อวี้กูเป่ยนำคนมาราวยี่สิบคน ยืนเรียงแถวมืดสนิท จำนวนคนมีมากกว่าคนในมือของอวี้อี่มั่ว
อวี้กู้เป่ยเดินเข้าไปใกล้ วินาทีที่เขาเห็นอวี้อี่มั่วนั่งอยู่บนรถเข็น ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความสุข เขาเดินไปข้างหน้า จ้องหน้าของอวี้อี่มั่ว ยิ้มอย่างเยือกเย็นแล้วพูดขึ้นว่า : “ไม่เจอกันนานนะพี่ใหญ่”
อวี้อี่มั่วสีหน้าเข้มขรึม มองหน้าที่ยิ้มอย่างเสแสร้งของอวี้กู้เป่ย ไม่ไหวติงใดๆทั้งสิ้น
อวี้กู้เป่ยหัวเราะขึ้นมา พร้อมกับหันหน้าไปดูหร่วนซือซือที่ยืนอยู่ข้างๆอวี้อี่มั่ว สีหน้าของเขาก็ยิ่งได้ใจใหญ่ เขามองหน้าเธอพร้อมกับทักทายขึ้นมาว่า : “คุณหร่วน เจอหน้ากันอีกแล้ว ทำไมครั้งนี้ถึงมายืนข้างๆพี่ใหญ่ของผมได้? ซ่งเย้อันสามีของคุณล่ะ?”
อวี้กูเป่ยที่ร้ายยิ่งกว่าอสรพิษ เขากระตุ้นเลือดเดือดของผู้คนมากที่สุด หร่วนซือซือขมวดคิ้วขึ้น เธอไม่ได้ตอบอะไร
อวี้กู้เป่ยที่เห็นว่าไม่มีใครสนใจเขา เขาจับจมูกเบาๆ พูดด้วยน้ำเสียงประชดว่า : “เป็นอะไรไป? เรียกฉันออกมาแล้วไม่พูดอะไร หมายความว่ายังไง?”
เวลานั้นเอง ก็มีลมพัดมา เสียงผู้หญิงคนหนึ่งที่มาพร้อมกับสายลม : “กู้เป่ย……”
อวี้กู้เป่ยสะดุ้งไปทั้งตัว ภายใต้จิตใต้สำนึกของเขา มองเห็นคนหลายคนที่ยืนอยู่บนแนวปะการัง สีหน้าของเขาก็เครียดขรึมขึ้นมาทันที
ผู้หญิงที่อยู่ตรงกลางผมเผ้ายุ่งรุงรังคนนั้น ลู่เสี่ยวมั่นนี่นา?
หัวใจของเขาหดตัวลงอย่างรวดเร็ว เพียงครู่เดียว ความรู้สึกที่เจ็บแปล๊บก็หายไปอย่างสิ้นเชิง สีหน้าของเขากลับสู่ปกติ แต่รอยยิ้มเมื่อสักครู่ของเขาได้หายไปแล้ว
เขาหันหน้ากลับไปมองอวี้อี่มั่ว : “ทำไม? จะข่มขู่ฉันเหรอ?”
ในที่สุดอวี้อี่มั่วก็พูดขึ้นด้วยความใจเย็นว่า : “ก็แค่ตาต่อตาฟันต่อฟันเท่านั้นเอง”
“ไม่รู้ว่านายยังจำเรื่องเมื่อ 5 ปีที่แล้วได้หรือเปล่า”
อวี้กู้เป่ยที่กำลังจะหมดความอดทน เขาขมวดคิ้วพร้อมถามขึ้นมาว่า : “เรื่องไหน?”
อวี้อี่มั่วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงใจเย็น : “เรื่องที่หร่วนซือซือโดนมัดไว้กับประภาคาร”
เมื่ออวี้กู้เป่ยนึกย้อนกลับไปแล้ว เรื่องครั้งนั้น เป็นเขาและลั่วจิ่วเหยี่ยร่วมมือกันทำด้วยกันจริงๆ ครั้งนั้นเขาเองคิดว่าจะปลิดชีวิตของอวี้อี่มั้วได้แล้ว แต่ไม่นึกเลยว่า อวี้อี่มั่วจะตายยากขนาดนี้
ครั้งนี้ก็เหมือนกัน รู้แบบนี้ ก็ควรจะจัดการเขาให้เด็ดขาดตั้งแต่แรก ไม่ควรปล่อยให้เขาเล็ดลอดมาได้
“เรื่องนั้นเป็นเรื่องที่ลั่วจิ่วเหยี่ยทำเองคนเดียว จนฉันพึ่งมาเห็นว่าพวกเธอเป็นพวกเดียวกัน ฉันจึงเข้าใจเรื่องทั้งหมด”
อวี้อี่มั่วพูดขึ้นอย่างใจเย็นว่า : “คนที่รู้ว่าฉันมีโรคกลัวทะเลลึก มีแต่คนบ้านตระกูลอวี้เท่านั้น เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ เป็นแผนมาจากนายแน่นอน!”
หร่วนซือซือที่ยืนอยู่ข้างๆเมื่อได้ยินคำว่า “โรคกลัวทะเลลึก” คำนี้ เธอก็อึ้งไปชั่วขณะ
อวี้อี่มั่วมีโรคกลัวทะเลลึกเหรอ? แล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับเรื่องเมื่อ 5 ปีที่แล้วล่ะ?
เวลานั้นเอง อวี้กู้เป่ยก็หัวเราะขึ้นอย่างเย็นชา : “แต่สุดท้ายพี่ก็ยังไม่ตาย? ตอนที่พี่กระโดดลงทะเลคนเดียว เพื่อไปช่วยผู้หญิงคนนี้ แล้วพาเธอขึ้นฝั่ง แต่กลับไม่ตาย ฉันเองคงประเมินพี่ต่ำไปจริงๆ”
หร่วนซือซือยืนอยู่ข้างๆ เธอสะดุ้งไปทั้งตัว รู้สึกแปลกใจจนพูดอะไรไม่ออก
เป็นไปได้ยังไง ตอนนั้นเป็นอวี้อี่มั่วที่ช่วยชีวิตเธอเหรอ? แต่ในความทรงจำของเธอ ไม่มีเรื่องนี้อยู่เลย!
อวี้อี่มั่วหัวเราะเบาๆ พร้อมกับพูดขึ้นว่า : “นายชอบใช้จุดอ่อนของคนอื่น แล้วนายรู้จุดอ่อนของลู่เสี่ยวมั่นรึเปล่า?”
ไม่รอให้อวี้กู้เป่ยได้ตอบ เขาก็พูดต่อว่า : “เธอกลัวความสูง แค่ตกลงไปในทะเลจากแนวปะการัง ความสูงขนาดนี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว”
อวี้กู้เป่ยสีหน้าขาวซีด พูดอะไรไม่ออก หันกลับไปมองผู้หญิงที่ยืนอยู่บนขอบแนวปะการัง ในใจก็รู้สึกสับสนขึ้นมาทันที
เขารู้สึกว่าเขาไม่เคยรักผู้หญิงคนนี้เลยแม้แต่นิดเดียว ตอนนี้เขาใจเย็นและนิ่งพอ แต่ทำไมร่างกายของเขากลับมีความรู้สึกแปลกๆที่ไม่สามารถอธิบายออกมาได้ ทำให้เขาลังเล และไม่สบายใจ
ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็หันกลับมามองหน้าอวี้อี่มั่ว : “พี่เรียกฉันมา ไม่ใช่แค่ให้ฉันมาดูคนตกทะเลหรอกใช่ไหม”
พวกเขาต่างเป็นนักธุรกิจที่เห็นแก่ผลประโยชน์นิยมเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นเขา หรืออวี้อี่มั่ว ต่างก็มีแผนการและความคิดเป็นของตัวเอง ถ้าหากเพียงแค่ต้องการล้างแค้นแบบตาต่อตาฟันต่อฟันแล้ว เขาก็ไม่จำเป็นต้องลงทุนลงแรงให้เสียเวลาแบบนี้
เวลานี้แล้ว อวี้อี่มั่วก็ไม่พูดอ้อมค้อมให้เสียเวลา จึงพูดไปตรงๆว่า : “ฉันต้องการหุ้นของบริษัทอวี้กรุ๊ป หุ้นทั้งหมด”
อวี้กู้เป่ยสะดุ้งไปทั้งตัว เขาขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากนั้นจู่ๆเขาก็หัวเราะเสียงดังออกมา
เขาหันไปมองผู้หญิงที่ยืนอยู่บนโขดหินแนวปะการังยังใจเย็น พร้อมกับหัวเราะอย่างตลกขบขัน : “พี่ใหญ่ พี่เก็บหินมาผิดก้อนแล้ว ผู้หญิงคนนั้น ไม่ได้สำคัญอะไรกับฉันเลย”
เสียงที่เขาพูดออกมาทุกคำ ถูกส่งผ่านโทรศัพท์ของพี่หลง โทรศัพท์ของพี่หลงถูกเปิดลำโพงไว้ มือซ้ายของพี่หลงจับมือถือไว้ ส่วนมือข้างขวาจับเชือกที่ผูกอยู่บนตัวของลู่เสี่ยวมั่น
พูดง่ายๆว่า คำพูดที่อวี้กู้เป่ยพูดออกมาทุกคำ ฝั่งนั้นก็ได้ยินทุกคำอย่างชัดเจน
ลู่เสี่ยวมั่น ที่ได้ยินคำนั้นของอวี้กู้เป่ย เธอยืนตัวแข็งทื่อ ดวงตาเบิกกว้าง และสั่นไปทั้งตัว
เธอกัดริมฝีปากที่ขาวซีดแน่น มองไปยังเงาของผู้ชายคนนั้น หัวใจเหมือนโดนมือควักออกมาจนเลือดไหลไม่หยุด เจ็บปวดทรมานจนแทบจะทนไม่ไหว
น้ำตาของเธอไหลไม่หยุด เธอส่ายหน้าด้วยสีหน้าที่เลื่อนลอย ปากของเธอพึมพำไม่หยุด : “เป็นไปไม่ได้…เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด……”
วันคืนที่แสนจะอบอุ่น เขาอ่อนโยนดูแลเอาใส่ใจเธอมาโดยตลอด คำมั่นสัญญาที่เขาได้พูดกับเธอไว้ คำบอกรักเหล่านั้นที่แสนหวานในคืนวันฤดูใบไม้ผลิ เวลานี้ความทรงจำเหล่านั้นกำลังท่วมท้นในตัวของ
เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะไม่มีความสำคัญกับอวี้กู้เป่ยเลย
เวลานั้นเอง ก็มีเสียงดังมาตามสาย เธอได้ยินเสียงหัวเราะของเขาชัดเจน : “พี่ใหญ่ พี่คิดว่าฉันจะยอมแลกหุ้นส่วนทั้งหมดของบริษัทอวี้กรุ๊ป เพื่อผู้หญิงที่ไม่สำคัญเพียงคนเดียวอย่างนั้นเหรอ? ”
เขานิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วพูดขึ้นต่อว่า : “เป็นไปไม่ได้หรอก เงื่อนไขนี้ไม่ผ่าน”
เวลานั้นเอง อวี้อี่มั่วก็พูดขึ้นว่า : “ถ้านายไม่สนเธอ เธออาจจะตายได้”
อวี้กู้เป่ยหัวเราะขึ้นอย่างไม่แคร์ พร้อมกับพูดขึ้นว่า : “ตามใจพี่”
คำๆนี้ เป็นเหมือนภูเขาลูกใหญ่ ที่ทับลงกลางใจของเธอ ขยี้ความหวังและการเฝ้ารอของเธอจนแหลกละเอียด
เธอหลับตาลงด้วยความเจ็บปวด เหลือเพียงสายน้ำตาที่อาบแก้ม ในที่สุด เธอกัดฟันแน่น ลืมตาขึ้นอีกครั้ง แล้วหันหน้าไปมองอวี้กู้เป่ย เธอตะโกนเสียงดังออกไปว่า : “อวี้กู้เป่ย ฉันมองคนผิดไปจริงๆ!”
เสียงจากหัวใจครั้งนี้ ด้วยแรงทั้งหมดที่เธอมี เพียงพอที่จะให้คนฝั่งนั้นได้ยิน
อวี้กู้เป่ยตกใจเบิกตากว้าง รีบหันไปมองมือถือของตู้เยี่ย จึงเข้าใจสถานการณ์ทันที เขารีบหันไปมองทางโขดหินปะการัง
เห็นเพียงแค่เงาผู้หญิงตัวผอมเพรียว สะบัดมือออกจากคนที่จับเธออยู่ กระโดดลงไปในทะเล ทันใดนั้นเอง รูม่านตาของอวี้กู้เป่ยก็ขยายกว้าง เขาสะดุ้งไปทั้งตัว ตะโกนเสียงดังออกมาว่า : “ไม่!”
หัวใจของเขาราวกับโดนอะไรบีบไว้แน่น เหมือนกับกำลังถูกทำลายยับเยิน ถูกเหยียบย่ำซ้ำๆ รู้สึกเจ็บปวดทั่วทั้งภายใน เขาหายใจหอบ เหงื่อเย็นๆชุ่มทั้งแผ่นหลัง เขาเดินตรงไปที่แนวปะการังอย่างไม่รู้ตัว
คนที่ตกใจไม่ได้มีเพียงแค่เขาคนเดียว หร่วนซือซือที่ยืนอยู่ข้างๆก็สั่นไปทั้งตัว ขาของเธออ่อนแรง
อวี้อี่มั่วขมวดคิ้วแน่น มองไปยังทิศทางนั้น
ลู่เสี่ยวมั่นกระโดดลงไปทั้งแบบนี้เหรอ นี่มันอยู่นอกเหนือจากแผนที่เขาวางไว้!