เพียงครู่เดียวเท่านั้น ประตูก็ถูกพังทลาย
ถังหยวนเป่าจ้องไปยังลู่เจ๋อด้วยความตกใจ มองดูเขาถอยหลังสองก้าว ตั้งใจจะกระแทกเป็นครั้งที่สอง
เดิมทีถังหยวนเป่าคิดว่าประตูไม่น่าถูกพังด้วยแรงกระแทก แต่ด้วยพลังกำลังมหาศาลของชายคนนี้ ทำให้เธอได้เปิดโลกใหม่
ก่อนจะกระแทกครั้งที่สอง จู่ๆ ประตูตรงหน้าพวกเขาก็เปิดออก
เฉียวเหวยอีที่ห่อผ้าเช็ดตัวไว้ และมองดูลู่เจ๋อและถังหยวนเป่าที่ประตูด้วยความประหลาดใจ
ลู่เจ๋อขมวดคิ้วด้วยความกังวลเล็กน้อยภายใต้ดวงตาของเขา และเหลือบมองที่ข้อมือของเฉียวเหวยอีอย่างรวดเร็วเพื่อดูว่ามีร่องรอยของการทำร้ายตัวเองหลงเหลืออยู่บนร่างกายของเธอหรือไม่
ไม่มี ข้อมือของเธอนั้นสะอาดเช่นเดิม
เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก และใช้เวลาไม่กี่วินาทีก่อนที่เขาจะรู้ว่าตอนนี้ร่างของเฉียวเหวยอีถูกห่อไว้ด้วยผ้าเช็ดตัวเพียงผืนเดียว
ลู่เจ๋อได้ยินถังหยวนเป่าโวยวาย เขาคิดว่าเฉียวเหวยอีฆ่าตัวตายจึงรีบขึ้นมา
เขาเบือนหน้าหนีทันที
เฉียวเหวยอีกำลังอาบน้ำอยู่ ผลสืบเนื่องจากหูของเธอยังได้ยินไม่ชัดเจน เมื่อถังหยวนเป่าเริ่มทุบประตูเสียงดัง เธอถึงได้ยิน จากนั้นจึงรีบเอาผ้าเช็ดตัวมาห่อไว้และรีบมาเปิดประตูให้
ทั้งสามคนรู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างยิ่ง
เฉียวเหวยอีถอยหลังไปสองก้าวพลางใช้มือปิดหน้าอกของเธอไว้ การเชิญลู่เจ๋อเข้ามาในห้องตอนนี้คงจะไม่เหมาะสมสักเท่าไร
ถังหยวนเป่าเห็นว่าเฉียวเหวยอีสบายดี จึงเข้าไปในห้องและช่วยเธอปิดประตู
“เมื่อกี้ฉันกำลังอายน้ำอยู่ เธอคิดว่าฉันทำอะไร?” เฉียวเหวยอีลดเสียงลงและพูดกับถังหยวนเป่า
“คือฉัน…” ถังหยวนเป่าลังเล “เพราะฉันเป็นห่วงคุณยังไงล่ะ ! ฉันกลัวว่าคุณจะนึกถึงผู้ชายเฮงซวยนั่น !”
เฉียวเหวยอีชอบลี่เย่ถิงนั่นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่เธอไม่มีทางจะทำร้ายตัวเองเพื่อผู้ชายแน่นอน เมื่อก่อนไม่คิดที่จะทำ ตอนนี้เองก็เช่นกัน การมีชีวิตอยู่นั้นสำคัญยิ่งกว่าสิ่งใด
เฉียวเหวยอีกลับไปที่ห้องและรีบเปลี่ยนชุด จากนั้นถอนหายใจออกมาอย่างเหลืออด ถังหยวนเป่าทำเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้ไม่ใช่แค่สองสามครั้งแล้ว
เกือบทำให้ลู่เจ๋อเข้ามาเห็นเธออาบน้ำเสียแล้ว
“คนข้างนอกนั่นใครน่ะ” ถังหยวนเป่าอดไม่ได้ที่จะถาม
“พี่ชายของลี่เย่ถิง ลูกชายของป้าของเขา” เฉียวเหวยอีตอบเสียงต่ำว่า “ครั้งที่แล้วเขาเป็นคนรับแจ้งความให้ฉัน”
ไม่แปลกที่ถังหยวนเป่าคุ้นเคยกับใบหน้าของลู่เจ๋อ หลังจากครุ่นคิดถึงเรื่องนี้เป็นเวลานาน ดูเหมือนว่าเธอจะเคยหน้าของเขาสองครั้งในช่องข่าวท้องถิ่นและเขาก็เป็นตัวแทนของกองกำลังตำรวจด้วย
“ฉันคิดว่าผู้ชายคนนี้ดูน่าเชื่อถือกว่าอีก” ถังหยวนเป่ากระซิบถามเฉียวเหวยอี “ทำไมยีนของตระกูลฟู่ถึงดีขนาดนี้ล่ะ ? ทำไมถึงหล่อกว่าทุกคนเลยล่ะ ?”
เฉียวเหวยอีทึ่งเล็กน้อย “ถ้าเธอชอบ ให้ฉันแนะนำให้ไหม ?”
เฉียวเหวยอีไม่สามารถลงเอยกับลู่เจ๋อได้เพราะเขาเป็นพี่ชายของลี่เย่ถิง
“ไม่ดีกว่า” ถังหยวนเป่าส่ายหัวและตอบว่า “้ดูก็รู้ว่าเขาจะต้องมีรสนิยมสูงมากแน่ๆ”
ลู่เจ๋อได้ยินไม่ชัด ดูเหมือนถังหยวนเป่ากำลังด่าลี่เย่ถิงว่าผู้ชายเฮงซวยจึงขมวดคิ้วเล็กน้อย
หลังจากนั้นไม่กี่นาที ถังหยวนเป่าก็เปิดประตูจากด้านใน เมื่อเห็นว่าลู่เจ๋อยังคงรออยู่ที่ประตูโดยหันหลังให้ประตู เธอพูดกับลู่เจ๋อด้วยความเขินอายทันทีว่า “ขอโทษด้วยนะคะ เมื่อครู่ฉันตื่นตระหนกจนเกินไป ”
ลู่เจ๋อมองย้อนกลับไปและเห็นว่าเฉียวเหวยอีที่แต่งตัวเรียบร้อย เขากระซิบตอบ “เหวยอีไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว”
เฉียวเหวยอีคิดถึงฉากที่น่าอายเมื่อครู่ ทำให้เธอรู้สึกอับอาย เธอมองไปที่ลู่เจ๋อ จากนั้นเปลี่ยนเรื่องและถามเขาว่า “พี่ลู่ วันนี้พี่มาที่นี่ทำไมเหรอคะ?”