เฉียวเหวยอีได้ยินถังหยวนเป่าพูดแบบนี้ มองถังหยวนเป่า อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว“แพทย์แผนจีน?”
“ใช่”ถังหยวนเป่าพยักหน้า“เขาพูดว่ารู้สึกประหลาดใจ หลังจากที่แพทย์แผนจีนฝังเข็มให้เขา ท่วมตัวเขารู้สึกมีกำลังวังชามากขึ้น ครั้งนี้รู้สึกดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนที่รักษาในโรงพยาบาล”
เฉียวเหวยอีทันใดนั้นก็นึกถึงแพทย์แผนจีนที่ลี่เย่ถิงเชิญให้มาตรวจร่างกายเธอ
หรือว่าลี่เย่ถิงเรียกให้คนไปตรวจ?
เฉียวเหวยอีไตร่ตรองสักพัก พอดีกับที่พยาบาลเดินเข้ามาตรวจในห้อง“คุณพยาบาล ฉันสามารถลงจากเตียงไปเยี่ยมคนป่วยตึกอื่นได้ไหม?”
พยาบาลให้เฉียวเหวยอีวัดอุณหภูมิร่างกาย และพูด“ได้ค่ะ ให้เพื่อนคุณเข็นคุณนั่งรถเข็นไป”
ยังไงถังหยวนเป่าก็ว่างงาน มองไปทางเฉียวเหวยอี และพูด“ได้ หมอพูดว่าได้ก็ได้”
ถังหยวนเป่าเข็นเฉียวเหวยอี ไปถึงบริเวณใกล้ห้องผู้ป่วยของผู้อาวุโสเฉียว มองเห็นเด็กซนเดินผ่านไป อดไม่ได้ที่จะพูดกับเฉียวเหวยอี“เหวยอี เธอไม่คิดเหรอ ความจริงซุ่ยซุ่ยหน้าตาคล้ายคลึงกับเธอมาก?”
เวลาที่ถังหยวนเป่ามาที่ห้องผู้ป่วย พอดีที่เห็นซุ่ยซุ่ยตัวติดกับเฉียวเหวยอี ไม่ยอมไปโรงเรียน ถูกถังหยวนเป่าค้นพบแล้ว
ในเมื่อเฉียวเหวยอีจะจดทะเบียนสมรสกับลี่เย่ถิงแล้ว ก็พูดตรงไปตรงมา พูดว่าก่อนหน้านี้เธอยืมรถของถังหยวนเป่า ก็เพื่อไปรับไปส่งซุ่ยซุ่ยไปโรงเรียน
ถังหยวนเป่ามองซุ่ยซุ่ยหลายครั้ง ยิ่งรู้สึกว่า เด็กคนนี้ไม่เหมือนซูหรูเยียน แต่กลับเหมือนกับเฉียวเหวยอี
เป็นธรรมชาติ ที่เขาจะหน้าตาเหมือนลี่เย่ถิง
เฉียวเหวยอีอดไม่ได้ที่จะยิ้ม“อย่าพูดไร้สาระ เขาเป็นลูกของซูหรูเยียน จะหน้าตาเหมือนฉันได้ยังไง?”
ก่อนหน้านี้เฉียวเหวยอีได้ยินคนอื่นพูดว่าซุ่ยซุ่ยเหมือนเธอ ก็คิดว่าเป็นเรื่องล้อเล่น เธอไปรับเด็ก คนแปลกหน้าก็เข้าใจว่านี้เป็นลูกของเธอ
แต่ว่าคำพูดนี้ออกมาจากปากของถังหยวนเป่า เฉียวเหวยอีคิดว่าไม่มีเหตุผล
“อาจจะเป็นคนหน้าตาดีที่อยู่ในประเภทเดียวกัน”ถังหยวนเป่ามุ่ยปาก พูดบ่นพึมพำ
พูดจบ ก้มหน้ามองเฉียวเหวยอีหลายครั้ง ก็พูด“แต่ว่า ดูแบบนี้ เธอกับลี่เย่ถิงก็คล้ายกันมากเหมือนกันนะ ถ้าเธอกับเขาพูดว่าเธอทั้งสองคนเป็นพี่น้องกัน คนอื่นก็เชื่อ”
“ทั้งวันนี้ในสมองไม่รู้ว่าจะคิดเรื่องอะไรแล้ว!”เฉียวเหวยอีพูดแซวถังหยวนเป่า
ถังหยวนเป่าตอบอย่างจริงจัง“ฉันพูดกับเธอ นี้เป็นหลักฐานตามวิทยาศาสตร์ อย่างเช่นสองคนใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันนานแล้ว ลักษณะนิสัย ความ
ชอบในการกินอาหารทุกประเภทจะค่อนข้างใกล้เคียงกัน ในเวลานี้รูปลักษณ์ของคนสองคนนี้ก็จะค่อยๆเปลี่ยนไปเล็กน้อย…”
อีกมุมหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลมาก เฉียวอีเหรินในชุดสีขาวมองถังหยวนเป่ากับเฉียวเหวยอีทั้งสองคนเดินผ่านไป
คำพูดที่พวกเธอพูดกัน เธอได้ยินทั้งหมด
เดิมที เฉียวเหวยอีจนถึงตอนนี้ ยังไม่รู้ว่า ซุ่ยซุ่ยเป็นลูกของเธอ
น่าขำจริงๆ
แสดงให้เห็นว่าระหว่างลี่เย่ถิงกับเฉียวเหวยอี ยังเข้ากันไม่ได้ ความรู้สึกระหว่างทั้งสองคนยังคงมีปัญหา
“นี้ก็คือการชดใช้กรรม”เธอพูดเสียงเบากับซ่งชิงหรูที่อยู่ด้านหลัง
“แม่ แม่คิดว่าหนูพูดถูกไหม?หนูแค่สูญเสียขาข้างเดียว แต่ว่าเฉียวเหวยอีไม่มีวันได้รู้จักลูกของตัวเอง นี้ถึงจะเรียกว่าน่าเศร้า”
ขาของเฉียวอีเหรินถูกรถชนขาดแล้ว
หมอบอกว่า ไม่สามารถคืนสู่สภาพเดิม เธอก็แค่เป็นคนขาเป๋ตลอดชีวิต ไม่มีวิธีจะกลับไปแสดงละครได้
“ใช่”ซ่งชิงหรูสายตาเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น มองดูร่างของเฉียวเหวยอีเดินไปไกล นานมาก พยักหน้าพูดเสียงเบา“เธอต้องได้ชดใช้กรรมที่ยิ่งใหญ่แน่นอน”