อร์คะ คุณทำแบบนี้ จะเสื่อมเสียภาพลักษณ์นะคะ”
สีหน้าม่ายเอ๋อร์แห้ง แล้วดึงมือกลับมา “คุณพูดอะไรน่ะ คุณกับชู่จี้ก็แค่แสดงละครตบตา”
มือของซังอี๋ที่ถือแก้วไวน์ไว้ชะงัก จากนั้นจึงยิ้ม “แล้วคุณจะร้อนตัวทำไมคะ?”
ชู่จี้ใช้การกระทำมาทำให้รู้ เขายกมือข้างขวาของซังอี๋ขึ้น “นี่เป็นแหวนแต่งงานของเรา คุณม่ายเอ๋อร์ยังอยากได้คำอธิบายอื่นไหมครับ?”
เสียงของทั้งสามไม่ได้ดังมาก ในห้องรับรองที่ครึกครื้นไม่มีใครสนใจพวกเขา
“ฉัน……ฉันขอตัวไปห้องน้ำก่อน” ม่ายเอ๋อร์หนีไปก่อน แต่เกมยังเล่นกันอยู่
“หยุดก่อน!” หลิงเยว่ที่ไม่ได้รับเชิญจึงเข้าห้องรับรองไม่ได้ พอเธอเห็นม่ายเอ๋อร์เดินออกมา จึงเรียกตัวเธอไว้
ม่ายเอ๋อร์รู้ว่าหลิงเยว่ชอบชู่จี้ เธอเลยไม่รู้สึกดีกับเธอ “มีอะไร?” เธอพูดอย่างจองหอง
หลิงเยว่จะเป็นบ้ากับท่าทางที่จองหองของม่ายเอ๋อร์ “ฉันจะถามเธอ เธอวางแผนอะไรกับรีวไว้หรือเปล่า?”
“เธอพูดบ้าอะไร?” ม่ายเอ๋อร์แกล้งโง่ กำลังจะเดินหนี
“เธอกำลังเล่นสกปรก!” หลิงเยวว่จ้องตาเธอ แล้วพูดอย่างมั่นใจ
“บ้าบอ!” ม่ายเอ๋อร์พูดแค่แค่นี้แล้วรีบเดินไป
เธอรู้ว่าซังอี๋กับชู่จี้อยู่ในนั้น เพราะแบบนี้ เธอเลยกลัวว่าชู่จี้จะโดนผู้หญิงคนอื่นแย่งไป แต่ว่า ด้วยนิสัยของชู่จี้ ม่ายเอ๋อร์คงทำไม่สำเร็จหรอก
พอเกมมาถึงคิวของม่ายเอ๋อร์ เธอกลับมาจากห้องน้ำพอดี “ขอโทษนะคะที่ให้รอนาน” เธอไปแต่งหน้าแต่งตัว ครั้งนี้ไม่ได้รบกวนทั้งสองอีก
“คล้องแขนดื่มไวน์กับหมายเลขเจ็ด” สายตาม่ายเอ๋อร์มองไปทางชู่จี้ แล้วยิ้มมุมปาก “ผู้บริหารชู่คงไม่ปฏิเสธใช่ไหมคะ?”
ชู่จี้ที่ร่างสูง เงาของเขาบังตัวม่ายเอ๋อร์ไว้มิด แล้วก้มมองเธอเอ่ยว่า “ผมจำได้ว่า ผมไม่ใช่หมายเลขเจ็ดนะครับ?”
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ หมายเลขต่างๆโดนสลับกัน หมายเลขเจ็ดไปอยู่ที่ผู้ชายคนกลางคนแล้ว สายตาที่ลามกของเขามองมาที่ม่ายเอ๋อร์ “คุณหนูม่ายเอ๋อร์ ผมเองครับ”
ผู้ชายที่บ้ากามถูกมือ แล้วถามว่า “งั้นเรามาดื่มด้วยกัน?”
ม่ายเอ๋อร์หน้าเขียวทันที แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ มีคนมองเธออยู่เยอะขนาดนี้ เธอรู้ว่าชู่จี้กำลังแกล้งตัวเอง แต่เธอจะแสดงออกมากไม่ได้
“ดื่มก็ดื่ม!” พอเธอดื่มกับผู้ชายคนนั้นเสร็จ ก็รีบไปอาเจียนข้างๆ
“คุณหนูม่ายเอ๋อร์เป็นอะไรครับ?” ผู้ชายบ้ากามถือโอกาสไปลูบหลังเธอ ไปสัมผัสผิวที่นุ่มลื่นของเธอ
ม่ายเอ๋อร์อยากจะตบเขาจริงๆ ทีแรกผู้ชายคนนี้เธอจัดให้ซังอี๋ ไม่คิดเลยว่าจะโดนตัวเอง เธออาเจียนไม่ออกแล้ว “ไสหัวไป อย่าแตะฉัน” เธอไม่สนอะไรมากแล้ว เธอที่มีทั้งหน้าตาแล้วความสามารถ ต้องมาก้มหัวให้คนอื่นเหรอ?
ผู้ชายคนนั้นหน้าแตก “นังเด็กบ้านี่ วันนี้ฉันจะสั่งสอนแกให้หลาบจำ!”
