เวินหนิงเหลือบมองลู่อันหรานอย่างไร้คำพูด ในตอนแรกเธอก็ดีและอ่อนโยนกับเขามาก เพราะกลัวว่ามันจะทำร้ายจิตใจของเขา
แต่หลังจากอยู่ด้วยกันเป็นเวลานาน คุ้นเคยกับนิสัยที่เอาแต่ใจและความหลงตัวเองของลู่อันหรานเข้าไป เวินหนิงก็อดระเบิดออกมาไม่ได้ ถ้ามิฉะนั้น กลัวว่าจะไม่สามารถควบคุมปีศาจน้อยตัวนี้ได้
” ฮึ่ม หัวใจเล็กๆของผมนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัส สงสัยต้องออกไปกินของอร่อยๆที่ผมชอบสักสองถ้วยถึงจะดีขึ้น ”
เมื่อลู่อันหรานเห็นว่าเวินหนิงไม่สนใจเขา ไม่เล่นด้วย ก็เลยเงยหน้าขึ้นมองฟ้า
เมื่อเวินหนิงได้ยินก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ แต่หลังจากคิดไปคิดมา ช่วงนี้ลู่อันหรานไม่ได้ออกไปข้างนอกนานแล้ว เลยไม่ได้ทานอะไรอร่อยๆนานแล้วเหมือนกัน และที่สำคัญไป๋ซินหรานพึ่งจะมา เธอมีหน้าที่ต้องพาพวกเขาออกมาทานอะไรซะหน่อย
” โอเค แม่ตกลง อันหราน ลูกเล่นคนเดียวไปก่อน แม่ไปอาบน้ำให้ไป๋ซินหรานก่อน ลูกเป็นเด็กผู้ชาย อาบด้วยกันไม่ได้ ”
หลังจากที่เวินหนิงพูดจบ เธอจึงจับมือไป๋ซินหรานที่เฝ้าดูอยู่เงียบ ๆ แล้วเดินออกไป
ไป๋ซินหรานจับมือของเวินหนิง รู้สึกอบอุ่นและนุ่มนวลมาก ท่าทางสีหน้าของเธอผ่อนคลายลงมาก
เวินหนิงพาเด็กผู้หญิงเข้าไปที่ห้องน้ำ ไป๋ซินหรานลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วค่อยๆถอดเสื้อผ้าออก
เมื่อเวินหนิงเห็นร่างกายเล็กๆของเธอ สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันทีและตกใจไม่น้อย
ทั้งๆที่เป็นเพียงแค่เด็กสี่ขวด แต่เธอดูผอมมากและกระดูกซี่โครงก็โผล่ออกมาอย่างเห็นได้ชัด และบนร่างกายของเธอมีรอยแผลรอยช้ำเต็มไปมากมาย แค่เห็นก็รู้ว่าเธอถูกตีไม่น้อย
เด็กตัวเล็ก ๆ อย่างนี้ จะไปทำเรื่องร้ายแรงอะไรถึงได้ทำให้คนพวกนั้นเฆี่ยนตีเธอได้หนักขนาดนี้ …
เวินหนิงยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกโกธรมากเท่านั้น ไป๋ซินหรานเห็นสีหน้าของเธอยังคิดว่าเธอโกรธเพราะตัวเอง แล้วรีบพูดอย่างระวังตัวว่า ” ขอ … ขอโทษค่ะคุณน้า เป็นเพราะหนูน่าเกลียดจนเกินไปใช่ไหมคะ ”
หลังจากพูดเสร็จ ไป๋ซินหรานจึงรีบเอาเสื้อผ้าที่ถอดแล้วมาใส่เพื่อปกปิดรอยแผลเป็นบนร่างกาย
” ไม่ใช่นะ ไม่ใช่อย่างนั้น.”
เมื่อเวินหนิงเห็นเช่นนี้จึงรีบหยุดและห้ามเธอ ” น้าแค่รู้สึกว่า คนพวกนั้นเลวร้ายเกินไป ไป๋ซินหรานเป็นเด็กดี ทำไมพวกเขาถึงได้โหดร้ายกับหนูได้ขนาดนี้ ”
เวินหนิงค่อยๆลูบผมของเด็กผู้หญิงอย่างเบา ๆ เธอเคยอ่านเจอที่หนังสือว่าการเคลื่อนไหวอย่างอ่อนโยนเช่นนี้ที่หัว จะสามารถทำให้เด็กผ่อนคลายและลดอาการกลัวได้
หลังจากนั้นไม่นาน ไป๋ซินหรานก็ค่อยสงบลง ถึงตระหนักได้ว่าเวินหนิงไม่ได้รังเกียจเธอจริงๆ เธอถึงได้โล่งใจ
“ มาอาบน้ำกันเถอะ น้าเปิดน้ำให้ เดียวจะเป็นหวัดไม่สบายเอา ”
เวินหนิงเห็นว่าเธอไม่ได้กลัวหรือระวังตัวแล้ว จึงรีบพาเธอไปอาบน้ำ
จากนั้นใช้การเคลื่อนไหวที่นุ่มนวลที่สุดในการเช็ดตัวให้เธอ
ไป๋ซินหรานสัมผัสได้ว่าเวินหนิงดีกับเธอด้วยความจริงใจ แล้วค่อย ๆ ผ่อนคลายลง ” คุณน้าค่ะ คุณน้าดีกับหนูมากจริงๆ ถ้าแม่ของหนูดีกับหนูแบบนี้ก็คงดี”
เมื่อพูดถึงแม่ของเธอ เวินหนิงก็นึกถึงเรื่องสำคัญ ” ใช่แล้ว อันหรานบอกว่าหนูต้องการตามหาแม่ผู้ให้กำเนิดของหนูใช่ไหมคะ”
ไป๋ซินหรานพยักหน้า “ แม่ของหนูจากบ้านไปก่อนที่หนูจะจำความได้ ตอนนี้หนูก็ไม่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหน แต่หนูก็ยังอยากเจอเธอ … ”
” อืม น้าเข้าใจแล้ว ”
เวินหนิงพยักหน้า เพราะเธอเองก็มีแม่ที่รักเธออย่างสุดหัวใจคนหนึ่ง ดังนั้นเธอจึงเข้าใจความรู้สึกของไป๋ซินหรานเป็นอย่างดี
ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับมุมมองเธอ ดูเหมือนว่าผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อของเธอ ก็ไม่ได้ทำหน้าที่ในการเลี้ยงดูเธอเลยแม้แต่น้อย และยังทำร้ายร่างกายเด็กด้วย เธอไม่สามารถส่งไป๋ซินหรานกลับไปที่หลุมไฟนรกนั้นเป็นอันขาด ไม่ว่าจะเหตุผลอะไรก็ตาม
“ คุณน้าจะรีบหาคนช่วยหนูตามหาแม่ของหนูให้เร็วที่สุด รวมถึงญาติคนอื่น ๆ ด้วย
หรือว่าหนูอยากอยู่ที่นี่กับอันหราน ”
ไป๋ซินหรานส่ายหัว ” หนูไม่รู้ว่ายังมีญาติคนอื่นหรือเปล่า แต่ย่ากับลุงก็ไม่ชอบหนู … ”
“ ถ้าอย่างนั้นหนูก็อยู่ที่นี่รอจนกว่าจะพบแม่ของหนูก่อนค่อยไป”
ทันทีที่เวินหนิงได้ยินถึงสถานการณ์แบบนี้ จึงตัดสินใจแบบนี้ทันที
ไป๋ซินหรานพยักหน้า หลังจากที่เวินหนิงถามเรื่องที่เธออยากรู้มากที่สุดจบ ถึงได้อาบน้ำและเริ่มขัดตัวให้ไป๋ซินหรานอย่างจริงจัง คิดไปคิดมา ก็เลยเข้าไปหยิบกล่องยามาทาบาดแผลบนร่างกายให้เธอ
หลังจากที่ทุกอย่างสะอาดเรียบร้อยแล้ว เวินหนิงถึงถอนหายใจออกมา แม้ว่าไป๋ซินหรานจะเป็นเด็กที่ค่อนข้างเชื่อฟัง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเอาเด็กคนหนึ่งอาบน้ำและทายาให้
เวินหนิงหยิบเสื้อผ้ามาสวมใส่ให้ไป๋ซินหราน ในขณะที่สวมเสื้อผ้าให้เธอเสียงของเด็กผู้หญิงก็ดังขึ้นเบา ๆ ” ขอบคุณมากค่ะ ”
หัวใจของเวินหนิงแทบจะละลาย กำลังจะส่งไป๋ซินหรานออกไป ไป๋ซินหรานก็จับมือเธอไว้แน่น ” คุณน้าค่ะ หนูขอรบกวนคุณน้าเรื่องหนึ่งหน่อยได้ไหมคะ ”
เวินหนิงประหลาดใจเล็กน้อย รีบนั่งยองๆทันที “ หนูพูดมาได้เลย ถ้าน้าสามารถทำได้ น้ายินดีที่จะช่วยเหลืออย่างแน่นอน”
ไป๋ซินหรานลังเลอยู่ครู่ใหญ่ๆ ด้วยใบหน้าบึงและเศร้า เพราะเธอนึกถึงสิ่งที่ลู่อันหรานคุยกับเธอเมื่อกี้ที่ห้องนอน
แล้วนึกถึงตัวเองในตอนนี้ เป็นเพราะว่าพ่อแม่เลิกทางกัน ทำให้เธอทุกข์ทรมาณและลำบากไปด้วย เธอไม่อยากให้ลู่อันหรานต้องมาเจอเรื่องแบบนี้
“ คุณน้าค่ะ คุณน้ากับคุณพ่อของอันหรานอยากแยกทางกันเลยนะคะ
ถ้าแยกทางกันแล้ว อันหรานก็จะเป็นเหมือนหนู หนูไม่อยากให้เขาเป็นเหมือนหนู ”
เวินหนิงตกตะลึงมากเมื่อได้ยินสิ่งนี้
เธอไม่คาดคิดเลยว่าเด็กคนนี้จะคุยเรื่องแบบนี้กับตัวเอง
“ อันหรานบอกอะไรกับหนูบ้าง ”
ไป๋ซินหรานพยักหน้า “ ทุกครั้งที่เขานึกถึงเรื่องที่พวกคุณจะแยกทางการ เขาเครียดและไม่สบายใจมาก แค่ว่าเขาไม่ต้องการแสดงมันออกมา ไม่อยากให้พวกคุณเป็นห่วงค่ะ ”
เวินหนิงรู้สึกผิดอย่างมากและเจ็บจี๊บที่หัวใจเมื่อได้ยินเช่นนี้ ” ได้จ๊ะ น้ารู้แล้ว เดียวน้าจะคุยเรื่องนี้กับเขาดีๆอีกทีนะคะ ”
ไป๋ซินหรานพยักหน้า เวินหนิงส่งเธอไปที่ห้อง แล้วไปเคาะประตูของลู่อันหราน
” เข้ามาเถอะครับ.”
ลู่อันหรานยังคิดว่าเป็นไป๋ซินหรานมาเล่นกับเขา ด้วยน้ำเสียงที่ดูสบาย ๆ
ปรากฎว่าคนที่เข้ามาคือเวินหนิง เขารีบเก็บเครื่องเล่นเกมที่อยู่ในมือ
“ คุณแม่อาบน้ำให้เธอเสร็จแล้วเหรอครับ ”
เวินหนิงไม่ได้ตำหนิการกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเขา แล้วเข้าไปนั่งอยู่ข้างๆเตียงสายตามองไปที่ดวงตาของลู่อันหราน ” อันหราน ซินหรานเพิ่งบอกกับแม่ว่าหนูไม่ต้องการให้แม่แยกทางกับคุณพ่อของหนูใช่ไหม ”
“ เธอ บอกกับคุณแม่แล้วเหรอครับ ”
ลู่อันหรานไม่ได้ปฏิเสธ ในฐานะที่เขาเป็นลูกของทั้งสองคน เขาหวังว่าพวกเขาจะอยู่ด้วยกันตลอดไป ครอบครัวพ่อแม่ลูกอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข มันไม่สมควรตรงไหน
” อืม ต้องขอโทษทีนะอันหราน ช่วงนี้แม่ลืมคำนึงถึงความรู้สึกของหนูไปเลย ”
เวินหนิงรีบทำการขอโทษทันที แล้วพูดต่อว่า ” แต่ว่า คุณแม่กับคุณพ่อ ไม่น่าจะเป็นอย่างที่หนูหวัง
ก่อนที่ตำแหน่งหรือฐานะของแม่ไม่เท่าเทียมกับเขา ความรักและความรู้สึกของพวกเราไม่มีวันเท่าเทียบกัน ”
คำพูดเหล่านี้ทำเอาลู่อันหรานถึงกับตื่นตา
เวินหนิงคิดอยู่สักพัก “ ก็เหมือนกับวันนี้ เวลาหนูแนะนำตัวกับคนอื่นหนูจะบอกว่าหนูเป็นลูกชายของลู่จิ้นยวน ถ้าหนูบอกว่าหนูเป็นลูกชายของเวินหนิงก็จะไม่มีใครสนใจหนู ดังนั้น วันนี้แม่คิดมาทั้งวัน แม่ต้องการรอจนถึงวันหนึ่งที่หนูจะพูดออกมาโดยไม่รู้ตัวว่าหนูเป็นลูกของแม่ ถึงเวลานั้นค่อยมาพูดถึงความรู้สึก ”
ลู่อันหรานเริ่มเข้าใจบ้างเล็กน้อย “ แต่ ที่ผมเห็นคนอื่นเขา ไม่ใช่ว่าหวังให้สามีของตัวเองเหนือกว่าตัวเองไม่ใช่เหรอครับ ”
“ แต่ถ้าตัวเองไม่มีความสามารถ ถึงเวลานั้น สามีที่เก่งและเหนือกว่าเขาจะค่อยๆไม่ชอบเธอ ”