เซินเหว่ยทำงานในห้างสรรพสินค้าหยินซานมาหลายปีแล้วและคุ้นเคยกับที่นี่เป็นอย่างดี
ไม่นานเขาก็พารปภ.กลุ่มใหญ่มาถึงที่ประตูร้านขายเสื้อผ้าของ KK
ผานเจิ้งหยางเห็นเซินเหว่ยจากระยะไกล เขารีบตะโกนเรียก “เซินเหว่ย! ฉันอยู่ตรงนี้!”
ขณะที่พูด เขาก็เหลือบมองหลินฟานด้วยท่าทางที่เย็นชา
เหมือนกำลังจะบอกว่า อีกเดี๋ยวแกจะต้องเจอดีแน่!
ซุนเสี่ยวหงที่ตอนนี้ใบหน้าของเธอบวมเหมือนกับหัวหมู มองไปที่คนที่เซินเหว่ยพามา ความรู้สึกกล้าหาญของเธอก็กลับมาอีกครั้ง
เธอชี้ไปที่หลินฟานและกรีดร้อง “เป็นมัน มันตีฉัน! เซินเหว่ย นายช่วยฉันสอนบทเรียนให้กับมันที!”
เซินเหว่ย รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นรูปลักษณ์ที่น่าสังเวชของซุนเสี่ยวหง เขารีบพูดรับปาก”น้องสาวเสี่ยวหง ไม่ต้องกังวลไป พี่จะช่วยคุณสอนบทเรียนให้กับเขาเอง”
จากนั้น เซินเหว่ยก็หันไปพูดกับหลินฟานอย่างดุร้าย “ไอหนุ่ม แกกล้ามาก แกกล้าสร้างปัญหาในห้างหยินซานของเรา! ตอนนี้นายถูกต้องสงสัยว่าขโมยของในห้างหยินซานของเรา!”
“พี่น้องทั้งหลาย จับเขามาแล้วพาไปที่ห้องรักษาความปลอดภัย ฉันจะทำการสอบสวนมันให้เละที่นั่น!”
ความคิดของเซินเหว่ยนั้นง่ายมาก
ขณะนี้มีผู้คนมากมายในห้างหยินซาน
เขาไม่สามารถสอนบทเรียนให้กับหลินฟานในที่สาธารณะได้
ไม่อย่างนั้นฉันอาจจะเดือดร้อนจากเรื่องนี้
แค่หาเหตุผลที่ต้องพาหลินฟานไปที่ห้องรักษาความปลอดภัย เขาก็จะสามารถทำในสิ่งที่ไม่สามารถทำในที่สาธารณะได้
หลินฟานเหลือบมองไปที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ที่นี่ เขารู้สึกลำบากใจอีกครั้ง
ในตอนแรก หลินฟานคิดจะสอนบทเรียนให้กับคนที่ผานเจิ้งหยางโทรเรียกมา
อย่างไรก็ตาม คนเหล่านี้เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของห้างสรรพสินค้าหยินซาน ทั้งหมดนี่ก็เป็นพนักงานของเขาเองไม่ใช่เหรอ?
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หลินฟานก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วโทรออกทันที
เซินเหว่ยเห็นหลินฟานกำลังโทรหาใครบางคน เขาจึงเริ่มพูดจาเยาะเย้ยออกมา “คิดจะโทรหาใครกัน ฉันเองก็อยากจะรู้ว่ามีใครที่กล้าออกมาปกป้องคนที่มีปัญหากับห้างหยินซานของเรา!”
เมื่อเห็นดังนั้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งหมดก็หยุดแล้วจ้องไปที่โทรศัพท์ของหลินฟาน ดูเหมือนว่าพวกเขาต้องการรู้ว่าหลินฟานจะโทรไปหาใคร
…
สำนักงานใหญ่ของหยินซานกรุ๊ป ณ ห้องประชุม
ซงจื้อเฟิง ประธานคณะกรรมการกำลังจัดการประชุมระดับสูงกับผู้จัดการทั่วไปร่วมกับคณะกรรมการและผู้บริหารคนอื่นๆ ของบริษัท
ในขณะนั้นเองโทรศัพท์ของซงจื้อเฟิงก็สั่นขึ้น
ซงจื้อเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาเกลียดการที่มีอะไรมาขัดจังหวะระหว่างการประชุม เขาหยิบโทรศัพท์และกดวางสายก่อนที่จะอ่านชื่อคนที่โทรมาซะอีก
แต่เมื่อเขาวางสายไปแล้ว ซงจื้อเฟิงก็สังเกตุเห็นชื่อของคนที่โทรมา รูม่านตาของหดเล็กลง
ซงจื้อเฟิงไม่ลังเลเลย เขารีบต่อสายโทรกลับไปทันที
“คุณหลิน มีอะไรรึเปล่า” ซงจื้อเฟิงกล่าวอย่างระมัดระวัง
“ตอนนี้ผมถูกรปภ.หลายสิบคนล้อมอยู่ข้างในห้างหยินซานในชิงซี พวกเขาอ้างว่าผมสร้างปัญหาและขโมยของในห้างหยินซาน ตอนนี้พวกเขาต้องการที่จะจับผมและพาผมไปที่ห้องรักษาความปลอดภัย!”
หลังจากที่หลินฟานพูดจบเขาก็กดวางสายทันที
ซงจื้อเฟิงได้ยินเรื่องนี้ และเหงื่อที่เย็นเยียบก็ออกมาเต็มหน้าผากของเขา
เขาพึ่งได้ฟังอะไร
หลินฟาน … กำลังถูกล้อมด้วยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายสิบคนของห้างหยินซานใน ชิงซี?
พวกนั้นยังบอกว่าเขาสร้างปัญหาด้วย?
ขโมยของเหรอ?
รปภ.พวกนี้…กล้าขนาดนี้ได้ยังไง? !
พวกนั้นรู้ไหมว่าหลินฟานเป็นเจ้าของหุ้นถึง 51% ของหยินซานกรุ๊ป
ถึงแม้หลินฟานจะสร้างปัญหาจนห้างสรรพสินค้าหยินซานทั้งหมดพังยับเยิน แต่นั่นก็ไม่นับเป็นปัญหาเสียด้วยซ้ำ
ส่วนเรื่องขโมยของ?
อย่ามาตลก! แม้ว่าเขาจะเป็นคนมอบทุกอย่างที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าให้กับหลินฟาน หลินฟานก็อาจจะไม่เห็นค่าของมันด้วยซ้ำ!
เป็นโชคดีที่หลินฟานตัดสินใจที่จะรอรับแต่เงินปันผล และจะไม่เข้ามาก้าวก่ายการบริหารของเขา แต่ดูตอนนี้สิ หลินฟานกำลังมีปัญหาอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าหยินซานที่เขาดูแล
ไอ้รปภ.พวกนี้! กล้า…กล้าหาเรื่องเขางั้นเหรอ!
“ไอ้พวกบัดซบ!” ซงจื้อเฟิงสาปแช่งออกมา
ผู้คนระดับสูงในห้องประชุมต่างมองหน้ากันหลังจากได้ยินคำพูดนั้น
ซงจื้อเฟิงไม่เคยคุยโทรศัพท์ในที่ประชุม
แต่วันนี้เขาคุย
และระหว่างที่เขาคุย เขาก็ระมัดระวังมาก น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยคำเยินยอ
ในที่สุดซงจื้อเฟิงที่ไม่เคยโกรธก็ตะโกนออกเสียงดัง
แซ่หลิน?
เขาเป็นคนลึกลับที่เพิ่งซื้อหุ้น 51% ในของหยินซานกรุ๊ปใช่ไหม?
ผู้บริหารทุกคนล้วนคาดเดาอยู่ในใจ
แต่ซงจื้อเฟิงเพิกเฉยต่อทุกคน เขารีบเปิดแล็ปท็อปตรงหน้าเขา หลังจากค้นหาบางอย่างสักครู่ เขาก็โทรไปที่หมายเลขของโจวเฉิงจุนผู้จัดการทั่วไปของจังหวัดชิงซีอย่างเร่งรีบ
…
หลังจากหารือเรื่องธุรกิจกับลูกค้าแล้ว โจวเฉิงจุนก็ขับรถตรงไปที่ลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าหยินซาน เขากำลังเดินกลับไปที่สำนักงานเพื่อดำเนินการเอกสารบางอย่าง
ในตอนนี้เอง โทรศัพท์มือถือในกระเป๋าของเขาก็ดังขึ้น
เขาเหลือบมองอย่างไม่ใส่ใจ
วินาทีต่อมา รูม่านตาของโจวเฉิงจุนหดตัวลงอย่างกะทันหัน และหัวใจของเขาก็เต้นรัวอย่างรวดเร็ว
โจวเฉิงจุนเป็นคนที่เอาใจใส่อย่างมากกับพวกคนใหญ่คนโต เขาได้จัดเก็บหมายเลขของผู้บริหารระดับสูงของบริษัทไว้ในเครื่อง
และสายนี้… มันมาจากประธานซงจื้อเฟิง!
โจวเฉิงจุนกดปุ่มรับด้วยความตื่นเต้น
“สวัสดีครับท่านประธาน”
“โจวเฉิงจุน นายเป็นผู้จัดการได้ยังไง นายกินแต่อาหารสุนัขเข้าไปหรือไง แค่รปภ.สิบกว่าคนก็ดูแลไม่ได้หรือไง!” ซงจื้อเฟิงคำรามด้วยความโกรธ
โจวเฉิงจุนไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะถูกด่า เขาเต็มไปด้วยความสับสน “ท่านประธาน ผมไม่เข้าใจ…”
“ยังไม่เข้าใจเหรอ โอเค! ถ้าอย่างนั้นบอกฉันหน่อยว่าทำไมยามรักษาความปลอดภัยหลายสิบคนในห้างสรรพสินค้าหยินซาน กำลังล้อมจับหลินฟานที่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของหยินซานกรุ๊ป?” จื้อเฟิงตะโกนอย่างโกรธจัด
ฮึ่ม!
โจวเฉิงจุนรู้สึกเหมือนกับว่ามีระเบิดมาระเบิดเข้าที่หูของเขา โจวเฉิงจุนรู้สึกตกตะลึงจนพูดไม่ออก
เมื่อเร็ว ๆ นี้ เขาได้ยินมาจากข่าวลือว่ามีบุคคลลึกลับซื้อหุ้น 51% ของหยินซานกรุ๊ป และได้กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของหยินซานกรุ๊ป
ตอนนี้ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดถูกล้อมอยู่ในห้างที่เขาดูแลอยู่ และกำลังจะถูกรปภ.จับ?
นี่…เป็นเรื่องใหญ่!
เรื่องใหญ่มาก!
โจวเฉิงจุนพูดด้วยความตื่นตระหนก: “ท่าน…ประธาน อาจมีความเข้าใจผิดกันในเรื่องนี้…ผมเพิ่งจะกลับมาจากการหาลือทางธุรกิจ ผมจะรีบไปที่ห้างหยินซานในทันที…”
“เร็วเข้า! จำไว้ ห้ามให้คุณหลินฟานเป็นอะไรไป ไม่อย่างนั้น ฮึ่ม!” ซงจื้อเฟิงวางสายหลังจากเสียงพูดจบ
เดิมทีโจวเฉิงจุนซึ่งกำลังเดินช้าๆ ไปที่สำนักงานของห้างสรรพสินค้าหยินซาน แต่ตอนนี้เขาไม่กล้าเดินช้าๆอีกต่อไป และรีบวิ่งไปข้างในห้างสรรพสินค้าด้วยความเร็ว 100 เมตรชาย
เนื่องจากวิ่งด้วยความเร็วสูง โจวเฉิงจุนจึงเสียหลักล้มลงกับพื้น
แต่เขาไม่ได้สนใจหัวเข่าที่เป็นแผลเลย เขาลุงขึ้นมาอย่างทุลักทุเลและรีบวิ่งต่อด้วยความเร็วที่เร็วที่สุด
…
หน้าร้านขายเสื้อผ้า KK
หลังจากที่หลินฟานกดวางสาย เซินเหว่ยสังเกตุเห็นว่าเริ่มมีคนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆมองมาที่พวกเขา
เขารู้สึกว่าเขาไม่สามารถรอเวลาได้อีกต่อไป ไม่เช่นนั้น บางที… มันอาจจะกลายเป็นปัญหาแก่ตัวเขาเอง
จากนั้นเซินเหว่ยก็ตะโกนว่า “พี่น้อง อย่ารอช้า รีบพาคนก่อปัญหาและขโมยของไปที่ห้องรักษาความปลอดภัย!”
เมื่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ยินสิ่งที่เซินเหว่ยพูด พวกเขารีบเข้าไปจับหลินฟานทันที
แต่ในขณะนั้น เสียงคำรามแห่งความโกรธก็ดังขึ้นมาจากระยะไกล
“พวกสารเลว ฉันก็อยากจะเห็นว่าใครมันกล้าแตะต้องคุณหลิน!”