ดาราที่ทรงอิทธิพลที่สุดของโกลบอลกรุ๊ปในตอนนี้คือลู๋ซวิน ซึ่งเป็นกระแสมากในตอนนี้
ถ้าเขามีความรักขึ้นมา และทำร้ายจิตใจของเหล่าแฟนคลับ โกลบอลกรุ๊ปจะหาเงินได้อย่างไร?
ซ่งหยวนต้องคุยกับถังอี้เกี่ยวกับเรื่องนี้
เขานึกในใจแล้วหันศีรษะไปเคาะประตูอีกครั้ง “เหวยอี คุณอยู่เปล่า?”
“อยู่ค่ะ” คราวนี้ผ่านไปไม่กี่วินาที ก็มีเสียงเฉียวเหวยอีดังขึ้นจากข้างใน
เมื่อซ่งหยวนและคนอื่น ๆ เข้ามา การแสดงออกของเฉียวเหวยอีก็ดูผิดธรรมชาติเล็กน้อย ขณะที่วางชามและตะเกียบในมือลง พวกเขารู้สึกประหลาดใจและพูดว่า “พวกคุณมาที่นี่ได้ยังไง? ทำไมถึงไม่บอกฉันก่อนล่ะ?”
“เพราะอยากจะทำให้คุณรู้สึกเซอร์ไพรส์ยังไงล่ะ !” ซ่งหยวนเรียกให้คนเอาของขวัญมาวางให้กับเฉียวเหวยอี ขณะที่พูดคุยกับเธอ
แปลกใจแต่ไม่มีความสุข
เฉียวเหวยอีคิดในใจและเหลือบมองไปยังห้องน้ำโดยไม่รู้ตัว
“สำหรับเรื่องกองถ่าย ไม่ต้องห่วงนะยังไงซะคุณไม่ได้มีหลายฉากที่ต้องถ่ายทำ ดังนั้นฉันจะถ่ายพวกเขาก่อน และรอจนกว่าคุณจะออกจากโรงพยาบาลแล้วค่อยถ่ายทำฉากที่เหลือ” ซ่งหยวนกล่าวกับเธอ
ขณะพูด เขาเหลือบไปที่โต๊ะของเฉียวเหวยอีแล้วพูดว่า “เพิ่งกินอาหารเย็นเหรอ?”
“อืม ครอบครัวส่งมาช้าน่ะ” เฉียวเหวยอีที่ได้ยินซ่งหยวนถาม ความกังวลใจของเธอก็พุ่งสูงขึ้นทันทีพลางยิ้มและตอบ
“ตะเกียบมีอยู่สองชุด ทำไมคุณกินไปครึ่งเดียวแล้วไม่กินต่อล่ะ” ซ่งหยวนถามต่อด้วยความสงสัย
เฉียวเหวยอีขยิบตาให้ซ่งหยวนอย่างลับๆ ถ้าเขายังไล่บี้ถามเธออย่างนี้ต่อไป เธอจะไปต่อไม่ถูกแล้ว!
“คุณป้าที่บ้านค่ะ กินไปได้ครึ่งหนึ่งแล้วรู้สึกปวดท้องก็เลยไปเข้าห้องน้ำค่ะ” เฉียวเหวยอีตอบพร้อมกับกัดฟันกรอด
ซ่งหยวนและเฉียวเหวยอีมองหน้ากัน จากนั้นพวกเขาก็เปลี่ยนหัวข้อการสนทนาเป็นเกี่ยวกับการถ่ายทำของทีมงาน
ขณะสนทนา ทีมงานอีกคนก็สงสัยในทันทีและถามว่า “ท่านประธานถังบอกว่าเขาจะมาเร็วๆ นี้ไม่ใช่เหรอ? ทำไมเขายังไม่มาอีกล่ะ?”
“ท่านประธานถังบอกว่าเขาจะมาที่นี่หลังจากเลิกงาน บางทีวันนี้เขาอาจจะยุ่งนิดหน่อยล่ะมั้ง” ซ่งหยวนตอบอย่างเรียบๆ
“ตูม !” จู่ ๆ ก็มีเสียงดังมาจากห้องน้ำ
ทุกคนรวมทั้งเฉียวเหวยอีเงียบไปชั่วขณะ และมองไปที่นั่น
ซ่งหยวนตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติ และกลืนน้ำลายอย่างระมัดระวัง รู้สึกประหม่าเล็กน้อย
คนในห้องน้ำอาจจะเป็นลี่เย่ถิงสินะ?
เฉียวเหวยอีรู้สึกร้อนรน เมื่อเธอคิดถึงตอนที่ลี่เย่ถิงหึงหวงเธอในเรื่องถังอี้
แม้ว่าเธอจะอธิบายหลายครั้งว่าเธอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับถังอี้ แต่ก็ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลถังกับเธอนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะตัดขาดกัน เมื่อลี่เย่ถิงเห็นว่าเธอติดต่อกับตระกูลถังอยู่เสมอทำให้มีพิรุธมากขึ้น
ผ่านไปไม่กี่วินาที เฉียวเหวยอีก็ถามไปทางห้องน้ำว่า “แม่บ้านเฉิน เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ? ไม่มีกระดาษเหรอ?”
ไม่มีใครตอบกลับมา
ภายในห้องเงียบกริบยิ่งกว่าเดิม
“อืม” หลังจากผ่านไปนาน ก็มีเสียงตอบกลับมาอย่างแผ่วเบา
เฉียวเหวยอีฟังคำตอบของลี่เย่ถิงซึ่งเห็นได้ชัดว่ากำลังบีบเสียงให้เล็กที่สุด เธอพยายามกลั้นรอยยิ้มา ยกผ้าห่มขึ้และลุกจากเตียงอย่างยากลำบาก “ฉันจะส่งให้ค่ะ……”
ทีมงานหญิงด้านข้างเห็นว่าขาของเฉียวเหวยอียังอยู่ในเฝือก เธอจึงก้าวไปข้างหน้าทันทีและพูดว่า “ฉันจะส่งให้เธอเองค่ะ !”
เฉียวเหวยอีบีบกระดาษทิชชู่ในมือ ยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ต้องค่ะ ! เดี๋ยวฉันไปส่งเอง ! คุณป้าของฉันขี้อายมาก เรื่องส่วนตัวแบบนี้ปล่อยให้ฉันจัดการเองดีกว่าค่ะ”