ในห้องรับรองเหลือแค่ชู่จี้ ซังอี๋ ผู้ชายวัยกลางคนและม่ายเอ๋อร์ ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ คนอื่นๆออกไปกันหมดแล้ว
เสียงของชู่จี้เย็นชามา “นี่เหรอฝีมือของเธอ?”
“ไม่ใช่!” ม่ายเอ๋อร์พยายามลุกขึ้น แล้วหน้าเธอก็แดงมากด้วย “ฉัน……” เธอเมาไม่ได้สติแล้ว จนตอนนี้เริ่มถอดเสื้อผ้าตัวเอง “ฉันจะเอานาย ชู่จี้!”
เห็นผู้หญิงคนนั้นเป็นบ้า ชู่จี้ยิ่งไม่แยแส รีบจับมือซังอี๋แล้วเดินออกมา แถมยังพูดกับผู้ชายคนนั้นว่า “ยกให้คุณละกันครับ ขอให้สนุก”
ทั้งสองกลับไปที่ห้อง เรือก็คงแล่นต่อไปในทะเลที่เงียบสงบ
“นายคิดว่า เธอแค่อยากมีอะไรกับนาย?” ซังอี๋รู้สึกว่าเรื่องไม่ธรรมดา รู้สึกว่าเธอต้องมีแผนอื่น
ชู่จี้ลูบผมที่นุ่มสลวยของเธอ “เธอนี่ฉลาดจริงๆ สมกับเป็นคนตระกูลซัง”
ซังอี๋เบิกตากว้าง “นาย……นายรู้หมดแล้ว?”
เธอคิดไม่ถึงเลยว่าชู่จี้จะรู้เรื่องของตัวเองแล้ว
เขากอดเธอไว้ ท่าทางของทั้งสองแนบชิดกันมาก “อื้อ ฉันก็เพิ่งรู้วันนี้ รู้เรื่องทั้งงหมดแล้ว”
“ฉัน……” ซังอี๋กำลังจะพูด แต่ชู่จี้กลับจูบปิดปากก่อน จากนั้นก็ดื่มด่ำความหวานนั้น
ซังอี๋พยายามพูด อยากรู้ว่าเขารู้อะไรมาบ้าง
สุดท้ายชู่จี้ใจดีแล้วปล่อยเธอ เช็ดลิปสติกที่เลอะขอบปากเธอ “ทีแรกฉันคิดว่าเธอเป็นคนของรีส ยังดีที่ฉันยังไม่ได้เริ่มแผน”
เขาออกแรงกอดซังอี๋ เหมือนของมีค่าที่ได้มาอย่างยากลำบาก “อีกหน่อยฉันจะไม่ทำอีกแล้ว ฉันสัญญา”
ซังอี๋สงสัยกว่าเดิม “อะไรกันเนี่ย?” ใจเธอลอยไปกับชู่จี้แล้ว
“ตอนนั้นที่เธอถูกรีสพาตัวไป เธอโดนมันวางยา แล้วคิดว่ามันเป็นฉันใช่ไหม?” เสียงที่อ่อนโยนของชู่จี้ ทำให้คนฟังหลงใหลมาก
เธอป้อมปากไว้ “ฉัน……ทีแรกฉันก็อยากบอก แต่กลัวนายไม่เชื่อ”
เธอเชื่อว่าตัวเองบริสุทธิ์ใจ สักวันเขาต้องรู้ความจริงแน่นอน
“วันนี้ หลิงเยว่ให้คนเอาไวน์มาให้ ฉันรู้ว่าไวน์มีปัญหา หลังจากนั้นฉันก็ให้คนเอาไปตรวจ แล้วผลที่ได้” สายตาเขามีความเลือดเย็น “อธิบายได้เลยว่าทำไมวันนั้นเธอถึงแปลกๆ”
เธอไม่รู้ว่าชู่จี้ทำได้ยังไง ทำทุกอย่างเงียบๆ แม้แต่เธอที่อยู่ข้างเขาตลอดยังไม่รู้ตัว
“อีกอย่าง รีสกับหลิงเยว่เกี่ยวข้องกัน เธอซื้อยาหลอนประสาทผ่านมือรีสได้” ชู่จี้หยุดไปครู่หนึ่ง “แต่เสียดาย เพราะแบบนี้ หลิงเยว่เลยทำให้ตัวเองโป๊ะแตก”
ดวงตาเขาเหมือนน้ำหมึกดำสนิท “ขอโทษนะ ยังดีที่ฉันยังไม่ได้ทำร้ายเธอไปมากกว่านี้”
เขาพูดขอโทษจากใจจริง ถ้าเขารู้ช้ากว่านี้ เขาอาจจะต้องเสียซังอี๋ไป แล้วทำผิดมหันต์
หนึ่งวันก่อนหน้านั้น เขาก็รับอีเมลจากรีส บนนั้นเขียนว่า : ในงานสัมมนาจะมีเซอร์ไพรส์ที่คุณอยากได้ เป็นของขวัญชิ้นพิเศษสำหรับคุณ ถ้าคุณไม่ไป คงต้องเสียใจตลอดชีวิต แน่นอน เกี่ยวกับเด็กผู้หญิงของคุณด้วย”