ทันทีที่เขาเห็นฉินเฉิง เหอเหวินเจี๋ยก็ชี้ไปที่ฉินเฉิงทันทีและตะโกนว่า “คุณปู่ นั่นไงเขา! ฉันจะกำจัดเขาซะ!”
ใบหน้าของเหอซานดูน่าเกลียดมาก เขาดึงแขนของเหอเหวินเจี๋ยและกล่าวว่า “เราไปกันเถอะ”
“ไม่!” เหอเหวินเจี๋ยพูดอย่างดื้อดึง “เจ้านี่มันทำร้ายฉัน ฉันต้องกำจัดเขา!”
ฉินเฉิงเยาะเย้ย “นั่นคือวิธีที่คุณสอนหลานชายของคุณเหรอ?”
เหอซานกัดฟัน ยกมือขึ้นตบหน้าเหอเหวินเจี๋ย เขาด่าออกมา “หยุดสร้างปัญหา แล้วกลับไปกับฉัน!”
เหอเหวินเจี๋ยตกตะลึง หลังจากโดนตบไปเต็มๆ
ทันใดนั้นเขาก็นั่งลงที่พื้นและร้องไห้เสียงดัง “ปู่ตีฉัน! ปู่ไม่เคยตีฉันเลย ฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว!”
ฉินเฉิงขมวดคิ้ว ก้าวออกมาแล้วพูดอย่างเย็นชา “ฉันจะสอนบทเรียนให้เขาเอง”
สีหน้าของเหอซานเปลี่ยนไป เขารีบไปยืนต่อหน้าเหอเหวินเจี๋ยและกล่าวว่า “นี่เพื่อน เมตตาฉันเถอะ ฉันจะพาเขาไปและสัญญาว่าจะไม่มารบกวนทั้งสองคนอีก…”
หลังจากพูดจบ ก็คว้าตัวเหอเหวินเจี๋ยออกไป
ฉินเฉิงไม่ได้รั้งเขาไว้ หลังจากที่พวกเขาออกไป ฉินเฉิงก็ดึงแขนของฟางเสี่ยวเต๋อและกล่าวว่า “ไปกันเถอะ พวกเราก็ควรจะกลับได้แล้ว”
ฟางเสี่ยวเต๋อมีสายตาที่รู้สึกซาบซึ้ง เธอพูดว่า “ฉินเฉิง นายหล่อมาก! รู้แล้วว่าทำไม พี่ซูานถึงชอบนาย!”
ฉินเฉิงนิ่งเฉย เขาพาฟางเสี่ยวเต๋อออกจากร้านคาราโอเกะ
“อย่าไปนัดเจอคนมั่วซั่ว รู้ไหม” ฉินเฉิงขมวดคิ้วและพูดระหว่างเดินทางกลับ
ฟางเสี่ยวเต๋อพยักหน้า และพูดว่า: “อืม ! ฉันสัญญาว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้าย!”
ฉินเฉิงช่วยชีวิตฟางเสี่ยวเต๋อซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฟางเสี่ยวเต๋อจึงความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก
ช่วยการช่วยเหลือกันอยู่บ่อยๆแบบนี้ ฟางเสี่ยวเต๋อจึงประทับใจในตัวฉินเฉิง
ทันทีที่เขากลับถึงบ้านจิ้งจอกไฟในกระเป๋าของ ฉินเฉิง ก็ส่งเสียงออกมา
แม้ว่าเสียงจะไม่ดัง แต่ก็ดูเหมือนว่ามันจะดุ
ฉินเฉิงหยิบจิ้งจอกไฟออกจากกระเป๋าแล้ววางลงบนฝ่ามือ
“ต่อไปนี้ต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?” มันโผล่หัวออกมาฟังฉินเฉิงพูด
จิ้งจอกไฟที่ดูดุร้ายผงกหัวอย่างเชื่อง ราวกับว่ามันเข้าใจคำพูดของฉินเฉิง
“ดูเหมือนว่ามันจะเชื่องละ” ฉินเฉิงคิดกับตัวเอง
“ว้าว สวยจัง!” ฟางเสี่ยวเต๋อวตื่นเต้นเมื่อเห็นจิ้งจอกไฟ
“อย่าจับมัน!” ขณะที่ฟางเสี่ยวเต๋อยื่นมือออกมา จิ้งจอกไฟก็โผล่หัวออกมาด้วย “งับ” และกัดอย่างแรง
โชคดีที่สายตาของฉินเฉิงนั้นไว และเขาก็เอื้อมมือไปขวางฟางเสี่ยวเต๋อและให้กัดเขาแทน
เลือดไหลออกมาจากข้อมือของฉินเฉิง และความลึกของบาดแผลแทบจะเห็นกระดูก
“มันดุจัง!” ฟางเสี่ยวเต๋อถอยหลังสองก้าวด้วยความตกใจ
ฉินเฉิงหายใจไม่ทั่วท้อง ถ้ามันกัดไปที่แขนของเธอ คงลึกเข้าไปถึงกระดูก!
ฟันของเจ้าตัวเล็กตัวนี้คมพอตัว!
“ต่อไปอย่าไปแตะมัน เข้าใจไหม” ฉินเฉิงเตือน
ฟางเสี่ยวเต๋อพยักหน้า สายตายังจ้องมองไปที่จิ้งจอกไฟ
คืนนั้น ฉินเฉิงวางจิ้งจอกไฟไว้ข้างหมอน
จิ้งจอกไฟก็เชื่องอยู่ มันนอนอยู่ข้างฉินเฉิง และผล็อยหลับไปอย่างเงียบ ๆ
ผ่านคืนนั้นไป ตอนเช้าฉินเฉิงก็ถูกจิ้งจอกไฟปลุก
มันดึงแขนของฉินเฉิงด้วยสายตามุ่งมั่น
ฉินเฉิงขยี้ตาและขมวดคิ้ว “เป็นอะไร?”
จิ้งจอกไฟพูดไม่ได้ มันกระฉากมุมเสื้อของฉินเฉิง
“หิวเหรอ?” ฉินเฉิงถามอย่างไม่มั่นใจ
จิ้งจอกไฟผงกหัว และเอาอุ้งเท้าของมันตบไปที่ท้องของมันเอง
ฉินเฉิงรีบลุกขึ้นและหาของในครัว ส่วนจิ้งจอกไฟได้แต่ส่ายหัว เพราะพูดอะไรไม่ได้
นั่นทำให้ฉินเฉิงคิดว่ามันเป็นปัญหา แม้ว่าจิ้งจอกไฟจะมีอายุยืนยาว แต่จะสื่อสารอะไรก็ลำบาก
นั่งอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่นครุ่นคิดอยู่นาน ฉินเฉิงจับหัวและพึมพำ “เป็นไปได้ไหม… ว่าแกชอบพลังหยิน?”
เมื่อจิ้งจอกไฟได้ยิน มันก็ผงกหัว ดวงตาเต็มไปด้วยความหวัง
“แกนี่มันเลือกจริงๆนะ” ฉินเฉิงพูดออกมา
ฉินเฉิงไม่มีทางอื่น จึงต้องพาจิ้งจอกออกไปจากบ้านในตอนเช้า
หลังจากออกไปหาเกือบตลอดเช้า ในที่สุดก็เจอสุสาน
แม้ว่าพลังหยินที่สุสานจะไม่เยอะนัก แต่ก็ได้อยู่
เมื่อมาถึงสุสาน จิ้งจอกไฟก็ลอยไปบนอากาศ
มันอ้าปากออก และพลังหยินก็ลอยเข้าปากมันด้วยความเร็ว!
ในชั่วพริบตา พลังหยินในสุสานก็ถูกดูดเข้าไปจนหมด!
ฉินเฉิงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวล
เจ้านี่กินได้มากขนาดนี้ ต่อไปจะหาพลังหยินมากมายขนาดนี้จากที่ไหน?
“ถ้าอยู่กับฉัน อาจต้องอดมื้อกินมื้อนะ” ฉินเฉิงลูบหัวมัน
หลังจากนั้น ฉินเฉิงก็เอาจิ้งจอกไฟใส่กระเป็า แล้วกลับบ้าน
หน้าประตูบ้าน ฉินเฉิงหยิบกุญแจออกมาและกำลังจะเปิดประตู
ในขณะนี้เขาก็ขมวดคิ้ว
“มีคนเข้ามา” ฉินเฉิงพูด
เขาสัมผัสได้ถึงลมหายใจในอพาร์ตเมนต์อย่างชัดเจน และไม่ได้มาคนเดียว
“เฮ้อ” ฉินเฉิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ หลังจากจับจิ้งจอกไฟไว้ดีๆ เขาก็เปิดประตูและเดินเข้าไป
ในห้องนั่งเล่นมีคนแปลกหน้าสองสามคนนั่งอยู่บนโซฟา
ฟางเสี่ยวเต๋อถูกมัดอาไว้ และปากของเธอก็ถูกปิดด้วยเทปกาว
“พวกนายเป็นใคร” ฉินเฉิงกล่าวอย่างเย็นชา
ชายคนแรกยิ้ม แล้วพูดว่า “ฉินเฉิง ในที่สุดก็กลับมาแล้ว”
“เหมือนฉันจะไม่รู้จักนาย” ฉินเฉิงกล่าวด้วยสายตาที่หรี่ลง
“นายไม่จำเป็นต้องรู้ว่าฉันเป็นใคร” ชายคนนั้นยิ้มเบา ๆ “นายรู้แค่ว่า คุณนายเสียวหยู่เชี้ยนต้องการพบนายก็พอ”
“พวกนายเป็นคนของตระกูลซูเหรอ?” ใบหน้าของฉินเฉิงเริ่มเย็นชาขึ้นมาทันที “ฉันบอกเธอไปแล้ว ว่าฉันไม่มีอะไรจะพูดกับเธอ และไม่จำเป็นต้องเชิญฉันไปพบหรอก”
“อย่าเพิ่งรีบปฏิเสธ” ชายหนุ่มยิ้ม
เขาหยิบโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋าของเขายื่นให้ฉินเฉิงและกล่าวว่า “นายดูนี่ก่อน”
มีวิดีโอบนหน้าจอโทรศัพท์
ในวิดีโอ คุณปู่ซูและซูวานอยู่ด้วยกัน
เมื่อเห็นดังนั้น อารมณ์โกรธของฉินเฉิงก็พุ่งขึ้นทันที!
“โกรธเหรอ?” ชายคนนั้นเยาะเย้ย “ถ้าคุณไม่ต้องการให้พวกเขาเป็นอะไร คืนนี้สองทุ่ม รอนายที่ เสิ่นหยุนวิลล่า หลังที่สอง ”