บ่วงแค้นแสนรัก – บทที่ 298 มีแผนร้าย

บทที่ 298 มีแผนร้าย

“ทำไม คุณเจ็บแผลหรอ?”

เสียงของผู้ชายเพราะมาก แต่พอลอยเข้าหูเธอ ก็ทำให้ปวดหัวมากกว่าเดิม เธอปัดมือลู่จิ้นยวนออก แล้วเหงื่อก็ไหลไม่หยุด “ฉันไม่เป็นไร……”

ลู่จิ้นยวนถูกเธอปัดมือออก ก็คิดอะไรบางอย่าง

ดูเหมือนว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกผู้หญิงผลักออก

ผ่านไปสักพัก ความปวดก็ลดลงไปบ้างแล้ว โม่โยวสูดหายใจเข้าออก เห็นว่ามือของลู่จิ้นยวนแดงเพราะตัวเองตบโดน ก็รีบขอโทษ “ขอโทษนะคะ เมื่อกี้ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายตัว แต่ตอนนี้ไม่เป็นอะไรแล้ว คือเรื่องเงินตอบแทน ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันไม่มีอะไรที่อยากได้”

อยู่ดีๆโม่โยวก็หวังว่าอยากให้ผู้ชายคนนี้ไปจากที่นี่

สัมผัสที่หกของผู้หญิงบอกเธอว่า ผู้ชายคนนี้อันตรายมาก ไม่ใช่คนที่เธอจะไปยุ่งด้วยได้

ลู่จิ้นยวนมองเห็นสีหน้าของเธอ ทั้งๆที่เป็นใบหน้าที่แตกต่างกันสิ้นเชิง แต่กลับเห็นเงาที่คุ้นเคย “คุณ……แต่ก่อนคุณเคยอยู่ที่เมืองเจียงเฉิงหรือเปล่า? พวกเรา เคยเจอกันหรือเปล่าครับ?”

โม่โยวเหวอไปแต่ ทันใดนั้น เธอก็รีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที ถึงแม้เธอจะมีความรู้สึกคุ้นชินอย่างบอกไม่ถูก แต่ว่าเธอก็จำอะไรไม่ได้เลย

“ผมเสียมารยาทเอง” ลู่จิ้นยวนถอยหลังไปสองก้าว

ตัวเองในวันนี้ รู้สึกผิดปกติมาก เขาเย็นชากับผู้หญิงอยู่แล้ว แต่กลับไม่รู้สึกรังเกียจผู้หญิงคนนี้

ขณะที่ทั้งสองคนต่างคนต่างคิด ลู่อันหรานก็ถือถุงน้ำแข็งวิ่งกลับมา เขายกถุงน้ำแข็งขึ้นเหมือนกำลังจะอวด

“ฉันกลับมาแล้ว ดูสิฉันถืออะไรมาด้วย?”

แต่ว่า พอเห็นว่าลู่จิ้นยวนก็อยู่ด้วย ลู่อันหรานก็สงบปากสงบคำทันที เหมือนหนูที่เจอแมวอย่างนั้น แล้วรีบวางของในมือลงบนโต๊ะ

พอเห็นลู่อันหรานเริ่มเกร็ง โม่โยวก็ส่ายหัวแล้วหัวเราะออกมา

ลู่อันหรานเห็นว่าเธอกำลังหัวเราะ ใบหน้าก็แดงขึ้นมาทันที เสียหน้าชะมัดเลย!

“เธอหัวเราะอะไรไม่ ปวดหน้าแล้วหรอ? รีบประคบน้ำแข็งสิ ไม่งั้นก็จะเป็นผีบ้าที่ขี้เหร่นะ”

ลู่อันหรานพูดไปด้วยก็กลบเกลื่อนท่าทางของตัวเองไปด้วย

“ลู่อันหราน เราพูดแบบนี้ไม่มีมารยาทเลย”

ลู่จิ้นยวนขมวดคิ้ว เขาไม่ชอบท่าทางที่โอ้อวดจองหองของเขาแบบนั้น ลู่อันหรานถูกเอาอกเอาใจมาตั้งแต่เด็ก มีแต่เขาคนเดียวที่เข้มงวดกับเด็กคนนี้

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุนี้หรือเปล่า ตอนนี้ลู่อันหรานไม่เหมือนกับเด็กอายุห้าขวบเลย

“ผม……ผมผิดแล้วครับผม ไม่ได้ตั้งใจ”

“ไม่เป็นไร ฉันรู้ว่าเขาไม่ได้คิดอะไร”

พอเห็นลู่อันหรานขนลุก โม่โยวก็รีบเอ่ยปากอธิบาย

ลู่อันหรานค่อยรู้สึกโล่งอกแล้วมองไปที่โม่โยว “ใช่สิ เธอชื่ออะไรฉันยังไม่รู้เลย”

“โม่โยว ที่แปลว่าไร้ความกังวล”

ตอนที่พูดชื่อนี้ออกมา เธอก็รู้สึกฟั่นเฟือง ตอนนั้นเธอจำอะไรไม่ได้เลย แล้วบนตัวก็ไม่มีบัตรอะไรด้วย แม้แต่ชื่อที่ใช้อยู่ตอนนี้ โม่เทียนยวี๋ก็เป็นคนตั้งให้เธอ

ตอนนั้น เขาบอกว่าชื่อนี้หมายความว่า ต่อไปอย่ามีความกังวลอะไรอีก เป็นชื่อที่แฝงไปด้วยความหวัง

“โม่โยว……อือ งั้นฉันเรียกเธอโยวโยวดีไหม?” ลู่อันหรานรู้คำศัพท์เยอะอยู่แล้ว พอได้ยินคำศัพท์นี้ก็เข้าใจทันที แล้วอีกอย่างก็รู้สึกว่าน่าฟังมาก แต่แค่รู้สึกไม่ค่อยสนิท

ลู่จิ้นยวนมองไปที่เขา

เขาไม่รู้เลยว่าทำไมลูกชายตัวเองถึงสนิทกับคนอื่นได้เร็วขนาดนี้

“แต่เรียกว่าคุณป้าก็ไม่ได้ ก็จะดูแก่เกินไป เรียกว่าพี่สาว งั้นก็เป็นรุ่นเดียวกับคุณพ่อ ยิ่งแปลกไปอีก”

ลู่อันหรานเอ่ยพูดอย่างสมเหตุสมผล

“ได้ ฉันไม่รู้สึกอะไรอยู่แล้ว”

“คุณพ่อดูสิครับ แม้แต่โยวโยวก็ไม่ปฏิเสธ”

พอลู่อันหรานเห็นว่าเธอตอบตกลง ก็ยิ้มไปทางลู่จิ้นยวน

“เรื่องที่ผมพูดเมื่อกี้ คุณโม่โยวค่อยคิดพิจารณาก็ได้ครับ ไม่จำเป็นต้องตอบทันที” ลู่จิ้นยวนไม่สนใจท่าทางที่โอ้อวดของลู่อันหราน แล้วเอานามบัตรออกมา

“นี่เป็นช่องทางติดต่อของผม ถ้าคุณคิดดีแล้วก็โทรมาได้เลยครับ ตอนนี้คุณยังเป็นคนป่วย พวกเราไม่อยู่รบกวนดีกว่าครับ”

ลู่อันหรานมองการกระทำของลู่จิ้นยวน ปกติคุณพ่อจะไม่ค่อยให้นามบัตรกับคนอื่นเลย

ดูเหมือนว่า เขาก็ชอบโยวโยวเหมือนกันสินะ

ลู่อันหรานรู้สึกถึงความอันตรายบางอย่าง

ลู่อันหรานหยิบโทรศัพท์ออกมา “โยวโยวเราเพิ่มเพื่อนกันเถอะ ถ้าเบื่อก็คุยกันได้!”

ทีแรกโม่โยวคิดว่าถ้าแยกจากกันครั้งนี้ก็คงไม่ติดต่อกันอีก แต่ว่าพอเห็นสายตาที่คาดหวังของลู่อันหราน เธอก็ไม่อยากปฏิเสธ

“แต่ว่า……”

“เธอไม่เต็มใจหรอ?”

ลู่อันหรานเป่าแก้มทั้งสองข้าง ใบหน้าที่ขาวเหมือนซาลาเปาดูน่ารักมาก

ยังไม่มีใครเคยปฏิเสธเขาเลย

โม่โยวมองไปทางลู่จิ้นยวน กังวลว่าเขาจะรู้สึกว่าตัวเองมีแผนร้ายอะไร

แล้วอีกอย่าง คุณแม่ของเด็ก ถ้ารู้แล้วเข้าใจผิดจะทำยังไง?

“แล้วแต่เลยครับ ผมไม่ติดอะไร” ลู่จิ้นยวนเดินออกไป ไม่ได้ตกลงแล้วก็ไม่ได้ปฏิเสธด้วย

“เขาไม่ได้ปฏิเสธ เร็ว เรามาเพิ่มเพื่อนกันเถอะ อีกหน่อยยังคุยติดต่อกันได้” ลู่อันหรานเข้าใจความคิดของลู่จิ้นยวนดี นิสัยหัวแข็งของคุณพ่อ ในเมื่อไม่ได้ห้ามก็หมายความว่าตอบตกลงแล้ว

“ได้” โม่โยวหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วยื่นให้ลู่อันหราน

ลู่อันหรานรับโทรศัพท์ที่ใหญ่กว่ามือตัวเองมากด ผ่านไปสักพักก็ทำทุกอย่างเสร็จ “ได้แล้ว เธอดูสิ”

โม่โยวรับกลับมา ก็เห็นว่าในวีแชทของตัวเองมีเพื่อนที่ชื่อว่า ‘ข้าเป็นที่หนึ่งในโลก’ แล้วอีกอย่าง หลังชื่อก็มีลูกหัวใจสองดวงเพิ่มมาด้วย “อันนี้เป็นของเราหรอ?”

ที่หนึ่งในโลก เขากล้าตั้งชื่อนี้มาก

ลู่อันหรานพยักหน้า “ใช่ เธออย่าเผลอแล้วลบฉันแล้วกัน”

“ไม่หรอก” โม่โยวส่ายหน้า แล้วไม่ได้แก้ชื่อบนนั้นด้วย แต่กลับรู้สึกว่าก็ตลกดี

“งั้นฉันกลับไปกับคุณพ่อก่อนนะ ถ้ามีโอกาสจะมาเยี่ยมเธออีก!” ลู่อันหรานพยักหน้าอย่างดีใจ แล้วกระโดดลงจากเตียง จากนั้นก็วิ่งออกไปจากที่นี่

ในห้องก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้ง โม่โยวเลยขยับร่างกายแล้วนอนกลับไปท่าเดิม เมื่อกี้เป็นเพราะลู่อันหรานอารมณ์ก็ดีขึ้นไม่น้อย แต่ก็ค่อยๆหม่นหมองไปอีก

ในหัวก็มีภาพเหตุการณ์ตอนเช้าลอยเข้ามา บรรทัดตัวหนังสือที่เธอลืมไม่ลง แล้วก็คำพูดแต่ละคำของพานจื้อหลาน

อดีตของเธอเป็นยังไงกันแน่ เธอเป็นคนเลวหรือเปล่า เป็นผู้หญิงที่ชั่วร้ายหรือเปล่า ถ้าไม่งั้นทำไมคนในครอบครัวเธอถึงไม่เคยตามหาเธอเลย?

แล้วอีกอย่าง ถ้าโม่เทียนยวี๋รู้ว่าตัวเองเคยมีลูก จะมองเธอยังไง เพราะยังไง ถึงจะดีแค่ไหนก็คงจะรู้สึกติดใจเรื่องนี้เหมือนกันแหละมั้ง

บ่วงแค้นแสนรัก

บ่วงแค้นแสนรัก

Status: Ongoing

ของขวัญวันเกิดอายุ18ปีของเวินหนิง คือเธอต้องติดคุก10ปี เพื่อการแก้แค้นเธอจึงตอบตกลงคำขอร้องของปีศาจ เธอต้องแต่งงานกับสามีที่นอนอยู่ในสภาพเหมือนผัก แต่คิดไม่ถึงว่า…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท