หลังจากนั้นไม่นาน ฉีหล่างก็เก็บดาบกลับไปและหลับตาลง ราวกับว่าเขากำลังสงบอารมณ์ของตัวเอง หลังจากผ่านไปนาน เขาจึงคุกเข่าลงกับพื้นและประสานมือคารวะหยุนชาง “ข้าน้อยได้ทำการไม่เหมาะสมต่อใต้เท้า ทำให้ใต้เท้าตกใจ หวังว่าใต้เท้าจะยกโทษบาปให้กับข้าน้อย ข้าน้อยยอมที่จะถูกลงโทษขอรับ”
หยุนชางมองไปที่ฉีหล่างเป็นเวลานาน แล้วจึงเอื้อมมือไปช่วยพยุงฉีหล่างให้ยืนขึ้น ” ข้าหวังว่า แม่ทัพฉีจะรู้สึกว่าตนผิดไปจากใจจริง ข้าเป็นเพียงแม่หญิง ไม่สามารถแย่งเอาผลงานสงครามนี้ไปได้ หากว่าเราได้รับชัยชนะจากสงครามครั้งนี้ แน่นอนว่าทุกคนคงจะมีความสุข แต่หากเราแพ้ศึกนี้ ข้าเกรงว่าเมื่อถึงตอนนั้นแม่ทัพฉีคงจะรู้สึกละอายใจต่อประชาชนอย่างแท้จริงๆ”
หลังจากพูดจบ หยุนชางก็ไม่พัวพันกับเรื่องนี้ต่อ นางจึงหันไปหาคนอื่นๆ และกล่าวว่า “ทุกคนมาดูนี่เถิด วันนี้ที่ข้าเชิญทุกท่านมานั่นก็เพราะอย่างหารือเรื่องบางเรื่องกับทุกท่าน”
ทุกคนรีบเดินไปที่โต๊ะ หยุนชางชี้ไปที่แม่น้ำจิ้งที่คดเคี้ยวอยู่บนแผนที่ และกล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนลงเล็กน้อยว่า “ไม่กี่วันที่ผ่านมา สายลับที่ข้าส่งตัวออกไปนั้น พบว่าหลิ่วหยินเฟิง กุนซื่อคนปัจจุบันของแคว้นเซี่ยมักตรวจสอบรอบๆ แม่น้ำจิ้งนี้อยู่บ่อยครั้ง และทุกครั้งที่ไปที่นั่น จะมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา เห็นได้ชัดว่าเขาไม่อยากให้ใครรับรู้ แม่น้ำจิ้ง ไหลนี้จากทางตอนเหนือของเมืองคังหยางจนถึงขอบเมืองจิ้งหยาง ระหว่างทางนั้นจะผ่านบริเวณใกล้เคียงที่ทหารแคว้นเซี่ยตั้งกองกำลังไว้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเมืองคังหยางขาดแคลนน้ำ และแม่น้ำจิ้งนี้แห้งแล้งมาเป็นเวลานาน มีเพียงแต่ช่วงฝนเยอะในฤดูร้อนเท่านั้นจึงจะมีน้ำในแม่น้ำสายนี้ อีกทั้งหากเดินทางจากที่ตั้งกองกำลังจองแคว้นเซี่ยขึ้นมา สองข้างทางของระยะทางช่วงแรกนั้นมีแต่เนินเขา และเนินเขานั้นสูงเป็นอย่างมาก ตอนนี้ก็เป็นช่วงฤดูหนาว บนภูเขานั้นโล่งมากไม่มีต้นไม้ ยากที่จะซ่อนตัว จึงยากต่อการซุ่มโจมตี ช่วงครึ่งหลังนั้นสภาพภูมิประเทศลดต่ำลง กลายเป็นป่าภูเขา หากทหารหลายแสนนายของแคว้นเซี่ยล้วนซ่อนตัวอยู่ในป่า เช่นนั้นหากเราคิดจะกวาดล้างก็คงเป็นไปได้ยาก”
เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนี้ ต่างก็พยักหน้า แม่ทัพเหล่านี้ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเมืองคังหยางมาเป็นเวลานาน และพวกเขาก็ทราบดีเกี่ยวกับภูมิประเทศบริเวณใกล้เมืองคังหยาง และแน่นอนว่าพวกเขาทราบดีว่าสิ่งที่หยุนชางกล่าวมานั้น เป็นความจริงทุกประการ
“ทหารแคว้นเซี่ยคิดจะโจมตีตามทางแม่น้ำจิ้งหรือ?” มีคนถามขึ้นมา
หยุนชางพยักหน้า ” ดูสถานการณ์จากการสืบของสายลับแล้ว หลิ่วหยินเฟิงคิดจะทำการเช่นนี้จริง”
“หากเป็นเช่นนั้นเราควรทำอย่างไรหรือ? บริเวณรอบๆ แม่น้ำจิ้งไม่เหมาะที่จะซุ่มโจมตี เช่นนั้นเราจึงทำได้รออยู่ในค่ายอยู่ในค่าย รอให้กองทัพแคว้นเซี่ยเข้ามาโจมตีแล้วโจมตีพวกเขากลับไปหรือ?” หลิวหัวขมวดคิ้ว “เช่นนี้เราจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นฝ่ายรับมือ ซึ่งไม่ดียิ่งนัก”
“หรือว่าเรานำทัพไปก่อนหนึ่งก้าว? เรานำทัพลงไปทางทางแม่น้ำ แล้วตรงเข้าไปที่ค่ายทหารแคว้นเซี่ยดีหรือไม่?” หวังชงถาม
ฉีหล่างซึ่งเงียบมานานกลับเอ่ยปากขึ้นมาอย่างกะทันหัน ” ไม่ค่อยดีนัก สถานที่ที่แคว้นเซี่ยเลือกตั้งกองกำลังนั้นถูกเลือกมาอย่างชาญฉลาด ซึ่งเป็นปากแม่น้ำที่อยู่จุดสิ้นสุดเทือกเขาริมแม่น้ำจิ้งพอดี ปากแม่น้ำทางนั้นไม่เหมือนกับทางนี้ ที่มีพื้นที่ภูเขาไม่สูงมากนัก แต่เนินเขาที่ตั้งอยู่ตรงนั้นเป็นหน้าผาชัน หากทหารแคว้นเซี่ยเฝ้าอยู่ที่ปากแม่น้ำ เช่นนั้นเราคงจะออกไปได้ยาก”
หยุนชางพยักหน้า ” สิ่งที่แม่ทัพฉีกล่าวมานั้นถูกต้องอย่างยิ่ง”
“แล้วเราจะทำอย่างไรดี?” ทุกคนมองไปที่หยุนชางด้วยสายตาที่แผดเผา เมื่อนางเรียกให้ทุกคนมาปรึกษาหารือ ฉะนั้นนางจึงต้องมีแผนบางอย่างในใจอยู่แล้ว
เป็นอย่างที่คิด หยุนชางยิ้มเล็กน้อย ชี้นิ้วไปที่เนินเขาชีเซี่ย ซึ่งเป็นต้นกำเนิดแม่น้ำจิ้ง จากนั้นก็ขยับนิ้วขึ้นไปอีกเล็กน้อย แล้วชี้ไปที่ทะเลสาบหยุนที่อยู่ข้างบนภูเขาหลงเซีย
“ทะเลสาบหยุน?” หวังชงตะลึง “เมื่อวานนี้ ใต้เท้าพาข้าน้อยไปดูทะเลสาบนี้เป็นเวลานาน แต่ทว่าข้าน้อยมิได้พบว่าทะเลสาบหยุนนี้มีความพิเศษอย่างไรเลยนะขอรับ?”
สีหน้าของทุกคนดูสับสน ทะเลสาบหยุนนี้มีความเกี่ยวข้องกับแม่น้ำจิ้งอย่างไรหรือ?
หยุนชางมองดูสีหน้าที่งุนงงของเหล่าแม่ทัพ จึงกล่าวอีกว่า ” ทะเลสาบหยุนอยู่บนยอดเขาหลงเซีย ครอบครองพื้นที่ขนาดใหญ่ และน้ำทะเลสาบนั้นลึกมาก อีกทั้งทางทิศตะวันตกของทะเลสาบหยุนนั้น ซึ่งก็คือที่นี่ ด้านล่างถัดไปก็จะเป็นภูเขาชีเซี่ย ซึ่งที่นั่นคือต้นกำเนิดของแม่น้ำจิ้ง…..”
ทุกคนยังคงไม่เข้าใจ แต่หยุนชางกล่าวต่ออีกว่า “เมื่อวานนี้ข้าได้ขึ้นไปดูที่ภูเขาหลงเซียแล้ว ตำแหน่งนี้ หน้าผาเรียบมาก สาเหตุที่แม่น้ำจิ้งไม่มีน้ำ ก็เพราะทะเลสาบบนภูเขาชีเซี่ยนั้นค่อนข้างเล็ก จึงบรรจุน้ำไม่เพียงพอ ดังนั้นเมื่อปริมาณการเกิดน้ำฝนไม่เพียงพอ แม่น้ำจิ้งก็จะไม่มีน้ำ หากว่าในขณะที่ทหารแคว้นเซี่ยกำลังเดินทางในแม่น้ำจิ้ง แล้วข้าคิดหาวิธีเจาะหน้าผาริมทะเลสาบหยุนออกให้ได้ เช่นนั้นน้ำในทะเลสาบหยุนก็จะไหลจากที่นี่ลงสู่ทะเลสาบบนยอดเขาชีเซี่ย เมื่อถึงตอนนั้นทะเลสาบบนภูเขาชีเซี่ยมีน้ำแล้ว แม่น้ำจิ้นก็จะมีน้ำโดยธรรมชาติ กระแสน้ำของแม่น้ำจิ้งเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน…”
“ฮ่าฮ่า! แผนการของใต้เท้านั้นยอมเยี่ยมเสียจริง!” หลิวหัวหัวเราะอย่างตื่นเต้น “ทหารแคว้นเซี่ยกำลังเดินทางอย่างมีความสุข แต่จู่ๆ ก็มีน้ำไหลพรากลงมาจากต้นแม่น้ำจิ้ง หากว่ามีน้ำเต็มแม่น้ำจิ้งแล้ว แม่น้ำนั้นจะลึกเป็นอย่างมาก ข้าเกรงว่าทหารหลานแสนนายนั้นอาจต้องเสียชีวิตอยู่ที่ก้นแม่น้ำจิ้งแล้วกระมั้ง”
หยุนชางเงยหน้าขึ้นและเหลือบมองแม่ทัพที่อยู่ในกระโจม เห็นว่าใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น นางจึงอมยิ้มเล็กน้อย “ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่การคาดเดาของข้าเพียงเท่านั้น ข้าไม่รู้ว่ามันจะสามารถทำได้จริงๆ หรือไม่ หากว่าใช้วิธีนี้ ก็ต้องวางแผนรับมือสำหรับคนที่อาศัยอยู่แถวนี้ให้ดีๆ อีกทั้งในค่ายก็คงมีไส้ศึกของแคว้นเซี่ยอยู่ด้วย ฉะนั้นเรื่องนี้จึงต้องเก็บเป็นความลับอย่างเคร่งครัด เรื่องทุกอย่างต้องมอบหมายให้คนที่เราไว้ใจได้ไปทำเท่านั้น เมื่อทหารได้เข้าร่วมแผนการนี้แล้ว ก็ต้องจับตาดูพวกเขาให้ดี จนว่าแผนการจะสำเร็จ ต้องไม่ให้พวกเขามีโอกาสเอาแผนการนี้ไปเผยแพร่เด็ดขาด”
ทุกคนจับตามองไปที่ฉีหล่าง แม้ว่าอำนาจการตัดสินนั้นตกเป็นของหยุนชางแล้ว แต่ฉีหล่างอยู่ในค่ายทหารนี้มานานหลายปี ศักดิ์ศรีและความน่าเกรงขามของเขายังอยู่ ฉีหล่างเงียบไปครู่หนึ่งแล้วจึงจะกล่าวว่า “แผนการนี้ใช้ได้”
หยุนชางจึงพยักหน้า ” ในเมื่อฉีหล่างกล่าวว่าแผนการนี้ใช้ได้ ฉะนั้นก็คงไม่มีปัญหากระไรแล้ว เช่นนี้ข้าก็ขอรบกวนแม่ทัพฉีเลือกทหารที่เหมาะสมกับแผนการนี้ เพื่อไปเตรียมการวางแผนเรื่องนี้แล้วกัน”
ฉีหล่างพยักหน้า จากนั้นเขาก็ประสานมือไปทางหยุนชาง “ขอรับ ก่อนหน้านี้ข้าน้อยได้กระทำความผิด และแน่นอนว่าข้าน้อยจะจัดการแผนการนี้ให้เรียบร้อย เพื่อเป็นการไถ่โทษขอรับ”
“เยี่ยม!” หยุนชางกล่าวอย่างเสียงดัง “ฉะนั้นข้าจะรอข่าวดีจากแม่ทัพฉีแล้วกัน งานเจาะภูเขานี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา ข้าเกรงว่าชาวบ้านเมืองคังหยางอาจจะได้รับผลกระทบไปด้วย ฉะนั้นจึงต้องระมัดระวังในการคำนวณเป็นอย่างมาก”
ฉีหล่างตอบกลับไปว่า ” ข้าน้อยทราบขอรับ”
ในเมื่อทุกคนไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ หยุนชางจึงปล่อยให้พวกเขาไปเตรียมตัวกัน หลังจากที่ทุกคนออกไป เฉี่ยนอินก็เดินออกมาจากฉากกั้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “พระชายาช่างยอดเยี่ยมเสียจริงเพคะ ไม่คาดคิดว่าท่านจะสามารถจัดการกับแม่ทัพฉีจนเชื่อฟังท่านเช่นนี้ . .”
หยุนชางอมยิ้มเล็กน้อย “แต่จะยอมโดยจากใจจริงหรือไม่นั้นยังไม่แน่นอนหรอก เจ้าสั่งให้สายลับจับตาดูให้ดี หากว่ามีความผิดปกติใดๆ ก็มารายงานข้าให้ทันเวลา ข้าหวังว่าคราวนี้เขาจะกระจ่างอย่างถ่องแท้จริงๆ”
เฉี่ยนอินตอบกลับ จากนั้นก็รินชาให้หยุนชางแล้วถอยออกไป
หยุนชางเอนกายลงบนเก้าอี้และได้ยินเสียงทหารดังมาจากข้างนอกอย่างแผ่วเบา นางรู้สึกเหม่อลอยเล็กน้อย ชีวิตแบบนี้ เป็นสิ่งที่ตนในชาติก่อนไม่กล้าจินตนาการอย่างแน่นอน แต่แม้เป็นเช่นนี้ กลับทำให้นางรู้สึกอิ่มเอมใจอย่างยิ่ง
ช่วงนี้น้อยครั้งที่นางจะนึกถึงชาติที่แล้ว แต่ก็มีนึกขึ้นมาบ้างเป็นครั้งคราว ศัตรูอีกสองสามคนที่ตนต้องกำจัดออกไปซึ่งตอนนี้ยังมีชีวิตอยู่ เพียงแต่ความโกรธแค้นในใจค่อยๆ จางลงแล้ว