เศรษฐีผู้ร่ำรวย:เริ่มจากการได้รับซองแดง 7 พันล้านซอง – ตอนที่ 6 : สินค้าก็อบเกรดA , ส่งสาวสวยกลับบ้าน!

ตอนที่ 6 : สินค้าก็อบเกรดA , ส่งสาวสวยกลับบ้าน!

ในเวลานี้ บรรยากาศในห้องเริ่มอึมครึมลง

ทุกคนค่อยๆเริ่มลุกขึ้นยืน

“มันยากที่พวกเราทุกคนจะมารวมตัวกัน มาดื่มด้วยกันเถอะ!”

“ถูกต้อง! ดื่มมมมมม!”

จากนั้นทุกคนก็ชนแก้ว และดื่ม

หลังจากที่ดื่ม บรรยากาศในห้องดูเหมือนจะเงียบลงเล็กน้อย

จากนั้นเพื่อนร่วมชั้นเริ่มพูดคุยกันและมีเสียงหัวเราะตามมาอย่างคิ้กคัก

ต้องบอกเลยว่า หูจินซง มีทักษะในการพูดคุยที่ดี

ในไม่ช้าเขาก็กลายเป็นจุดสนใจของห้อง

หูจินซงเหลือบไปมองที่ หลินฟานซึ่งนั่งอยู่ตรงมุมห้อง

ดวงตาของเขาดูมืดลงและพูด “หลินฟานทำไมนายถึงเงียบ จะไม่คุยกับใครหน่อยหรอ?”

น้ำเสียงของหูจินซงผ่อนคลายและไม่แยแส

นี่มัน… ราวกับว่าเขาลืมเรื่องที่หลินฟานได้เปิดเผยเรื่องอื้อฉาวระหว่างเขากับป้าหวังไปแล้ว

หลังจากชะงักไปชั่วครู่และพูดต่อ “อ้อ หลินฟาน นายไปทำงานทันทีหลังจากเรียนจบมัธยมหนิ นายน่าจะทำเงินได้เยอะสินะ นายขับรถอะไรอยู่หล่ะ”

“เงินเดือนของหลินฟาน มันแค่ไม่กี่พันหยวนเอง จะไปซื้อรถอะไรมาขับได้หล่ะ เจ้าตัวเองก็คงไม่กล้าตอบหรอก” หวังห่าวฉีเยาะเย้ย

ในโรงเรียนมัธยมปลาย หลินฟานทั้งสูงและหล่อ เขายังเรียนดีมาก ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าเขาเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบที่สุดในชั้นเรียน

สมบูรณ์แบบมากจนสาว ๆ หลายคนในชั้นเรียนชื่นชอบเขา

หวางห่าวฉี เองก็รู้สึกอิจฉามาก

เมื่อเขาเห็นหลินฟานอยู่อย่างโดดเดี่ยว หลังจากเย้ยหยันอยู่พักหนึ่ง เขาก็รู้สึกมีความสุขที่ได้เหยียบย่ำคนที่สมบูรณ์แบบอย่างนี้

“อะไรนะ เงินเดือนแค่ไม่กี่พันหยวนเองเหรอ!” หูจินซงแสร้งทำเป็นประหลาดใจ

หลินฟานนั้นไม่ได้ใส่ใจเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้

ก็แค่การเล่นแบบเด็กๆ!

ในความเห็นของเขา ทั้งหมดนี้มันไร้สาระเกินไป!

อย่างไรก็ตาม แค่เขาไม่ตอบโต้กลับก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะยอมลามือ

หูจินซงพูดด้วยความประหลาดใจ: “หือ! หลินฟาน นายใส่นาฬิกาด้วยเหรอ มันดูดีมากเลย! พวกเราขอดูมันหน่อยเถอะ!”

หลินฟานกล่าวเบา ๆ “มันก็แค่นาฬิกา ไม่มีอะไรน่าชื่นชมหรอก”

“อย่าพูดแบบนั้นสิ พวกเราทุกคนเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน พวกเราแค่หาเรื่องที่จะคุย!”

“อย่ากังวล เราไม่ทำมันพังหรอก แม้ว่ามันจะพัง ฉันสัญญาว่าจะจ่ายเงินชดเชยให้กับนาย” หูจินซงกล่าว

“ใช่แล้ว แค่ขอดูเฉยๆ” หวางห่าวฉี กล่าว

เซินเหลียงเริ่มอยากรู้อยากเห็นเล็กน้อย และเริ่มชักชวน “หลินฟาน นายจะโชวให้ทุกคนดูได้ไหม?”

หลินฟานมีความประทับใจที่ดีต่อเซินเหลียง และเมื่อได้ยินที่เขาพูดแบบนั้น ดังนั้นหลินฟ่านจึงถอด วาเชอรอง คอนสแตนติน ตูร์เดล และวางไว้บนโต๊ะ

หูจินซง หยิบนาฬิกาขึ้นมาถือไว้ในมือทั้งสองข้างแล้วส่ายไปมาหลายครั้งและพูดว่า: “พอมีน้ำหนักอยู่บ้าง”

หวางห่าวฉีกล่าวว่า “นี่ยี่ห้ออะไรหรอ มันค่อนข้างดูดีเหมือนกัน!”

“เพื่อนของฉัน เฉียวป๋อ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนาฬิกา ดังนั้นฉันจะรู้ยี่ห้อได้ในทันที ถ้าฉันส่งรูปไปให้เพื่อนดู” หูจินซงไม่ได้ถามหลินฟานเลย และถ่ายรูปส่งให้เพื่อนของเขา

เขาต้องการใช้สิ่งนี้เพื่อแสดงความสัมพันธ์ที่กว้างขวางของเขา และเพื่อเยาะเย้ยหลินฟานไปด้วย

น่าเสียดาย เฉียวป๋อไม่ได้ตอบกลับในทันที

หูจินทรงกล่าวว่า “รอสักครู่ เขาอาจจะยังไม่ว่าง”

เมื่อเซินเหลียงเห็น วาเชอรอง คอนสแตนติน ตูร์เดล เป็นครั้งแรก เขาตกใจและอดไม่ได้ที่จะถาม: “หลินฟาน นาฬิกาเรือนนี้ราคาเท่าไร”

“ได้มาฟรี ไม่เสียเงิน” หลินฟานกล่าว

หลินฟานไม่ได้พูดโกหก

เพราะนาฬิกาเรือนนี้ได้มาจากซองแดง

“คุณไม่ได้ใช้เงินเลยหรอ หลินฟาน นาฬิกาที่คุณใส่ไม่ควรเป็นของขวัญที่ได้จากคนอื่นนะ คุณเคยซื้อของใช้เองบ้างรึเปล่า” หวังห่าวฉีเยาะเย้ย

หูจินซง พูด”มันคงจะเป็นของขวัญที่คนอื่นมอบให้หลินฟาง ฉันไม่ควรถ่ายรูปและส่งให้เพื่อนเลย เพราะโดยทั่วไปแล้วส่วนใหญ่ของขวัญจะพวกเป็นสินค้าก็อบเกรด A ”

“เพื่อนฉันเกลียดสินค้าก็อบเกรด A ที่สุด เขาคงจะโกรธมากถ้าได้มาเห็นรูปนี้ทีหลัง”

หลังจากที่ หูจินซองพูดจบเขาก็โยนนาฬิกาลงบนโต๊ะ

เขาทำเหมือนกับว่าถ้าถือนาฬิกาเรือนนี้ต่อไป มือของเขาอาจจะแปดเปื้อนจากมัน

จากนั้นหูจินซงก็พูดด้วยน้ำเสียงเหยียดหยาม “หลินฟาน ไม่ใช่ว่าฉันเคยบอกนายไปแล้วหรอ ทุกคนเป็นเพื่อนร่วมชั้นเก่ากัน มันไม่ดีเลยที่จะสวมนาฬิกาก็อบเกรด A มางานเลี้ยงรุ่น”

“ถามเพื่อนร่วมชั้นของเราสิ มีใครบ้างที่จะกล้าใช้สินค้าก็อบเกรด A เพื่อแกล้งทำเป็นคนรวย”

อันที่จริง ก็มีบ้างที่นักเรียนบางคนจะซื้อสินค้าก็อบเกรด A เพื่อเอามาใส่

แต่พวกเขาคงจะไม่มีวันยอมรับมันหรอก

นี่คือหน้าตา มีใครบ้างอยากจะเสียหน้า!

ถึงยอมรับก็ไม่ได้แปลว่าจะยุ่งได้นะ?

ดังนั้นเพื่อนในห้องจึงส่ายหัวกันหมด

“คุณภาพของสินค้าก็อบเกรด A นั้นแย่กว่าของจริงมาก”

“ฉันไม่เคยใช้สินค้าก็อบเลย”

“ถ้าเงินไม่พอก็เก็บหน่อย แล้วจะซื้อสินค้าเกรด A ไปทำไมกัน”

หยางเหวินจิงยกกระเป๋ากุชชี่ในมือของเธอขึ้น และพูดว่า: “สินค้าก็อบเกรด A เป็นของที่พวกมีแต่คนจนๆเท่านั้นที่ใช้! ดูสามีของฉันสิ เขาไม่เคยซื้อสินค้าก็อบเกรดA ให้ฉันเลย”

หลังจากพูดจบ หยางเหวินจิง ก็กอดแขนของตู่เล่ยแล้วถูขึ้นลง

ตู่เล่ยรู้สึกถึงความนุ่มนวลบนแขนของเขา และความโกรธของเขาก็ค่อยๆ หายไป

หลินฟานฟังสิ่งที่ทุกคนพูด ราวกับเสียงแมลงวันนับไม่ถ้วนส่งเสียงพึมพำ และในที่สุดก็เริ่มโกรธเล็กน้อย และพูดขึ้นเสียงดังว่า “ฉันชอบมัน ไม่ต้องให้พวกนายมายุ่ง”

หลังจากพูดจบเขาก็นำ วาเชอรอง คอนสแตนติน ตูร์เดล กลับมาแล้วสวมที่ข้อมืออีกครั้ง

ทันใดนั้น ใบหน้าของเพื่อนร่วมชั้นในห้องก็เริ่มไม่ค่อยพอใจ

คำพูดของหลินฟาน ถือเป็นการขึ้นเสียงใส่พวกเขาทั้งหมด!

เซินเหลียงรู้สึกว่าถ้าเขาไม่ขอให้หลินฟานถอดนาฬิกา เรื่องแบบนี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้น

จากนั้นเขาก็พูดเสียงเบา “ทุกคนหลังจากกินข้าวแล้ว เราไปร้องเพลงกันไหม”

“โอเค ไป!”

“ไปกันเถอะ!”

เพื่อนร่วมชั้นทุกคนเห็นด้วย

หลินฟานพูดว่า “ฉันจะไม่ไปต่อแล้ว”

เหตุผลส่วนใหญ่ที่หลินฟานเข้าร่วมการรวมตัวของชั้นเรียนครั้งนี้เป็นเพราะเขาต้องการพบเพื่อนที่ดีในสมัยเรียนมัธยมปลาย

แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่ได้มา

หลินฟานเริ่มทานอาหารต่อ

แน่นอนว่าเขาจะไม่ไปร้องเพลง

ฉินหยู่ซวนเองก็พูดขึ้น “ฉันเองก็มีบางอย่างที่ต้องทำต่อหน่ะ ฉันคงจะไม่ได้ไปด้วยเหมือนกัน ขอให้ทุกคนโชคดีนะ”

หลายคนดีใจที่เห็นหลินฟานไม่ไป

อย่างไรก็ตาม ฉินหยู่ซวน สาวสวยขนาดนี้จะไม่ไปด้วย พวกเขาหลายคนไม่พอใจ แต่ก็ไม่คิดจะยอมแพ้

หลายคนจึงพูดเกลี้ยกล่อมออกมา

เกี่ยวกับเรื่องนี้… ฉินหยู่ซวน พูดเพียงว่าที่บ้านมีบางอย่างต้องทำและพูดปฏิเสธทุกคน

“เธอต้องการกลับไปด้วยกันกับผมไหม” หลินฟานแค่ถามออกไปอย่างไม่คาดหวัง

“จะไม่เป็นการรบกวนหรอ” ฉินหยู่ซวนกล่าวตอบด้วยรอยยิ้ม

หลินฟานตกตะลึง

อันที่จริงเขาแค่ถามไปเฉยๆ แต่เขาไม่นึกว่าฉินหยู่ซวนจะตอบตกลงจริงๆ

แต่อย่างไรก็เป็นเขาเองที่พูดออกไปเอง จะให้กลับคำได้ยังไง?

จากนั้นทั้งสองก็เดินไปที่ลานจอดรถด้วยกัน

ฉากนี้ถูกเห็นอยู่ในสายตาของเพื่อนร่วมห้องทุกคน

“สองคนนั้น… ไม่น่าจะมีอะไรกันใช่ไหม?”

“ฉินหยู่ซวน คิดยังไงกับเขากันแน่”

“พวกเขากำลังเดินไปที่ลานจอดรถ หลินฟานไม่มีรถไม่ใช่หรอไง?”

“พวกเขาน่าจะเรียกแท็กซี่ไปที่ลานจอดรถรึเปล่า น่าจะไปนั่งแท็กซี่คันนั่นแหละ” หวังห่าวฉี กล่าว

ทันทีที่เขาพูดแบบนี้ เพื่อนร่วมชั้นทุกคนก็เริ่มพูดดูถูกเหยียดหยามอีกรอบ

ในความเห็นของพวกเขา ควรจะเป็นรถหรูต่างหากที่ส่งสาวสวยอย่างฉินหยู่ซวนกลับบ้านได้!

แท็กซี่? มันน่าทุเรศสิ้นดี

หยางเหวินจิง เยาะเย้ย “ตั้งแต่คบมาสามีมา เขาไปส่งฉันกลับบ้านโดยรถที่มีระดับต่ำสุดก็ เมอร์เซเดส เบนซ์ หรือ บีเอ็มดับเบิลยู แต่แท็กซี่? หลินฟาน ชั่งน่าละอายจริงๆ!”

หูจินซง มองไปที่ด้านหลังของ หลินฟาน และ ฉินหยู่ซง และกล่าวว่า “บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ย์ 5 ของฉันก็อยู่ทางนั้นเช่นกัน”

หวางห่าวฉี พูด “หูจินซง ฉันคิดว่านายควรจะเป็นคนพาฉินหยู่ซวนกลับบ้าน”

ความจริงหวางห่าวฉี ยังหลงใหลในความสวยของ ฉินหยู่ซวน

แต่เขามี โตโยต้า โคโรลล่า ราคาเพียงแค่ 100,000 ดังนั้นเขาจึงไม่อยากจะเสนอตัวไปส่งฉินหยู่ซวน

หวางห่าวฉี เกลียดหลินฟาน

แต่เขายอมให้หูจินซงไปส่งฉินหยู่ซวน ดีกว่าให้หลินฟานไปส่งเธอ

“ใช่แล้ว เราปล่อยให้ฉินหยู่ซวนนั่งแท็กซี่กลับบ้านไม่ได้ ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเธอคงคิดว่าเพื่อนร่วมห้องอย่างเราละเลยเธอ”

“ถูกตัอง!”

ทุกคนเห็นด้วย

หูจินซงมีความสุขมาก จริงๆเขาเองก็เล็งฉินหยู่ซวนมาเป็นเวลานานแล้ว

ถ้าเขาสามารถส่งเธอกลับบ้านได้ เขาก็คงจะเข้าใกล้เธอได้อีกหน่อย หรืออาจจะถึงขั้นมีอะไรเกินเลยกัน…

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หูจินซงก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่า

เขากลืนน้ำลายแล้วพูดว่า “แต่ว่า…”

“ไม่ต้องห่วง เราจะสร้างโอกาศให้นาย แล้วนายค่อยเข้ามา!” หวังห่าวฉี กล่าว

“นี่…ก็ได้” หูจินซงตอบตกลง

เศรษฐีผู้ร่ำรวย:เริ่มจากการได้รับซองแดง 7 พันล้านซอง

เศรษฐีผู้ร่ำรวย:เริ่มจากการได้รับซองแดง 7 พันล้านซอง

Status: Ongoing

นักข่าว: คุณใช้เวลานานแค่ไหนในการสร้างรายได้ 1 ล้านหยวน? หลินฟาน: [กระพริบตา]…. นักข่าวข้างถนน: ทำไมคุณถึงกระพริบตา? หลินฟาน: คุณไม่ได้ถามฉันเหรอว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะได้ 1 ล้าน?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท