ขณะที่เพื่อนร่วมชั้นกำลังพูดคุยกันอยู่ หลินฟานและฉินหยู่ซวนก็เดินต่อไปเรื่อยๆ
เพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งชี้ไปทางนั้นและอุทาน: “ดูสิ มีรถซุปเปอร์สปอร์ตอยู่ตรงนั้น!”
“รถสปอร์ตสวยอะไรขนาดนี้!”
“มันดูเหมือนแลมโบกินี่!”
ทุกคนเดินตามอย่างชื่นชม
หูจินซง กล่าวว่า: “นั่นคือ ลัมโบร์กินีที่ฉันพูดถึงก่อนหน้านี้ และบีเอ็มดับเบิลยูของฉันก็จอดอยู่ข้างๆตรงนี้”
ในเวลานี้ เพื่อนร่วมห้องออกมาถามด้วยความสงสัย: “เฮ้ย ทำไม หลินฟานถึงเดินไปทางรถลัมโบร์กินีที่จอดอยู่ ?”
หวางห่าวฉีพูด “ฉันเดานะว่า… หลินฟานคงต้องการที่จะถ่ายรูปเก็บไว้แหละมั้ง”
“ถ่ายรูปงั้นหรอ? เขาไม่รู้สึกอายเลยหรือไง? ฉินหยู่ซวนก็ยังอยู่ข้างๆเขานะ” เพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งกล่าวว่า
หยางเหวินจิงพูดเยาะเย้ย “บางทีไอหลินฟานมันอาจจะไม่ได้ถ่ายรูปธรรมดาๆหรอก มันคงจะเอาตัวเองไปอยู่ข้างๆ รถด้วย แล้วบอกว่าคนอื่นว่ามันเป็นเจ้าของลัมโบร์กินีก็ได้”
“มันเหมือนกับตอนที่เขาเคยตามจีบฉันด้วยใบหน้าที่ไร้ยางอาย แล้วฉันก็ไม่รู้ว่าเขาไปได้ยินเรื่องจุดลับของฉันที่ไหน และยังจะกล้าพูดเรื่องไร้สาระว่าฉันเป็นฝ่ายไล่ตามเขาอีก!”
ตู่เล่ยได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของเขานั้นเริ่มผ่อนคลายขึ้นเรื่อยๆ
เขาลูบเอวหยางเหวินจิงและพูดว่า “เหวินจิง คุณอาจจะไม่รู้ แต่ผมเคยไม่เชื่อเรื่องไร้สาระที่เขาพูดออกมาเลย”
“ดูสิ หลินฟาน เดินไปทางรถลัมโบร์กินีจริงๆ” เพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งกล่าวว่า
“เดี๋ยวนะ! เขาจับที่เปิดประตูอยู่!”
“เจ้าของรถจะต้องมาเห็นแน่ๆ มาดูกันว่าเขาจะทำหน้าอย่างไรถ้าเจ้าของรถมาเห็นเข้า!”
เพื่อนร่วมห้องทุกคนพูดออกมาแบบเดียวกันและในหัวของพวกเขาก็เต็มไปฉากที่สนุกสนาน ในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็มองไปรอบๆและคิดว่าเจ้าของจะปรากฏตัวขึ้นในไม่ช้า
หูจินซงหยุดนิ่ง เขาเองก็หวังที่จะเห็นฉากแบบนั้น
อย่างไรก็ตาม…
วินาทีถัดมา สีหน้าของทุกคนกลับหยุดนิ่ง ราวกับว่าเวลาถูกหยุดลง
เพราะว่า…
หลินฟานค่อยๆเปิดประตูของลัมโบร์กินี สิ่งนี้เหนือความคาดหมายของทุกคน จากนั้นเขากับฉินหยู่ซวนก็เข้าไปนั่งในรถ
ในขณะนั้น ทันทีที่เสียงสตาร์ทของลัมโบร์กินีดังขึ้น หลินฟ่านก็ขับรถออกไปและหายไปจากลานจอดรถอย่างรวดเร็ว
ทุกอย่างเงียบสงัด!
