เก่าไห่หรี่ตาลงเล็กน้อย ” เรื่องนี้ไม่อาจจะบอกได้ ” พอพูดจบเขาก็โบกมือไปมา
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ด้านหลังก็เข้าควบคุมตัวเกาเหวิน
เย่หลินได้รับข้อความจากหนิงเส่าเฉินในตอนกลางคืน เธอดูวิดีโอที่เกาเหวินเผยใบหน้าที่แท้จริงของเธอออกมาให้เห็น เธอรู้สึกโล่งอก ในที่สุดโลกของเธอจะได้สงบสุขสักที
” ที่รัก พรุ่งนี้ผมจะไปรับพวกคุณกลับบ้านนะ หลังจากกลับมาบ้านผมจะมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้คุณนะ ”
” เรื่องพิธีแต่งงานไม่ต้องจัดนะ ขอแค่สถานะตามกฎหมายก็พอแล้ว ”
จากนั้นทั้งสองก็พูดคุยกันอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะวางสายไปด้วยความอาลัยอาวรณ์
เดิมทีเพราะเวลาตามสถานที่ที่เปลี่ยนไป เย่หลินมักจะมีอาการนอนไม่หลับอยู่แล้ว พอตอนนี้รู้ว่าเกาเหวินโดนจับแล้ว เรื่องราวที่อยู่ในใจมานานหลายปีก็จบลงสักที ตอนนี้เธอรู้สึกตื่นเต้นมากเลยทำให้เธอไม่รู้สึกง่วงเลยสักนิด
เพราะว่าแม่หนิงสั่งเอาไว้ เธอจึงไม่ได้บอกเรื่องนิสัยที่เปลี่ยนไปของพ่อหนิงให้หนิงเส่าเฉินทราบ
ต่อมา เธอก็เริ่มรู้สึกง่วงนอนอย่างสะลืมสะลือ ทันใดนั้น เธอก็ได้ยินเหมือนมีคนกำลังพูดอะไรบางอย่าง เธอจึงลุกขึ้นนั่งและตั้งใจฟัง นั่นเป็นเสียงของแม่หนิง
เมื่อมองดูเวลา ตอนนี้เวลาตีสามแล้ว
เธอลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนจะลุกออกจากเตียง
เธอลงมาจากชั้นบน เธอก็ได้ยินเสียงพ่อหนิงกำลังอาละวาดอยู่ ไม่รู้ว่าเขาพูดอะไร ส่วนแม่หนิงนั้นร้องไห้สะอึกสะอื้น
ทันใดนั้น เธอก็หยุดฝีเท้าลง เหมือนว่าพ่อตาแม่ยายจะกำลังทะเลาะกัน
” ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรคุณ ฉันก็แค่บอกให้คุณนอนเช้าๆ แล้วคุณก็ดุฉัน ที่รัก ทำไมคุณถึงกลายเป็นคนแบบนี้ไปได้ ” เป็นเสียงของแม่หนิง
เวลาผ่านไปนานมากก็ไม่มีเสียงตอบกลับ ในตอนที่เย่หลินกำลังคิดว่าพ่อหนิงคงไม่ตอบแล้ว จู่ๆเขาก็พูดขึ้น ” ผมบอกคุณหลายครั้งแล้ว เรื่องของผมคุณไม่ต้องมายุ่ง ” เสียงไม่ได้ดังมาก ถ้าไม่ใช่เพราะในยามดึกที่ภายในบ้านค่อนข้างเงียบ เย่หลินเองก็คงไม่ได้ยินอย่างแน่นอน น้ำเสียงของพ่อหนิงราวกับว่าหมดความอดทนแล้วจริงๆ
เมื่อคิดถึงครั้งที่แล้วที่มาที่นี่แม่หนิงและพ่อหนิงที่ออดอ้วนแสดงความรักต่อกัน ภาพนั้นมันยังคงอยู่ตรงหน้าเธอ ในตอนนั้น เธอคิดว่ารอให้เธอและหนิงเส่าเฉินแก่ตัวลง เธอก็อยากทำแบบนี้เช่นกัน
แต่ เวลาผ่านไปไม่นาน……
” คุณเป็นสามีของฉัน ถ้าฉันไม่สนใจคุณแล้วใครจะมาสนใจ? ” เสียงของแม่หนิงยังคงนุ่มนวลอย่างเดิมแม้ว่าจะมีเสียงสะอึกสะอื้นปะปะอยู่บ้าง
บรรยากาศตกอยู่ในความเงียบสงัดเป็นเวลานานอีกครั้ง
ทันใดนั้น ” โอ๊ย……” เสียงกรีดร้องของแม่หนิงดังขึ้น เสียงดังขึ้นอย่างชัดเจนท่ามกลางความเงียบสงัด
เย่หลินสะดุ้งเล็กน้อย เธอยังไม่ทันจะดึงสติกลับมาได้ ก็ได้ยินเสียงปิดประตูดังมาจากด้านหลัง จากนั้น ก็มีร่างของคนคนหนึ่งวิ่งผ่านเธอไป
เย่หลินเองก็พึ่งจะดึงสติกลับมาได้ จึงรีบวิ่งตามหนิงเชี่ยนไปที่ห้องหนังสือ
แม่หนิงล้มลงอยู่บนพื้นในห้องหนังสือ และหัวของเธอมีเลือดออก ” แม่คะ……แม่เป็นอะไรหรือเปล่าคะ? ”
หนิงเชี่ยนรีบพุ่งตัวไปพยุงแม่หนิง
” หนิงเชี่ยน กล่องยาของที่บ้านวางอยู่ตรงไหน? ”
” เดินออกไปเลี้ยวขวา กล่องยาจะวางอยู่ที่ตู้วางของชั้นล่างสุดของห้อง ”
หลังจากที่เย่หลิงนำกล่องยามาก็รีบฆ่าเชื้อบริเวณที่ได้รับบาดเจ็บให้แม่หนิง จากนั้นก็ทำแผลให้เสร็จ โชคดีที่แผลไม่ได้ใหญ่มาก
” พ่อคะ นี่มันเรื่องอะไรกันคะ? พ่อเป็นคนผลักแม่ใช่ไหมคะ? ” หนิงเชี่ยนฝากแม่หนิงไว้กับเย่หลิน ส่วนเธอลุกขึ้นยืนหลังตรง สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกโกรธที่ไม่สามารถข่มเอาไว้ได้
” เสี่ยวเชี่ยน พ่อของลูกเขาไม่ได้ตั้งใจหรอก ” แม่หนิงใช้มือปิดบริเวณที่ได้รับบาดเจ็บพร้อมกับพูดกับหนิงเชี่ยน
ในตอนนั้นเย่หลินไม่ได้พูดอะไร เรื่องของพ่อตาแม่ยาย ลูกสะใภ้อย่างเธอก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก
” เย่หลิน เธอตามฉันออกมาหน่อย ”
เย่หลินชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็รีบพยักหน้า ” ค่ะ ” จากนั้นก็ฝากแม่หนิงไว้กับหนิงเชี่ยน ส่วนเธอก็เดินตามพ่อหนิงออกไป
ห้องหนังสืออีกห้องหนึ่ง
” หลินผิงเป็นแม่ของเธอใช่ไหม? ” นี่เป็นคำพูดแรกของพ่อหนิงที่พูดออกมา
เย่หลินพยักหน้า หัวใจเธอเต้นแรงมาก เธอกำมือตัวเองแน่นด้วยความกังวล
” พ่อของเธอชื่อเกาเฉวียน ”
เย่หลินขมวดคิ้ว เกาเฉวียน? ” คุณลุง ท่านรู้จักพ่อหนูหรือคะ? ”
พ่อหนิงทำมือไขว้หลัง และยืนหันหลังให้เย่หลิง เย่หลิงมองไม่เห็นอารมณ์ทางสีหน้าของเขา แต่กลับเห็นมือที่กำหมัดแน่นของเขา
พ่อหนิงไม่ได้ตอบคำถามเธอ ผ่านไปสักพัก เขาถึงได้หันมามองเย่หลิน ” เย่หลิน เธออยากรู้ไม่ใช่เหรอว่าตอนนั้นทำไมฉันถึงยอมเห็นด้วยกับพ่อเกาให้เธอคลอดหนิงเสี่ยวซี? ”
เย่หลินเงยหน้ามองพ่อหนิงด้วยความตกใจ ตอนนั้นพ่อหนิงบอกว่าตัวเองไม่รู้ แต่หลังจากที่ไปหาเศรษฐีเกาเธอก็รู้ว่าพ่อหนิงโกหกเธอ
เดิมทีเธอก็ลังเลว่าจะเอ่ยปากถามพ่อหนิงยังไงดี ถึงแม้ว่าแม่ของเธอจะจากโลกนี้ไปแล้ว แต่เธอก็ยังอยากรู้ชาติกำเนิดของตัวเอง เธออยากรู้ให้แน่ชัด
แต่ คาดไม่ถึง วันนี้เขาจะเป็นคนพูดขึ้นเอง
” เพราะว่าในมือของพ่อเกาเขามีความลับของฉันอยู่ ฉันเองก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเชื่อฟังเขา ”
เย่หลินขมวดคิ้ว คนอย่างพ่อหนิงทำไมถึงยอมให้ความลับตกไปอยู่ในมือพ่อเกาได้?
” ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าวันหนึ่ง เธอจะมาใช้ชีวิตร่วมกับลูกชายฉัน แล้วเขาจะรักเธอได้มากขนาดนี้ ” พ่อหนิงพูดถึงตรงนี้เขาก็สูดหายใจเข้าลึกๆ ” ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นโชคชะตา ”
เย่หลินมองเขาโดยไม่พูดอะไร เธอรู้ว่าเขายังพูดไม่จบ
แต่ว่า โชคชะตา……ก็อาจจะเป็นไปได้สินะ?
” ตอนนั้น หลังจากที่พ่อของเธอพาแม่ของเธอออกจากเกาะเหลียนอู้ก็กลับเข้ามาในประเทศทันที เพื่อเลี้ยงดูแม่ของเธอ พ่อของเธอเลยมาทำงานที่หนิงกรุ๊ป เขาเป็นผู้คุ้มกันส่วนตัวของฉัน เขาเป็นคนมี่มีคุณธรรม และปฏิบัติต่อแม่เธอดีมาก ฉันเองก็ให้ความสำคัญกับเขามาก ”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เย่หลินก็เห็นการแสดงออกทางสีหน้าของเขาเจ็บปวดมาก
แต่ว่า น่าตกใจมากที่พ่อหนิงเองก็รู้เรื่องเกาะเหลียนอู้ด้วย แสดงว่าเขาคงรู้ความจริงอยู่ไม่น้อย
” ต่อมา มีอยู่ครั้งหนึ่ง เขาจำเป็นต้องไปทำธุระให้ฉันที่พื้นที่ห่างไกล เขาจึงฝากฉันให้ดูแลแม่ของเธอแทน ”
ราวกับว่าพ่อหนิงจะคิดอะไรบางอย่างขึ้นได้ เขาทรุดตัวลงกับพื้นและเอามือกุมขมับ
” วันนั้น ฉันดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปเยอะมาก แล้วแม่ของเธอก็โทรหาฉันและบอกว่ารู้สึกไม่ค่อยสบาย ฉันเลยไปหา ทันทีที่ไปถึง ฉันยังไม่ทันได้พูดอะไรแล้วภาพทุกอย่างก็ตัดไป หลังจากนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้น ฉันเองก็ไม่รู้ พอตื่นมาในเช้าอีกวัน ฉันก็นอนอยู่บนเตียงของแม่เธอแล้ว ”
บรรยากาศที่ตึงเตรียดอยู่แล้วก็ตึงเครียดขึ้นไปอีก เย่หลินรู้สึกเพียงว่าหนังศีรษะของตัวเองชาไปหมด ปากของเธอก็เริ่มสั่น หน้าก็ซีดเซียวขึ้นทันที และรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง และเธอไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยินเลยจริงๆ
ครั้งที่แล้วที่ไปเจอเศรษฐีเกา ผู้หญิงคนนั้นพูดว่าตอนนั้นแม่ของเธอโดนข่มขืน ส่วนคนที่ข่มขืนยังหาตัวไม่เจอ หรือว่าคนนั้นเป็นพ่อหนิง?
เพราะว่าพ่อเการู้เรื่องนี้ของเขา ดังนั้นก็เลยกลายเป็นความลับที่อยู่ในมือพ่อเกางั้นหรอ?
ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ งั้น……งั้นเธอ หรือว่า……
เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้ เธอก็เดินโซเซถอยหลังไปสองสามก้าว เธอต้องเอามือจับกำแพงไว้เธอถึงจะยืนได้อย่างมั่งคง
ไม่สิ เกาไห่เขาหน้าตาเหมือนพ่อเกามาก เธอและเกาไห่เป็นฝาแฝดกัน……
ปวดหัวจนแทบระเบิดอยู่แล้ว