ทั้งสองคนเพิ่งจะเดินออกมาจากหน้าประตูใหญ่โรงแรม ก็มองเห็นรถที่คุ้นเคยจอดอยู่ไม่ไกล
ถังหยวนเป่ากับเฉียวเหวยอีมองหน้ากัน พูดอย่างเข้าใจ“งั้นฉันกลับไปกองถ่ายก่อน”
เฉียวเหวยอียืนอยู่ที่เดิม ค่อยๆเดินตรงเข้าไปที่รถของลี่เย่ถิง
ยังไม่ได้เดินถึงตรงหน้ารถ นักแสดงสาวอีกคนในกองถ่ายก็ออกมาจากโรงแรมพอดี ดึงเฉียวเหวยอีไว้
เฉียวเหวยอีหยุดก้าวเดิน หยุดอยู่ที่เดิม
“เหวยอี รถคันนี้ดูเหมือนจะเป็นคุณลี่นักลงทุนของบริษัทพวกเรา เธอรู้จักเหรอ?”นักแสดงสาวจับแขนของเฉียวเหวยอี ถามเสียงเบา
เฉียวเหวยอีจ้องมองฝ่ายตรงข้าม ในใจค่อยๆรู้สึกตึงเครียดขึ้นมา คนในกองถ่ายรู้ความสัมพันธ์ของเธอกับลี่เย่ถิงแล้ว?
แต่ว่าก่อนหน้านี้เวลาที่หยวนเป่ากับเธอกินข้าวด้วยกันก็พูดถึงเรื่องนี้ วันนั้นที่ลี่เย่ถิงอุ้มเธอไป มีเพียงไม่กี่คนที่เห็น ซ่งหยวนก็จัดการเรียบร้อยแล้ว อธิบายกับคนอื่นที่ไม่ได้เห็น เธอเสียการทรงตัวจากสายสลิงแล้ว
ปากของนักแสดงสองสามคนนั้นต้องแน่นหนา ไม่ชอบพูดนินทา แต่ว่า…เกรงว่าจะคาดคะเนคนอื่นไม่ได้แล้ว
“ใช่ มันจอดอยู่ตรงนี้ใกล้จะหนึ่งชั่วโมงแล้ว!เดิมทีก็คือรอเธอ!”
“ไม่อย่างนั้น ก็แนะนำให้ฉันเถอะ ก็แค่ให้ฉันยืนอยู่ข้างกายเธอก็พอแล้ว…”นักแสดงสาวเห็นเฉียวเหวยอีแสดงออกอย่างลึกซึ้ง เดาว่าเธอรู้จักแน่นอน หลังจากนั้นก็พูดเสียงเบากับเฉียวเหวยอี
เฉียวเหวยอีได้ยินเธอพูดด้วยความตื่นเต้นดีใจ ในใจก็สงบเหมือนเดิม
“ฉันไม่ได้คุ้นเคยกับคุณลี่”เธอพูดตอบเสียงต่ำ
“ไม่คุ้นเคยทำไมถึงมารอเธออยู่ที่นี่?”นักแสดงสาวย้อนถามอย่างประหลาดใจ
“ไม่ใช่รอฉันแน่นอน เธอคิดผิดแล้ว”เฉียวเหวยอีโบกมือ เหมือนกับว่าได้ยินคำพูดแปลกประหลาด หลังจากนั้นก็ถาม“พวกเราพักอยู่โรงแรมที่มีนักแสดงสาวสวยมากขนาดนี้ ทำไมจะเป็นฉันได้ล่ะ?”
“งั้น…”นักแสดงสาวก็สับสน มองดูรถที่จอดอยู่ไม่ไกลและเฉียวเหวยอีไปมา
เฉียวเหวยอียิ้มให้เธอ พูดตอบ“ไปเถอะ ไปกองถ่ายด้วยกัน”
ทั้งสองคนเดินผ่านข้างรถ กระจกหน้าต่างรถก็เปิดลงกะทันหัน
ร่างกายของเด็กปรากฏออกมาจากข้างใน โบกมือให้เฉียวเหวยอีอย่างสุดชีวิต“พี่สาวพี่สาวพี่สาว!”
“……”
หน้าแตกอย่างรวดเร็ว ก็เหมือนกับพายุทอร์นาโด
นักแสดงสาวดึงเฉียวเหวยอีไว้ ถามด้วยความประหลาดใจ“คือกำลังเรียกเธออยู่เถอะ?”
เฉียวเหวยอีหันหน้ากลับมา จ้องมองซึ่งกันและกันกับซุ่ยซุ่ย
นิ่งอึ้งไปสักพัก ก็ฝืนพูดตอบไป“อ้าว!เด็กข้างบ้านฉันทำไมถึงมาอยู่บนรถคันนี้ได้?”
พูดจบ ก็พูดอธิบายกับนักแสดงสาวที่อยู่ข้างกาย“เด็กคนนี้อยู่ข้างบ้านฉัน เหมือนกับว่ามีความสัมพันธ์เป็นญาติกับตระกูลลี่”
เฉียวเหวยอีพูดเสียงดัง และห่างจากรถไม่กี่ก้าว ซุ่ยซุ่ยเข้าใจก็ได้ยินแล้ว
เขาหันหน้ากลับ จ้องมองซึ่งกันและกันกับลี่เย่ถิง สายตามีความงงงวย
เขาพูดว่าเขาคิดถึงหม่ามี๊ ดังนั้นลี่เย่ถิงพาเขาเข้ามา พูดว่าเฉียวเหวยอีน่าจะว่าง อยากจะไปกินข้าวด้วยกัน ดังนั้นจึงพาซุ่ยซุ่ยเข้ามา
ถึงแม้ว่าเขารู้สึกสงสัยว่าลี่เย่ถิงใช้ประโยชน์จากเขาเพื่อใกล้ชิดเฉียวเหวยอี
“แม่ของลูกคิดว่าตัวเองมีลูกโตขนาดนี้แล้ว ก็ขายหน้า”ลี่เย่ถิงพูดตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ซุ่ยซุ่ยคิดไปคิดมา พยักหน้าบอกใบ้ว่าเข้าใจ
ถึงอย่างไรแม่ของเขาก็ยังสาวและสวย มีลูกก็เหมือนทำให้เธอดูแก่แล้ว
ดังนั้นซุ่ยซุ่ยจึงหันหน้าไปยิ้มตาหยีให้กับเฉียวเหวยอี “พี่สาว บังเอิญจังเลยครับ!”
อารมณ์ของเฉียวเหวยอีเหมือนนั่งรถไฟเหาะ ในฝ่ามือมีเหงื่อเย็นออกมา พยายามรักษารอยยิ้ม พานักแสดงสาวเดินมาถึงด้านข้างรถ
นักแสดงสาวเป็นธรรมชาติที่จะไม่รู้จักซุ่ยซุ่ย ลี่เย่ถิงถึงแม้ว่าจะพาซุ่ยซุ่ยออกมา แต่คนที่ได้พบซุ่ยซุ่ยจริงๆมีไม่กี่คน ลี่เย่ถิงไม่มีทางให้รูปใบหน้าของซุ่ยซุ่ยปรากฏออกมาบนอินเทอร์เน็ต