ทุกคนต่างตกตะลึง
หลินฟาน ขับรถลัมโบร์กินีอยู่จริงหรอ?
รถคันนั้น…เป็นของเขา?
เขามีรายได้เพียงไม่กี่พันหยวนต่อเดือนไม่ใช่รึไง?
มันเกิดอะไรขึ้น?!
หวางห่าวฉียังพูดเยาะเย้ยไม่เลิก “หลินฟาน หน้าไม่อายจริงๆ ถึงขั้นเช่ารถมาอวดในงานเลี้ยงรุ่น ฉันคิดว่าเขาคงใช้เงินเดือนถึงสองเดือนในการเช่ารถคันนี้มาแน่ๆ?”
“ลองคิดดูสิ เมื่อใครก็ตามมางานเลี้ยง พวกเขาก็ต้องการที่จะดูดีในสายตาของคนอื่น!”
ทันทีที่คำพูดนี้ถูกพูดออกมา ทุกคนก็ถอดหายใจอย่างโล่งอก
ใช่แล้ว!
ลัมโบร์กินีคันนี้ต้องเป็นรถที่เช่ามาแน่ๆ!
ฐานะครอบครัวของหลินฟานนั้นก็ค่อนข้างจะธรรมดา เขาไม่มีทางหาเงินมาซื้อรถลัมโบร์กินีได้หรอก!
เมื่อคิดได้อย่างนี้ ใบหน้าของทุกคนก็เริ่มแสดงออกถึงการดูหมิ่นเหยียดหยาม
“กริ๊งงง!”
ในเวลานี้ โทรศัพท์มือถือของหูจินซงก็ดังขึ้นมาทันที
“หูจินซง รูปนาฬิกาที่นายส่งมาเมื่อกี้นี้ นายไปเอามันมาจากไหน” เสียงที่ตื่นตกใจของเฉียวป๋อ ดังขึ้นทางโทรศัพท์
หูจินซงยิ้มและพูดว่า “อ๋อ นายหมายถึงนาฬิกาเรือนนั้นหรอ มันคือนาฬิกาของเพื่อนร่วมห้องของฉันเองแหละ”
เมื่อพูดจบ หูจินซงก็กดเปิดลำโพงเพื่อให้ทุกคนได้ฟังด้วย
เขาต้องการแสดงสายสัมพันธ์ที่กว้างขวางของเขา เพื่ออวดเพื่อนร่วมห้อง
ตอนนั้นเอง เขาก็มั่นใจเต็มร้อยว่ารถลัมโบร์กินีของหลินฟานนั้นเช่ามา
ไม่มีทางที่คนสวมนาฬิกาก็อบเกรด A จะมีรถลัมโบร์กินีหรอก!
“เชี่ย!” เสียงของเฉียวป๋อตื่นเต้นมากในทันที
“มีอะไรผิดปกติรึเปล่า?” หูจินซงถามด้วยความสงสัย
“นาฬิกาเรือนนั้นคือ วาเชอรอง คอนสแตนติน ตูร์เดล มีจำกัดเพียง 7 เรือนทั่วโลก! ตอนนี้ราคาแต่ละเรือนอย่างน้อยก็ 10 ล้านหยวน! และไม่มีขายในตลาด!”
“เพื่อนร่วมห้องของนายเจ๋งโคตรๆเลยวะ ที่มีนาฬิกาเรือนนี้!” เสียงของเฉียวป๋อตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อยๆ
บรรยากาศเงียบสงัดลงอีกครั้ง!
นาฬิการาคาเป็นล้าน!
ทุกคนแทบหยุดหายใจ!
ลัมโบร์กินีนั้นสามารถเช่าได้!
แต่ที่มีนาฬิกาเรือนนี้มีเพียง 7 เรือนทั่วโลก ราคาสูงถึง 10 ล้าน เป็นไปไม่ได้ที่จะเช่านาฬิกาเรือนนี้มา
คำตอบเดียวคือทั้งนาฬิกาและลัมโบร์กินี ทั้งหมดเป็นของหลินฟานจริงๆ!
หลินฟาน กลายเป็นเทพแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่!
เขาไม่ได้เสแสร้ง!
ทุกคนมองไปที่ทิศทางของลัมโบร์กินีขับออกไป ด้วยการแสดงออกที่ซับซ้อนและเต็มไปด้วยความมึนงง
ในหมู่พวกเขา หยางเหวินจิงและหูจินซงนั้นรู้สึกสับสนที่สุด
หยางเหวินจิงรู้สึกเสียใจ ถ้าเธอกล้าหาญกว่านี้สมัยเรียนมัธยม เธออาจจะได้เป็นแฟนของหลินฟาน และได้แต่งงานกับครอบครัวที่ร่ำรวยขนาดนี้!
หูจินซง รู้สึกกลัว เขานึกถึงวิธีการที่เขาจับ รวมถึงตอนที่เขาโยน นาฬิกาวาเชอรอง คอนสแตนติน ตูร์เดล ลงบนโต๊ะด้วย หัวใจดวงน้อยของเขาก็เต้นแรงจนแทบจะกระเด็นออกมา
ในกรณีที่เขาทำ นาฬิกาวาเชอรอง คอนสแตนติน ตูร์เดล พัง มันจะกลายเป็นฝันร้ายสำหรับเขาแน่
…
ในตอนนี้ ฉินหยู่ซวนซึ่งนั่งอยู่ในลัมโบร์กินีได้มองไปรอบรถๆด้วยสายตาที่ดูตื่นเต้น
ฉินหยู่ซวน ยิ้มและพูดว่า: “ลัมโบร์กินี ในประเทศจีนราคาประมาณ 10 ล้านหยวน ฉันไม่เคยขึ้นรถราคาแพงขนาดนี้มาก่อน”
“คุณเพื่อนร่วมห้อง วันนี้นายทำให้ฉันสนุกมากเลย”
หลินฟานพูดต่อ “คันนี้ไม่ใช่รถที่แพงที่สุดที่คุณเคยขึ้นหรอก เพราะรถไฟใต้ดินแต่ละแห่งนั้นมีราคาหลายร้อยล้าน”
ฉินหยู่ซวน ยิ้มและพูดว่า: “ก็คงจะใช่นะ!”
ทันใดนั้น เธอก็รู้สึกสนใจในตัวของหลินฟานมากขึ้น พูดน้อยแต่ช่างสังเกตุ คนแบบนี้หาได้ยากจริงๆ
จากนั้น ฉินหยู่ซวนก็แอบมองหลินฟานอย่างเงียบ ๆ
ร่างกายดูแข็งแรงดี เสื้อผ้าที่ใส่ก็กระชับและดูดีมีสไตล์
ฉินหยู่ซวน อดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเขาในตอนนี้ กับเมื่อก่อนในสมัยเียนมัธยมปลาย
หลินฟานตอนสมัยมัธยม เขาค่อนข้างดูเป็นเด็กแต่ก็หล่อเหลาทีเดียว
แต่ในวันนี้ หลินฟาน เขาเหมือนจะหล่อขึ้นเล็กน้อยและดูมีความเป็นเป็นผู้ใหญ่
ฉินหยู่ซวน เริ่มรู้สึกตัวว่าเธอจ้องไปที่หลินฟานนานเกินไป ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็เริ่มแดงขึ้น
เธอเลิกมองอย่างรวดเร็วและพูดว่า “หลินฟาน หลังจากนี้คุณจะไปใหนต่อ”
“หลังจากส่งคุณกลับบ้านแล้ว ผมก็จะกลับไปนอนที่โรงแรม” หลินฟานกล่าว
“คุณพักอยู่ที่โรงแรมเหรอ” ฉินหยู่ซวนถาม
“อืม ตอนนี้ผมพักอยู่ที่โรงแรมน่ะ” หลิน ฟานกล่าว
ฉินหยู่ซวน คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ตอนนี้ฉันยังไม่อยากกลับบ้านเลย ไปทานอาหารเย็นด้วยกันไหม ฉันรู้จักร้านดีๆ!”
หลินฟานอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองฉินหยู่ซง อย่างแปลกประหลาด
ทานมื้อเย็น?
แล้วใครกันนะที่เพิ่งพูดตอนอยู่ที่ร้านอาหารว่ามีธุระที่บ้าน จำเป็นต้องกลับบ้านก่อน?
ฉินหยู่ซวน ดูเหมือนจะคิดถึงเรื่องนี้ได้เช่นกัน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็แดงขึ้นอีกครั้ง
เมื่อตอนที่อยู่ในห้องอาหาร หลินฟานนั้นถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังตรงมุมห้อง และไม่มีใครคุยกับเขาเลย
ดังนั้น หลินฟานจึงกินไปเยอะพอดู
ในตอนนี้ ท้องของเขาดูเหมือนจะรับไม่ไหวแล้ว
แต่จะให้กลับโรงแรมเลยก็ค่อนข้างน่าเบื่อ
หลังจากตัดสินใจ เขาก็ตอบว่า “โอเค คุณบอกทางได้มั้ย”
“ได้สิ!” ฉินหยู่ซวน กล่าวอย่างมีความสุข
หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็มาถึงร้านอาหาร MISS
ร้านอาหาร MISS ตั้งอยู่ข้างแม่น้ำ
เป็นเรื่องดีที่จะนั่งข้างในและเพลิดเพลินกับวิวแม่น้ำในขณะที่ทานอาหารอร่อยๆ
หลินฟานสั่งหอยเชลล์เสียบไม้และอาหารทะเลอย่างอื่น…
“คุณดื่มได้ไหม” หลินฟาน ถาม
“นิดหน่อยน่ะ” ฉินหยู่ซวน กล่าว
หลินฟาน พยักหน้าและพูดว่า: “ถ้าอย่างนั้นเรามาดื่ม ace of spades กันดีกว่า”
พนักงานเสิร์ฟที่ยืนอยู่ข้างๆเขา ได้ยินคำพูดนั้น ก็ตาโตขึ้นทันที
ace of spades ราคาขวดละ 8888 หยวน เป็นไวน์ที่แพงที่สุดในร้านนี้!
เพียงขายไวน์ขวดนี้ได้ขวดเดียว บริกรอย่างเขาก็จะได้ค่าคอมมิชชั่นเพิ่มอีก
ระหว่างที่หอยเชลล์เสียบไม้ย่างอยู่ หลินฟานก็แอบมองฉินหยู่ซวนอย่างเงียบๆ
แม้ว่าเธอจะเรียนจบไปสองสามปีแล้ว แต่กาลเวลาก็ไม่ไม่สามารถทิ้งร่องรอยไว้บนใบหน้าของเธอได้ เธอยังคงเงียบและน่าอยู่ด้วยเหมือนเมื่อก่อน บวกกับร่างกายที่เติบโตขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา(*)(*)
รวม 95 แต้ม! ไม่น้อยไปกว่านี้แน่นอน!
ไม่นาน ไวน์และหอยเชลล์เสียบไม้ก็ถูกเสิร์ฟ
หลินฟาน เริ่มเทไวน์ใสในแก้วแล้วค่อยๆยกขึ้นดื่ม
การเคลื่อนไหวแต่ละท่วงท่าของเขานั้นดูงดงามมาก
มันสง่างาม
ความรู้สึกแบบนี้ ราวกับว่า หลินฟานไม่ได้กำลังดื่มอยู่เลย
เขาเหมือนกับนักเปียโนระดับโลก ที่กำลังเล่นดนตรีอันไพเราะบนเวที มันเป็นภาพที่น่าหลงใหล
ฉินหยู่ซวน ที่นั่งอยู่ตรงข้ามดูมึนงงเล็กน้อย
นี้คือทักษะยอดนักดื่ม!