ดวงตาของเขาเป็นประกายเล็กน้อย มือขวาของเขายกชายเสื้อขึ้นและเอนไปทางหลังของเธอ
เฉียวเหวยอีสังเกตเห็นการสัมผัสของเขา จึงกำลังจะผลักออก ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากฝ่ามือ เหมือนกับเป็นฝ่ามือทำความอุ่นของเด็กน้อย
เขาลูบหลังเธอเบา ๆ ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น จากนั้นเธอจึงไม่อยากจะสนใจมันอีกต่อไป
ช่วงนี้เธอต้องตื่นก่อนตี 4 ทุกวัน และกว่าจะได้นอนก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืน ทำให้เธอรู้สึกง่วงมากจริงๆ เฉียวเหวยอีนอนได้ครู่หนึ่งก็เริ่มฝืนความง่วงไม่ไหว
ฝ่ามือทำความอุ่นของซุ่ยซุ่ยที่ทิ้งไว้บนรถของเขานั้นมีประโยชน์จริง ๆ ด้วย
เมื่อลี่เย่ถิงเห็นว่าเฉียวเหวยอีเหนื่อยจนผล็อยหลับไป ดวงตาของเขาก็ฉายแววนุ่มนวล
เขาเพิ่งกลับมาในตอนบ่ายและได้ยินหลานซวี่บอกว่าช่วงนี้เฉียวเหวยอียุ่งมากและไม่มีโอกาสเซ็นสัญญากับเธอ เมื่อเขาเห็นชื่อเฉียวเหวยอีกับลู่ซวินปรากฏขึ้นในอินเทอร์เน็ต เขาจึงมาที่นี่ด้วยตนเอง
ระหว่างรอเธอ เขาได้ไปอยู่ที่หอประชุมของโรงเรียนเพื่อกล่าวปราศรัย จัดประชุม และสังเกตลู่ซวินกับเฉียวเหวยอีอยู่พักหนึ่ง
ได้รับการยืนยันว่าสื่อได้เขียนข่าวขึ้นตามอำเภอใจ
เมื่อคนในที่ประชุมประชุมได้ยินบทสนทนาของลี่เย่ถิงกับเฉียวเหวยอีจึงรีบกล่าวรายงานและสิ้นสุดการประชุมโดยเร็วที่สุด เพียงเพื่อไม่อยากรบกวนเวลาส่วนตัวของพวกเขาสองคน
เมื่อรถขับมาถึงคฤหาสน์ เฉียวเหวยอียังคงหลับอยู่เช่นเดิม
ลี่เย่ถิงปิดคอมพิวเตอร์ พลางหันศีรษะจ้องมองไปทางเฉียวเหวยอีที่กำลังหลับอยู่ และเฝ้าดูเงียบๆ อยู่ครู่หนึ่ง
“คุณชายครับ ทุกคนกำลังรออยู่ด้านบนครับ…” หลานซวี่ยืนอยู่นอกรถครู่หนึ่ง อดไม่ได้ที่จะกระซิบบอกกับลี่เย่ถิง
ลี่เย่ถิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และค่อยๆ อุ้มเฉียวเหวยอีออกจากรถ
ในสายตาของหลานซวี่ เขารู้สึกว่าพวกเขาเป็นเหมือนพ่อกับลูกสาว ลี่เย่ถิงคงไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเขาห่วงใยเฉียวเหวยอีมากแค่ไหน
ในคฤหาสน์ กลุ่มคนเฝ้าดูลี่เย่ถิงที่กำลังอุ้มเฉียวเหวยอีเดินผ่านและเข้าไปในห้องน้ำพุร้อน
ขณะที่ลี่เย่ถิงเข้ามาและปิดประตู หนึ่งในนั้นอดไม่ได้ที่จะกระซิบและถามว่า “คุณคิดว่าผู้หญิงคนนั้น… ดูคุ้น ๆ หรือเปล่า?”
คนอื่นต่างก็รู้สึกเช่นเดียวกัน
ซูหรูเยียนเดินออกมาจากอีกห้องพร้อมกับแก้วไวน์ และเห็นลี่เย่ถิงอุ้มเฉียวเหวยอีเดินเข้าไปในห้องวีไอพีด้วยความตกตะลึง
เพื่อนผู้หญิงหลายคนที่อยู่ข้างๆ ต่างมองมาที่ซูหรูเยียนอย่างไม่รู้ตัว และเห็นว่าใบหน้าของเธอนั้นซีดเซียว
ซูหรูเยียนรอลี่เย่ถิงมาเป็นเวลานาน และบอกพวกเขาว่าเขายังมีเรื่องต้องจัดการ และเขาอาจจะยุ่งนิดหน่อย
ใครจะไปรู้ว่ากำลังยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นอยู่
“เขากำลังอุ้มใครอยู่น่ะ?” ใครบางคนอดไม่ได้ที่จะถามเบาๆ “เย่ถิงสนิทกับหรูเยียนไม่ใช่เหรอ…”
“หยุดพูดเถอะ” อีกคนพูดแทรกขึ้นมา
เดิมพวกเขาคิดว่าลี่เย่ถิงกับซูหรูเยียนอาจจะมีโอกาสพัฒนาความสัมพันธ์กัน
ทุกคนในแวดวงเดียวกันรู้ดีว่าลี่เย่ถิงคิดยังไงกับเฉียวอีเหริน นักแสดงรุ่นเยาว์คนอื่นๆ ไม่ต้องพูดถึง ลี่เย่ถิงขึ้นชื่อว่าเป็นคนเย็นชาและไม่ลดตัวลงไปยุ่งกับคนประเภทนั้น
ทุกครั้งที่ซูหรูเยียนบอกว่าเธอไม่คุ้นเคยกับลี่เย่ถิง พวกเขาจะหัวเราะเยาะเธอ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า…
ซูหรูเยียนรู้สึกอับอายมากยิ่งขึ้น
เธอไม่รู้ว่าลี่เย่ถิงพาเฉียวเหวยอีมาที่นี่เพื่ออะไร? เพื่อทำให้เธออับอายงั้นเหรอ? เพื่อทำให้ทุกคนดูว่าไม่มีใครต้องการเธองั้นเหรอ?
ลี่เย่ถิงไม่เคยพาผู้หญิงมางานปาร์ตี้นี้มาก่อน !
หลังจากที่ซ่งเทียนเฉิงจากไป เธอก็มาแทนซ่งเทียนเฉิง หลี่เย่ถิงก็โสดเช่นกัน ปีที่แล้วทั้งคู่มาอยู่ด้วยกัน ทุกคนต่างคิดว่าเธอกับลี่เย่ถิงเป็นคู่รักกัน !
แต่ในคืนนี้เขากลับพาเฉียวเหวยอีมางานปาร์ตี้ นี่มันยิ่งกว่าการตบหน้าเธอเสียอีก !
เมื่อลี่เย่ถิงวางเฉียวเหวยอีลงที่เก้าอี้ไม้ เธอก็ตื่นขึ้นในทันใด