บ่วงแค้นแสนรัก – บทที่ 433 อยากลองมานั่งที่ตำแหน่งของผม

บทที่ 433 อยากลองมานั่งที่ตำแหน่งของผม

บนเพจของบริษัทยังมีการแจ้งถึงการชดใช้ค่าเสียหายให้กับเวินหนิง โดยให้อยู่สองอย่างคือ ให้เวลาลาพักร้อนสองอาทิตย์พร้อมจ่ายเงินเดือนให้ และเงินค่าเสียหายอีกหนึ่งแสนบาท และเธอยังคงเป็นหัวหน้าแผนกการออกแบบบีเหมือนเดิม

และข้างล้างยังมีข้อความที่เป็นสีแดงว่า การโจรกรรมข้อมูลในครั้งนี้จบเพียงเท่านี้ จากนี้ไปทางบริษัทจะไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้อีก ถ้าพบเห็นใครยังคงพูดกันถึงเรื่องนี้อยู่จะไล่ออกทันที

การที่บริษัทได้มีหนังสือขอโทษและได้มีค่าเสียหายให้ แทบจะทำให้คนทั้งบริษัทเชื่อว่าเวินหนิงนั้นถูกใส่ความ

แต่ยังคงมีวี่แววการพูดถึงบ้างเล็กน้อย ไม่สามารถที่จะทำให้หมดไปหรอก แน่นอนว่านี่ก็เป็นเพราะทุกคนก็ไม่ค่อยที่อยากจะเชื่อว่าถ้าหากพูดคุยเรื่องนี้จะทำให้ถูกไล่ออก เพราะกฏไม่สามารถทำอะไรกับคนหมู่มากๆได้

แต่ความคิดนี้หยุดลงเมื่อทันทีเมื่อฝ่ายบริหารได้ไล่หัวหน้าแผนกนึงออก การพูดคุยเรื่องดังกล่าวลับหลังก็เงียบหายไป

ห้องประชุม

คนที่นั่งอยู่ทั้งซ้ายขวานั้นต่างเป็นบรรดาผู้บริหารระดับสูงและผู้ที่ถือหุ้นใหญ่ๆ คนพวกนี้จะมาก็ต่อเมื่อในบริษัทเกิดเรื่องใหญ่เท่านั้น ถึงจะมาครบกันขนาดนี้

กับวันนี้ที่ถูกลู่จิ้นยวนนัดประชุมกระทันหันนั้นพวกเขาต่างก็ไม่รู้เรื่องอะไรเช่นกัน

ลู่จิ้นยวนมองทุกคนด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง“วันนี้ที่เรียกทุกคนมา เพื่อที่เราจะมาประชุมกันเรื่องที่เกิดขึ้นกับแผนกออกแบบเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา เรื่องการโจรกรรมทางการค้า”

พูดจบ คนที่นั่งอยู่นั้นต่างหันหน้ามองกันและกัน ถ้าสังเกตอีกนิดจะเห็นว่ามีน้อยคนนั้นที่สีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย

“ท่านประธานลู่ครับ เรื่องที่เกิดขึ้นกับแผนกเล็กๆอย่างแผนกออกแบบเนี่ย ไม่ต้องถึงขั้นต้องเรียกพวกเรามาหรอกมั้งครับ”คณะกรรมการหลิวยิ้ม พูดด้วยท่าทีสบายๆ

คณะกรรมการจางที่อยู่ตรงข้ามก็รีบพูดประจบทันที“ใช่ครับ เรื่องนี้ก็ผ่านไปแล้วไม่ใช่หรอครับ หัวหน้าแผนกออกแบบนั่นก็ได้รับเงินค่าชดใช้ความเสียหายไปแล้วจำนวนนึงด้วยนิครับ”

ลู่จิ้นยวนมองไปที่ทั้งสอง“คณะกรรมการหลิวครับ เรื่องเล็กที่คุณหมายถึงคือเรื่องอะไรหรอครับ? หมายถึงพนักงานที่ถูกกล่าวหาหรือเพราะคนที่กล่าวหาพนักงานนั้นเป็นคุณเองเลยเป็นเรื่องเล็ก?”

สีหน้าของคณะกรรมการหลิวเปลี่ยนทันที“ท่านประธานลู่ครับ ที่ท่านพูดหมายความว่ายังไงครับ? มันเกี่ยวอะไรกับผม ”

“เหตุการณ์โจรกรรมในครั้งนี้ ทางตำรวจได้รับแจ้งมาว่าบริษัทตระกูลลู่ได้รายงานว่าแบบร่างของแผนกออกแบบบีได้รั่วไหลไปที่บริษัทเอเคกลุ๊ปแล้ว”

แต่หลังจากที่ผมได้ตรวจไป ก่อนหน้าบริษัทเอเคกลุ๊ปเคยได้จัดงานแฟชั่นโชว์ก็จริง แต่แบบของการโชว์ที่ใช้ไม่ใช่แบบร่างของแผนกออกแบบบีที่เป็นของบริษัทเรา”

“พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ มีคนใช้เรื่องนี้ในการกู่เรื่องที่ไม่เป็นจริงขึ้นมา แล้วจับหัวหน้าแผนกออกแบบบีทีเออย่างเวินหนิง”

“คณะกรรมการหลิวครับ คุณทำเรื่องนี้ในตอนที่ผมไม่อยู่บริษัทเนี่ย จะไม่อธิบายอะไรให้ผมหน่อยหรอครับ?”

ตั้งแต่ที่ลู่จิ้นยวนเริ่มพูด ในห้องประชุมนั้นเงียบกริบไปแล้ว

สายของคณะกรรมการหลิววูบไหวเล็กน้อย แผ่นหลังเต็มไปด้วยเหงื่อ ไม่กล้าแม้แต่จะมองตาของลู่จิ้นยวน ในขณะเดียวกันในใจก็โกรธที่ลู่จิ้นยวนไม่ไว้หน้าเขาสักนิด

จากที่เขาดูแล้วก็แค่หัวหน้าแผนกออกแบบเล็กๆคนนึง อีกทั้งยังเป็นแผนกบีอีก ถึงจะเป็นแผนกเอ ด้วยอำนาจและตำแหน่งของเขาแล้วจะล้มหัวหน้าคนนึง ไม่ถึงขั้นที่จะใช้ผู้คนมากมายขนาดนี้?

“ท่านประธานลู่ครับ ผมก็โดนคนอื่นทำให้เข้าใจผิดเหมือนกัน ตอนที่เอเคกำลังจัดแฟชั่นโชว์ คนในบริษัทก็พูดกันแล้วว่าเอเคนั้นขโมยแบบของแผนกออกแบบบีของบริษัทลู่ไป”

“ผมได้ยินดังนั้นก็ตกใจ ไม่ได้ตรวจสอบให้แน่ชัด ก็ได้โทรแจ้งตำรวจให้มาจับเวินหนิงไปเลย ผมก็ทำเพื่อบริษัทนิครับ”

ลู่จิ้นยวนหลี่ตามองเขา พูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า“คณะกรรมการหลิว ผมว่าคุณยังไม่เข้าใจความหมายที่ผมจะสื่อเลยนะครับ เวินหนิงเป็นคนที่ผมพามาที่บริษัทเอง เธอเป็นคนของผม เรื่องนี้ ผมคิดว่าทุกคนที่นั่งอยู่จะเข้าใจดี”

“คณะกรรมการหลิวครับ ผมขอถามคุณหน่อย คุณมายุ่งกับคนของผมในระหว่างที่ผมไม่อยู่เนี่ย เหตุผลของคุณคืออะไร?แล้วอะไรที่ดลใจให้คุณทำแบบนี้? หรือผมจะสามารถคิดว่าตำแหน่งของคุณตอนนี้ต่ำไป คุณอยากที่จะเลื่อนขึ้นอีกนิด มาอยู่ที่ตำแหน่งของผม?”

หลังจากที่คำพูดนี้พูดออกมา ใจของทุกคนนั้นกระตุกวูบ ลมหายใจก็เบาตามอัตโนมัติ

อย่าดูว่าคนพวกนี้ที่นั่งอยู่จะมีอายุมากกว่าลู่จิ้นยวนไม่มาก แต่ต่อหน้าลู่จิ้นยวนแล้วไม่มีใครกล้าที่จะดูถูกเขาเลย

วิธีการของลู่จิ้นยวนเนี่ย ตั้งแต่ที่เขาได้รับช่วงต่อบริษัทลู่นี้ ผ่านมาหลายปีใครจะไม่รู้ละ? ถึงจะเป็นหุ้นส่วนของบริษัทที่นั่งอยู่นั้นก็ถูกสนามอารมณ์ของลู่จิ้นยวนนั้นกดไว้ นั่งยืดตัวโดยไม่รู้ตัว

คำพูดที่เขาพูดเมื่อสักครู่เห็นได้ชัดว่าเป็นการกล่าวโทษ

คณะกรรมการหลิวดวงตาเบิกกว้าง ในใจก็ตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก คิดไม่ถึงเลยว่าลู่จิ้นยวนจะทำให้เขาพูดอะไรไม่ออก แล้วคำพูดของเขาก็ตรงมาก ยิ่งไปกว่านั้นคือเอามาพูดต่อหน้าทุกคนแบบนี้

“ท่าน ท่านประธานลู่ครับ ท่าน ท่านพูดอะไรเนี่ยครับ? เรื่องแบบนี้จะมาพูดมั่วกันแบบนี้ไม่ได้นะครับ ผมอยู่บริษัทตระกูลลู่มาหลายปี จริงใจกับบริษัทนี้มากนะครับ”

คณะกรรมการหลิวอ้าปากแต่ไม่รู้จะพูดอะไร แต่ สิ่งที่รอเขาอยู่ไม่ใช่แค่ตำหนิแค่นั้นแน่นอน

“หลิวเชวียนหมิง ในเมื่อคุณรู้สึกว่าตำแหน่งฝ่ายการตลาดนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ งั้นก็ให้คนอื่นมานั่งแทนก็แล้วกัน”

ทุกคนที่นั่งอยู่ตาโตจนแทบถลนออกมา นี่คือจะถอนออกงั้นหรอ? แต่คณะกรรมการหลิวคนนี้มีทั้งอำนาจ แล้วยังเป็นทั้งหุ้นส่วนด้วยนะ

หลิวเชวียนหมิงลุกขึ้นยืนทันที จ้องไปที่ลู่จิ้นยวน“ท่านประธานลู่ครับ ท่านทำแบบนี้ไม่ได้นะครับ ผม……”

หลิวเชวียนหมิงที่ยังพูดไม่จบ ลู่จิ้นยวนก็หัวเราะออกมาด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น รังสีรอบตัวนั้นเพิ่มขึ้นทันทีโอ้อวดยิ่งนัก“ไม่ได้? ตลก ทั้งบริษัทตระกูลลู่ ไม่มีใครที่จะมีสิทธิ์พูดกับผมว่า’ไม่ได้’สองคำนี้”

พูดจบ เขาก็ยกมือเรียกอันเฉินที่อยู่ข้างหลัง คนที่อยู่ข้างหลังนั้นก็เข้าใจ เดินขึ้นมาหนึ่งก้าว เปิดเอกสารที่อยู่ในมือขึ้นมา มองไปที่หลิวเชวียนหมิงด้วยสีหน้านิ่งเฉย แล้วเริ่มอ่าน

“ปี20xx บริษัทตระกูลลู่ได้ตกลงทำงานร่วมกับบริษัทก่อสร้างxx หลิวเชียนหมิงใช้อำนาจที่มี ในการจัดหาวัตถุดิบก่อสร้างเขาได้รับสินบนมากกว่าหนึ่งครั้ง หาเงินในการซื้อในราคาสูง ขายในราคาต่ำ จำนวนเงินประมาณxxxหมื่นหยวน”

“ปี20xx บริษัทย่อยตระกูลลู่ที่อยู่ต่างประเทศกับบริษัทซอฟต์แวร์ต่างประเทศได้ร่วมกันคิดค้น……”

เสียงของอันเฉินไม่ได้ดัง แต่ทุกคำพูดนั้นได้ตอกเข้าไปในใจของทุกคนที่นั่งอยู่ โดยเฉพาะหลิวเชวียนหมิง บนใบหน้าของเขานั้นมีเหงื่อผุดขึ้นมาเรื่อยๆ สีหน้าก็ดีแย่ขึ้นกว่าเดิม และเริ่มดูซีดขึ้นเล็กน้อย

มือสองข้างที่ทิ้งลงนั้นสั่น ในหัวว่างเปล่า เรื่องพวกนี้แต่ละเรื่อง ผ่านมานานขนาดนี้แล้ว บางเรื่องเขาก็แทบจะจำไม่ได้แล้ว

แต่วินาทีนี้ คำพูดของอันเฉินทำให้เขานั้นกลับมานึกขึ้นได้อีกครั้ง เขาคิดว่าเรื่องที่ทำไปนั้นไม่มีข้อผิดพลาดใดๆ แต่ยังไงก็คิดไม่ถึงว่าลู่จิ้นยวนรู้ทุกอย่าง แม้กระทั่งวันเวลาก็บอกอย่างชัดเจน ไม่ผิดแม้แต่น้อย

ทำให้เขานั้นรู้สึกกลัวขึ้นมา

ไม่ใช่แค่เขา คนที่นั่งอยู่แต่ละคนสีหน้าก็แย่ไม่ต่างกัน จากสีหน้าของหลิวเชวียนหมิงนั้นดูออกไม่ยาก เรื่องพวกนี้ คงจะเป็นรื่องจริงสะแล้ว

บ่วงแค้นแสนรัก

บ่วงแค้นแสนรัก

Status: Ongoing

ของขวัญวันเกิดอายุ18ปีของเวินหนิง คือเธอต้องติดคุก10ปี เพื่อการแก้แค้นเธอจึงตอบตกลงคำขอร้องของปีศาจ เธอต้องแต่งงานกับสามีที่นอนอยู่ในสภาพเหมือนผัก แต่คิดไม่ถึงว่า…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท