ในเวลานี้ บรรยากาศในห้องเริ่มอึมครึมลง
ทุกคนค่อยๆเริ่มลุกขึ้นยืน
“มันยากที่พวกเราทุกคนจะมารวมตัวกัน มาดื่มด้วยกันเถอะ!”
“ถูกต้อง! ดื่มมมมมม!”
จากนั้นทุกคนก็ชนแก้ว และดื่ม
หลังจากที่ดื่ม บรรยากาศในห้องดูเหมือนจะเงียบลงเล็กน้อย
จากนั้นเพื่อนร่วมชั้นเริ่มพูดคุยกันและมีเสียงหัวเราะตามมาอย่างคิ้กคัก
ต้องบอกเลยว่า หูจินซง มีทักษะในการพูดคุยที่ดี
ในไม่ช้าเขาก็กลายเป็นจุดสนใจของห้อง
หูจินซงเหลือบไปมองที่ หลินฟานซึ่งนั่งอยู่ตรงมุมห้อง
ดวงตาของเขาดูมืดลงและพูด “หลินฟานทำไมนายถึงเงียบ จะไม่คุยกับใครหน่อยหรอ?”
น้ำเสียงของหูจินซงผ่อนคลายและไม่แยแส
นี่มัน… ราวกับว่าเขาลืมเรื่องที่หลินฟานได้เปิดเผยเรื่องอื้อฉาวระหว่างเขากับป้าหวังไปแล้ว
หลังจากชะงักไปชั่วครู่และพูดต่อ “อ้อ หลินฟาน นายไปทำงานทันทีหลังจากเรียนจบมัธยมหนิ นายน่าจะทำเงินได้เยอะสินะ นายขับรถอะไรอยู่หล่ะ”
“เงินเดือนของหลินฟาน มันแค่ไม่กี่พันหยวนเอง จะไปซื้อรถอะไรมาขับได้หล่ะ เจ้าตัวเองก็คงไม่กล้าตอบหรอก” หวังห่าวฉีเยาะเย้ย
ในโรงเรียนมัธยมปลาย หลินฟานทั้งสูงและหล่อ เขายังเรียนดีมาก ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าเขาเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบที่สุดในชั้นเรียน
สมบูรณ์แบบมากจนสาว ๆ หลายคนในชั้นเรียนชื่นชอบเขา
หวางห่าวฉี เองก็รู้สึกอิจฉามาก
เมื่อเขาเห็นหลินฟานอยู่อย่างโดดเดี่ยว หลังจากเย้ยหยันอยู่พักหนึ่ง เขาก็รู้สึกมีความสุขที่ได้เหยียบย่ำคนที่สมบูรณ์แบบอย่างนี้
“อะไรนะ เงินเดือนแค่ไม่กี่พันหยวนเองเหรอ!” หูจินซงแสร้งทำเป็นประหลาดใจ
หลินฟานนั้นไม่ได้ใส่ใจเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้
ก็แค่การเล่นแบบเด็กๆ!
ในความเห็นของเขา ทั้งหมดนี้มันไร้สาระเกินไป!
อย่างไรก็ตาม แค่เขาไม่ตอบโต้กลับก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะยอมลามือ
หูจินซงพูดด้วยความประหลาดใจ: “หือ! หลินฟาน นายใส่นาฬิกาด้วยเหรอ มันดูดีมากเลย! พวกเราขอดูมันหน่อยเถอะ!”
หลินฟานกล่าวเบา ๆ “มันก็แค่นาฬิกา ไม่มีอะไรน่าชื่นชมหรอก”
“อย่าพูดแบบนั้นสิ พวกเราทุกคนเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน พวกเราแค่หาเรื่องที่จะคุย!”
“อย่ากังวล เราไม่ทำมันพังหรอก แม้ว่ามันจะพัง ฉันสัญญาว่าจะจ่ายเงินชดเชยให้กับนาย” หูจินซงกล่าว
“ใช่แล้ว แค่ขอดูเฉยๆ” หวางห่าวฉี กล่าว
เซินเหลียงเริ่มอยากรู้อยากเห็นเล็กน้อย และเริ่มชักชวน “หลินฟาน นายจะโชวให้ทุกคนดูได้ไหม?”
หลินฟานมีความประทับใจที่ดีต่อเซินเหลียง และเมื่อได้ยินที่เขาพูดแบบนั้น ดังนั้นหลินฟ่านจึงถอด วาเชอรอง คอนสแตนติน ตูร์เดล และวางไว้บนโต๊ะ
หูจินซง หยิบนาฬิกาขึ้นมาถือไว้ในมือทั้งสองข้างแล้วส่ายไปมาหลายครั้งและพูดว่า: “พอมีน้ำหนักอยู่บ้าง”
หวางห่าวฉีกล่าวว่า “นี่ยี่ห้ออะไรหรอ มันค่อนข้างดูดีเหมือนกัน!”
“เพื่อนของฉัน เฉียวป๋อ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนาฬิกา ดังนั้นฉันจะรู้ยี่ห้อได้ในทันที ถ้าฉันส่งรูปไปให้เพื่อนดู” หูจินซงไม่ได้ถามหลินฟานเลย และถ่ายรูปส่งให้เพื่อนของเขา
เขาต้องการใช้สิ่งนี้เพื่อแสดงความสัมพันธ์ที่กว้างขวางของเขา และเพื่อเยาะเย้ยหลินฟานไปด้วย
น่าเสียดาย เฉียวป๋อไม่ได้ตอบกลับในทันที
หูจินทรงกล่าวว่า “รอสักครู่ เขาอาจจะยังไม่ว่าง”
เมื่อเซินเหลียงเห็น วาเชอรอง คอนสแตนติน ตูร์เดล เป็นครั้งแรก เขาตกใจและอดไม่ได้ที่จะถาม: “หลินฟาน นาฬิกาเรือนนี้ราคาเท่าไร”
“ได้มาฟรี ไม่เสียเงิน” หลินฟานกล่าว
หลินฟานไม่ได้พูดโกหก
เพราะนาฬิกาเรือนนี้ได้มาจากซองแดง
“คุณไม่ได้ใช้เงินเลยหรอ หลินฟาน นาฬิกาที่คุณใส่ไม่ควรเป็นของขวัญที่ได้จากคนอื่นนะ คุณเคยซื้อของใช้เองบ้างรึเปล่า” หวังห่าวฉีเยาะเย้ย
หูจินซง พูด”มันคงจะเป็นของขวัญที่คนอื่นมอบให้หลินฟาง ฉันไม่ควรถ่ายรูปและส่งให้เพื่อนเลย เพราะโดยทั่วไปแล้วส่วนใหญ่ของขวัญจะพวกเป็นสินค้าก็อบเกรด A ”
“เพื่อนฉันเกลียดสินค้าก็อบเกรด A ที่สุด เขาคงจะโกรธมากถ้าได้มาเห็นรูปนี้ทีหลัง”
หลังจากที่ หูจินซองพูดจบเขาก็โยนนาฬิกาลงบนโต๊ะ
เขาทำเหมือนกับว่าถ้าถือนาฬิกาเรือนนี้ต่อไป มือของเขาอาจจะแปดเปื้อนจากมัน
จากนั้นหูจินซงก็พูดด้วยน้ำเสียงเหยียดหยาม “หลินฟาน ไม่ใช่ว่าฉันเคยบอกนายไปแล้วหรอ ทุกคนเป็นเพื่อนร่วมชั้นเก่ากัน มันไม่ดีเลยที่จะสวมนาฬิกาก็อบเกรด A มางานเลี้ยงรุ่น”
“ถามเพื่อนร่วมชั้นของเราสิ มีใครบ้างที่จะกล้าใช้สินค้าก็อบเกรด A เพื่อแกล้งทำเป็นคนรวย”
อันที่จริง ก็มีบ้างที่นักเรียนบางคนจะซื้อสินค้าก็อบเกรด A เพื่อเอามาใส่
แต่พวกเขาคงจะไม่มีวันยอมรับมันหรอก
นี่คือหน้าตา มีใครบ้างอยากจะเสียหน้า!
ถึงยอมรับก็ไม่ได้แปลว่าจะยุ่งได้นะ?
ดังนั้นเพื่อนในห้องจึงส่ายหัวกันหมด
“คุณภาพของสินค้าก็อบเกรด A นั้นแย่กว่าของจริงมาก”
“ฉันไม่เคยใช้สินค้าก็อบเลย”
“ถ้าเงินไม่พอก็เก็บหน่อย แล้วจะซื้อสินค้าเกรด A ไปทำไมกัน”
หยางเหวินจิงยกกระเป๋ากุชชี่ในมือของเธอขึ้น และพูดว่า: “สินค้าก็อบเกรด A เป็นของที่พวกมีแต่คนจนๆเท่านั้นที่ใช้! ดูสามีของฉันสิ เขาไม่เคยซื้อสินค้าก็อบเกรดA ให้ฉันเลย”
หลังจากพูดจบ หยางเหวินจิง ก็กอดแขนของตู่เล่ยแล้วถูขึ้นลง
ตู่เล่ยรู้สึกถึงความนุ่มนวลบนแขนของเขา และความโกรธของเขาก็ค่อยๆ หายไป
…
หลินฟานฟังสิ่งที่ทุกคนพูด ราวกับเสียงแมลงวันนับไม่ถ้วนส่งเสียงพึมพำ และในที่สุดก็เริ่มโกรธเล็กน้อย และพูดขึ้นเสียงดังว่า “ฉันชอบมัน ไม่ต้องให้พวกนายมายุ่ง”
หลังจากพูดจบเขาก็นำ วาเชอรอง คอนสแตนติน ตูร์เดล กลับมาแล้วสวมที่ข้อมืออีกครั้ง
ทันใดนั้น ใบหน้าของเพื่อนร่วมชั้นในห้องก็เริ่มไม่ค่อยพอใจ
คำพูดของหลินฟาน ถือเป็นการขึ้นเสียงใส่พวกเขาทั้งหมด!
เซินเหลียงรู้สึกว่าถ้าเขาไม่ขอให้หลินฟานถอดนาฬิกา เรื่องแบบนี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้น
จากนั้นเขาก็พูดเสียงเบา “ทุกคนหลังจากกินข้าวแล้ว เราไปร้องเพลงกันไหม”
“โอเค ไป!”
“ไปกันเถอะ!”
เพื่อนร่วมชั้นทุกคนเห็นด้วย
หลินฟานพูดว่า “ฉันจะไม่ไปต่อแล้ว”
เหตุผลส่วนใหญ่ที่หลินฟานเข้าร่วมการรวมตัวของชั้นเรียนครั้งนี้เป็นเพราะเขาต้องการพบเพื่อนที่ดีในสมัยเรียนมัธยมปลาย
แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่ได้มา
หลินฟานเริ่มทานอาหารต่อ
แน่นอนว่าเขาจะไม่ไปร้องเพลง
ฉินหยู่ซวนเองก็พูดขึ้น “ฉันเองก็มีบางอย่างที่ต้องทำต่อหน่ะ ฉันคงจะไม่ได้ไปด้วยเหมือนกัน ขอให้ทุกคนโชคดีนะ”
หลายคนดีใจที่เห็นหลินฟานไม่ไป
อย่างไรก็ตาม ฉินหยู่ซวน สาวสวยขนาดนี้จะไม่ไปด้วย พวกเขาหลายคนไม่พอใจ แต่ก็ไม่คิดจะยอมแพ้
หลายคนจึงพูดเกลี้ยกล่อมออกมา
เกี่ยวกับเรื่องนี้… ฉินหยู่ซวน พูดเพียงว่าที่บ้านมีบางอย่างต้องทำและพูดปฏิเสธทุกคน
“เธอต้องการกลับไปด้วยกันกับผมไหม” หลินฟานแค่ถามออกไปอย่างไม่คาดหวัง
“จะไม่เป็นการรบกวนหรอ” ฉินหยู่ซวนกล่าวตอบด้วยรอยยิ้ม
หลินฟานตกตะลึง
อันที่จริงเขาแค่ถามไปเฉยๆ แต่เขาไม่นึกว่าฉินหยู่ซวนจะตอบตกลงจริงๆ
แต่อย่างไรก็เป็นเขาเองที่พูดออกไปเอง จะให้กลับคำได้ยังไง?
จากนั้นทั้งสองก็เดินไปที่ลานจอดรถด้วยกัน
ฉากนี้ถูกเห็นอยู่ในสายตาของเพื่อนร่วมห้องทุกคน
“สองคนนั้น… ไม่น่าจะมีอะไรกันใช่ไหม?”
“ฉินหยู่ซวน คิดยังไงกับเขากันแน่”
“พวกเขากำลังเดินไปที่ลานจอดรถ หลินฟานไม่มีรถไม่ใช่หรอไง?”
“พวกเขาน่าจะเรียกแท็กซี่ไปที่ลานจอดรถรึเปล่า น่าจะไปนั่งแท็กซี่คันนั่นแหละ” หวังห่าวฉี กล่าว
ทันทีที่เขาพูดแบบนี้ เพื่อนร่วมชั้นทุกคนก็เริ่มพูดดูถูกเหยียดหยามอีกรอบ
ในความเห็นของพวกเขา ควรจะเป็นรถหรูต่างหากที่ส่งสาวสวยอย่างฉินหยู่ซวนกลับบ้านได้!
แท็กซี่? มันน่าทุเรศสิ้นดี
หยางเหวินจิง เยาะเย้ย “ตั้งแต่คบมาสามีมา เขาไปส่งฉันกลับบ้านโดยรถที่มีระดับต่ำสุดก็ เมอร์เซเดส เบนซ์ หรือ บีเอ็มดับเบิลยู แต่แท็กซี่? หลินฟาน ชั่งน่าละอายจริงๆ!”
หูจินซง มองไปที่ด้านหลังของ หลินฟาน และ ฉินหยู่ซง และกล่าวว่า “บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ย์ 5 ของฉันก็อยู่ทางนั้นเช่นกัน”
หวางห่าวฉี พูด “หูจินซง ฉันคิดว่านายควรจะเป็นคนพาฉินหยู่ซวนกลับบ้าน”
ความจริงหวางห่าวฉี ยังหลงใหลในความสวยของ ฉินหยู่ซวน
แต่เขามี โตโยต้า โคโรลล่า ราคาเพียงแค่ 100,000 ดังนั้นเขาจึงไม่อยากจะเสนอตัวไปส่งฉินหยู่ซวน
หวางห่าวฉี เกลียดหลินฟาน
แต่เขายอมให้หูจินซงไปส่งฉินหยู่ซวน ดีกว่าให้หลินฟานไปส่งเธอ
“ใช่แล้ว เราปล่อยให้ฉินหยู่ซวนนั่งแท็กซี่กลับบ้านไม่ได้ ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเธอคงคิดว่าเพื่อนร่วมห้องอย่างเราละเลยเธอ”
“ถูกตัอง!”
ทุกคนเห็นด้วย
หูจินซงมีความสุขมาก จริงๆเขาเองก็เล็งฉินหยู่ซวนมาเป็นเวลานานแล้ว
ถ้าเขาสามารถส่งเธอกลับบ้านได้ เขาก็คงจะเข้าใกล้เธอได้อีกหน่อย หรืออาจจะถึงขั้นมีอะไรเกินเลยกัน…
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หูจินซงก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่า
เขากลืนน้ำลายแล้วพูดว่า “แต่ว่า…”
“ไม่ต้องห่วง เราจะสร้างโอกาศให้นาย แล้วนายค่อยเข้ามา!” หวังห่าวฉี กล่าว
“นี่…ก็ได้” หูจินซงตอบตกลง