Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ – ตอนที่ 1693

ตอนที่ 1693

ตอนที่ 1693 ใครสั่ง?
“พวกมันคิดจะมาเอาเขาหน่วงเทพบรรพกาล?”

เย่หยวนนั้นไม่ได้แสดงสีหน้าท่าทางที่เปลี่ยนไปออกมาแม้แต่น้อย ตอนนี้เขายังดูใจเย็นได้อย่างถึงที่สุด

เขานั้นไม่เข้าใจแน่ชัดว่าเจ้าพันธะดาบทองคำนี้มันคืออะไร แต่เขารู้ว่าเมืองจักรพรรดิยอดสันตินั้นมาหาเรื่องพวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่า นอกไปเสียจากเขาหน่วงเทพบรรพกาลแล้วเขาก็นึกถึงความเป็นไปได้อื่นไม่ออก

โซชูเจียพยักหน้ารับ “พวกมันเปิดพันธะดาบทองคำและบอกข้อเรียกร้องมาว่าให้เราส่งเขาหน่วงเทพบรรพกาลไปให้! หากไม่ใช่เพราะเขาหน่วงเทพบรรพกาลเมืองจักรพรรดิยอดสันติเองก็คงไม่กล้าทำเรื่องราวถึงขั้นนี้”

แม้พวกเขาจะอยู่ภายใต้การปกครองของจักรพรรดิเทพสวรรค์เดียวกันแต่ความสัมพันธ์ของเหล่าเมืองจักรพรรดิทั้งหลายก็ไม่ได้ดีงามนัก

เมืองจักรพรรดินั้นต่างจากเมืองหลวง เพราะในด้านภูมิศาสตร์นั้นพวกเขาเหล่าเมืองจักรพรรดิจะตั้งอยู่ห่างไกลกันมาก มันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จักรพรรดิเทพสวรรค์จะปกครองดูแลเมืองจักรพรรดิในปกครองได้ทั้งหมด

เพราะฉะนั้นเหล่าเมืองจักรพรรดิทั้งหลายจึงมีความเป็นอิสระไม่น้อย

มันจึงทำให้เกิดเรื่องราวการปะทะระหองระแหงกันบ่อยๆ

แต่ไม่ว่าจะมีเหตุผลที่ดีแค่ไหน เวลาปกติแล้วมันก็จะไม่มีเรื่องอย่างว่าเมืองจักรพรรดิหนึ่งถล่มทำลายอีกเมืองจักรพรรดิลง

หากให้เทียบแล้วเมืองจักรพรรดิมันก็คงคล้ายๆ กับเมืองขึ้นดีๆ นี่เอง

การที่เมืองจักรพรรดิหนึ่งจะเข้ามาทำอะไรกับอีกเมืองจักรพรรดิได้นั้นพวกเขาต้องทำผ่านตราดาบทองคำกับอีกฝ่ายเท่านั้น

พันธะดาบทองคำที่เมืองจักรพรรดิยอดสันติใช้นั้นคือวิธีแรกของตราดาบทองคำ มันเรียกได้ว่าเป็นวิธีที่เน้นความสงบมากกว่า

นี่คือวิธีที่จะนำเบื้องบนของเมืองทั้งสองมาเข้าปะทะกัน และผู้แพ้ต้องส่งของที่ผู้ชนะร้องขอออกมาให้อีกฝ่ายอย่างไม่เว้น!

ส่วนวิธีการที่สองนั้นคือการทำลายดาบทองคำนี้ เพื่อเป็นการแสดงถึงการสู้จนตัวตายของทั้งสองฝ่าย

เมื่อถึงเวลานั้นเมืองจักรพรรดิทั้งสองจะเข้าสู่การทำสงครามทันที

เย่หยวนเริ่มเข้าใจถึงเจ้าพันธะดาบทองคำนี้และหันไปถามโซชูเจีย “ท่านเจ้าเมือง ท่านกับเจ้าเมืองของเมืองจักรพรรดิยอดสันตินั้นไม่ทราบว่าผู้ใดที่เหนือกว่ากัน?”

โซชูเจียหรี่ตาลงทันทีด้วยความตื่นตกใจในหัวใจ

หรือว่าเย่หยวนคนนี้จะคิดเสนอให้พวกเขาเสี่ยงชีวิตแลกความตายกับเมืองจักรพรรดิยอดสันติ?

เขาส่ายหัวออกมา “เย่หยวน ข้ารู้ว่าเจ้าคงไม่ยอมง่ายๆ แต่เมืองจักรพรรดิยอดสันตินั้นเป็นเมืองระดับกลางค่อนไปทางสูงในหมู่สิบเมืองสันเขาใต้ของเรา เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ของเราไม่มีทางใดที่จะต่อต้านพวกมันได้เลย ส่วนเรื่องของเฉียวอันชาน แม้ว่าเขาคนนั้นจะมีพลังบ่มเพาะเท่ากับข้า เป็นนักยุทธอาณาจักรนภาสวรรค์สองดาวเหมือนๆ กัน แต่เขา…เขานั้นอยู่บนจุดสูงสุดของระดับสองดาวแล้ว ข้านั้นไม่สามารถเทียบเคียงเขาได้”

เย่หยวนยิ้มตอบ “งั้นหาก…หากข้าให้ท่านยืมเขาหน่วงเทพบรรพกาลใช้ล่ะ?”

โซชูเจียสั่นสะท้านไปทั้งร่างเมื่อได้ยินและตอบออกมาอย่างดีอกดีใจ “หากข้ามีเขาหน่วงเทพบรรพกาลในมือข้ามั่นใจว่าอย่างน้อยๆ ข้าก็มีโอกาสชนะเจ็ดในสิบ!”

แต่ว่าเขาก็กลับมามีท่าทีหม่นหมองแทบจะทันที “ไม่ได้การหรอก เมืองจักรพรรดิยอดสันตินั้นมีนักยุทธอาณาจักรนภาสวรรค์ถึงสี่คน ต่อให้สามคนในนั้นจะเป็นแค่นักยุทธอาณาจักรนภาสวรรค์หนึ่งดาว แต่ลำพังแค่เหอชงคนเดียวมันก็ไม่มีทางรับมือได้เลย”

เย่หยวนผายมือออกมาแสดงให้เห็นเขาสีดำสนิท

“ท่านเจ้าเมือง เย่หยวนคนนี้ไม่ใช่คนขี้เหนียวขี้งก แต่เขาหน่วงเทพบรรพกาลนี้มันยังมีประโยชน์ต่อข้ามากมายนัก แต่มอบให้ท่านไปตอนนี้มันก็ไม่มีปัญหานัก สิบปีจากนี้ไป เขาหน่วงเทพบรรพกาลนี้จะขอมอบให้ท่านเจ้าเมืองดูแล ข้าหวังว่าท่านเจ้าเมืองจำใช้มันนำชัยมาสู่เมืองของเรา!”

พูดจบเย่หยวนก็ดันมือออกมาส่งเขาหน่วงเทพบรรพกาลลงบนมือของโซชูเจีย

โซชูเจียนั้นตื่นตกใจอย่างมาก เขาไม่นึกไม่ฝันว่าเย่หยวนจะมีน้ำใจงามเช่นนี้ เขายอมที่จะปล่อยให้เขายืมใช้เขาหน่วงเทพบรรพกาลโดยไม่ปริปากบ่นใดๆ

แต่ก่อนที่เขาจะทันได้หายตกใจ เย่หยวนก็นำเชือกสีทองเข้มออกมาอีกเส้น

โซชูเจียและเหอชงเปิดตากว้างทันที “เชือกมัดเซียน!”

เย่หยวนโยนเชือกมัดเซียนให้แก่เหอชงไปและพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ยอดผู้อาวุโส เชือกมัดเซียนนี้มันไม่เป็นประโยชน์ใดแก่ข้า ขอมอบมันให้แก่ท่าน”

ได้ยินแบบนั้นเหอชงก็ได้แต่นั่งนิ่ง

เขาไม่เคยคิดเคยฝันว่าตัวเองจะได้ครอบครองสมบัตินภาสวรรค์เลิศล้ำเข้าจนได้!

