“เส่าเฉิน พ่อเป็นอย่างไรบ้าง ?” น้ำเสียงของเธอสั่นเคลือและแหบแห้งเล็กน้อย
“ยังไม่ฟื้น”เขาพูดออกมาแค่สามคำ โดยไม่มีอามรณ์ใดๆ
ฝนที่เย็นยะเยือกกระทบเข้าที่ใบหน้าของเธอ เย่หลินหยุดชั่วคราวก่อนจะเอ่ยปากพูดว่า “ฉันไม่ได้ผลักเขา เส่าเฉิน ”ด้วยคำพูดเหล่านี้เธอเกือบจะหมดเรี่ยวแรง
ชายคนนั้นไม่ได้มองมาที่เธอ แต่มองไกลออกไป จากนั้นไม่นาน เสียงที่คุ้นเคนก็ดังขึ้นที่ข้างหู “เรื่องนี้ ในตอนที่เจอเกาไห่ ผมก็รู้แล้ว เย่หลิน เมื่อตอนคุณรู้ แล้วผมรู้ ในตอนนั้นผมกล้วมากแค่ไหน ? ผมกังวลว่าคุณจะได้รับบาดเจ็บ ผมกลัวว่าคุณจะทิ้งผมไป ผมเป็นกังวลจนแทบบ้า”
เย่หลินขมวดคิ้ว ไม่ตอบอะไร แต่ประหลาดใจมาก เดิมที หนิงเส่าเฉินรู้มานานแล้ว
เมื่อคิดถึงช่วงเวลานั้น ความเจ็บปวดที่หลังคอของเธอก็เกิดขึ้น ภายหลัง หนิงเส่าเฉินบอกกับเธอว่าเกิดจากน้ำตาลในเลือดต่ำ ในตอนนั้นเธอรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอนี่ช่างไร้เดียงสาจริงๆ
“พ่อผมบอกกับผมว่า หลายปีมานี้ เขาเอาแต่โทษตัวเอง เขารู้สึกว่าในตอนนั้น ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ฆ่าพ่อของคุณ แต่พ่อของคุณก็ตายเพราะเขา ดังนั้น พอรู้ว่าพวกเราอยู่ด้วยกัน เขาก็เอาแต่โทษตัวเองทุกวัน เขาก็เป็นกังวล ว่าถ้าคุณรู้เข้า คุณจะรับไม่ได้”
เย่หลินก้มศีรษะลงและยังคงไม่พูดอะไร เธอเพิ่งตะหนักได้ว่า หนิงเส่าเฉินรู้อยู่แล้วเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของพ่อหลินในหนึ่งปีที่ผ่านมา
“ผมรู้ว่าเรื่องแบบนี้ จะทำให้คุณรับไม่ได้ไปซักพัก แต่ เย่หลิน ยังไงเขาก็คือพ่อของผม เป็นคุณปู่ของเสี่ยวซีและเสี่ยวโม่………”
ดังนั้น คุณก็คิดว่าฉันเป็นคนผลักเขาลงไป ใช่ไหม ? ทันใดนั้นเย่หลินก็ขัดคำพูดของหนิงเส่าเฉิน และกำมือทั้งสองข้างแน่น
หนิงเส่าเฉินไม่พูดอะไร เพียงเอื้อมมือไปจับมือของเธอ แต่ถูกเย่หลินสะบัดออก “คุณบอกมา คุณก็ไม่เชื่อฉันใช่ไหม ? ใช่ไหม ?”
หนิงเส่าเฉินยืนอยู่ที่เดิม ภายใต้แสงที่สลัว เย่หลินไม่เห็นแววตาของเขาไม่ชัด
เย่หลิน คุณยังไม่เข้าใจความหมายของคำถามนี้เหรอ ? ตอนนี้ไม่ใช่ว่าผมไม่เชื่อคุณ ? แต่เป็นคนอื่นจะเชื่อหรือไม่ ?
เย่หลินส่ายศีรษะ “ไม่ ฉันไม่สนใจมุมมองของคนอื่น หนิงเส่าเฉิน ฉันสนใจก็แค่คุณ มุมมองของคุณหนิงเส่าเฉิน”
คนหนึ่งยากที่จะเติมเต็มจิตใจคนร้อยคน เหมือนกับเรื่องที่คนหนึ่งร้อยเห็น ก็มักจะมีหนึ่งร้อยความคิด เธอไม่ได้ขอให้ทุกคนเข้าใจเธอ และเชื่อใจเธอ แต่ เธอกลับใส่ใจความคิดของหนิงเส่าเฉิน
อย่างไรก็ตาม รอบๆมีเพียงแต่เสียงฝน เสียงลม เย่หลินรออยู่นานมาก ก็ไม่ได้รับคำตอบของหนิงเส่าเฉิน
ใจของเธอ เมื่อผ่านช่วงเวลานี้ไป จากที่ร้อนระอุ มันก็ค่อยค่อยเย็นลง
หนิงเส่าเฉิน นี่เป็นตุดเริ่มต้นของคุณใช่ไหม ? คุณก็ไม่เชื่อเธอ ใช่ไหม ?
คุณจะเชื่อได้อย่างไร แม้แต่ผู้หญิงที่ยอมสละชีวิตเพื่อคุณ เธอจะทำร้ายพ่อของคุณได้อย่างไร ? คุณเชื่อได้อย่างไร ?
ในขณะนี้ คุณอาเดินเข้ามา และมาดึงแขนของเย่หลิน “ในเมื่อเขาไม่เชื่อคุณ คุณจะยังอยู่ที่นี่ทำไม ? ไปสิ……….”
เย่หลินถูกคุณอาลากออกไป เธอเกือบจะถูกลากไป เธอเดินไปหันกลับไปมองไป มองไปที่หนิงเส่าเฉิน เธอเดินช้ามากๆ
เธอคิดว่า ตราบใดที่เขาพูดออกมาว่า เขาเชื่อเธอ ให้เธอกลับไปอยู่ด้วยกัน แม้ว่าเธอจะเผชิญหน้ากับความยากลำบากขนาดไหน เธอก็จะไม่มีวันถอยกลับ
แต่ ไม่มีเลย เมื่อระยะห่างของพวกเขากว่างขึ้น สีหน้าของเย่หลินก็แทบแยกไม่ออกว่าเป็นฝนหรือน้ำตา
หลุมในใจของเธอก็เห็นร่างของเขาเลือนราง แล้วค่อยค่อยกว้างขึ้นเรื่อยๆ
หนิงเส่าเฉิน คุณเคยบอกว่า คุณจะเชื่อฉันตลอด ไม่ใช่เหรอ ?
ชายคนนั้นยืนตัวตรงในคืนที่ฝนตก ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด นานจนกระทั่งร่างรียวหายลับออกไปจากสายตาของเขา เขาค่อยค่อยเงยหน้าขึ้น หลับตาลง ที่มุมตานั้น แยกไม่ออกเลยว่าเป็นน้ำฝนหรือน้ำตา
สิ่งที่เย่หลินประหลาดใจก็คือ คุณอาไม่ได้พาเธอไปที่เกาะเหลียนอู้ แต่พาเธอมายังอีกประเทศหนึ่ง ประเทศ B
“คุณอา ทำไมคุณถึงไม่พาฉันกลับไปที่เกาะเหลียนอู้ ? ”เมื่อมองดูสถานทที่ที่ไม่คุ้นนี้ เย่หลินก็พูดออกมาเป็นประโยคแรก
คุณอาไม่สนใจเธอ เพียงแค่เดินไปที่โต๊ะ และเอาโทรศัพท์มือถือของเธอ บัตรประจำตัว ทั้งหมดเก็บใว้ในกระเป๋าเธอ
จากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ออกมา ส่งให้เย่หลิน
“แล้ว นี่เป็นโทรศัพท์เครื่องใหม่ของคุณ โทรศัพท์มือถือเครื่องก่อน เอาไว้ที่ผมนี่ ส่วนคุณ อยู่ที่นี่ใช้ชีวิตให้ดี ในเมื่อเขาไม่เชื่อคุณ ผู้ชายแบบนั้น คุณไม่จำเป็นต้องไปคิดถึงอีกแล้ว”
เย่หลินขมวดคิ้ว “คุณอา เรื่องมันไม่ได้ง่ายอย่างที่คุณคิด คุณลืมไปแล้วเหรอ ฉันยังมีลูกอีกสองคน ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ต้องการเขา แต่ลูกล่ะ ? ฉัน………..”
ดวงตาของเย่หลินเป็นสีแดงเมื่อคิดถึงเย่เสี่ยวโม่กับหนิงเสี่ยวซี
คุณอาดึงเก้าอี้ไม่ไผ่ข้างหน้าเธอแล้วนั่งลง “นั่นเป็นลูกของพวกเขาตระกูลหนิง คุณคิดว่าหนิงเส่าเฉินจะปฎิบัติต่อพวกเขาแย่ๆเหรอ คุณวางใจเถอะ”
เย่หลินก้มศีรษะลงหายไปในทันที
“คุณรู้ไหม ? คุณถูกจับมาสามวัน ตระกูลหนิงไม่มีใครมาดูคุณเลย ถ้าไม่ใช่เพราะเด็กผู้ชายแซ่ชู
โทรศัพท์หาพี่ชายคุณ และพี่คุณก็บอกกับฉัน คุณนี่นะ กลัวว่าจะรอรับโทษ” เมื่อคุณอาพูดถึงตรงนี้ เขาก็ทุบโต๊ะด้วยความโกรธ
“มีคนบอกว่า เมื่อนานวันจะเห็นใจคน คุณกับเขาอยู่กันมากี่ปีแล้ว ? เด็กผู้ชายแซ่ชูคนนั้นเชื่อคุณ แต่ผู้ชายของคุณ กลับไม่เชื่อคุณ คุณนี่นะ เหมือนกับแม่ของคุณเลย กลายเป็นคนตาบอด………”
เย่หลินไม่รู้ว่าคุณอายังพูดอะไรกับเธออีก แต่หัวใจของเธอกระตุกซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ใช่แล้ว ชูหยูจี้เชื่อเธอ แต่เขากลับไม่เชื่อ
หนิงเส่าเฉิน ถ้าหากวันหนึ่ง คุณรู้ว่าคุณทำผิดต่อฉัน คุณจะเสียใจกับการตัดสินใจไหม ?
แล้วเธอก็ถามกับตัวเองอีกครั้ง
เย่หลิน ถ้าวันหนึ่ง พวกเขารู้ว่าทำผิดต่อคุณแล้ว ขอร้องให้คุณให้อภัย คุณจะกลับไปกับพวกเขาไหม ?
หนึ่งเดือนต่อมา
พ่อหนิงยังอยู่ในอาการโคม่า แม่หนิงร้องไห้ทั้งวันทั้งคืน หนิงเชี่ยนปล่อยพวกเขาไม่ได้ ก็เลยลา และอยู่กับพวกเขาเป็นเวลานาน
หนิงเส่าเฉินเนื่องจากความต้องการของบริษัทในประเทศ เขาจึงต้องพาหนิงเสี่ยวซีและเย่เสี่ยวโม่กลับประเทศ
ทุกอย่าง ดูเหมือนจะกลับเข้าสู่เส้นทางปกติของชีวิต
แต่ในใจของทุกคน กลับไปเป็นแบบเดิมไม่ได้อีกแล้ว
หนิงเสี่ยวซีที่เดิมทีพูดน้อยอยู่แล้ว หลังจากเรื่องนี้ ก็ยิ่งพูดน้อยเข้าไปอีก
เย่เสี่ยวโม่เปลี่ยนไปมากจากการทะเลาะครั้งก่อน ตอนนี้เขารู้ข้อเท็จจริงแล้ว จึงเปลี่ยนไปมาก เขาไม่ยึดติดพี่ชวี่ และก็ไม่เรียกหนิงเส่าเฉิน
ไม่มีใครพูดถึงเย่หลิน ทุกคนล้วนยึดมั่น
“เธอเป็นคนยังไง คุณรู้ดีกว่าผมมาก หนิงเส่าเฉิน คุณจะปล่อยให้เธออยู่ข้างนอกอย่างเดียวดาย และจะไม่ยุ่งไม่ถามเลยเหรอ ? ”เมื่อเกาไห่เห็นหนิงเส่าเฉินกลับมา และไม่เห็นเขาพูดถึงเย่หลินเลย ในที่สุดก็อดไม่ได้ คว้าคอเสื้อของเขามา และถามอย่างเย็นชา