ทีแรกลู่อันหรานคิดว่าไป๋ซินหรานกินของที่เขาซื้อมาเลยอาหารเป็นพิษ แต่พอฟังเมื่อกี้ ไม่ใช่แบบที่คิด แต่ในร่างกายมีส่วนผสมของยาที่จะให้ลู่จิ้นยวน ตอนนี้เลยเป็นแบบนี้
“แม่ครับ ผมแน่ใจว่าเธอไม่ได้แตะต้องของในห้องนี้”
ความจริงเวินหนิงก็รู้สึกสงสัย เพราะไป๋ซินหรานเป็นเด็กดีแล้วฉลาดด้วย เธอไม่น่าจะไปดื่มของในห้องมั่วๆ
“งั้นก็แสดงว่า……”
มีการคาดการณ์ที่อาจจะเป็นไปได้ “หรือว่ามีคนแอบใส่ลงไปในของที่พวกหนูกิน?”
ลู่อันหรานก็คิดเหมือนกัน เขาจำได้ทันที ท่าทางลับๆล่อของหยงซือเหม่ยตอนนั้น
แต่ว่าตอนนั้นเขาไม่ได้คิดอะไรมาก
“อาจจะเป็นหยงซือเหม่ย”
ลู่อันหรานเอ่ยเสียงเบา “ผมกับซินหรานออกไปข้างนอกครู่เดียว ตอนที่กลับมา ผมเห็นเธอยืนอยู่หน้าของกิน สีหน้าก็แปลกๆ แต่ว่าตอนนั้นผมไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้!”
พอเวินหนิงได้ยินก็กำมือแน่น พร้อมนั่งลงไป “อันหราน เราแน่ใจใช่ไหม?”
ถ้าหยงซือเหม่ยทำเรื่องนี้จริงๆ เวินหนิงรู้สึกว่า เธอไม่มีทางปล่อยไปง่ายๆแบบนี้แน่นอน
เธออาจจะอยากลงมือกับเด็กทั้งสองคน แต่มีอะไรผิดพลาด ลู่อันหรานไม่เป็นอะไร แต่ไป๋ซินหรานซวยแทน
ถ้านี่เป็นเรื่องจริง งั้นก็แสดงว่าจิตใจผู้หญิงคนนี้อำมหิตมาก แม้แต่เด็กห้าขวบก็ไม่เว้น
เวินหนิงเป็นคนนิสัยดีอยู่แล้ว ถ้าเรื่องไม่ใหญ่ เธอก็จะไม่ตื้อ แต่ลูกเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในชีวิตเธอ ใครกล้าลงมือกับลูกเธอ เธอไม่มีทางปล่อยไว้แน่
เวินหนิงคิดไปมา “เราต้องรีบย้ายโรงพยาบาล ให้ซินหรานอยู่ที่นี่ต่อไม่ได้ อาจจะมีคนมาลงมือได้ทุกเมื่อ”
ลู่อันหรานพยักหน้า “ผมรู้แล้วครับคุณแม่”
พูดจบ เวินหนิงก็ไปหาคุณหมอทันที ไปจัดการเรื่องย้ายโรงพยาบาล
ตอนนี้ไป๋ซินหรานพ้นขีดอันตรายแล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องก็เลยไม่ยุ่งยาก
เวินหนิงกันไว้ เลยส่งตัวไป๋ซินหรานไปที่โรงพยาบาลที่เธอชอบไป
พอทำเรื่องเสร็จ เวินหนิงก็อดมองไปที่ห้องชั้นบนไม่ได้
ไม่รู้ว่า ลู่จิ้นยวนฟื้นหรือยัง
“แม่ครับ เราขึ้นไปดูคุณพ่อกันเถอะครับ”
พอจัดการเรื่องไป๋ซินหรานเสร็จ ลู่อันหรานค่อยนึกขึ้นได้ว่าเขามาที่นี่ทำไม
คิดไปคิดมา เลยรู้สึกผิด พูดไว้ว่าจะรอคุณพ่อฟื้น แต่กลับเกิดเรื่องแบบนี้
ทีแรกเวินหนิงอยากรักษาระยะห่าง แต่เห็นลู่อันหรานรู้สึกผิดแบบนี้ เลยไม่อยากพูดอะไร “ได้ เราไปดูกัน พ่อเราต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน”
ลู่อันหรานพยักหน้า เวินหนิงจูงมือเขาขึ้นลิฟต์ ทั้งสองคนขึ้นไปชั้นวีไอพีที่ลู่จิ้นยวนอยู่
พอเข้าไป ก็เห็นหยงซือเหม่ยนั่งอยู่ข้างเตียง กำลังเหม่อมองลู่จิ้นยวนอยู่
เห็นภาพเหตุการณ์แบบนี้ เวินหนิงรู้สึกเจ็บใจอย่างบอกไม่ถูก
จากนั้น ก็นึกถึงสิ่งที่คุณหมอพูดกับลู่อันหรานเมื่อกี้ กับผู้หญิงคนนี้ เธอเลยเริ่มระแวง
ลู่อันหรานเห็นหยงซือเหม่ยทำตัวเฉย เลยมองเธออย่างโกรธเคือง พอเอาทุกอย่างมาเชื่อมโยงกัน เขาก็แน่ใจแล้วว่า หยงซือเหม่ยต้องทำอะไรกับของกินของเขาแน่นอน
หยงซือเหม่ยเหลือบมองลู่อันหราน ในใจก็เริ่มร้อนตัว มองไปอีกที เด็กผู้หญิงคนนั้นไม่อยู่ด้วย
หรือว่าเธอกินชานมแก้วที่มีของนั้นเข้าไป?
ไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอกมั้ง เธอแพ้ยาอะไรพวกนี้อยู่แล้ว ตอนนี้ใกล้ตายแล้วมั้ง?
พอคิดแบบนี้ สีหน้าหยงซือเหม่ยก็เริ่มซีด จนลืมถามเวินหนิงเลยว่ามาอีกทำไม แต่กลับหาข้ออ้างว่าตัวเองปวดท้อง แล้วรีบไปจากที่นี่
เวินหนิงเห็นทีท่าที่เร่งรีบของเธอ สิ่งที่คาดเดาไว้ก็ชัดเจนกว่าเดิม
ผู้หญิงคนนี้ต้องร้อนตัวแน่ๆ ไม่อย่างงั้น นิสัยที่งี่เง่าของเธอแบบนั้น เห็นตัวเองมาที่นี่คงกัดไม่ปล่อยแน่
“แม่ครับ เธอต้องมีอะไรแน่ๆ”
ลู่อันหรานพูดอย่างมั่นใจ
“อื้อ เรารอโอกาสก่อน ต้องหาหลักฐานให้เจอ”
เวินหนิงตอบอย่างเรียบนิ่ง “รีบไปดูพ่อเราเถอะ เขาจะน่าฟื้นแล้ว”
ลู่อันหรานพยักหน้า แล้วเดินไป
เวินหนิงก็เดินตามไปด้วย เธอเลยเห็นว่าผ้าห่มของลู่จิ้นยวนไหลลงมา เธอรีบเดินไปดึงผ้าห่มให้เขาทันที
จากนั้นก็ตรวจเช็คสายน้ำเกลือต่างๆ เวินหนิงค่อยวางใจ กำลังจะออกไป ทันใดนั้น ขนตาของผู้ชายคนนั้นก็กระตุก แล้วค่อยๆลืมตาขึ้น
“แค่กแค่ก”
ลู่จิ้นยวนไอเสียงเบา เพราะฤทธิ์ยาชา ตอนนี้เขายังมึนๆอยู่ แต่ความรู้สึกบอกเขาว่า คนที่กำลังดูแลเขาอยู่คือเวินหนิง
“หนิงหนิง ใช่เธอหรือเปล่า?”
ลู่จิ้นยวนเอ่ยอย่างลำบาก ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าตัวเองกำลังฝัน หรือว่าเวินหนิงมาจริงๆ
ถ้าฝัน เขาก็อยากฝันแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ
เวินหนิงไม่รู้ว่าควรตอบยังไง เธออยากจะรีบหนี แต่ตอนที่กำลังจะไป ก็ได้ยินลู่จิ้นยวนไออีก
“ฉันอยากกินน้ำ”
เสียงของเขาแหบมาก คิดๆดูแล้ว เขาน่าจะไม่ได้ดื่มน้ำมาสิบกว่าชั่วโมงแล้ว ริมฝีปากจึงแห้งจนแตก
เวินหนิงลังเลครู่หนึ่ง สุดท้ายก็หยุดฝีเท้า แล้วไปเปิดขวดน้ำ
เธอเห็นลู่จิ้นยวนนอนอยู่บนเตียงแล้วต้องการคนดูแล เธอทำไม่ได้จริงๆที่จะหันหลังเดินไป
แต่ว่าลู่จิ้นยวนเพิ่งผ่าตัดเสร็จไม่นาน ตอนนี้เลยยังดื่มน้ำไม่ได้ ทำได้แค่ใช้สำลีทำให้ริมฝีปากเขาชุ่มชื่น
“ตอนนี้นายยังกินน้ำไม่ได้ เดี๋ยวฉันเอาน้ำชุ่มริมฝีปากให้ก่อน ต้องอดทนอีกไม่กี่ชั่วโมง ต้องรอคุณหมออนุญาตก่อน”
เวินหนิงใช้สำลีเช็ดปากลู่จิ้นยวนไปด้วย แล้วเอ่ยพึมพำไปด้วย
ลู่จิ้นยวนไม่ได้พูดอะไร แค่รับรู้การกระทำของผู้หญิงคนนี้ เธออ่อนโยนมาก ไม่มีความเย็นชากับความเหินห่างอย่างช่วงที่ผ่านมาเลย เหมือนพวกเขาย้อนกลับไปตอนที่พวกเขายังรักมาก
เวินหนิงเผลอไป เธอตั้งใจทำให้ จนลืมไปเลยว่าสองวันก่อนเพิ่งทะเลาะกันไป
ขณะที่ทั้งสองกำลังดื่มด่ำกับความรู้สึกที่ทั้งคุ้นชินทั้งแปลกแบบนี้ หยงซือเหม่ยก็กลับมาพอดี
พอเห็นว่าลู่จิ้นยวนฟื้นแล้ว แต่เวินหนิงกำลังดูแลเขา หยงซือเหม่ยเลยโกรธแล้วดึงตัวเวินหนิงออกมา
“เวินหนิง แกหมายความว่ายังไง? ไหนบอกว่าจะไม่แย่งกับฉัน ฉันรอเขาฟื้นมาทั้งคืน แต่แกกลับมาฉวยโอกาสแบบนี้เหรอ?”
เพราะเรื่องของไป๋ซินหราน ตอนนี้เวินหนิงเลยไม่มีอารมณ์มาไร้สาระกับหยงซือเหม่ย
“คุณไว้ใจเถอะ ถ้าไม่ใช่เพราะซินหรานอาหารเป็นพิษ ฉันก็ไม่มาที่นี่หรอก”