“เย่ถิง… เย่ถิง รีบหนีไป…” เฉียวอีเหรินนอนพึมพำด้วยสีหน้าซีดเซียวอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล
ลี่เย่ถิงที่นั่งบนโซฟาใกล้ปลายเตียง จ้องมองไปที่เธออย่างเงียบ ๆ
จู่ๆ เฉียวอีเหรินก็ตื่นขึ้นโดยไม่คาดคิด ลืมตาขึ้นและอ้าปากค้าง
ลี่เย่ถิงลุกขึ้น เดินช้าๆ ไปที่เตียง และจ้องมองเธออย่างเงียบๆ
ดวงตาของเธอค่อย ๆ ลืมขึ้นและมองเห็นลี่เย่ถิงอยู่ข้าง ๆ
“เย่ถิง ฉันคิดว่าจะได้เจอคุณอีกแล้ว !” เธอเอื้อมมือออกไปจับมือลี่เย่ถิงอย่างแรงด้วยความห่วงใย
“ไม่เป็นอะไรแล้ว” ลี่เย่ถิงตอบด้วยเสียงต่ำ มองดูเธอที่ตัวสั่นเทาด้วยความกลัว
“คุณไม่ได้บาดเจ็บตรงไหนใช่ไหม?” เฉียวอีเหรินมองไปรอบ ๆ ตัวลี่เย่ถิงและถามเขาอย่างกระตือรือร้น
ลี่เย่ถิงเหลือบมองเฉียวอีเหรินที่กุมมือเขาไว้ พิจารณาอยู่ครู่หนึ่งและในที่สุดก็ไม่สะบัดมันออกไป
“คุณทำให้ฉันกลัวแทบตาย…” หลังจากนั้นไม่นาน เฉียวอีเหรินก็ร้องไห้ออกมาเบาๆ “โชคดีที่คุณนัดฉันไว้ ฉันรอคุณนานกว่าชั่วโมงแต่คุณไม่มา…”
ลี่เย่ถิงจ้องมองเธออย่างเงียบ ๆ โดยไม่ส่งเสียง
เมื่อคืนเขาตั้งใจว่าจะไปหาเฉียวอีเหรินสักสองสามนาที เขาจะบอกเธอว่าอย่าทำตามในสิ่งที่ลี่จื่อจิ้งบอก
อันที่จริงหากเฉียวอีเหรินไม่ปรากฏตัวมาพร้อมกับอู๋โยว เขายังสามารถล่าถอยได้
การที่เฉียวอีเหรินมาบังกระสุนให้เขานั้นเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นอย่างยิ่ง
แต่ยังไงซะมันก็เกิดขึ้นแล้ว
เขาพักอยู่กับเฉียวอีเหรินชั่วขณะหนึ่ง และเมื่อหมอได้ยินว่าเฉียวอีเหรินฟื้นแล้วจึงเข้ามาตรวจร่างกาย
ลี่เย่ถิงเดินออกไปอย่างเงียบๆ ขอโทรศัพท์ของผู้คุ้มกันและโทรออกหาลู่เจ๋อ
“พี่ นี่ผมเอง ตรวจสอบเจออะไรบ้างครับ?” เขาถามเสียงต่ำ
เขากำลังสงสัยว่าเฉียวอีเหรินเป็นคนว่าจ้างคนเหล่านั้นหรือไม่
“มันค่อนข้างยุ่งยาก คนพวกนี้ทั้งหมดอยู่ต่างประเทศ” ลู่เจ๋อตอบเสียงต่ำ “ฉันกำลังพยายามหาวิธีติดต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติของทางด้านนั้น”
“ต่างประเทศเหรอ?” ลี่เย่ถิิงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ใช่ ส่วนใหญ่มาจากประเทศ B” ลู่เจ๋อหยุดและตอบ
ประเทศ B ช่างเป็นเรื่องบังเอิญจริง ๆ นะ
ใบหน้าของลี่เย่ถิงเริ่มมืดมน
“ถ้ามีความคืบหน้า ฉันจะบอกนายทันที” ดูเหมือนว่าลู่เจ๋อจะยุ่งมาก และหลังจากนั้นไม่กี่คำ เขาก็วางสายอย่างเร่งรีบ
ลี่เย่ถิงเงียบอยู่นาน จากนั้นจึงโทรหาเหลาอู่ “ตรวจสอบประวัติของกู้หลิงเฟิงโดยเร็วที่สุด !”
กล้าดียังไงถึงจ้างนักฆ่ามาลอบสังหารเขา !
คนเหล่านี้คงติดตามเฉียวเหวยอีมาเมื่อคืนนี้
…
ถังหยวนเป่าเข้ามาช่วยเฉียวเหวยอีเก็บข้าวของ และอดไม่ได้ที่จะแอบมองเธออย่างลับๆ
ผ่านไปครู่หนึ่งจึงถามเธอด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “คุณจะออกจากโรงพยายามก่อนกำหนด ลี่เย่ถิงรู้หรือเปล่า?”
“รู้แล้วยังไงต่อเหรอ?” เฉียวเหวยอีแค่นยิ้ม
ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุจนถึงตอนนี้ ลี่เย่ถิงมาหาเธอหนึ่งครั้งในตอนเช้าของเมื่อวาน และไม่เคยสนใจเธออีกเลย
เธอไม่รู้ว่าเธอทำอะไรผิด ไม่ว่าเขาจะตั้งใจลงโทษเธอหรือไม่
ถึงกระนั้น เฉียวอีเหรินมีความหมายกับลี่เย่ถิงมากกว่าเธอ
ถ้าเฉียวอีเหรินสำคัญกว่า เธอก็จะถอนตัวและจะไม่หน้าด้านรบกวนเขาต่อไปอีก
“พวกคุณทะเลาะกันเหรอ?” ถังหยวนเป่าเหลือบมองเธอแล้วถามเธออย่างระมัดระวัง
“มันไม่ใช่การทะเลาะกัน” เฉียวเหวยอีตอบหลังจากครุ่นคิด
เธอกับลี่เย่ถิงทะเลาะกันรุนแรงกว่าเมื่อคืนก่อน แต่คราวนี้มันเกี่ยวข้องกับเฉียวอีเหริน
อู๋โยวยืนอยู่ที่ประตู ใบหน้าของเขากังวลเล็กน้อย แต่เขาไม่รู้ว่าจะเกลี้ยกล่อมเฉียวเหวยอีได้อย่างไร
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็เอื้อมมือออกไปจับกระเป๋าของเฉียวเหวยอีไว้และกล่าวว่า “คุณหนูครับ ให้ผมรายงานกับคุณชายก่อนเถอะครับ คุณหนูยังบาดเจ็บอยู่ จะไปได้ยังไง”