เล่อจยาเม้มปาก นั่งตัวตรง และจุ๊บที่แก้มและริมฝีปากของเกาไห่ โอเค “คุณก็สามารถให้คำแนะนำฉันได้หลายอย่างแล้ว”
เธอก้าวถอย และมองไปที่เกาไห่ด้วยรอยยิ้ม แต่ก็พบว่าดวงตาของชายคนนั้นแดงลงเรื่อยๆ และอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย “หรือไม่ ฉันคิดเองดีกว่าป่ะ ?”
เธอค่อยค่อยดึงกระดาษออกจากมือของเกาไห่ แต่มือของเธอก็ถูกมือใหญ่จับไว้ จากนั้น เขาก็ใช้แรงและเล่อจยาก็ตกลงไปสู่อ้อมกอดของเขา
น้ำเสียงที่แผ่วเบากระซิบข้างหูว่า:“ การพักผ่อนอย่างเหมาะสมนั้น ดีต่อการสร้างแรงบันดาลใจ”
พูดไป มือของเขาก็เข้าไปข้างในเสื้อของหญิงสาว
หนึ่งชั่วโมงต่อมา หญิงสาวสูดลมหายใจ เบ้ปากบ่นว่า “เกาไห่ เจ้าคนบ้า นี่มันผ่อนคลายบ้าอะไรกันเนี่ย ?”
เกาไห่ไม่รำคาญ เขาหยิบเสื้อผ้าของเธอจากพื้นมาช่วยเธอสวม และหลังจากช่วยเธอจัดระเบียบอย่างเรียบง่ายแล้ว เขาก็กอดเล่อจยาไว้ในอ้อมแขนของเขา ถือปากกาและวาดลงบนกระดาษ
นิ้วเรียวของเขาสวยงามมาก และปากกาก็ดูมีจิตวิญญาณ ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหน ดอกไม้ก็บานบนกระดาษ
จมูกโด่งสูง ริมฝีปากบาง คิ้วเหมือนดาบปลิวไปในแนวเฉียงของเส้นผมที่หักลงใต้ขมับ ใบหน้าที่หล่อเหลา และโครงหน้าที่ไร้ที่ติ
ผู้ชายที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้ ได้กลายเป็นสามีของตัวเองไปแล้ว ความงามที่อยู่ในใจของเล่อจยานั้น เกินคำบรรยาย
ทันใดนั้นชายคนนั้นก็ขมวดคิ้ว หันศีรษะมาจูบที่หน้าผากของเธอ และตำหนิเบาๆ “ถ้ายังไม่ใส่ใจแบบนี้ ผมก็จะไม่สนใจคุณแล้ว”
“ตกลงตกลง ฉันไม่ดูแล้ว คุณต่อเลย”
ขณะที่พูด เขาก็ถอนสายตาและมองไปบนกระดาษแผ่นนั้น จากนั้นเขาก็ประหลาดใจจนหัวเราะกว้างออกมา
ภาพที่เละเทะเมื่อครู่ ในขณะนี้ มันกลายเป็นรูปร่างแล้ว
ความสนุกของเธอ มีประโยชน์มากสำหรับชายคนนี้ เขายกริมฝีปากขึ้น “การจัดภูมิทัศน์ต้นไม้ตามหลักการคือ ลมพัดไป แล้วต้นไม้ก็กันลมไว้ อันก่อนของคุณนั้น มีหลากหลายรูปแบบ ดังนั้น มันจะทำให้คนรู้สึกว่ารก เลอะเทอะ คุณสามารถ จัดเรียงต้นไม้ดอกไม้ตามฤดูกาล และพยายามทำให้มันเย็นในฤดูร้อนและกันลมในฤดูหนาว”
เล่อจยาพยักหน้าซ้ำซ้ำ และยิ่งชื่นชมเกาไห่มากขึ้นไปอีก
เธอหยิบกระดาษภาพวาดมาจากมือของเขา และดูอย่างละเอียด จากนั้น ก็พึมพำกับตัวเองว่า “สามารถใช้ความแตกต่างของระดับความสูงและพื้นที่กระจัดกระจาย เพื่อให้ตรงกับพื้นที่ใช้สอยของพื้นที่คฤหาสน์ และในขณะเดียวกันก็รวมเอาแนวคิดความสงบและธรรมชาติรวมเข้าด้วยกัน คุณคิดว่าความคิดนี้เป็นอย่างไรบ้าง ?”
เกาไห่กำลังลูบหัวของเธอ “อืม ฟังดูไม่เลวเลย ภรรยาของผมนี่เยี่ยมมากจริงๆ”
คำชมของเขา ทำให้เล่อจยาเขินอายเล็กน้อย “เพราอาจารย์ สอนดี”
เช้าวันรุ่งขึ้น
เล่อจยาตื่นจากการเคาะประตู
เมื่อมองไปที่เกาไห่ที่ยังนอนอยู่ข้างข้าง เมื่อคืนเขาทำงานจนดึก
เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา ยังไม่เจ็ดโมงเช้าเลย เธอมึนงงเล็กน้อย คุณป้ารู้นิสัยของพวกเขาทั้งสองคน ปกติจะไม่เคาะประตู
ด้วยความที่กลัวว่าจะดังจนเกาไห่ตื่น เธอค่อยค่อยยกผ้าห่ม ลุกขึ้น และเดินออกไป
เมื่อมองเห็นไห่ยุ่นที่นั่งอยู่บนรถเข็น เล่อจยาก็หรี่ตาลง และปิดประตูเบาๆ
“ไห่ยุ่น ทำไมคุณถึงมาที่นี่ เช้าขนาดนี้ ? มีเรื่องอะไรรึเปล่า ?” เธอพยายามทำให้อารมณ์ของตัวเองดูสงบ
“ลูกพี่ลูกน้องชายยังไม่ตื่นเหรอ ?”
สายตาของเล่อจยาลดลง แกล้งทำเป็นเขิน “เอ่อ……….เขา เมื่อคืน………..เขาอาจจะเหนื่อยไปหน่อย”
เมื่อพูดจบ เธอก็เห็นสีหน้าของเกาไห่เปลี่ยนไปจากหางตาของเธอ
มุมปากเธอยกขึ้นเล็กน้อย หรือไม่ ฉันช่วยเรียกเขาให้คุณ ?
ไห่ยุ่นส่ายศีรษะ “ไม่ล่ะ ฉันได้ยินมาว่าลูกพี่ลูกน้องชายของฉันตามหาฉันไปทั่ว ฉันออกไปเที่ยวมาสองสามวัน แล้วโทรศัพท์มือถือก็หาย ดังนั้น เลยไม่ได้ติดต่อเขา กลัวว่าเขาจะกังวล ดังนั้น ก็เลยรีบมาหาแต่เช้าเลย”
เล่อจยามองดูเธอด้วยท่าทางที่เกรงใจ และรู้สึกได้ทันทีว่าหายใจไม่ออกและตื่นตะหนก และก็ไม่สะดวกที่จะเปิดเผยตรงๆ
“คุณยังไม่ได้ทานอาหารเช้าใช่ไหม ? ฉันจะให้คุณป้าทำเยอะหน่อย ทานข้าวแล้ว คุณก็ให้ลูกพี่ลูกน้องชายของคุณพาคุณไปบริษัท”
เมื่อไห่ยุ่นเห็นเล่อจยายังคงเหมือนเดิม ปฎิบัติต่อเธอโดยไม่บ่น ปฎิบัติต่อเธอเหมือนเดิม
และคิดว่า เรื่องที่ตัวเองทำก่อนหน้านี้ราบรื่น ใบหน้าของเธอก็ยิ้มแย้มอีกครั้ง
“ขอบคุณค่ะพี่สะใภ้”
“งั้นคุณนั่งก่อน ฉันจะไปเรียกพี่ชายคุณตื่น” พูดจบ เธอก็หันหลัง และเดินเข้าไปในห้อง
จากนั้นไม่นาน ก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้นมาจากภายในห้อง ถ้วยชาในมือของไห่ยุ่นสั่นเล็กน้อย
เมื่อเกาไห่ออกมา และเห็นไห่ยุ่น สายตาเขาก็หยุดอยู่ที่ขาของเธอครู่หนึ่ง “ไห่ยุ่น…….”เขาอุทานออกมา
“พี่ชาย”
เกาไห่เดินไปหยิบรีโมทคอนโทรลจากด้านหน้าของไห่ยุ่น แล้วเปิดทีวี
“สองสามวันนี้ไปไหนมา ?”
“ออกไปท่องเที่ยวมา แล้วโทรศัพท์หาย และก็จำเบอร์โทรศัพท์ของคุณไม่ได้ ดังนั้น จึงไม่ได้ติดต่อ กลับมาก็ได้ยินว่า คุณตามหาฉัน ดังนั้น ฉันจึงรีบมาหาแต่เช้าเลย”เธอมองไปที่เกาไห่ ด้วยดวงตาที่สดใส ท่าทางนั้น ถ้าหากว่าเกาไห่ไม่เห็นเธอเดินอยู่ในกล้องวงจรปิดด้วยตัวเอง เขาก็คงจะเชื่อไปแล้ว
แต่……น่าเสียดาย เขาถูกหลอกแล้ว เมื่อคิด เมื่อก่อน เป็นเพราะเธอ เล่อจยาถึงกับต้องนอนที่ถนน และทันใดนั้น สีหน้าของเธอก็ดูแย่ลงเล็กน้อย
“คุณสามี อาหารพร้อมแล้ว มาทานข้าวก่อนเถอะ เมื่อวานคุณบอกว่าวันนี้มีประชุมไม่ใช่เหรอ ? ”เมื่อเห็นสีหน้าของเกาไห่ เล่อจยาก็รู้ได้ว่า ต่อไป เขาจะต้องโกรธแน่ จึงรีบเร่งก้าวไปข้างหน้าและดึงมือของเขา
สีหน้าของเกาไห่ออกโยนลงเล็กน้อยเมื่อมือใหญ่ของเขาสัมผัสกับมือของเล่อจยา
“ทานข้าวแถอะ”
หลังจากทานอาหารเสร็จ เล่อจยาก็เปลี่ยนเสื้อผ้า หลังจากล้างตัว ก็ผลักไห่ยุ่นออกไปนอกประตู
เมื่อขึ้นรถ ไห่ยุ่นก็นั่งที่ข้างรถ และรอให้เกาไห่อุ้มเธอเหมือนเมื่อก่อน
สีหน้าของเกาไห่มืดมนลง เล่อจยาผลักเขาขึ้นรถ
และหันกลับมามองที่ไห่ยุ่น
“น้องสาว ขอโทษนะ พี่ชายของคุณเมือคืน เอวเคล็ด อาจจะอุ้มคุณไม่ไหว ถ้าคุณไม่ว่าอะไร ฉันอุ้มคุณขึ้น ? ”เล่อจยาก้าวไปข้างหน้าเพื่ออุ้มไห่ยุ่น
เกาไห่เหล่ตามอง เอวเคล็ด ? นี่เป็นคำอธิบายที่ไม่เลวเลย
“เอ่อ ไม่ต้องหรอก ที่จริง คุณพยุงฉันหน่อย ฉันจะพยายาม”
เล่อจยาขมวดคิ้ว “แบบนี้ใช่ไหม ? ได้ได้ ”
ขณะที่เธอพูด เธอไปช่วยพยุงไห่ยุ่นลุกขึ้น “ไห่ยุ่น คุณพิงร่างกายฉัน และฉันจะช่วยคุณยกเท้าขึ้น”
ขณะที่เธอกำลังพูด เธอก็ยกเท้าของไห่ยุ่นขึ้นไป เธอใช้แรงบนมือเล็กน้อย และได้ยินเสียง “ฟู่” ดังที่ข้างหู
รอยยิ้มปรากฎขึ้นในดวงตา ไม่ใช่ว่าขาทั้งสองไร้ความรู้สึกหรอกเหรอ ? แกล้งทำได้เหมือนจริงๆ
อย่างไรก็ตาม เธอก็ไม่อยากเปิดเผยเธอ สำหรับผู้หญิงที่มีจิตใจลึกซึ้งเช่นนี้ เธอก็กลัวว่าตัวเองจะถูกเปิดเผยแบบนี้ และเธอก็อาจจะมีกลอุบายอื่นอีก
อย่างนั้น ก็เล่นไปตามที่เธอต้องการป่ะ อย่างไรซะ ตอนนี้เกาไห่ก็เข้าใจแล้ว
เมื่อถึงข้างล่างบริษัทของเล่อจยา เกาไห่ก็หยุดรถ และจุ๊บที่หน้าของเล่อจยา “ตอนกลางวันผมมารับคุณออกไปทานอาหาร ?”
“ไม่……..งั้นตกลงค่ะ จะรอโทรศัพท์คุณนะ”
เธอหันกลับมามองที่ไห่ยุ่น สีหน้าของเธอดูแย่เล็กน้อย
“น้องสาว ถ้างั้นฉันไปก่อนนะ คุณเองก็ระวังด้วย”
“พี่สะใภ้…….”ทันใดนั้นไห่ยุ่นก็เรียกเธอ