บ่วงแค้นแสนรัก – บทที่ 541 ไม่เป็นมืออาชีพ

บทที่ 541 ไม่เป็นมืออาชีพ

บทที่ 541 ไม่เป็นมืออาชีพ

ลู่จิ้นยวนเหลือบมองเขา “ลูกดูละครเยอะเกินไปเหรอ?”

ลู่อันหรานหรี่ตายิ้ม “ยังไงก็ตาม คุณพ่อก็พูดมาว่ารับปากหรือไม่รับปาก”

ลู่จิ้นยวนครุ่นคิด รู้สึกว่ารับปากเขาเรื่องนึงก็ไม่เป็นไร ในเมื่อลู่อันหรานไม่ได้ใจกล้าขนาดนั้น ไม่กล้าเรียกร้องอะไรที่เกินไป

“ตกลง พ่อรับปากลูก”

ในห้องน้ำ

เวินหนิงเดินมาข้างหน้ากระจก ใช้ทิชชู่ชุบน้ำเช็ดรอยจาง ๆ นั่น

หยงซือเหม่ยเมื่อเดินเข้ามา รอยยิ้มบนใบหน้าก็หายไป แล้วมองเวินหนิงอย่างเย็นชา ไม่ได้เห็นเวินหนิงอยู่ในสายตา

“คุณชื่อเวินหนิงสินะ?”

เวินหนิงตอบรับเฉยชา ไม่ได้หันไปมองเธอ แต่ยุ่งอยู่กับเรื่องของตัวเองต่อ

“คุณกับลู่จิ้นยวน ตกลงว่ามีความสัมพันธ์อะไรกัน?

ตอนนี้พวกคุณไม่ใช่แฟนกันหรอกนะ?”

“ไม่ใช่”

เวินหนิงตอบเธออย่างตรงไปตรงมา

ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา เหมือนกับใช่คำว่าแฟนธรรมดา ๆ แบบนี้เปรียบเทียบไม่ได้

“อ่อ งั้นลู่อันหรานคือลูกของคุณกับลู่จิ้นยวนเหรอ?”

การเคลื่อนไหวของมือของเวินหนิงหยุดลง ไม่ได้ตอบหยงซือเหม่ย แต่กลับเหลือบมองเธอ

เห็นเวินหนิงไม่พูด หยงซือเหม่ยกลับพูดเองเออเองต่อ “ฉันเคยตรวจสอบคุณ ตระกูลเวินเป็นแค่ตระกูลที่เล็กมาก ๆ กระทั่งเกือบจะล้มละลาย คุณกับลู่จิ้นยวนนั้นชาติตระกูลแตกต่างกันเยอะเกินไป ไม่มีทางมีความสุขหรอก”

เห็นหยงซือเหม่ยคำก็ชาติตตระกูลสองคำก็ชาติตระกูล เวินหนิงกัดปากแน่น ราวกับกำลังคิดอะไรอยู่

“ก่อนที่ฉันจะตอบคำถามต่าง ๆ นานาของคุณ ฉันขอถามคุณคำถามนึงก่อนได้ไหม?”

“คุณถามมา”

หยงซือเหม่ยหน้าตาเฉยชา

”ถ้าหาก ฉันพูดว่าถ้าหาก วันหนึ่งคุณพบว่าชาติตระกูลที่คุณภาคภูมิใจไม่อีกต่อไปแล้ว คุณจะทำยังไง?”

เมื่อพูดจบ เวินหนิงรู้สึกถึงเหงื่อเย็นบนฝ่ามือของตัวเอง

”คุณกำลังหาคำปลอบใจตัวเองอยู่เหรอ?

ฉันไม่รู้ว่าทำไมคุณถึงมีความคิดแบบนี้ ตระกูลหยงทำยังไงก็ไม่มีทางล้มละลาย ดังนั้นการสมมุติของคุณไม่มีทางเป็นจริง”

“ถ้าหากคุณอยากจะถามอะไรฉัน งั้นก็ตอบคำถามของฉัน ถ้าหากคุณพ่อคุณแม่เป็นคนอื่น ประมาณว่าอุ้มพวกคุณผิดคน คุณยินดีที่จะรับสมาชิกในครอบครัวก่อนหน้านี้หรือไม่?”

เวินหนิงกลับไม่ยอมเลิกลา

เมื่อเห็นเวินหนิงเป็นแบบนี้ หยงซือเหม่ยสีหน้าไม่เข้าใจ “ทำไมต้องยอมรับพวกเขา?

ตั้งแต่เล็กจนโต เป็นตระกูลหยงที่เลี้ยงฉันจนโตขนาดนี้ อีกอย่างฉันไม่มีเหตุผลที่จะลดคุณภาพชีวิตของตัวเอง ไปยอมรับพ่อแม่ที่ราวกับคนแปลกหน้า”

คำพูดพวกนี้ของหยงซือเหม่ย ทำให้อารมณ์ของเวินหนิงซับซ้อนมาก

或许,这就是所谓的由奢入俭难吧。

หรือว่านี่คือ

คุ้นเคยกับการใช้ชีวิตในตระกูลหยงแล้ว ให้เธอยอมรับครอบครัวที่สถานะปานกลาง อาจจะเป็นเรื่องที่ยากจริง ๆ

“ฉันพูดจบแล้ว คำถามของฉัน คุณตอบมาหน่อย”

“อันหรานคือลูกของฉันกับลู่จิ้นยวนไม่ผิด แต่ว่าตอนนี้พวกเราไม่เกี่ยวข้องอะไรกันแล้ว คุณอยากจะทำอะไร คือทางเลือกของคุณ ไม่เกี่ยวข้องกับฉัน”

เวินหนิงพูดคำเหล่านี้อย่างใจเย็นที่สุด

“จริงเหรอ?”

หยงซือเหม่ยไม่ค่อยอยากจะเชื่อ

“ฉันไม่มีความจำเป็นต้องโกหกคุณ เหมือนอย่างที่คุณพูด ตระกูลลู่มีคนไม่ชอบฉัน ฉันก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเอาอกเอาใจพวกเขา เพียงแค่นี้แหละ”

ได้ยินคำพวกนี้ หยงซือเหม่ยรู้สึกว่าสามารถเชื่อได้ “งั้นต่อไป คุณก็ดูแลลูกของคุณให้ดี การอบรบสั่งสอนของเขา แย่มากจริง ๆ”

หยงซือเหม่ยยังจำที่ลู่อันหรานเรียกเธอว่าคุณน้าได้ แค้นที่ทำเหมือนเธอแก่ขึ้นเป็นสิบป

เวินหนิงขมวดคิ้ว สำหรับหยงซือเหม่ย เป็นเพราะว่าเธออาจจะเป็นลูกสาวของไป๋หลินยี่ เธอให้เกียรติหยงซือเหม่ยมากแล้วจริง ๆ

แต่ว่านิสัยหยิ่งทระนงเอาแต่ใจของเธอ กลับทำให้เธอไม่ชอบมาก ๆ

“ลูกชายของฉัน ฉันสั่งสอนเองได้ ถ้าหากคุณแต่งงานกับลู่จิ้นยวนจริง ๆ ฉันจะพาเขาจากไป ไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นปากมากเรื่องการอบรมสั่งสอนของเขา”

เวินหนิงคืนผ้าคลุมไหล่ให้หยงซือเหม่ย จากนั้นก็ออกไปจากห้องน้ำ

“หึ…”

หยงซือเหม่ยมองดูแผ่นหลังของเธอ แล้วส่งเสียงเบา ๆ ในลำคอ

พูดได้ดี เพียงแต่ท่าทางแบบนี้ของเวินหนิงก็ทำให้เธอสบายใจขึ้นจริง ๆ

เวินหนิงเดินกลับมาที่ที่นั่ง ลู่อันหรานมองดูเธอ ทำปากจู๋ “คุณแม่ ทำไมไปนานขนาดนี้?”

“อื้ม คราบสกปรกบนเสื้อผ้าเอาออกยาก ก็เลยช้าหน่อย เป็นยังไงบ้าง ของที่นี่อร่อยไหมจ้ะ?”

เวินหนิงไม่อยากให้ลู่อันหรานรู้เรื่องของผู้ใหญ่มากเกินไป จึงเปลี่ยนเรื่องคุย

“ไม่เลวครับ ถั่วลันเตาเหลืองอันนี้ก็ไม่เลวครับ คุณแม่ลองชิมดู”

ลู่อันหรานยื่นมือน้อย ๆ ออกไปจะคีบขนมให้เวินหนิงกิน

แต่ว่าเป็นเพราะเขาเติบโตในต่างประเทศ สำหรับการใช้ตะเกียบ ไม่ค่อยชำนาญจริง ๆ ดังนั้นคีบอยู่หลายครั้งก็คีบไม่ติด แต่กลับคีบขนมจนแตกละเอียดหมดแล้ว

