บ่วงแค้นแสนรัก – บทที่ 276 กลัวอย่างสุดขีด

บทที่ 276 กลัวอย่างสุดขีด

ลู่จิ้นยวนมองไปที่หญิงสาวที่ยกของขู่เขาอย่างดุร้าย

มู่เยียนหรานก็หมดหวัง เธอไม่อยากเสียสิ่งที่ตนเองได้มาอย่างยากเย็น และก็ไม่อยากเสียมือที่ใช้แสดงดนตรีที่นี่

ดังนั้นเธอจึงพนันสักยก

“มู่เยียนหราน ไม่อยากยั่วโมโหฉันก็วางมันลงเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างงั้นต่อไปฉันจะให้เธอเหมือนตายทั้งเป็น”

ลู่จิ้นยวนกัดฟันพูดแต่ละคำแต่ละประโยค

สายตาของเขาราวกับจะฉีกมู่เยียนหรานเป็นชิ้น ๆ

“ไม่ นายปล่อยฉันไป ฉันก็จะวางมันลงให้นาย!”

มู่เยียนหรานส่ายหน้า เธอค่อย ๆ เดินไปที่ประตูทีละก้าว “ไม่อย่างงั้น ก็แค่พังทั้งสองฝ่าย!”

ลู่จิ้นยวนกลั้นหายใจ เขาไม่เคยมีความกังวลขนาดนี้มาก่อน เขาไม่กล้าคิดถ้าหากสูญเสียการเชื่อมต่อกับเวินหนิงเพียงสิ่งเดียวไป เขาจะกลายเป็นยังไง

เกรงว่าคงจะบ้าไปแล้วจริง ๆ

“วางมันลง แล้วไสหัวไปซะ…”

ลู่จิ้นยวนขยับปาก น้ำเสียงเย็นชาพูดออกมา

มู่เยียนหรานคลำเพื่อเปิดประตู เหมือนกับจะรีบออกไปจากที่นี่เพื่อหนีโรคระบาด เธอกลัวเป็นอย่างมาก จึงไม่ได้มองขั้นบันไดใต้เท้า เธอลื่นตกจากข้างบนลงมาข้างล่างทันที

ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างกระทันหันมาก แม้แต่ลู่จิ้นยวนก็หยุดมันไม่ทัน ทำได้เพียงยืนมองผู้หญิงคนนั้นอุ้มโกศนั่นลื่นตกลงไป

เพล้ง ของข้างในแตกกระจายบนพื้น มู่เยียนหรานตกใจเป็นอย่างมาก เธอมองดูเลือดบนร่างกายของตนเอง บวกกับของสิ่งนั้นที่ทำให้เธอหวาดกลัว เธอกรีดร้อง แล้วเป็นลมล้มไป

ลู่จิ้นยวนพุ่งเข้าไป พยายามที่จะจับกลับสิ่งที่หกโดยเปล่าประโยชน์ แต่ว่า…ก็เหมือนใช้มือกำทรายไว้ ไม่ว่าจะทำยังไง ก็ไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิม

“เกิดอะไรขึ้น?”

ได้ยินเสียงดังมาจากข้างนอก เพื่อนบ้านเดินออกมา เห็นหญิงสาวคนหนึ่งนอนอยู่บนพื้น บนพื้นมีเลือดอยู่ไม่น้อย จึงโทรแจ้งตำรวจทันที

ลู่จิ้นยวนไม่ได้สังเกตุเห็น

เขาเพียงแต่กำของในมือไว้แน่น

ที่แท้เขาไร้ความสามารถจริง ๆ แม้แต่ของสิ่งเดียวที่เวินหนิงเหลือไว้บนโลกนี้ก็ยังรักษาได้ไม่ดี

“ขอโทษ…ขอโทษ…”

ลู่จิ้นยวนเก็บของที่สามารถเก็บได้แล้วใส่มันกลับไปใหม่ จากนั้นก็อุ้มไว้ในอ้อมกอดอย่างระมัดระวัง เขาค่อย ๆ ลูบภาพถ่ายนั้นด้วยมือที่เปื้อนเลือด

ผ่านไปครู่หนึ่ง ตำรวจก็มาถึงที่เกิดเหตุ

ในไม่ช้าก็จำทั้งสองคนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ได้ว่าเป็นใคร

ในเมื่อ งานแต่งงานครั้งนั้นทุกคนในเมืองเจียงเฉิงล้านรับรู้กันหมด แต่ตอนนี้…

มองดูชายหนุ่มที่อุ้มโกศไว้ไม่ยอมปล่อยมือ เขาไม่แม้แต่จะมองคู่หมั้นที่ล้มลงบนพื้นแม้แต่น้อย ทุกคนตื่นตระหนกด้วยความกลัว

ตกลง…มันเกิดอะไรขึ้น?

มู่เยียนหรานถูกส่งไปโรงพยาบาลอย่างเร็ว

ตอนที่ตกลงมาจากบันได โกศกระแทกเข้ากับหน้าของเธอ ข่วนโดนใบหน้าของเธอจนมีแผล รอยแผลนั้นไม่ตื้น อาจจะทิ้งรอยแผลเป็นไว้ได้

นอกจากนั้น บริเวณศรีษะเป็นเพราะได้รับการกระแทกอย่างแรง อาจจะมีเลือดคั่งในสมอง จะมีโรคอะไรตามมาภายหลังก็ไม่สามารถรู้ได้

มือที่ได้รับบาดเจ็บ ในทางตรงกันข้ามดูเหมือนว่าจะได้รับความรุนแรงน้อยกว่าส่วนอื่น ๆ

“ตกลงมันเรื่องอะไรกัน?”

เกิดเรื่องใหญ่โตขนาดนี้ แน่นอนว่าคนตระกูลลู่ไม่มีทางนิ่งดูดายได้

ปิดปากนักข่าวพวกนั้นเป็นอย่างแรก ไม่ให้ข่าวเสียพวกนี้แพร่พรายออกไป ไม่เช่นนั้น จะกระทบต่อชื่อเสียงของตระกูลลู่และตระกูลมู่ทั้งสองตระกูลเป็นอย่างมาก

“ทำไมนายถึงได้ทำเรื่องแบบนี้ได้ นายรู้ไหมว่าสิ่งนี้จะส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของนายยังไง?”

ยุ่งวุ่นวายอยู่เป็นเวลานาย กว่าจะจัดการข่าวซุบซิบทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการมีแนวโน้มความรุนแรงทางครอบครัวของลู่จิ้นยวนได้ เย่หวานจิ้งใกล้โมโหจนระเบิดแล้ว

เธอคิดว่า ลูกชายของตัวเองต่อให้ยังไง ก็ไม่มีทางทำเรื่องตบตีผู้หญิงแบบนี้แน่นอน

“ผมไม่ได้แตะต้องเธอ เธอตกลงไปเอง”

ลู่จิ้นยวนพูดอย่างเย็นชา “แต่ว่านี่ถือว่าเป็นการชดใช้กรรมแล้วกัน”

ในมือของชายหนุ่มยังคงอุ้มโกศนั้นไว้อยู่ ผ่านการตกตะลึงเมื่อครู่ แม้ตอนนี้เขาก็ไม่ยอมปล่อยมือ ถือมันแน่นไว้แบบนั้น ราวกับมันเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายตัวเองยังไงยังงั้น

“นายพูดว่า…ชดใช้กรรม?”

เย่หวานจิ้งไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเอง เธอมองดูสิ่งของในมือของลู่จิ้นยวน มีความกลัวอย่างบอกไม่ถูกปรากฏขึ้นในใจของฉัน

ลู่จิ้นยวนในตอนนี้ ไม่ปกติ ไม่ปกติเป็นอย่างมาก เธอไม่เคยเห็นท่าทางของเขาแบบนี้

ราวกับว่าถ้าหากใครเอาของในมือเขาไป เขาก็จะฆ่าคนนั้นให้ตายยังไงยังงั้น เขาดื้อรั้น เย็นชา

เย่หวานจิ้งมองดูโกศนั้นอีกครั้ง จากนั้นก็นึกออกแล้วว่ามันคืออะไร เธอถลึงตาโต “จิ้นยวน นี่มัน…”

“นี่คือเวินหนิง ภรรยาของผม…”

นี่มันโกศขี้เถ้าของคนตายชัด ๆ?

ไม่ถูกต้อง เวินหนิงยังไม่ได้ตาย…

เย่หวานจิ้งราวกับถูกฟ้าผ่า ไม่ขยับเขยื้อน

เธอคิดไม่ถึงว่าลู่จิ้นยวนจะมีความรู้สึกกับผู้หญิงคนนั้นมากขนาดนี้

“ภรรยาอะไร…นายกับเธอไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว ภรรยาของนาย ตอนนี้เธอยังอยู่ในห้องไอซียู!”

เย่หวานจิ้งกัดฟันแน่น ถึงจะควบคุมความไม่พอใจและความสั่นของตนเอง

“ผมกับเธอไม่เกี่ยวข้องอะไรกัน ผมไม่มีทางแต่งงานกับเธอ”

ลู่จิ้นยวนพูดอย่างเฉยชา แต่น้ำเสียงแบบนี้ ทำให้เย่หวานจิ้งยิ่งขนลุกขนพอง

“พวกนายหมั้นกันแล้ว จิ้นยวน นายอย่าก่อเรื่องวุ่นวายอีกเลย”

“ผมไม่ได้ก่อเรื่อง ผมจริงจัง”

ชายหนุ่มค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น มองผู้เป็นแม่ที่อยู่ตตรงหน้า ดวงตาคู่นั้นที่คล้ายกับดวงตาของสามีผู้ล่วงลับไป ในนั้นไม่มีความหมายของการล้อเล่น

เขาเอาจริง

เย่หวานจิ้งเหมือนกับย้อนกลับไปเมื่อนานมาแล้ว ชายคนนั้นที่ถูกเรียกว่าเป็นสามีของเธอ ท่าทีตอนที่พูดกับเธอเรื่องการหย่าร้างเพื่อผู้หญิงคนนั้น

ก็มีสีหน้าแบบนี้

เย่หวานจริงแทบจะเป็นบ้าแล้ว

พ่อลูกคู่นี้ ทำไมพวกเขาถึงเหมือนกันในเรื่องแบบนี้?

ตอนนั้นพ่อของลู่จิ้นยวนก็เป็นแบบนี้ เพื่อผู้หญิงคนนึง คนธรรมดาคนนึง ไม่เพียงแต่อยากจะหย่าร้างกับเธอและทิ้งความเกี่ยวดองกับตระกูล กระทั่งยอมทิ้งการเป็นผู้สืบทอด ไปใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา

ความบ้าบิ่นแบบนี้ทำให้เธอกลัวอย่างสุดขีด

บ่วงแค้นแสนรัก

บ่วงแค้นแสนรัก

Status: Ongoing

ของขวัญวันเกิดอายุ18ปีของเวินหนิง คือเธอต้องติดคุก10ปี เพื่อการแก้แค้นเธอจึงตอบตกลงคำขอร้องของปีศาจ เธอต้องแต่งงานกับสามีที่นอนอยู่ในสภาพเหมือนผัก แต่คิดไม่ถึงว่า…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท