ในตะกร้าใบใหญ่สองใบมีวัตถุดิบยาวางอยู่มากมาย
ฉินเฉิงเหลือบมองไปเห็นก็ตกใจขึ้นมาทันที
ในวัตถุดิบยาเหล่านี้ ชิ้นที่แย่ที่สุดก็มีอายุมากกว่า 500 ปี! ส่วนที่อายุมากกว่า 800 ปีมานับไม่ถ้วน! นอกจากนั้นก็ยังมีวัตถุดิบที่อายุมากกว่า 1000 ปีวางอยู่ด้วย!
ได้ยินมาว่า ตำหนักเทพโอสถได้รวบรวมสมุนไพรที่ดีที่สุดในโลกเอาไว้ ดูท่าแล้วมันเหมือนจะเป็นเรื่องจริง!
ไม่แปลกเลยที่ตระกูลใหญ่หลายๆตระกูลให้เกียรติ ตำหนักเทพโอสถเป็นอย่างมาก นั่นก็เป็นเพราะว่าสิ่งที่ ตำหนักเทพโอสถครอบครองอยู่นั้นมันมีค่ามากจริงๆ!
“สมุนไพรเหล่านี้ พวกคุณเลือกได้เลย” ผู้อาวุโสใหญ่นำมือไขว้หลังและพูดออกมา “แต่ว่าคุณจะเลือกอะไรนั้นก็ขึ้นอยู่กับสายตาของคุณ”
“ไม่มีปัญหา” ถังหยิงยิ้มออกมา จากนั้นเขาก็เดินตรงไปที่เตา แล้วเริ่มเลือกสมุนไพรจากในตะกร้าใหญ่
เตายาทั้งสองมีลักษณะเกือบเหมือนกันทุกประการ
ส่วนข้างๆก็มีฟืนวางอยู่เพื่อเอาไว้ทำเป็นเชื้อเพลิง
ฉินเฉิงเดินไปที่ตะกร้าใบใหญ่ ดวงตาของเขากวาดไปที่ของที่อยู่ในตะกร้า สุดท้ายเขาก็หยิบอำพันขี้ปลา ชูโว และโสมมาอย่างละ 1 อัน
“สมุนไพร 3 ชนิด พอแล้ว” ฉินเฉิงพูดออกมา
ส่วนทางด้านของถังหยิง เขาหยิบสมุนไพรออกมาถึง 8 ชนิด
เขาโยนพืชสมุนไพรทั้งแปดนี้ลงในกองไฟ และจากนั้นก็เริ่มควบคุมเปลวไฟด้วยกำลังภายในของเขา จากนั้นก็พึมพำอะไรออกมา
“อย่างที่เราทราบกันดีว่ายิ่งเกรดของยาสูงเท่าไหร่ก็ยิ่งต้องการวัสดุทางการแพทย์มากขึ้นเท่านั้น” ในตอนนั้นผู้อาวุโสใหญ่เอ่ยปากออกมา
“ถังหยิงใช้ 8 ชนิด ฉินเฉิงใช้ 3 ชนิด ระดับของยาจะต้องต่างกันมาก”
“ใช่ ถ้าหากจะกลั่นยารวมชีพจร สมุนไพรสามชนิดนี้มันก็เพียงพอแล้ว แต่ว่าครั้งนี้ยารวมชีพจรคงจะไม่สามารถเอาชนะได้” ผู้อาวุโสอีกคนพูดออกมา
จากนั้นผู้อาวุโสใหญ่ก็หันหน้าไปหาท่านเจ้าสำนักและถามออกมาว่า “ท่านเจ้าสำนัก ท่านมีความเห็นอย่างไร?”
ท่านเจ้าสำนักนำมือขึ้นมาจับคางของเธอ จากนั้นก็พูดออกมาว่า “ฉันดูแค่ผลลัพธ์เท่านั้น”
ผู้อาวุโสใหญ่เงียบทันที และยิ้มอย่างเขินขาย
ท่าทางของถังหยิงจริงจังมาก และพลังงานภายในร่างกายของเขาสูบฉีดเข้าไปในเตาเผาอย่างต่อเนื่อง เปลวไฟมีทั้งแข็งแกร่งและนุ่มนวล เป็นความสามารถในการควบคุมเปลวไฟที่หาได้ยาก
แต่ทางด้านฉินเฉิงยังยืนอยู่ที่เดิมเป็นเวลานานและไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการกลั่นเม็ดยาคือการเลือกวัตถุดิบ และอย่างที่สองคือการควบคุมไฟ
ดูเหมือนว่าทั้งสองอย่างที่ว่ามา ฉินเฉิงจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
“ว่ากันว่าสมาคมการกลั่นยาจากต่างประเทศนั้นค่อนข้างเป็นที่ยอมรับในระดับสากลและมีสถานะที่สูงกว่าสมาคมการแพทย์” คนที่ชมอยู่พูดออกมา “ถังหยิงคนนี้สามารถเข้าสมาคมของการกลั่นยาได้ นั่นมันก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ความแข็งแกร่งของเขา”
“ผู้อาวุโสฉินยังไงก็ไม่ไหว ท่านเจ้าสำนักมองเห็นอะไรในตัวเขา แต่ทำไมเขาถึงทำออกมาแบบนี้”
“เหนือฟ้ายังมีฟ้า ใครจะไปรู้ว่าบนโลกนี้จะไม่มีใครที่แข็งแกร่งว่านี้อีกแล้ว? ตำหนักเทพโอสถเองก็ไม่กล้าพูดว่าตนเองเป็นที่ 1 ในใต้ล้า!”
ความคิดเห็นของแต่ละคนต่างกัน แต่พวกเขาก็มองว่าถังหยิงเป็นคนที่เหนือกว่า
ไม่ต้องพูดถึงอะไรเลย แค่บอกว่าถังหยิงเป็นคนของสมาคมกลั่นยานานาชาติก็พอ
“ย๊า….!”
ในตอนนั้นถังหยิงก็ตะโกนออกมาด้วยเสียงดัง
การส่งเสียงของเขาทำให้พลังภายในของเขาปะทุออกมา หลังจากนั้นก็มีเปลวไฟติดอยู่ที่นิ้วของเขา!
“นี่..นี่มันเปลวไฟแห่งพลังภายใน!” มีคนตะโกนออกมา
“คิดไม่ถึงเลยว่าถังหยิงคนนี้จะใช้เปลวไฟแห่งพลังภายในได้! นี่เป็นเทคนิคขั้นสูงของยอดฝีมือ! เป็นแค่ผู้อาวุโสธรรมดาๆไม่สามารถทำได้แน่!”
“ถังหยิงคนนี้ สุดยอดมากเลยจริงๆ!”
ความสามารถที่ถังหยิงแสดงออกมาให้เห็นทำให้ผู้คนที่ดูอยู่ตกใจทันที ความเขาตื่นเต้นราวกับว่ากำลังบูชาเทพเจ้า
ส่วนฉินเฉิงที่อยู่ข้างๆก็ยังไม่ได้ทำอะไร ขนาดผู้อาวุโสใหญ่เองก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกไปว่า “คุณกำลังคิดอะไรอยู่?”
ฉินเฉิงพูดออกไปด้วยความเกรงใจเล็กน้อย “ยานี้ฉันเพิ่งจะเรียนมา ตอนนี้ลืมสูตรไปแล้ว….”
“นี่….” ผู้อาวุโสใหญ่พูดออกมาด้วยอารมณ์ที่ไม่รู้จะอธิบายออกมาอย่างไง “ฉินเฉิง นี่เป็นถึงการประชุมกลั่นยาครั้งใหญ่ อย่าทำเหมือนเป็นเรื่องเล่นได้ไหม! อย่างน้อยนายก็หาวิธีกลั่นยาชนิดอื่นออกมาหน่อยได้ไหม?”
ฉินเฉิงเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็เคาะไปที่ศีรษะของตัวเองและพูดว่า “ฉันทำได้แล้ว!”
หลังจากนั้นเขาก็ไม่สนใจผู้อาวุโสใหญ่ เขาแบมือออกมาจาก มีเปลวไฟติดอยู่บนมือของเขา
“นั่น…นั่นมันอะไร!” คนที่ดูอย่างค่อยๆตะลึ่งอย่างช้าๆ
“ฉินเฉิงก็ใช้เปลวไฟแห่งพลังภายในได้อย่างนั้นเหรอ? แถมยังใช้ได้ดีกว่าถังหยิงด้วย….”
“นั่นมันเทียบกันไม่ได้เลย…สมแล้วที่เป็นคนที่ท่านเจ้าสำนักเลือกมา!”
ในตอนนั้นความคิดที่ไม่ดีกับฉินเฉิงในตอนแรกก็หายไปหมดแล้ว เปลวไฟที่ใหญ่ขนาดนั้นเกรงว่าทั้ง ตำหนักเทพโอสถแห่งนี้คงมีแค่ผู้อาวุโสใหญ่และท่านเจ้าสำนักเท่านั้นที่ทำได้!
ถังหยิงก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองมาที่ฉินเฉิง ความริษยาในดวงตาของเขาก็เผยออกมาให้เห็นได้อย่างชัดเจน
ฉินเฉิงไม่รอช้า เขาผลักเปลวไฟที่อยู่ในมือของเขาออกไปทันที
หลังจากนั้น เขาเทวัตถุดิบยาลงในเตาหลอม และพลังงานทางจิตวิญญาณผสานกับเปลวไฟในฝ่ามือของเขา
ฉินเฉิงท่องสูตรยา จิตใจของเขาก็สงบสุขอย่างยิ่งปราศจากการแทรกแซงจากภายนอก
ท่านเจ้าสำนักที่หลับตามาโดยตลอดก็ลืมตาขึ้นมาทันที
เธอมองมาทางทิศของฉินเฉิงและพูดออกมาว่า “ออร่าแบบนี้….นายเป็นลูกของเขาจริงๆด้วย!”
ท่านเจ้าสำนักที่มีท่าทางเคร่งขรึมอยู่ตลอด ในตอนนี้เธอมีอาการตื่นเต้นเล็กน้อย
แม้แต่ชูชีเชิงเองก็อดไม่ได้ที่จะตะใจออกมา “พี่เจียง นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นพี่แสดงความรู้สึกออกมา!”
ท่านเจ้าสำนักไม่ได้สนใจเขา เธอยังคงจ้องมองไปที่ฉินเฉิง ดวงตาของเธอมีความรู้สึกตื่นเต้นเผยออกมาให้เห็น
การควบคุมไฟอย่างชำนาญทำให้ทุกคนตกใจเป็นอย่างมาก
ฉินเฉิงกับถังหยิงกลายเป็นจุดสนใจของคนทั้ง ตำหนักเทพโอสถทันที
หลินชิงเฉิงที่อยู่ไม่ไกลมองมาด้วยสายตาที่สับสน ทำไมเธอถึงมองไม่ออกว่าคนที่อยู่กับเธอมาตั้งนาน คนที่ไม่มีอะไรดีเลย แต่จู่ๆกลับมาแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้!
เมื่อเวลาผ่านไป เปลวเพลิงของถังหยิงก็เริ่มสลายไปทีละน้อย
ในขณะเดียวกันใบหน้าแห่งความภาคภูมิใจของถังหยิงก็เผยออกมา
เขาเปิดขวดยาและหยิบเม็ดยาออกมา
กลิ่นของยาเม็ดนี้ทำให้ผู้คนสดชื่น และกลิ่นหอมที่แรงทำให้ผู้คนหลงไหล
“ฉันทำเสร็จแล้ว” ถังหยิงพูดออกมา
และในขณะนี้ เมฆแปลกๆจำนวนมากก็ลอยอยู่บนท้องฟ้า
หน้าตาของเมฆนั้นแปลกมาก ซึ่งมันมีลักษณะเหมือนกับยาที่อยู่ในมือของถังหยิง
“นี่มัน…ยาเม็ดตานหยวน” ผู้อาวุโสใหญ่พูดออกมาด้วยความตื่นเต้น
ส่วนคนที่อยู่รอบๆก็มองไปด้วยสายตาที่ตื่นตกใจ นั่นมายาเม็ดตานหยวนอะ นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้เห็นมัน!
“ถังหยิง ในมือของนายนั้นใช่ยาเม็ดตานหยวนไหม?” ผู้อาวุโสใหญ่อดที่จะถามออกไปด้วยใบหน้าที่ตื่นเต้นไม่ได้
ถังหยิงตอบกลับมาว่า “ยาเม็ดนี้มีชื่อว่า ยาโชหยวน ถ้าหากคนธรรมดากินเข้าไปจะทำให้มีอายุยืนขึ้นสิบปี แต่ถ้าหากนักต่อสู้กินเข้าไปจะทำให้พื้นฐานของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้นและก้าวขั้นไปได้ถึง 7-8 ขั้น”
“ห๊ะ…”
เมื่อได้ยินแบบนั้นทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงออกมา
เลื่อนขึ้นได้ถึงหลายขั้น แถมยังมีอายุยืนอีก!
ถ้าหากยาชนิดนี้ถูกนำออกไปขายในโลกแห่งความเป็นจริง ไม่รู้ว่าจะมีตระกูลใหญ่สักกี่ตระกูลที่ต้องการจะซื้อมัน!
“ฉันกลั่นเสร็จแล้ว ตามระเบียบ ฉันชนะแล้วไม่ใช่เหรอ?” ในขณะนี้ถังหยิงเหลือบมองที่ฉินเฉิงซึ่งยังคงควบคุมไฟอยู่ แล้วพูดออกมาอย่างภาคภูมิใจ