ไม่ว่าจะยังไง หลายปีที่ผ่านมา ถ้าไม่ใช่เขาแล้วล่ะก็ แม่จะอยู่รอดด้วยตัวเองคนเดียวได้อย่างไร และจะอยู่รอดจนให้เธอได้พบแม่อีกครั้งได้อย่างไร
“เร็ว รีบพาฉันไปโรงพยาบาลเร็วๆ ฉันอยากเจอแม่”
ดวงตาของเธอแดงและเสียงนั้นสั่นเทาไปหมด
“ โอเค ผมจะพาคุณไปเดียวนี้เลย คุณอย่าพึ่งกังวลใจไปเลย เชื่อผมสิ หลายปีที่ผ่านมาสุขภาพของคุณแม่คุณดีมาตลอด ตอนนี้ก็ต้องไม่เป็นอะไร”
ในโรงพยาบาล.
ทันทีที่ลู่จิ้นยวนและเวินหนิงมาถึง คุณหมอของไป๋หลินยวี่และพยาบาลก็ได้เดินเข้ามาอย่างรีบร้อน
“คุณชายลู่คะ ตอนนี้สถานการณ์ของผู้ป่วยไม่ดีเลยค่ะ เซลล์มะเร็งในร่างกายของผู้ป่วยไม่เพียงแต่แพร่กระจาย แต่ยังสลายตัวไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นอันตรายมาก จำเป็นต้องทำการควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพทันที”
“ ฉันเพิ่งประชุมหารือกับหมอคนอื่น ๆ หลายคน คำแนะนำที่ได้ก็คือผ่าตัดทำการปลูกถ่ายเซลล์ตอนนี้จะได้ผลดีที่สุด”
หมอผู้เชี่ยวชาญพูดอย่างจริงจังและตึงเครียด
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นพวกคุณก็ดำเนินการผ่าตัดโดยเร็วที่สุด เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา”
ลู่จิ่นยวน พูดทันที
หมอผู้เชี่ยวชาญโบกมือทันที ” ไม่ ไม่ ไม่ใช่แบบนั้นค่ะคุณชายลู่ นี้ไม่ใช่ปัญหาเรื่องเงิน คุณต้องรู้ว่าการปลูกถ่ายเซลล์ จะเกิดขึ้นได้ระหว่างญาติพี่น้องเท่านั้นจึงจะได้ผลดีที่สุด”
เมื่อได้ยินคำว่าญาติพี่น้อง ลู่จิ้นยวนก็นึกถึงเวินหนิงที่อยู่ข้างๆเขา ใบหน้าของเขาก็จมลงโดยไม่รู้ตัว ” ระหว่างญาติพี่น้อง คุณหมายถึง … ”
“ ถูกต้องค่ะ คุณชายลู่รีบให้ญาติพี่น้องของผู้ป่วยมาโดยเร็วที่สุด อาจเป็นพ่อแม่ ญาติพี่น้อง หรือลูกก็ได้ คนยิ่งเยอะมากเท่าไหร่ยิ่งดี ทางเราจะได้หาคนที่เหมาะสมเข้ากันได้ดีที่สูงสุด การผ่าตัดอัตราความสำเร็จก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน ”
ลู่จิ้นยวนพูดอย่างเคร่งขรึม ” นอกจากนี้ ยังมีวิธีอื่นอีกไหม”
หมอผู้เชี่ยวชาญพยักหน้า ” มีค่ะ แต่เมื่อคำนึงถึงการซ่อมแซมหลังผ่าตัดและระดับความเสี่ยง ทางเราไม่สนับสนุน การปลูกถ่ายเชลล์ระหว่างญาติพี่น้องเป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในตอนนี้”
“โอเค ผมเข้าใจแล้ว รอสักครู่นะครับ ผมขอคิดก่อน ”
“ได้ค่ะ แต่ขอให้เร็วที่สุดนะคะ”
เวินหนิงไม่คุ้นเคยกับภาษาฝรั่งเศส ช่วงที่หมอกับลู่จิ้นยวนกำลังคุยกัน เธอมีลางสังหรณ์ว่าพวกเขากำลังพูดถึงแม่ของเธอ เธอรีบร้อนใจมาก
“เป็นไงบ้างคะ
เกิดเรื่องอะไรขึ้น
คุณแม่ของฉันมีอาการไม่ดีใช่ไหม ”
เวินหนิงคว้ามือของเขาไว้แล้วถามขึ้นมาทันที
ลู่จิ้นยวนจับไหล่ของเธอ แล้วพูดซ้ำอีกครั้งตามที่หมอผู้เชี่ยวชาญบอกเขาเมื่อกี้