นี่คือสมบัตินภาสวรรค์เลิศล้ำ! แต่เย่หยวนจะมอบให้เขาแบบนี้เลยน่ะรึ?

“นี่…มัน…จริง…ให้ข้ารึ?” เหอชงยังคงมึนๆ งงๆ กับเรื่องราวตรงหน้าและถามขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อสายตา

เย่หยวนยิ้มตอบ “จะยังมาล้อเล่นได้อย่างไร? ต่อให้ข้ามียาวิเศษที่ไหนมาข้าก็ไม่มีทางกล้าล้อเล่นกับยอดผู้อาวุโสหรอก”

ได้เห็นสายตานั้นของเย่หยวน เหอชงก็มั่นใจว่าอีกฝ่ายไม่ได้พูดล้อเล่นแน่ๆ แล้ว

เหอชงนั้นหายใจเข้าลึกและบอกเย่หยวน “เอาล่ะ งั้นข้าจะไม่เกรงใจแล้ว! เย่หยวน หากเจ้ามีเรื่องอะไรต้องการในวันหน้าขอจงอย่าได้เกรงใจและมาบอกข้าได้เลย!”

เย่หยวนยิ้มออกมา “ต่อให้ยอดผู้อาวุโสท่านไม่บอก เย่หยวนคนนี้ก็มีเรื่องที่อยากจะไหว้วานท่านทั้งสองอยู่แล้ว”

โซชูเจียและเหอชงหันมองหน้ากันทันที พวกเขาทั้งสองต่างมีใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความตกใจ

ดูเหมือนว่าเย่หยวนคนนี้จะมีแผนรอคอยมาก่อนแล้ว!

เย่หยวนบอก “ในเวลาสิบปีนี้ ข้าอยากให้พวกท่านทั้งสองพยายามเก็บยาสมุนไพรระดับสี่กลับเมืองมาให้มาก ยิ่งเยอะยิ่งดี! ส่วนเรื่องพันธะดาบทองคำนั้นพวกท่านทั้งสองวางใจได้ พวกมันจะได้รู้ซึ้งในอีกไม่นาน!”

โซชูเจียและเหอชงรู้สึกได้ในตอนนี้ว่าโลกใบนี้มันไม่ได้เป็นโลกที่พวกเขารู้จักอีกต่อไปแล้ว

พวกเขามาเพื่อบอกให้เย่หยวนรีบหนี แต่เย่หยวนกลับตะโกนสวนมาว่า สู้!

จะบอกว่านักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าหนึ่งดาวคนหนึ่งนี้จะมาหยุดการแก่งแย่งของนักยุทธอาณาจักรนภาสวรรค์อย่างนั้นหรือ?

พอคิดดู คนทั้งสองก็ไม่อยากจะเชื่อ

ซวนอี้นั้นมีใบหน้าที่กังวลไม่น้อย “เย่หยวน มันเป็นเวลาแค่สิบปีเองนะ เจ้า…เจ้ามั่นใจหรือว่าจะหลอมโอสถยอดหยกโมฆะออกมาได้?”

“หะ? โอสถยอดหยกโมฆะ?”

แม้ว่าคนทั้งสองจะเป็นนักยุทธอาณาจักรนภาสวรรค์ไปแล้ว แต่ทั้งโซชูเจียและเหอชงต่างมีสภาพไม่ต่างจากเล่งหยูและคนอื่นๆ มาก่อน

โอสถยอดหยกโมฆะนั้นมันเป็นเรื่องที่ไกลเกินตัวพวกเขามาก

แต่ตอนนี้มันก็ทำให้คนทั้งสองเข้าใจแล้วว่าความมั่นใจของเย่หยวนมันมาจากที่ใด

เย่หยวนตอบ “ข้าเองก็ไม่แน่ใจ แต่ก็จะพยายามให้ถึงที่สุด! เพราะยังไงเสียการหนีมันก็ไม่ใช่ทางเลือก เมื่อมันคิดเปิดใช้พันธะดาบทองคำเช่นนี้แล้วมันก็หมายความว่าพวกมันจะมาหาเรื่องเรา ต่อให้ข้าหนีจากไป พวกมันก็คงไม่มีทางปล่อยเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ไปง่ายๆ แน่”

พูดจบเย่หยวนก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจังอย่างถึงที่สุด “ในเมื่อมันกล้าจะแหย่มือเข้ามา มันก็ต้องเตรียมตัวโดนกัดมือขาดไว้ด้วย!”

เย่หยวนนั้นไม่คิดที่จะออกไปไหนทั้งสิ้น เพราะตอนนี้เวลาใกล้ถึงสี่ร้อยปีได้ผ่านไปแล้ว อีกประมาณแค่ร้อยปีก็จะครบสัญญาห้าร้อยปี

หากออกไปตอนนี้และพลาดจากพวกลี่เอ้ออีก มันคงเกิดเรื่องราวไม่คาดฝันขึ้นมามากมายแน่

เย่หยวนนั้นตัดสินใจได้นานแล้วว่าในเมื่อมันเลี่ยงไม่ได้ ก็ต้องปะทะด้วยทุกอย่างที่มี!

เขาจะใช้พลังของตัวเองนี้เพื่อทำให้เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์กลายเป็นมหาอำนาจ!

ที่ฝั่งเมืองจักรพรรดิยอดสันติ เฉียวอันชานก็กำลังประชุมเหล่ายอดฝีมืออยู่ “ครานี้เราต้องเอาเขาหน่วงเทพบรรพกาลกลับมาให้ได้! หากคนเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์มันคุยไม่รู้เรื่องก็จงสังหารให้สิ้น!”

เหวินอี้หลินตอบ “เด็กชื่อเย่หยวนคนนี้มันหลบหนีภัยมาได้หลายต่อหลายครั้ง แต่ครั้งนี้เราจะไม่มีทางปล่อยให้มันหลุดรอดไปได้แน่!”

เฉียวอันชานบอก “ใจเย็น ข้าผู้นี้เตรียมวางตาข่ายดักไว้หมดแล้ว รอให้มันหนีออกมาเถอะ! ด้วยนิสัยขี้ขลาดอย่างโซชูเจีย หลังได้รับตราดาบทองคำมันจะต้องไล่ให้เย่หยวนหนีออกมาแน่ๆ”

เมื่อเหวินอี้หลินได้ยินเขาก็ยกมือขึ้นมาชื่นชมทันที “ท่านเจ้าเมืองช่างหลักแหลมคำนวณทุกสิ่งอย่างไว้หมด! เด็กน้อยเย่หยวนคนนี้มันคงเบื่อที่จะอยู่ต่อแล้วจึงได้กล้ามาแหย่รังเสือเช่นนี้! นอกจากมันจะสังหารเกาหยุนแล้วมันยังแย่งเขาหน่วงเทพบรรพกาลและเชือกมัดเซียนไปอีก หากมันไม่ตายชายแก่คนนี้ก็คงไม่มีทางสงบจิตสงบใจลงได้แน่!”

เฉียวอันชานยิ้ม “ใจเย็น คราวนี้แหละมันตายแน่! แล้วก็เจ้าไปเรียกหยางฟานมาด้วย ครานี้แหละข้าจะให้เขาได้แก้แค้นให้เกาหยุนจริงๆ!”

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ

Status: Ongoing
จักรพรรดิโอสถแห่งยุคได้ถูกก่อกบฏโดยผู้ทรยศ
ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา…แผ่นดินไร้ซึ่งนาม ฉิงหยุนซี และผู้ได้รับ แพรไหมหมื่นปี ก่อนที่จะสิ้นชีพลง….
กาลเวลาผ่านไป…เขาได้กลับมาอีกครั้ง ขณะที่ร่างกายเจ้าของคนเก่ากำลังเดินเล่นอยู่ใน สำนัก…
ข้าจะทลายสวรรค์ให้สิ้น…ด้วยโอสถในมือข้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท