“หล่อนมาหาเธอทำไม?หล่อนไม่ใช่มีตระกูลลี่หนุนหลังเหรอ?”ถังหยวนเป่าอดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วขึ้น
“ใครจะไปรู้ล่ะ”เฉียวเหวยอีพูดตอบอย่างไม่สนใจ
ถังหยวนเป่าหันหน้าสบตากับเฉียวเหวยอี“เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไร?”
“ใครจะไปรู้เธอล่ะ”เฉียวเหวยอีครุ่นคิดสักครู่ ก็พูดตอบ
“ไม่ใช่ ประโยคสุดท้ายที่เธอพูดกับหล่อน?”ถังหยวนเป่าขมวดคิ้วขึ้นพูดตอบ
“……คืนนี้เจอกัน?”
ถังหยวนเป่าชั่วพริบตาเดียวดวงตาก็เบิกกว้าง“เธอบ้าไปแล้วเหรอเฉียวเหวยอี!เธอคุ้มค่าที่จะไปเจอกับคนที่จะทำร้ายเธอเหรอ?เวลานี้นอนพักผ่อนอยู่ในห้องไม่ดีกว่าเหรอ?”
เฉียวเหวยอีไตร่ตรองเล็กน้อย ก็พูดตอบ“มีเหตุผล”
“แต่ว่าเฉียวอีเหรินพูดว่าอีกเดี๋ยวพวกเราเจอกันที่โรงแรมของกองถ่าย ไม่ใช่ฉันไปหาเธอ”
“ฉันอยากจะดูว่าเธอจะทำอะไรอีก! ปีศาจน้อยตัวนี้จะสามารถทำเรื่องอันตรายอะไรขึ้นมาอีก!”ถังหยวนเป่าพูดจบ นำชุดนักแสดงของเฉียวเหวยอียัดเข้าไปในถุงอย่างโหดเหี้ยม
……
ตอนเย็น เฉียวเหวยอีกินข้าวเย็นในกองถ่ายเสร็จ เธอกับถังหยวนเป่าทั้งสองคนไปซื้อผลไม้ที่ร้านขายผลไม้ เดินออกจากโรงแรม
“ที่นี่เปิดร้านผลไม้ได้กำไรมหาศาลจริงๆ ผลไม้แค่นี้ ก็ห้าสิบหยวนแล้ว”ถังหยวนเป่าถือเชอร์รี่ถุงเล็ก อดไม่ได้ที่จะบ่มพึมพำ
คิดมาถึงตรงนี้ ก็หันหน้าไปมองเฉียวเหวยอี“เธอคิดว่าไง เฉิน…เฉินอะไรโจวแล้วนะที่เป็นศาสตราจารย์ เปิดร้านไอศกรีมในโรงเรียน ก็ได้กำไรมหาศาลเหมือนกันใช่ไหม?”
“เฉินพัวโจว”เฉียวเหวยอีแก้ไขให้เธอ
“เฉินพัวโจว”ถังหยวนเป่าพูดตามอีกครั้ง
“ตอนนี้นักศึกษาก็เป็นลูกคนเดียว ค่าครองชีพก็เยอะ กินไอศกรีมแท่งเดียวก็ยี่สิบหยวนแล้ว เป็นธรรมชาติที่จะได้กำไรมหาศาล”เฉียวเหวยอีพูดตอบ
“พูดแบบนี้ เฉินพัวโจวก็รวยมากจริงๆ”ถังหยวนเป่าจับแขนเสื้อเฉียวเหวยอี ถือโอกาสถาม
เฉียวเหวยอีครุ่นคิดสักครู่ เวลาที่เธอขึ้นมัธยมก็พบกับเฉินพัวโจวหนึ่งครั้ง เฉินพัวโจวก็ขับรถของตัวเอง เธอจำได้ว่าดูเหมือนว่าจะเป็นสไตล์ออฟโรดของปอร์เช่ พูดว่าขับรถของพ่อ
แต่สมัยนั้นนักศึกษาขับรถไปโรงเรียนด้วยตัวเอง โดยทั่วไปก็อยู่เหนือระดับของครอบครัวที่มีฐานะระดับมาตรฐานแล้ว
“พ่อแม่เขาเก่งมาก เป็นศาสตราจารย์ที่ได้รับเงินเดือนสูง บริษัทภายนอกยังเชิญพวกเขาให้อยู่ในตำแหน่งที่ไม่ต้องเข้ามานั่งทำงานแค่มีชื่ออยู่ แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าครอบครัวเขารวยแค่ไหน”
เฉียวเหวยอีไม่มีทางถามเรื่องพวกนี้ เธอเข้าใจเฉินพัวโจวแค่นี้ ก็เป็นตอนเด็กที่ออกไปกินข้าวและเที่ยวกับพวกเขา ได้ยินพวกพูดคุยกัน
“ถึงอย่างไร ตระกูลเฉินไม่จนแน่นอน”
“เธอถามเรื่องนี้ทำไม?”เฉียวเหวยอีมองปราดถังหยวนเป่า สายตามีความสงสัย
“อ๋อ ก็คิดว่าร้านของเขาก็มีกำไรมหาศาล ฉันคิดว่าพวกเราก็สามารถเปิดร้านไก่ทอดและร้านชานมในฐานภาพยนตร์และโทรทัศน์ได้ด้วย ค้าขายดีแน่นอน”ถังหยวนเป่ามุ่ยปากพูด
“น่าสนใจ เงื่อนไขแรกคือต้องมีเงินล้านในมือจึงจะทำได้”เฉียวเหวยอีทิ้งความสงสัยลง และพูด“ไม่อย่างนั้นแม้แต่ค่าเช่าร้านชานมก็ไม่มี”
พูดคุยกันสักพัก จะเป็นร้านไก่ทอด? หรือร้านขนมปัง ก็ยังเป็นร้านชาไข่มุกที่ค่อนข้างคุ้มทุน ก็เดินมาถึงชั้นล่างโรงแรม
ถังหยวนเป่าเงยหน้าขึ้น มองเห็นเฉียวอีเหรินนั่งจิบชาอยู่ชั้นล่างใกล้หน้าต่าง ก็ยื่นมือออกไปสะกิดของเฉียวเหวยอีทันที พยายามใช้ปากชี้ไปทางเฉียวอีเหริน
ผู้หญิงสารเลวคนนี้มาเร็วจริงๆ
“เธอขึ้นไปชั้นบนก่อนเถอะ ฉันคุยกับหล่อนสองสามประโยคก็กลับแล้ว”เฉียวเหวยอีพูดเสียงเบากับถังหยวนเป่า