ความเห็นแก่ตัวในใจ เขาไม่ต้องการให้เวินหนิงทำการปลูกถ่ายเซลล์ให้ไป๋หลินยวี่ การปลูกถ่ายเซลล์ที่พูดก็คือ การปลูกถ่ายเซลล์ที่แข็งแรงและใช้งานได้จากญาติพี่น้องที่มีระดับค่าตรงกันสูงและเข้ากันได้ดีที่สุดให้กับผู้ป่วย
เมื่อมีเซลล์ที่ใช้งานได้ในร่างกาย เซลล์มะเร็งในร่างกายของผู้ป่วยจะมีผลในการตรวจสอบและปรับสมดุล ซึ่งสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตและส่งเสริมการทำงานของร่างกายของผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม เซลล์ในร่างกายมีความสำคัญมาก สำหรับคนที่มีสุขภาพแข็งแรง เซลล์ที่ใช้งานอยู่บางส่วนสูญเสียไป บางทีเวินหนิงตอนนี้อายุยังน้อยอยู่ ในช่วงเวลาหนึ่งอาจจะมองเห็นความแตกต่างอะไร
แต่ห้าปีสิบปีให้หลังล่ะ
ในร่างกายที่แข็งแรง หากส่วนหนึ่งของเซลล์การทำงานถูกสกัดออกไป จะมีผลอย่างอื่นตามมาเสมอ เช่น เรื่องภูมิต้านทานและอย่างอื่นจะลดลง นี่คือสิ่งที่ลู่จิ้นยวนไม่สามารถทนเห็นได้
แต่เขารู้ดีว่า ต่อให้เขาไม่เต็มใจแค่ไหนเขาจำเป็นต้องบอกความจริงให้เวินหนิงรับรู้ และมั่นใจว่าเวินหนิงจะเลือกทำการปลูกถ่ายเซลล์อย่างไม่ลังเลแน่นอน
ในเรื่องนี้ เขาไม่มีทางเลือก และไม่มีสิทธิ์ตัดสินแทนเธอ
อย่างที่คิด
ทันทีที่เวินหนิงได้ยินเรืองนี้ก็พูดขึ้น ” ไม่มีปัญหา ฉันสามารถทำได้ คุณรีบบอกหมอว่าฉันเห็นด้วยกับการปลูกถ่ายเซลล์ ฉันเป็นลูกสาวของเธอ เซลล์ของฉันจะต้องจัดคู่เข้ากันได้ดีที่สุด”
ต่อให้ไม่ใช่เธอก็มีเพียงเวินหนิงคนเดียวเท่านั้น เพราะว่า ณ ตอนนี้ไป๋หลินยวี่ไม่มีญาติพี่น้องคนอื่นแล้วที่สามารถปลูกถ่ายเซลล์ได้ มีเพียงลูกสาวเวินหนิงที่ใกล้ชิดที่สุดแล้ว
“คุณช่วยบอกหมอไปว่าฉันเป็นลูกสาวของเธอ แม่ของฉันเคยบอกกับฉันว่า เธอกับพ่อของฉันเป็นเลือดกรุ๊ปโอ ฉันก็เลือดกรุ๊ปโอ การจับคู่นั้นจะต้องสูงมากและสามารถทำการถ่ายเซลล์ได้อย่างแน่นอน ”
ลู่จิ้นยวนรู้สึกหมดหนทางและสับสนอย่างมาก แต่เมื่อเห็นท่าทางที่กังวลใจอย่างมากของเวินหนิง เขาจึงไม่กล้าหลอกลวงเธอและถ่ายทอดคำพูดของเธอให้แพทย์ฟังทุกถอยคำอย่างทำอะไรไม่ได้
แต่ว่า หลังจากที่คุณหมอได้ยินเช่นนั้นแล้ว สีหน้าก็แปลกไปชั่วขณะ เขาเหลือบตามองเวินหนิงหลาย ๆ ครั้งแล้วถามว่า “คุณเวินคะ คุณเลือดกรุ๊ปโอเหรอคะ”
ลู่จิ้นยวนถ่ายทอดคำพูดของแพทย์ให้เธออย่างสงสัย
เวินหนิงไม่ได้สังเกตเห็นความแปลกใจนี้ รีบพยักหน้ารับอย่างแรง ” ใช่ค่ะ ทั้งครอบครัวของเราเป็นเลือดกรุ๊ปโอค่ะ”
คุณหมอนั่นยิ่งดูแปลกมากขึ้น หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่งก็ไม่ได้พูดอะไรแล้วพยักหน้า “โอเคค่ะ คุณมากับฉันก่อน”
ลู่จิ้นยวนจูงมือเวินหนิงเดินตามไป และอดไม่ได้ที่จะถามว่า ” คุณหมอครับ มีอะไรผิดปกติกับสิ่งที่แฟนผมพูดเมื่อกี้เหรอครับ”
คุณหมอส่ายหัว “ ตอนเมื่อกี้คุณเวินบอกว่าทั้งครอบครัวของเธอมีเลือดกรุ๊ปโอ แต่เลือดของผู้ป่วยไป๋มีเลือดเป็นกรุ๊ปบีอย่างชัดเจน”
“คุณชายลู่ ฉันแนะนำว่าควรลองให้พ่อแม่หรือญาติพี่น้องมาทำการตรวจวัดค่าตรงกันดูก่อน อย่างงี้ระดับการจับคู่จะสูงขึ้น”
ลู่จิ้นยวนไม่ได้สนใจคำพูดหลังของคุณหมอ แต่สมองของเขาไปสนใจคำพูดแรกของคุณหมอแทน
ในเวลาแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นเพราะกังวลสุขภาพของไป๋หลินยวี่ หรือเรื่องของเวลา เวินหนิงจะไม่มีทางพูดโกหก ถึงแม้ว่าเธอจะพูดออกมาประโยคหนึ่งว่า ทั้งครอบครัวของเธอมีเลือดเป็นกรุ๊ปโอ
ถ้ายังงั้นจะต้องมีปฏิหาริย์ หรือใครที่เคยบอกเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่สำคัญมีความเป็นไปได้สูงที่คน ๆ นี้จะเป็นไป๋หลินยวี่เอง
แต่ตอนนี้ คุณหมอได้พูดชี้ชัดแล้วว่าไป๋หลินยวี่มีเลือดเป็นกรุ๊ปบี
ลู่จิ้นยวนกำลังคิดและทันใดนั้นความเป็นไปได้ ที่คิดไม่ถึงก็ปรากฏขึ้นในใจของเขา ซึ่งทำให้คิ้วของเขาขมวดแน่น
คุณหมอได้ขอเลือดของเวินหนิงไปหยดหนึ่งเพื่อไปทำการตรวจวัดเลือด และค่าที่ตรงกันก็ออกมาอย่างรวดเร็ว
“ต้องขออภัยด้วยค่ะคุณเวิน การตรวจวัดค่าที่ตรงกันของคุณกับคุณไป๋ต่ำมากค่ะ ไม่สามารถปลูกถ่ายได้ค่ะ”
คุณหมอให้คำตอบนี้ออกมา
เวินหนิงตกตะลึงและมองไปที่ผลใบรายงานในมือ ” ไม่ เป็นไปไม่ได้ค่ะ การปลูกถ่ายนี้ขึ้นอยู่กับกรุ๊ปเลือดไม่ใช่หรือ”
“ คุณแม่กับฉันเป็นเลือดกรุ๊ปโอทั้งคู่ เป็นไปได้ยังไง … ”
คุณหมอเหลือบมองไปที่ลู่จิ้นยวน จากนั้นก็พูดขึ้นมาอย่างสีหน้าเชยชา ” คุณเวินค่ะ สิ่งที่ฉันจำเป็นต้องบอกคุณคือกรุ๊ปเลือดของคุณเป็นเลือดกรุ๊ปโอจริง แต่ผู้ป่วยไม่ใช่เลือดกรุ๊ปโอ แต่เป็นเลือดกรุ๊ปบีค่ะ ”
” ผลรายงานนี้แสดงให้เห็นว่าการจับคู่เซลล์ระหว่างคุณไม่เพียงแต่ไม่สูงเท่านั้น แต่ยังเข้ากันไม่ได้อย่างสิ้นเชิงด้วย”
ลู่จิ้นยวนที่ยืนอยู่ด้านข้างคิ้วขมวดแน่น และเขาอดไม่ได้ที่จะบีบจมูกด้วยความตกใจเล็กน้อยในใจ แต่ก็กังวลเวินหนิงมากกว่า
เขาเหลือบไปมอง เห็นเวินหนิงยืนเหม่อนิ่งอยู่ ราวกับโลกทั้งใบหยุดหมุน เขาจึงรีบเดินเข้าไปพยุงเธอทันที “เวินหนิง ”
เธอรีบดึงสติกลับมาทันที เมื่อกี้คุณหมอบอกว่าคุณแม่ไม่ใช่เลือดกรุ๊ปโอ เดิมทีเธอยังสงสัยอยู่ แต่ก็ต้องอึ้งกับประโยคต่อไป
ไม่เพียงแต่เซลล์มีระดับค่าที่ตรงกันไม่สูง แต่ … ยังไม่สามารุเข้ากันได้อย่างสิ้นเชิง
ความหมายของเข้ากันไม่ได้อย่างสิ้นเชิงเธอรู้ดี ถ้าเป็นญาติหรือแม่ลูกกันจริงๆ ตามความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกกัน ระหว่างเธอกับแม่ของเธอ โดยส่วนใหญ่แล้วมันเป็นเพียงค่าที่ตรงกันไม่สูงหรือไม่ได้มาตรฐานเท่านั้น
