เห่อจื่ออันหักห้ามความดีใจไว้ ทอดมองเวินหนิง “เธอจะทำยังไง?”
ทำยังไงเหรอ……
เวินหนิงก็ไม่รู้เหมือนกัน ตอนนี้พวกเขา จะพูดว่าแยกกัน แต่เพราะลู่อันหราน ก็เอาแต่เกี่ยวข้องกัน
ถ้าหยงซือเหม่ยแต่งเข้าตระกูลลู่ เธอก็ไม่มีทางเอาลู่อันหรานให้เธอแน่นอน
นิสัยของหยงซือเหม่ย บวกกับนิสัยของลู่อันหราน ไม่ถูกกันแน่ๆ
งั้นปัญหาก็มาแล้วล่ะสิ เธอจะพาลู่อันหรานไปจากตระกูลลู่ยังไง
“หนิงหนิง เธอกำลังคิดเรื่องอันหรานหรือเปล่า?”
เห่อจื่ออันมองเวินหนิง เหมือนมองทะลุใจเธออย่างนั้น
พูดตามตรง เขาก็นึกถึงเหมือนกัน ระหว่างพวกเขามีลูกเชื่อมโยงอยู่ นั่นตัดให้ขาดไม่ได้จริงๆ
เพราะในตัวลู่อันรานมีเลือดของทั้งสองคน
“ฉันขอคิดดูก่อนละกัน”
เวินหนิงถอนหายใจ เดินกลับไปที่ห้อง
เธอเลยเห็นขาทั้งสองข้างของลู่อันหรานแกว่งไปแกว่งมา ในมือกำลังเล่นเกมส์อย่างตั้งใจ
เวินหนิงมองเขานานมาก เธออยากให้ลู่อันหรานเป็นแบบนี้ตลอด ไม่มีความกังวล ไม่รู้ว่าบนโลกนี้มันทุกข์แค่ไหน ให้เขาได้เติบโตมาอย่างมีความสุข
แต่ดูเหมือน สุดท้ายก็ต้องเผชิญอยู่ดี
“แม่กลับมาแล้วเหรอครับ?”
ลู่อันหรานได้ยินเสียงเปิดประตู เลยโยนเกมส์ในมือทิ้ง “แม่ไปไหนมาครับ?”
“ไม่ไปไหน แค่ไปเจอใครสักคน”
เวินหนิงยิ้มอย่างเหนื่อยล้า ถึงแม้จะไม่ได้ทำอะไรเลย แต่ตอนนี้เธอกลับเหนื่อยทั้งกายและใจ
“ผมรู้สึกว่า คนที่แม่ไปเจอไม่ใช่คนดี”
ลู่อันหรานเซนซิทีฟอยู่แล้ว พอเห็นสีหน้าเวินหนิง ก็รู้สึกผิดปกติ
“ทำไมถึงคิดแบบนี้ล่ะ?”
เวินหนิงมองลู่อันหราน บางครั้งเด็กน้อยคนนี้ก็ชอบพูดอะไรที่คาดไม่ถึง
“แค่รู้สึกครับ”
ลู่อันหรานก็อธิบายไม่ถูก เขาเดินไปใกล้เวินหนิง ดมกลิ่นบนตัวเธอ การกระทำนี้ทำให้เวินหนิงหลุดหัวเราะ
เด็กคนนี้ คิดว่าเป็นสุนัขตำรวจเหรอ?
แค่ดมกลิ่นก็รู้แล้วว่าใคร?
“อือ กลิ่นน้ำหอมที่รังเกียจ”
ลู่อันหรานขยี้จมูก พึมพำออกมา
จมูกเขาดีอยู่แล้ว ยิ่งกับกลิ่นน้ำหอมพวกนี้ ถ้าเจอคนที่ฉีดน้ำหอมทั้งตัว เขาก็จะรู้สึกเวียนหัว
แค่รู้สึกว่ากลิ่นนี้คุ้นๆ แต่ยังไงเขาก็ไม่ชอบ
“ช่างเถอะครับลูก”
เวินหนิงส่ายหน้า นั่งลงบนเตียง เก็บเตียงที่ลู่อันหรานทำให้ยุ่ง
จากนั้นค่อยพูดลอยๆ “อันหราน ถ้าแม่พาเราไปจากเมืองเจียงเฉิง ไปที่อื่น เราจะคิดยังไง?”
“ไปไหนครับ? ไม่เที่ยวเหรอครับ?”
ลู่อันหรานไม่เข้าใจความหมายเวินหนิง ความคิดแรกคือคิดว่าเวินหนิงอยากไปท่องเที่ยว
งั้นเขายินดีมากเลย ไปเที่ยวหลายๆที่ ไม่ต้องเรียน ไม่ต้องทำการบ้าน ไม่มีอะไรที่ดีกว่านี้แล้ว
“งั้นพาคุณพ่อไปด้วยได้ไหมครับ?”
ลู่อันหรานคิดแค่ไปเที่ยวอย่างไร้เดียงสา ไปท่องเที่ยวด้วยกัน ยังกระชับความสัมพันธ์ของทั้งสองได้ด้วย
เวินหนิงไม่รู้ว่าจะตอบยังไง
เด็กหนอเด็ก แค่นึกถึงอะไร ก็คิดว่าต้องให้พ่อแม่ไปด้วยกัน
แต่ว่า……
“ไม่ พ่อไม่ไป”
“ทำไมไม่ไปครับ?”
ลู่อันหรานไม่เข้าใจ คุณพ่องานยุ่งเกินไปงั้นเหรอ?
เป็นไปไม่ได้ ถึงจะยุ่งแค่ไหน เขาก็ไม่มีทางไม่สนใจครอบครัวแน่นอน
“คุณแม่ คุณแม่เจอเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ?”
ลู่อันหรานเดาอะไรบางอย่างได้
“เปล่า ไม่มีอะไร ก็แค่ถามเฉยๆ”
เวินหนิงรีบปฏิเสธ ไม่คิดเลยว่าลู่อันหรานที่ดูร่าเริงสดใส แต่กลับเซนซิทีฟขนาดนี้
“อ่อ……”
ลู่อันหรานพยักหน้า แต่ในใจก็ยังสงสัย
เวินหนิงได้รับคำตอบที่คิดว่าจะได้รับ ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี ในใจว้าวุ่นมาก
……
พอเห่อจื่ออันส่งเวินหนิงกลับห้อง ก็รีบให้คนไปสืบเบอร์ติดต่อหยงซือเหม่ยทันที
ถึงแม้ไม่รู้สึกดีกับคนคนนี้ แต่ตอนนี้ ยังไงก็เป็นพวกเดียวกัน ใช้ประโยชน์สักหน่อยคงไม่เป็นไร
เขาไม่ใช่คนที่พิถีพิถันอะไรอยู่แล้ว แค่บรรลุเป้าหมายก็จบ
ทีแรกหยงวือเหม่ยไม่อยากสนใจเห่อจื่ออัน เพราะเธอก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร
แต่เห่อจื่ออันส่งข้อความหาเธอ “ถ้าคุณอยากรู้วิธีที่จะทำให้ลู่จิ้นยวนยอมรับในตัวคุณให้เร็วที่สุด งั้นก็ติดต่อผม”
คิดไปคิดมาก หยงซือเหม่ยก็ต่อต้านแรงดึงดูดนี้ไม่ได้
เมื่อกี้เธอโทรไปหาลู่จิ้นยวนอีกครั้ง แต่เขาก็ไม่รับ
ผู้ชายคนนี้ เย็นชามากกว่าทุกคนที่เคยเจอ เหมือนภูเขาน้ำแข็ง แต่ก็ดึงดูดเธอมากกว่าคนอื่นๆที่เคยเจอเหมือนกัน
เพราะการสยบคนแบบนี้ถึงจะสนุก ได้มาแล้วก็จะรู้สึกภูมิใจมาก
“ได้ คุณนัดมาเลย”
เห่อจื่ออันเห็นข้อความนี้ ก็นัดสถานที่ จากนั้นก็ขับรถไป
เขาไปเร็วกว่า ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง หยงซือเหม่ยค่อยมา
เห่อจื่ออันมองไปที่เธอ เหมือนเธอพาบอดี้การ์ดมาด้วย
กลัวว่าตัวเองจะเป็นคนชั่ว จะทำอะไรเธอ?
แต่ถึงแม้แบบนั้น เธอก็ยังมา ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนี้อยากได้ลู่จิ้นยวนมากสินะ
แบบนี้ยิ่งดี
หยงซือเหม่ยเดินเข้ามาในร้านอาหาร หาที่นั่งของเห่อจื่ออันเจออย่างรวดเร็ว
มองไปที่เขา หยงซือเหม่ยรู้สึกเซอร์ไพรส์
เขาแต่งตัวชิวๆ ปลดกระดุมคอเสื้อออก เผยให้เห็นแผ่นอกที่แข็งแรง ในมือถือช้อนกำลังคนกาแฟอยู่ ดูชิวมาก แต่กลับให้ความรู้สึกอันตรายแฝงมาด้วย
ดูดีไม่แพ้ลู่จิ้นยวนเลย อีกอย่าง สไตล์ทั้งสองคนต่างกันสิ้นเชิง คนนึงสว่าง อีกคนก็มืด แต่ก็น่าดึงดูดมาก
“คุณคะ คุณเป็นคนนัดฉัน?”
หยงซือเหม่ยนั่งลงตรงข้ามเห่อจื่ออัน น้ำเสียงเป็นผู้ดีมาก
“ใช่ครับ ผมเอง ผมชื่อเห่อจื่ออัน”
เห่อจื่ออันมองหยงซือเหม่ย จากนั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
เขาคิดว่าจะดูออกผู้หญิงคนนี้เหมือนไป๋หลินยวี่ตรงไหน แต่พอเห็นแบบนี้กลับดูไม่เหมือนเลย
แค่คิดไปเองหรือเปล่า
เห่อจื่ออันดึงสติกลับมา “ในเมื่อคุณหนูหยงมาด้วยตัวเอง ผมก็จะไม่อ้อมค้อมกับคุณ ผมชอบเวินหนิง ผมมีเป้าหมายเดียวกับคุณ อยากให้พวกเขาแยกกัน ตัดขาดกัน วันนี้ก็เลยนัดคุณมา”
พอได้ยินแบบนี้ สีหน้าหยงซือเหม่ยก็ตึง อะไรกันเนี่ย ผู้ชายคนนี้นัดเธอมาเพราะเวินหนิง?
ผู้หญิงคนนั้น ดูธรรมดามากๆ ฐานะก็งั้นๆ ทำไมถึงมีผู้ชายที่เพอร์เฟคสองคนหลงชอบเธอ
“หื้อ? แล้วทำไมคุณถึงคิดว่าฉันจะเห็นด้วยกับคุณ?”
ในใจหยงซือเหม่ยอิจฉา น้ำเสียงก็เริ่มกระแทกกระทั้น