บ่วงแค้นแสนรัก – บทที่269 สงครามที่ยืดเยื้อ

บทที่269 สงครามที่ยืดเยื้อ

“พูดธุระจบแล้ว ตอนนี้แกไปได้แล้ว” ไป๋หลินยวี่ตบลู่จิ้นยวนไปหนึ่งครั้ง ถึงแม้จะรู้ว่าอาจจะทำให้ชายคนนี้แค้นเธอ แต่กลับรู้สึกว่าสะใจมาก

ทำร้ายลูกสาวของเธอ แย่งตัวหลานชายของเธอไป ก็คือคนที่อยู่ตรงหน้านี้……เธออยากจะให้โลกใบนี้ไม่มีลู่จิ้นยวนคนนี้!

ลู่จิ้นยวนมองทุกสีหน้า ทุกการกระทำของไป๋หลินยวี่ เขากระตือรือร้นอยากจะมองเห็นความผิดปกติ

แต่ว่าการกระทำของไป๋หลินยวี่ กลับไม่ได้ทำให้เขาหาสิ่งผิดปกติใดเจอเลย

ความโกรธของเธอ ความเจ็บปวดของเธอ ก็คือแม่ที่สูญเสียลูกสาวของตัวเองไป

ภายในพริบตา ภายในใจของลู่จิ้นยวนก็ว่างเปล่า ที่ดึงดันมาได้นานขนาดนี้ เพราะว่าตัวเองไม่เขื่อ

เขาไม่เชื่อว่าเวินหนิงจะตายไปแล้ว เขาไม่เชื่อว่าเธอจะยอมทิ้งเด็กที่เธอห่วงใยมากที่สุดไป

เขาไม่เชื่อว่าเธอจะไม่โกรธแค้นเขา ไม่เกลียดตระกูลลู่ แล้วตายอย่างน่าสงสารอยู่ที่นั่น

“เป็นเรื่องโกหก ถูกไหมครับ?”

ลู่จิ้นยวนพึมพำ ผลกระทบจากการไม่ได้พักผ่อนมาหลายวันแล้วยังจะเดินทางออกนอกประเทศเริ่มแสดงผลออกมา ฝีเท้าของเขาโซเซเล็กน้อย อยู่ๆตัวของเขาก็นั่งไม่ตรง แล้วล้มลงไปบนพื้น

ไป๋หลินยวี่มองท่าทางน่าสงสารของเขา ภายในใจก็หัวเราะเยาะ

ความเกลียดชังและขยะแขยงออกเธอ ถูกแสดงออกมาโดยไม่ปกปิด ไม่ได้ควบคุมสีหน้าของตัวเองแต่อย่างใด

ก็ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้……ทำให้ลูกสาวของเธอต้องเจอกับความเจ็บปวดมากขนาดนั้น อนาคต ยังจะต้องรับความเจ็บปวดจากการถูกพรากแม่พรากลูกอีก

จะให้เธอทำหน้าดีๆใส่คนๆนี้อีกอย่างนั้นเหรอ?

เหอะๆ……

“ผมไม่เชื่อ……ไม่มีทาง……”ใบหน้าขาวซีดของลู่จิ้นยวน เขารู้ว่าสภาพของเขาตอนนี้นั้นดูน่าสงสาร แต่ว่า เขาไม่สามารถที่จะควบคุมความกลัวภายในจิตใจได้

ถ้าหาก ทั้งหมดนี่คือเรื่องจริง เขาจะทำยังไงดี?

เวินหนิงไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้วจริงๆล่ะก็ แม้แต่การชดเชย เขาก็ไม่รู้ว่าจะต้องให้ใคร

เขาจะยอมได้ยังไง?

ไป๋หลินยวี่มองท่าทางเจ็บปวดของชายหนุ่ม มีอยู่แป๊บหนึ่ง เธอเสียดายมาก ถ้าหากแสดงออกมาว่ารักมากอย่างนั้น ทำไมถึงได้ทำร้ายลูกสาวเธอแบบนั้น?