หยงซือเหม่ยอดไม่ได้ที่จะรังเกียจ ลู่จิ้นยวนเห็นเขาเปลืองแรงอยู่นาน แทบจะทำขนมในจานเละหมดแล้ว เขาอดไม่ได้ จึงยื่นมือออกไปจับมือน้อย ๆ ของลู่อันหราน ช่วยเขาคีบขนมขึ้นมา

“ให้คุณแม่ครับ”

ลู่อันหรานใบหน้ายิ้มแย้ม ดูไร้เดียงสาแล้วก็น่ารักจริง ๆ

เวินหนิงเห็นท่าทางดีใจของเขา ในใจก็ผ่อนคลายขึ้นเยอะ ขยับตัวเข้าไปรับของที่เขาคีบให้

“ขอบใจจ้ะอันหราน”

ลู่อันหรานมีความสุขดีใจ

หยงซือเหม่ยมองดู ในใจกลับรู้สึกซับซ้อน

ถึงแม้ตอนนี้เธอจะนั่งตรงข้ามลู่จิ้นยวน แต่เขาไม่ได้มองตนเองแม้แต่น้อย พวกเขาสามคนคือครอบครัวที่มีความสุข ส่วนเธอที่อยู่ตรงนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นส่วนเกิน

“คุณเวินคะ ฉันกับคุณชายลู่ยังมีธุรกิจที่ต้องเจรจากัน”

รู้สึกไม่ฟินจริง ๆ หยงซือเหม่ยเอ่ยปากไล่คน

ได้ยินเธอพูดแบบนี้ เวินหนิงก้มหน้า “ตกลงค่ะ ในเมื่อเป็นแบบนี้ พวกเราขอตัวก่อน อันหราน ที่เหลือพวกเราห่อกลับไปกินดีไหมจ้ะ?”

ลู่อันหรานอยากจะพูดว่าไม่ได้ กลับไปแบบนี้ ถือว่าให้โอกาสเธอได้อยู่กันตามลำพังเหรอ…

“ในเมื่อมีความลับเล็กน้อยที่ไม่สามารถให้คนอื่นฟังได้ ฉันคิดว่าคุณเวินหนิงจะต้องเข้าใจเหตุผลนี้แน่ค่ะ”

เวินหนิงลุกขึ้นยืน ท่าทางจริงจังมาก

“อันหราน พวกเรากลับกันเถอะ”

ลู่อันหรานเห็นท่าทางจริงจังของเธอ ก็ไม่ได้ก่อกวนอีก แล้วส่งสายตาไปให้ลู่จิ้นยวน เป็นความหมายว่าให้เขาประพฤติตัวดี ๆ หน่อย อย่าทำเรื่องอะไรที่ไม่ควรทำ

ลู่จิ้นยวนมองดูสองแม่ลูกกลับไป สีหน้าเย็นชาในทันที

“มาถึงที่นี่ก็เป็นเวลานานแล้ว คุณหยงควรจะพูดธุระได้แล้ว”

หยงซือเหม่ยจนปัญญา อันที่จริงเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร เรื่องธุรกิจพวกนั้น เธอไม่เคยสนใจ

“ฉันลืมพาเอกสารมา ฉันค่อยนัดคุณครั้งหน้าเถอะ”

ลู่จิ้นยวนขมวดคิ้วมองเธอ “คุณหยงครับ ถ้าหากคุณไม่เข้าใจเรื่องของบริษัท สามารถเรียกคนอื่นมาเจรจากับผมได้ ไม่ใช่เหมือนตอนนี้ ข้ออ้างแบบนี้ ไม่ใช่มืออาชีพจริง ๆ”

พูดจบลู่จิ้นยวนก็ลุกขึ้น ไม่มีประโยชน์ที่จะอยู่ต่อ

ถูกพูดต่อหน้าแบบนี้ สีหน้าของหยงซือเหม่ยไม่ถือว่าดีนัก แต่มองดูแผ่นหลังตรงตระหง่านของชายหนุ่มที่เดินจากไป ในใจกลับรู้สึกสนใจยิ่งกว่าเดิม

บ่วงแค้นแสนรัก

บ่วงแค้นแสนรัก

Status: Ongoing

ของขวัญวันเกิดอายุ18ปีของเวินหนิง คือเธอต้องติดคุก10ปี เพื่อการแก้แค้นเธอจึงตอบตกลงคำขอร้องของปีศาจ เธอต้องแต่งงานกับสามีที่นอนอยู่ในสภาพเหมือนผัก แต่คิดไม่ถึงว่า…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท