“นั่นสิ บอกเขาสักหน่อยเถอะ” ถังหยวนเป่ากล่าวกับอู๋โยวอย่างเห็นด้วย
เธอกังวลว่าร่างกายของเฉียวเหวยอีจะทนไม่ไหว
“งั้นนายก็บอกเขาสิ” เฉียวเหวยอีวางกระเป๋าในมือลงแล้วตอบโดยไม่แสดงสีหน้าใด ๆ
ถ้าหากลี่เย่ถิงไม่ยอมให้เธอไป เธอก็อาจจะเปลี่ยนใจ แต่ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้แล้วเขาไม่สนใจเธอเลยด้วยซ้ำ
อู๋โยวรีบเดินไปด้านข้างและกดโทรหาลี่เย่ถิงในทันที
ใช้เวลาเกือบครึ่งนาทีก่อนที่ลี่เย่ถิงจะรับสาย
เขาก้มศีรษะและพูดกับลี่เย่ถิงว่า “คุณชายครับ คุณหนูกำลังจะออกจากโรงพยาบาลก่อนเวลาอันควร ท่าน…”
“แล้วแต่เธอ” ก่อนที่เขาจะพูดจบ ลี่เย่ถิงก็ตอบอย่างเย็นชา
คราวนี้เฉียวเหวยอีได้ยินส่งที่ลี่เย่ถิงพูดอย่างชัดเจน
เธอถือกระเป๋าเดินออกไปโดยไม่พูดอะไร
ถังหยวนเป่าไม่รู้ว่าจะโน้มน้าวเธออย่างไร จึงทำได้เพียงถือของวิ่งตามเฉียวเหวยอีไป
“ผู้ชายเฮงซวย ! บ้าที่สุด !” เธออดที่จะโกรธแทนเฉียวเหวยอีไม่ได้ และอดไม่ได้ที่จะสาปแช่งอย่างโหดร้ายด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา
“…” ลี่เย่ถิงยังไม่ได้วางสาย อู๋โยวรีบปิดไมโครโฟนทันที
ถังหยวนเป่ายังคงรู้สึกรำคาญ ไม่ว่าเธอจะเดินไปไกลแค่ไหน และยิ่งเธอคิดเกี่ยวกับมันมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น เธอออกจากลิฟต์และพูดกับเฉียวเหวยอีว่า “ถ้ารู้แบบนี้ คุณน่าจะคบกับคุณลุงหรือไม่ก็ถังอี้ยังจะดีกว่าอีก !”
เฉียวเหวยอียิ้มแล้วพูดว่า “คุณลุงของเธอมีผู้หญิงมากกว่าอีกไม่ใช่เหรอ?”
ถังหยวนเป่าคิดตาม ก็จริง ดูเหมือนว่าถังเซียวจะมีผู้หญิงมากมาย
หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็พูดอย่างชั่วร้ายว่า “ผู้ชายนี่มันแย่จริง ๆ !”
เฉียวเหวยอีมีหน้าตาที่สะสวย มีความสามารถ และรักอิสระและเต็มใจที่จะเป็นแม่เลี้ยง ผู้หญิงที่ดี ขนาดถังหยวนเป่าเองยังรู้สึกชอบ ไม่ต้องพูดถึงพวกผู้ชายคนอื่น ๆ
เธอรู้สึกว่าลี่เย่ถิงไม่เพียงแต่มีปัญหาทางสายตาเท่านั้น แต่เขามันตาบอดเลยแหละ !
“ลี่เย่ถิงน่ะตาบอด ! รีบเลิก ๆ ไปเถอะ !” เธอเลิกคิ้วขึ้นและสาปแช่งอีกครั้ง
“ใช่ ฉันก็คิดว่าเขาตาบอด” เฉียวเหวยอีทำท่าทางเห็นด้วย
ไม่ไกลนัก ข้างหลังพวกเธอ ลี่เย่ถิงเดินออกมาจากลิฟต์
เขาได้ฟังการสนทนาระหว่างเฉียวเหวยอีกับถังหยวนเป่าเมื่อครู่ และการแสดงออกของเขาก็มืดมนและน่าเกลียด
“ตามเธอไป” เขาหยุดอยู่ที่เดิม มองดูเฉียวเหวยอีขึ้นรถของถังหยวนเป่า และพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นกับอู๋โยวที่ยืนอยู่ด้านหลังเขา
…
เฉียวเหวยอีกลับมายังโรงแรมที่กองถ่ายกับถังหยวนเป่า แล้วอยู่พักฟื้นเป็นเวลาสองวันโดยไม่ออกไปไหน
ถังหยวนเป่ารู้ดีว่าเฉียวเหวยอีอารมณ์ไม่ดี ดังนั้นเธอจึงไม่รบกวน ถึงแม้ปากจะเอาแต่สาปแช่งแต่เธอก็รู้ดีว่าเฉียวเหวยอีนั้นชอบลี่เย่ถิง
เช้าวันที่สาม เฉียวเหวยอีไม่ได้ตั้งใจจะออกไปข้างนอก แต่ถังหยวนเป่าเคาะประตูแล้วพูดว่า “เหวยอี วันนี้พวกเราออกไปกินข้าวข้างนอกกันไหม? คราวที่แล้วอยากกินซาซิมิใช่ไหม? ครั้งนี้ฉันจะเลี้ยงเอง ดีไหม? แพงแค่ไหนฉันก็จะเลี้ยง !”
เฉียวเหวยอีที่อยู่ด้านในนิ่งเงียบ ไม่ตอบอะไร
ถังหยวนเป่ารอสักครู่ รู้สึกกังวลเล็กน้อย เธอกลัวว่าเฉียวเหวยอีคิดจะทำสิ่งที่โง่เขลา
“เหวยอี ช่วยเปิดประตูหน่อยได้ไหม ?” เธอนึกถึงฉากผู้หญิงโง่ ๆ ที่ฆ่าตัวตายในอ่างอาบน้ำ
“มีอะไรก็ค่อย ๆ พูดเถอะ ก็แค่ผู้ชายคนหนึ่ง ไม่ได้มีความหมายอะไรมากมาย !”
ถังหยวนเป่าเคาะประตูเสียงดังจนไม่ได้ยินว่ามีคนเดินมาด้านหลังเธอ
ก่อนที่เธอจะทันได้ตอบโต้ จู่ๆ ก็มีมือหนึ่งดึงคือเสื้อเธอและเหวี่ยงเธอไปด้านข้างอย่างแรง
ถังหยวนเป่าตกตะลึง เมื่อมองเห็นดูชายที่ปรากฏขึ้นและกำลังกระแทกประตูเพื่อเข้าไปด้านใน