หลังจากนั้น ไป๋หลินยวี่ก็คิดถึงภาพงานแต่งงานแห่งศตวรรษนั้น ความใจอ่อนแค่นิดเดียวนั้นของเธอก็หายไป

เป็นถึงสามีที่มีภรรยาอยู่แล้ว ตอนนี้กลับมาทำเรื่องแบบนี้ ตกลงแล้วมีจุดประสงค์อะไรกันแน่?

คงไม่ใช่ เขาคงยังอยากจะรีบฆ่าลูกสาวของตัวเองให้ตายจนสิ้นซาก?

ไป๋หลินยวี่ขยับรถเข็นวีลแชร์เข้าไปใกล้ๆลู่จิ้นยวน “ฉันบอกแล้ว ฉันไม่ต้อนรับคุณ เชิญคุณออกไป!”

ในหัวของลู่จิ้นยวน ตอนนี้มีเสียงต่างๆปะปนกัน เสียงนี้น เหมือนกับทำให้เขาคิดอะไรไม่ออก ปวดหัวจนแทบจะระเบิด

คำพูดเย็นชาของไป๋หลินยวี่ ทำให้เขาปีนป่ายออกมาจากความเจ็บปวดได้ เขารู้ตัว ตอนนี้เขาไม่มีสิทธิ์เสียใจขาดสติ ความหวังเดียวของเขา ก็คือผู้หญิงตรงหน้านั้นพูดโกหก

เขาจะไปทั้งอย่างนี้ไม่ได้……

นอกจาก ให้เขาเห็นศพของเวินหนิงด้วยตาตัวเอง

ไม่สนใจสายตาโกรธแค้นและเกลียดชังของไป๋หลินยวี่ ริมฝีปากบางของลู่จิ้นยวนขยับเล็กน้อย น้ำเสียงแหบแห้งถามขึ้น

“ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?”

“อะไรอยู่ที่ไหน?”

“เธอตายไปแล้ว ถ้ายังมีชีวิตอยู่ผมต้องการเห็น ถ้าตายไปแล้วผมก็อยากเห็นศพ!”

ดวงตาของลู่จิ้นยวนแดงก่ำจนน่ากลัว และมีแววตาบ้าบิ่นขึ้นมาเล็กน้อย

ตอนนี้เขา โดนบีบบังคับจนไม่เหลือทางเดินแล้ว ถ้าไม่ทำให้เขาตัดใจไปจริงๆ เขาก็ไม่มีทางยอมแพ้

“ฉันไม่มีทางบอกแกหรอก”

ไป๋หลินยวี่ก็บอกปฏิเสธไปโดยไม่ได้เกรงใจ อารมณ์เย็นชาบนใบหน้า มีคำว่าเกลียดชังเขียนอยู่เต็มไปหมด “นี่แม้แต่เธอตายแกก็อยากให้เธอตายอย่างไม่สงบอย่างนั้นเหรอ?”

พูดพลาง ไป๋หลินยวี่ก็ขยับล้อวีลแชร์ ต้องการที่จะออกไปจากที่นี่ โกหก ที่จริงเป็นเรื่องที่เหนื่อยมากเหลือเกิน โดยเฉพาะ อีกฝ่ายเป็นผู้ชายอย่างลู่จิ้นยวน

หากว่าเกิดมีพิรุธ อย่างนั้นก็จะแพ้ทั้งกระดาน

“อย่างนั้นผมจะรออยู่ตรงนี้ตลอด จนกว่า……จนกว่าคุณจะยอม”

ลู่จิ้นยวนออกแรงยึดพนักพิงของวีลแชร์เอาไว้ เพราะว่าใช้แรงเยอะ เส้นเลือดบนมือก็เลยปูดโปนออกมา มองแล้วดูป่าเถื่อน

“แก!” ไป๋หลินยวี่ไม่คิดว่าลู่จิ้นยวนจะกล้าที่จะรั้งตัวเธอไว้แบบนี้ จึงโกรธและโมโหมากๆ “แกทำอย่างนี้คือการบุกรุกเคหสถานนะ!”

ลู่จิ้นยวนหัวเราะ เขามองการตกแต่งรอบๆ บ้านหลังนี้ คือบ้านหลังที่เขาเลือกให้เวินหนิงเองกับมือ เพียงแต่ เธอไม่รู้

เพียงแต่ เธอโดนคนจับตัวไปจากที่นี่ แต่เขากลับไม่ทำอะไรเลย

“บ้านหลังนี้ ต่อให้ผมอยากจะนอนที่นี่ ก็ไม่มีใครกล้าจะห้ามผม”

ไป๋หลินยวี่เริ่มโมโหขึ้นมา “ท่านประธานลู่ นี่คุณกำลังเอาอำนาจมาบีบบังคับฉันเหรอคะ?”

คำพูดของลู่จิ้นยวน เธอไม่สงสัย ตระกูลลู่นั้นมีความสามารถที่จะทำเรื่องนี้ได้

“ผมเพียงแค่ต้องการคำตอบเดียว”

มือของไป๋หลินยวี่กำที่วางแขนแน่น ออกแรงจนมือกลายเป็นสีขาว “หากเป็นอย่างนี้ ตามแต่สะดวกเถอะค่ะ”

“แต่ว่า ฉันว่าคนที่งานยุ่งแบบคุณ คงจะไม่สามารถมาเสียเวลาอยู่เป็นเพื่อนคนพิการแบบฉันได้ตลอกหรอกมั้งคะ?”

ยังไงเสียลู่จิ้นยวนก็เป็นถึงประธานของบริษัทตระกูลลู่ มีเรื่องให้สะสางทุกวัน ไป๋หลินยวี่คิดว่า เขาคงจะอยู่ที่นี่ไม่นานนัก

ลู่จิ้นยวนขมวดคิ้ว มองใบหน้าด้านข้างของเธอ โทรศัพท์หาอันเฉิน “งานของบริษัท ต่อไปผมจะจัดการจากต่างประเทศ”

ไป๋หลินยวี่ชะงักไป วินาทีนั้นทั้งตัวก็แข็งทื่อไป

ผู้ชายคนนี้ ตกลงแล้วแค่เล่นๆ หรือว่าแค่ปลอมเปลือก?

จุดประสงค์ที่เขาทำแบบนี้ ตกลงคืออะไรกันแน่?

ไป๋หลินยวี่จำเป็นต้องบอกเลยว่า เธอนั้นไม่เข้าใจเลยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ แต่ว่า เธอรู้ เรื่องๆนี้ไม่ได้ง่ายที่จะจัดการเสียแล้ว

“ฉันรู้ อำนาจของตระกูลลู่มีมากมายล้นฟ้า อยากจะทำอะไรก็ทำได้ทั้งนั้น แต่ ในฐานะที่ฉันเป็นแม่ เพื่อความสุขสงบสุดท้ายของลูกสาวของตัวเอง ต่อให้ตาย ก็ไม่มีทางปล่อยให้คนแบบนี้ไปรบกวน!”

พูดจบ เธอก็ไม่ได้ต่อปากต่อคำอีก ไถวีลแชร์ออกไปด้านนนอก

เธอไม่สามารถต่อล้อต่อเถียงกับลู่จิ้นยวนต่อได้ ไม่อย่างนั้น อาจจะมีพิรุธได้

แล้วก็ จำเป็นที่จะต้องเตือนภัยทางฝั่งเหอจื่ออันไว้ด้วย ซ่อนตัวเวินหนิงเอาไว้ให้ดี

ในตอนที่จำเป็น บางทีเธอ ก็ควรจะใช้วิธีที่จำเป็น

บ่วงแค้นแสนรัก

บ่วงแค้นแสนรัก

Status: Ongoing

ของขวัญวันเกิดอายุ18ปีของเวินหนิง คือเธอต้องติดคุก10ปี เพื่อการแก้แค้นเธอจึงตอบตกลงคำขอร้องของปีศาจ เธอต้องแต่งงานกับสามีที่นอนอยู่ในสภาพเหมือนผัก แต่คิดไม่ถึงว่า…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท