บ่วงแค้นแสนรัก – บทที่ 403 ทะเลาะกัน

บทที่ 403 ทะเลาะกัน

“ตายแน่โม่โยว น่าอายมาก” เย่ซือเยวี่ยเริ่มกระวนกระวายอีกครั้ง

โม่โยวอดขำไม่ได้ แล้วลุกขึ้นปลอบใจเธอ “ช่างเอะ แกจะขายหน้าอะไรล่ะ แกไม่ได้ยินคำพูดเมื่อกี้ของแกหรอ อันเฉินถูกแกทำให้ขายหน้ามากกว่า คนเขาอยู่ดีๆกลับถูกแกพูดไปแบบนั้น ใครจะรับได้”

“พอแล้ว อย่าคิดแล้ว รีสอร์ทที่นี่สนุกมาก ยังมีฟาร์มอีก เราไปตกมาจับกุ้งก็ได้ แล้วยังมีสวนผลไม้อีก”

“ลู่จิ้นยวนบอกว่า เดี๋ยวเราจะไปเก็บวัตถุดิบแล้วมาทำปิ้งย่างกันตอนเย็น”

เย่ซือเยวี่ยไม่แสดงปฏิกิริยาอะไร

โม่โยวเลิกคิ้ว “หรือว่า แกไม่อยากไป? จะเอาแต่อยู่ในห้อง?”

เธอลุกขึ้นนั่งทันที “ใครจะอยู่ให้รากงอกในห้องกันล่ะ ฉันมาเที่ยว ก็ต้องไปอยู่แล้ว ไม่งั้นก็อาจจะดูเหมือนว่าฉันกลัวตาบ้านั่น”

เมื่อโม่โยวเห็นท่าทางเธอเหมือนกำลังจะไปหาเรื่องใคร ก็ส่ายหน้า “แกไปอาบน้ำก่อนเถอะ แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าที่สบายกว่านี้”

พูดไปอีกแบบ นิสัยที่ร่าเริงแบบนี้ก็มีข้อดี ไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไร ใจก็เข้มแข็งแล้วปรับตัวเองได้เร็วมาก

แค่เวลาอาบน้ำแป๊บเดียว เมื่อกี้เย่ซือเยวี่ยที่กระวนกระวาย แต่กลับมีชีวิตชีวา แล้วตั้งตารอคอยปิ้งย่างตอนเย็น โม่โยวไม่แปลกใจเลย รู้จักเธอมาตั้งกี่ปี ตัวเองก็ต้องดูนิสัยของเธออยู่แล้ว

ทั้งสองเดินลงไปข้างล่างด้วยกัน ก็เห็นว่าที่ห้องโถงมีผู้ชายสามคนรออยู่ สองผู้ใหญ่หนึ่งเด็ก

พอลู่อันหรานเห็นโม่โยว ก็วิ่งมาหาอย่างร่าเริง โม่โยวอุ้มลูกชายตัวเองไว้ แล้วสังเกตท่าทางของอันเฉินกับเย่ซือเยวี่ย

เพื่อนตัวเองเป็นคนที่ใจร้อนมาก เหมือนถังระเบิดอย่างนั้น ถูกจุดไฟติดง่ายมาก เธอกลัวว่าทั้งสองคนจะทะเลาะกัน

ลู่จิ้นยวนไม่สนใจ คนที่ทำให้เขาสนใจ มีแค่โม่โยวคนเดียว แล้วลูกชายอยู่ลำดับหลัง

ศัตรูทั้งสองเจอกันก็ตาแดง ถึงแม้เย่ซือเยวี่ยอารมณ์จะดีแล้ว แต่พอเห็นสีหน้าที่เยือกเย็นของอันเฉิน ก็มองบนแล้วเลี่ยงไปข้างๆ

อันเฉินเห็นแบบนี้ สีหน้าตัวเองก็ไม่ดีมากนัก ถึงแม้ผู้ชายไม่ควรยืดยื้อกับผู้หญิง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นฝ่ายเข้าหาก่อน

สวนในรีสอร์ทแห่งนี้ใหญ่มาก ทั้งกลุ่มก็คงอยู่ตัวติดกันไม่ได้ ลู่จิ้นยวนก็ต้องอยู่กับโม่โยวอยู่แล้ว ลูกชายก็ติดโม่โยวมากด้วย เพราะฉะนั้นทั้งครอบครัวก็อยู่ด้วยกัน

เย่ซือเยวี่ยรู้ตัวอยู่แล้ว ก็เลยไม่เข้ายุ่ง เลยเอ่ย “พวกแกไปโซนผลไม้ งั้นเดี๋ยวฉันจะไปสวนผักเอง” พูดจบ ก็เดินไปทิศทางตรงกันข้าม

ลู่จิ้นยวนก็เอ่ยทันที “อันเฉิน คุณหนูเย่ก็ฝากนายไว้ เธอมาครั้งแรก อาจจะไม่คุ้นชินมาก นายไปดูแลเธอด้วย”

เขาพูดจบ ก็จูงมือภรรยากับลูกชายเดินไปทันที มีแค่อันเฉินที่สีหน้าบิดเบี้ยวยืนอยู่กับที่

เย่ซือเยวี่ยไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เดินดูวิวสบายใจไปคนเดียว รู้สึกตื่นเต้นมาก

เป็นเพราะในรีสอร์ทนี้มีดอกไม้ที่สวยงามเยอะแยะ ยังมีพันธุ์ไม้ที่มีมูลค่าด้วย เย่ซือเยวี่ยถือตะกร้าในมือไว้ แต่ยังเดินไม่ถึงโซนพืชผัก ในตะกร้าก็เต็มไปด้วยดอกไม้ที่เธอเด็ดมา

ข้างหลังก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น คุ้นเคยจนทำให้เธอกัดฟันแน่น

“เธอมาเก็บผักไม่ใช่หรอ? ฉันว่าตอนบ่ายเธอไม่ต้องกินผักแล้วล่ะ กินดอกไม้แทนดีกว่า” อันเฉินยืนอยู่ข้างหลังแล้วเอ่ยเสียดสี

เย่ซือเยวี่ยหรี่ตาแล้วหันกลับไปช้าๆ “ฉันจะกินผักหรือกินดอกไม้เกี่ยวอะไรกับนาย? นายตามฉันมาทำไม?”

“ใครอยากจะตามเธอกันแน่?” อันเฉินรู้สึกขำ

เย่ซือเยวี่ยขี้เกียจทะเลาะกับตาบ้านี่ จากนั้นก็ถือตะกร้าเดินไปอีกทิศทางหนึ่ง ทางที่เธอเดินมาเมื่อกี้ เหมือนจะมีป้ายบอกทาง ไปตกปลาที่บ่อน้ำ

เก็บผักง่ายนิดเดียว ไปตกปลานี่สิน่าตื่นเต้นกว่า

เย่ซือเยวี่ยสังเกตุเห็น หน้าคนข้างหลังยังตามเธอมา จึงเอ่ยอย่างหงุดหงิด “นายจะตามมาทำไม เป็นบ้าไง”

สีหน้าอันเฉินตึงเครียด ถ้าไม่ใช่เจ้านายสั่ง เขาก็ไม่อยากจะยุ่งกับผู้หญิงคนนี้ ทำอะไรไม่ได้ ทำได้แค่จ้องเธออย่างนั้น

เย่ซือเยวี่ยสูดหายใจเข้าลึกๆ ช่างเถอะ ตาบ้านี่อยากจะตามก็ตามไปเถอะ ตัวเองมองข้ามเขาก็จบ ยังไงก็อยู่ที่นี่แค่สองวัน อีกหน่อยก็คงไม่เจอกับผู้ชายที่น่าเจ็บใจคนนี้แล้ว

เธอเอาชุดอุปกรณ์ตกปลาไปที่ข้างบ่อน้ำ หาที่ที่คนสามารถยืนตกปลาได้ แล้วว่าเบ็ดลงอย่างระมัดระวัง

เธอเห็นผู้ชายที่นั่งอยู่บนก้อนหินข้างหลัง ก็มองบน จากนั้นก็นั่งลงไป ที่บ่อน้ำมีดอกบัวไม่น้อย รู้สึกเย็นสบายมาก

เย่ซือเยวี่ยหยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วหันหลังให้บ่อน้ำ ตั้งท่าจะถ่ายรูป แต่สุดท้ายก็มีเสียงหัวเราะลอยมา จนทำให้เธอโมโห

“นายหัวเราะอะไร เป็นบ้าไงหะ”

อันเฉินมองไปที่เธอ “ฉันหัวเราะของฉัน เกี่ยวอะไรกับเธอ? ใครกันแน่ที่บ้า?”

ขณะที่เขากำลังพูด ก็มีแมลงตัวใหญ่บินมาหา วนเวียนอยู่หน้าเขา อันเฉินรู้สึกหงุดหงิดแล้วปัดไล่ แต่ว่าทิศทางที่ปัดมือ กลับเป็นทิศทางที่เย่ซือเยวี่ยอยู่ข้างล่าง

เย่ซือเยวี่ยหยิบโทรศัพท์ไว้แบบนั้น ก็เห็นแมลงตัวใหญ่ถูกปัดมาที่หน้าเธอพอดี

“อ๊าย……”

มีผู้หญิงส่วนน้อยที่ไม่กลัวแมลง เย่ซือเยวี่ยยิ่งกลัวแมลงที่มีเปลือกอยู่แล้ว จากนั้นก็รีบกรีดร้อง ถอยหลังไปทันที แต่สุดท้าย……กลับถอยไปใกล้บ่อน้ำ

สุดท้ายตัวก็เซล้มลงไป

อันเฉินอึ้งไป คิดไม่ถึงเลยว่าตัวเองแค่ปัดแมลงแค่นี้ ก็จะเกิดเรื่องแบบนี้ได้

ยังโชคดีที่น้ำในบ่อไม่ลึกมาก ข้างล่างเป็นโคลน แต่เย่ซือเยวี่ยกลับโมโหจนจะเป็นบ้าอีกครั้ง เธอรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้เป็นเคราะห์ร้ายของตัวเอง เขาจงใจทำ

เธอดิ้นรนในบ่อน้ำ ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแต่โคลน แล้วตะโกนอย่างโมโหว่า “ไอ้บ้า ฉันจะฆ่าแก”

อันเฉินทำอะไรไม่ถูก เห็นท่าทางเย่ซือเยวี่ยแบบนี้ ก็รู้สึกอยากหัวเราะ

สุดท้าย พอเห็นเขาหัวเราะ เย่ซือเยวี่ยก็ยิ่งโมโหไปกว่าเดิม แล้วแน่ใจกว่าเดิมว่าเขาตั้งใจเอาแมลงมาแกล้งเธอ

“ไอ้บ้า รอก่อนนะ ไอ้ชั่ว สาระเลว ถ้าฉันไม่ทุบแกให้เละฉันจะไม่ชื่อเย่ซือเยวี่ยอีก”

เสียงของเธอดังชัดเจนมาก จนทั้งครอบครัวที่กำลังเก็บผลไม้ในสวนได้ยิน

“ฉันเหมือนได้ยินเสียงของเย่ซือเยวี่ย” โม่โยวหยุดมือ

ในมือลู่อันหรานเข็นรถเข็นที่มีตะกร้าอันเล็ก ข้างในนั้นมีแต่ผลไม้แล้วพยักหน้า “แม่ครับ ผมก็ได้ยินเหมือนกัน พี่สาวตะโกนเสียงดังมาก”

เสียงดังขนาดนี้ ต้องทะเลาะกับใครแน่นอน

“จิ้นยวน เราไปดูกันเถอะ” โม่โยวรู้สึกกังวล

ลู่จิ้นยวนแอบมองบน สุดท้าย ถ้ามีส่วนเกิน ถึงแม้จะไม่อยู่ด้วยกันก็มาทำลายโลกส่วนตัวของพวกเขาได้ “ก็ได้ ไปดูเถอะ ผลไม้ก็เก็บได้ไม่น้อยแล้ว”

บ่วงแค้นแสนรัก

บ่วงแค้นแสนรัก

Status: Ongoing

ของขวัญวันเกิดอายุ18ปีของเวินหนิง คือเธอต้องติดคุก10ปี เพื่อการแก้แค้นเธอจึงตอบตกลงคำขอร้องของปีศาจ เธอต้องแต่งงานกับสามีที่นอนอยู่ในสภาพเหมือนผัก แต่คิดไม่ถึงว่า…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท