หลังจากคืนฝนตก ใบไม้สีเขียวขจีที่ใสดุจดั่งคริสตัลอันแสนสวยงาม
หลินฟานเปิดหน้าต่างจากนั้นก็มีลมพัดเข้ามาทำให้ทุกคนรู้สึกสดชื่นในทันที
ในห้องนั่งเล่น บนโต๊ะมีแพนเค้กต้นหอมและบะหมี่วางอยู่
หลังจากที่ต้าเหว่ยสัวเห็นหลินฟานเดินมา เธอก็พูดว่า “เสี่ยวฟาน ไปล้างมือก่อนแล้วค่อนมากินบะหมี่นะลูก”
“ได้ครับ” หลินฟานตอบกลับ
หลังจากเสียงน้ำได้หยุดลง หลินฟานก็เดินออกมาจากห้องน้ำ
เขาตักบะหมี่เข้าปาก ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความพึงพอใจในรสชาติ
ตอนนั้นเอง ในที่สุดหลินเถาก็อดไม่ได้ที่จะถาม “เสี่ยวฟาน ลูกให้ยาอะไรกับพวกเราเมื่อวานนี้”
“อาการบาดเจ็บและอาการเจ็บป่วยที่ร่างกายของพ่อกับแม่ดูเหมือนจะหายดีแล้ว… และอย่างกับว่า… พวกเราอ่อนไวลงเป็นสิบปี”
เมื่อต้าเหว่ยสัวได้ยินสิ่งที่หลินเถาพูด ใบหน้าของเธอก็แดงขึ้นมาเล็กน้อย
จากนั้นเธอก็มองไปที่หลินฟานอย่างเงียบ ๆ ด้วยท่าทางที่อยากรู้คำตอบ
หลินฟานกล่าวว่า “นี่… เป็นอาหารเสริมที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ มันหายากมากในตอนนี้”
หลินเถาและต้าเหว่ยสัวพยักหน้าแล้วครุ่นคิดแต่ก็ไม่ได้ถามต่อ
หลังอาหารเช้า เดิมทีต้าเหว่ยสัวต้องการจะไปซื้ออของ
แต่หลินฟานขอให้เธอพักผ่อนอยู่ที่บ้าน และหลินฟานก็เสนอจะเป็นคนไปชื้อของที่ตลาดเอง
ช่วงนี้ตลาดคึกคักมากๆ
หลินฟานซื้อเนื้อ ผักแล้วก็ปลาอีกจำนวนมาก และเตรียมที่จะกลับบ้าน
ทันใดนั้น รูปร่างที่ดูคุ้นเคยก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเขา
“นายคือ…หวังเซี่ยวตง?” หลินฟานถาม
“หลินฟาน?” ชายหนุ่มที่อยู่ฝั่งตรงข้ามรู้สึกประหลาดใจ
“ฮ่าฮ่า! เป็นนายนี่เอง! บังเอิญสุดๆเลยที่มาเจอกันที่นี่” หลินฟานพูดอย่างมีความสุข
หวังเซี่ยวตง เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะตอนมัธยมต้นของหลินฟาน และทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
น่าเสียดายที่พวกเขาไม่มีเบอร์โทรศัพท์หรือวีแชทของกันและกัน
ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้ติดต่อกันมานานมาก
หวังเซี่ยวตงยิ้มและพูด “ใช่ ฉันก็แปลกใจเหมือนกัน”
ตอนนั้นเอง ผู้หญิงรูปร่างสมส่วนที่ยืนอยู่ข้างๆหวังเซี่ยวตงก็ถามขึ้นมา “เซี่ยวตง นี่ใคร?”
“โอ้ เขาคือหลินฟาน เรานั่งโต๊ะข้างๆกันในสมัยมัธยมต้น… ตอนนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างเราสองคนนั้นดีมาก” หวังเซี่ยวตงแนะนำ “หลินฟาน นี่คือภรรยาของฉันเอง กงซีฉิน”
กงซีฉินก็พูดขึ้นทันที “เป็นเพื่อนที่ดีของเซี่ยวตงนี่เอง ยินดีที่ได้รู้จัก!”
หลังจากหยุดชั่วคราว เธอก็พูดขึ้นมา “พอดีเลย เซี่ยวตงและฉันกำลังจะแต่งงานกันในวันอาทิตย์หน้า คุณต้องมาร่วมงานด้วยนะ”
ทันทีที่เธอพูดจบ หวังเซี่ยวตงก็เริ่มไม่พอใจเล็กน้อย
เขาและหลินฟาน มีความสัมพันธ์ที่ดีกันมาก่อนก็จริง
แต่พวกเขาก็ไม่ได้ติดต่อกันมาหลายปีแล้ว
ทันทีที่พวกเขาพบกัน ก็ขอให้เขามาร่วมงานแต่งงานเลยหรอ
เรื่องนี้ทำให้หวังเซี่ยวตงรู้สึกไม่ดีที่จะรับ ‘เงินของขวัญ’ จากหลินฟาน
เขาไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้
หลินฟานเองก็สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของหวังเซี่ยวตง
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็พอจะเดาเหตุผลได้แล้ว
หลินฟานไม่ได้สนใจเรื่องเงินของขวัญเลย
แต่หลินฟานไม่รู้จริง ๆ ว่าเขาจะมีเวลาว่างในวันอาทิตย์หน้าหรือเปล่า
เพราะเขาไม่รู้ว่าการแข่งขันแบบจำลองทางคณิตศาสตร์จะจัดขึ้นในสัปดาห์หน้าหรือไม่
หลินฟานคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อนจะพูดว่า “ถ้าฉันมีเวลา อาทิตย์หน้าฉันจะไปนะ”
กงซีฉินพูด”โอเค ถ้าอย่างนั้นเราก็ตกลงกันได้แล้ว! อย่างไรก็ตาม เซี่ยวตง คุณมีข้อมูลติดต่อของเขารึยัง”
ถึงหวังเซี่ยวตงจะไม่ค่อยเต็มใจ แต่ถ้าเขาไม่ได้ขอข้อมูลติดต่อกับหลินฟานในตอนนี้ล่ะก็?
มันคงจะเลวร้ายยิ่งกว่า
หลังจากที่แลกเปลี่ยนข้อมูลติดต่อเสร็จแล้ว หลินฟานก็กลับไปที่บ้านทันที
ในเวลานี้ หลินเสี่ยวเหยากำลังนั่งอยู่บนโซฟาและเล่นโทรศัพท์มือถือของเธอ
หลังจากที่เธอเห็นหลินฟาน เธอก็ลุกขึ้นด้วยความตื่นเต้นแล้วพูดว่า“พี่ชาย ทำไมพี่ไม่บอกฉันก่อนว่าพี่จะกลับมา ถ้าฉันรู้ว่าพี่จะมา ฉันจะรับกลับมาทันทีหลังจากที่เรียนด้วยตัวเองในตอนเย็นของเมื่อวาน!”
โรงเรียนมัธยมต้นชิงซี เข้มงวดเรื่องการเรียนรู้อย่างมาก
นอกจากช่วงพักวันอาทิตย์ ในทุกๆวันเธอจะต้องไปเรียนด้วยตัวเองในตอนเย็น
การศึกษาด้วยตนเองในช่วงเย็นกินเวลายาวจนถึง 22:00 น. ดังนั้นนักเรียนส่วนใหญ่จึงเลือกพักอยู่ในวิทยาเขตของโรงเรียนตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันเสาร์ และจะกลับบ้านกันในวันอาทิตย์
หลินเสี่ยวเหยาก็เป็นหนึ่งในนักเรียนเหล่านี้
หลินฟานบีบใบหน้าที่สวยงามของหลินเสี่ยวเหยาอย่างอารมณ์ดีก่อนจะพูดว่า “น้องผอมลงอีกแล้วหรอ เสี่ยวเหยา น้องต้องกินมากๆสิ วันนี้พี่จะเป็นคนบังคับให้น้องกินเอง”
“พี่! นี่เป็นวิธีที่ทำให้ฉันมีใบหน้าที่เรียวแบบนี้!” หลินเสี่ยวเหยาประท้วง
ตอนเที่ยงทุกคนในครอบครัวกำลังทำอาหารกันอยู่ในครัว ทุกคนพูดคุยและหัวเราะกันอย่างอบอุ่น
เมื่อหลินฟานนำหมูหยองกับพริกหยวกหั่นมาถึงที่โต๊ะในห้องนั่งเล่น ก็เป็นเวลา 12:00 น. พอดี โทรศัพท์ในกระเป๋าของเขาก็ได้สั่นขึ้น
ซองแดงปรากฎ!
“ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณได้รับเงิน 2 หยวน”
“ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณได้รับเงิน 2,000 หยวน”
……
“ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณได้รับเงิน 10,000 หยวน”
“ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณได้รับเงิน 10 หยวน”
“ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณได้รับเงิน 1,000 หยวน”
วันนี้หลินฟานได้รับเงิน 30,507 หยวน
เกี่ยวกับเรื่องนี้… หลินฟานไม่ได้สนใจเลย เขาเก็บโทรศัพท์กลับเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ
และไม่นานก็มีอาหารเลิศรสวางอยู่บนโต๊ะ
ครอบครัวนั่งล้อมรอบโต๊ะและกินข้าวกันอย่างมีความสุข
ในตอนแรก หลินฟานต้องการจะอยู่ที่บ้านต่ออีกสักพัก
แต่อย่างไรก็ตาม หลินเถาและต้าเหว่ยสัวกังวลว่าการขับรถในตอนดึกมันจะไม่ปลอดภัย ดังนั้นพวกเขาจึงได้บอกให้หลินฟานกลับไปที่เจียงเป่ยตอนนี้เลย
……
ณ มหาวิทยาลัยเจียงเป่ย
เมื่อหลินฟานเดินเข้าไปในห้องนอน 104 ก็เห็นหม่าจงกำลังเก็บหนังสือของเขาอยู่
เจิ้งจินเป่าพูดอย่างมีความสุข “พี่ชายฟาน พี่กลับมาแล้ว วันนี้ฉันมีนัดไปทานอาหารเย็นกับลูกพี่ลูกน้อง ฉันกำลังจะไปกับหม่าจงและซ่งหยี่พอดี”
“งั้นดูเหมือนว่า…ฉันจะกลับมาได้ถูกเวลาสินะ” หลินฟานยิ้ม
ซ่งหยี่ “พี่ฟานรู้ไหม ลูกพี่ลูกน้องของเจิ้งจินเป่าเป็นคนดังทางอินเทอร์เน็ตนะ!”
“จริงเหรอ?” หลินฟานรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
เพราะเจิ้งจินเป่ามีรูปร่างที่ค่อนข้างอ้วน
ลูกพี่ลูกน้องของเขาก็คงจะไม่น่าดูดีมากเกินขนาดนั้นหนิ
แบบนี้…จะสามารถเป็นคนดังทางอินเทอร์เน็ตได้ด้วยหรอ?
เจิ้งจินเป่า ดูเหมือนจะเข้าใจความคิดของหลินฟาน และกล่าวว่า “อย่ามองว่าฉันอ้วนนะและลูกพี่ลูกน้องของฉันก็ดูดีมากด้วย ไปกันเลยดีกว่าแล้วพี่ก็จะรู้เอง!”
หลังจากพูดจบ เขาก็เดินออกไปทันที
เดิมทีเจิ้งจินเป่า, ซงหยี่และหม่าจง กำลังวางแผนที่จะนั่งแท็กซี่ไปยังร้านอาหารกัน
แต่ในเมื่อหลินฟานกลับมาแล้ว ก็คงไม่จำเป็นแล้วที่ต้องนั่งแท็กซี่
หลินฟาน ขับรถ Mercedes-Benz Big G ออกไปตามทางที่เจิ้งจินเป่าบอก
นี่คือร้านอาหาร หูหนาน ขนาดใหญ่
เจิ้งจินเป่าเปิดกระจกรถและมองออกไป ในระยะที่ไม่ไกลจากตัวรถมีหญิงสาวที่สวมเสื้อยืดสีชมพูกำลังเดินเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ หลังจากที่เห็น เจิ้งจินเป่าจึงตะโกนออกไป “หลี่ซือ เจิ้งซื่อลี่!”
เมื่อหญิงสาวได้ยินเขาก็อดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมอง
วินาทีถัดมา ใบหน้าที่ลงรองพื้นแน่นๆ เผยให้เห็นใบหน้าเซอร์ไพรส์ที่ยากจะปกปิด
เธอวิ่งเหยาะๆเข้าไปหาแล้วพูดว่า “โอ้ พระเจ้า! นี่มันบิ๊กจี! ลูกพี่ลูกน้องของฉัน ทำไมนายถึงมาที่นี่พร้อมกับ Mercedes-Benz Big G ได้ล่ะ?”
เจิ้งจินเป่าลงจากรถและพูดอย่างภาคภูมิใจ “นี่คือรถของหลินฟาน เพื่อนร่วมห้องของฉันเอง”
ในตอนนั้นเอง หลินฟานก็ได้เดินลงมาจากรถเช่นกัน
ตอนแรก ใบหน้าของเจิ้งซื่อลี่เต็มไปด้วยความสงสัย
วินาทีถัดมา ดวงตาของเธอก็ถึงกับเบิกกว้างและเธอก็ตะโกนว่า “เป็นคุณนั่นเอง!”
———————————————