เฉียวเหวยอีเข้าใจดีว่าทำไมเฉียวอีเหรินพูดโกหก
เฉียวอีเหรินอยากนำคุณงามความดีทั้งหมดที่ช่วยชีวิตลี่เย่ถิง ยึดไว้บนตัวเอง แบบนี้ลี่เย่ถิงกับตระกูลลี่ก็จะซาบซึ้งใจกับเธอ
เธอก็ดูออกว่า ลู่เจ๋อรู้ว่าเฉียวอีเหรินกำลังพูดโกหก เพราะว่าบนภาพลู่เจ๋อทำลูกสอนชี้ไปที่ทิศทางรถของลี่เย่ถิงโดยตรง ตอนนั้นบนรถมีแค่เฉียวเหวยอีคนเดียว
ลู่เจ๋อรู้ว่าเธอเป็นคนทำ
ความคิดเล็กน้อยของเฉียวอีเหริน เกรงว่าลู่เจ๋อก็สามารถเดาออก จึงตั้งใจนำรูปนี้ให้เธอดู
“หล่อนพูดอะไรก็พูดเถอะ”เธอเงียบไม่พูดจานานมาก ค่อยๆหัวเราะเยาะ พูดตอบเสียงต่ำ
“ฉันคิดว่าหล่อนกำลังโกหก”ลู่เจ๋อพูดให้เข้าใจชัดเจน
เฉียวเหวยอีจัดการอารมณ์เงียบๆ พูดตอบเสียงต่ำ“ฉันดูไม่ออก”
ถ้าหากเธอพูดตรงไปตรงมากับลู่เจ๋อ ฐานะจริงของเธอก็ต้องถูกเปิดเผยออกมา เธอมีฝีมือการยิงปืนขนาดนี้ ใครก็คิดว่าไม่ปกติ
ลู่เจ๋อถอนหายใจเบาๆ ไม่ถามเฉียวเหวยอีกต่อไป
เฉียวเหวยอีไม่อยากยอมรับ บางทีเธอมีความลำบากใจ
ระหว่างทางที่ทั้งสองคนกลับไปสถานีตำรวจ พอดีกับที่ผ่านโรงพยาบาล เฉียวเหวยอีมองไปที่ตึกสูงในแผนกผู้ป่วยที่ไกล สายตามีความเย็นชา
รถผ่านประตูใหญ่โรงพยาบาล เฉียวเหวยอีเปิดปากพูดถามกะทันหัน“พี่ลู่ จอดก่อนได้ไหม?”
ลู่เจ๋อจอดข้างถนนทันที หันหน้ากลับไปมองเฉียวเหวยอี“มีอะไร?”
เฉียวเหวยอียิ้มให้เขาเงียบๆ“ฉันเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าโรงพยาบาลเรียกให้ฉันมาตรวจร่างกายอีกรอบ ฉันเข้าไป รอฉันสักพักได้ไหม?”
ลู่เจ๋อกับเธอสบตากัน พยักหน้าและพูด“ได้”
เฉียวเหวยอีเปิดประตูรถอย่างสงบนิ่ง ลงจากรถอย่างไม่สะทกสะท้าน เดินตรงเข้าไปที่ประตูใหญ่ของโรงพยาบาล
ลู่เจ๋อจ้องมองแผ่นหลังของเธอสักพัก ปลดเข็มขัดนิรภัยออก ล็อกประตูรถเดินตามเข้าไปทันที
……
เฉียวเหวยอียิ่งเดินเร็วขึ้น เข้าไปลิฟต์ กดชั้นที่เฉียวอีเหรินพักอยู่ในห้องผู้ป่วย
เธอเดินมาถึงหน้าประตูห้องผู้ป่วย ได้ยินเฉียวอีเหรินกำลังหัวเราะเยาะอยู่ข้างใน “…ฉันช่วยชีวิตของลี่เย่ถิงอีกครั้ง หลังจากนี้เขาจะไม่ดีกับฉันได้ยังไงล่ะ?ผู้อาวุโสยังวางแผนรอให้ฉันออกจากโรงพยาบาลเดือนหน้า ก็จะเตรียมเรื่องการแต่งงานให้ฉันกับลี่เย่ถิง”
“เฉียวเหวยอี?อย่างมากที่สุดหล่อนเป็นได้แค่เมียเก็บของลี่เย่ถิงเท่านั้นเอง หล่อนมีความหยิ่งในศักดิ์ศรีแข็งแกร่งขนาดนั้น จะเป็นไปได้ยังไง…”
เฉียวเหวยอีทีบประตูห้องผู้ป่วยออก
ประตูกระแทกกับกำแพงอย่างรุนแรง สปริงดีดตัวเปิดออก
เฉียวอีเหรินกับซ่งชิงหรูที่อยู่ในห้องก็ตกใจจนท่วมตัวสั่นเทา มองเฉียวเหวยอีที่ปรากฏตัวอยู่ในโรงพยาบาลด้วยความประหลาดใจ
“เธอพูดอีกครั้ง ลี่เย่ถิงเป็นเธอที่ช่วยชีวิต”เฉียวเหวยอีหรี่ตามอง พูดกับเธอเสียงหนักแน่น
“ไม่ใช่ฉันหรือว่าจะเป็นเธอล่ะ?”เฉียวอีเหรินตกใจจนเต้นรัว ค่อยๆสูดลมหายใจเข้า มีเหตุผลที่จะพูดได้เต็มปาก
เฉียวเหวยอีอดไม่ได้ที่จะกระตุกยิ้มมุมปาก ก้าวเดินเข้าไป
“แกจะทำอะไร?”ซ่งชิงหรูลุกขึ้นยืนขวางเฉียวเหวยอีไว้ด้านหน้า“ที่นี่ไม่ต้อนรับแก!”
เฉียวเหวยอีดึงแขนเสื้อของซ่งชิงหรูเบาๆ นำเธอดึงไปด้านข้าง
ซ่งชิงหรูควบคุมขาตัวเองไม่ได้ก็ล้มลงบนพื้น นานมากก็ปืนขึ้นมาไม่ได้
“ใช่เหรอ?เธอช่วยชีวิต?”เฉียวเหวยอีเดินไปถึงด้านข้างเตียง บีบปากของเฉียวอีเหรินอย่างแรง
เฉียวอีเหรินเจ็บจนร้องตะโกนขึ้นมา ใช้มือปิดกั้นหน้าของตัวเองโดยไม่รู้ตัว
“เย่ถิง!!!”
เฉียวเหวยอีจ้องมองใบหน้าที่ทำให้เธอรู้สะอิดสะเอียน กัดฟันพูดเสียงหนักแน่น“วันนี้ต่อให้เป็นพระเจ้ามา!ฉันปล่อยเธอ ฉันเฉียวเหวยอีสามคำนี้ก็อย่าเรียกชื่อนี้อีก!”
เธอใช้มือดึงผมของเฉียวอีเหรินไว้ จับไว้แน่น นำเฉียวอีเหรินยกขึ้นมาจากเตียงอย่างโหดเหี้ยม
“เย่ถิงช่วยฉันด้วย!!!”เฉียวอีเหรินเจ็บจนร้องไห้ขึ้นมาอย่างเวทนา