เศรษฐีผู้ร่ำรวย:เริ่มจากการได้รับซองแดง 7 พันล้านซอง – ตอนที่ 64 : ของขวัญสำหรับพ่อแม่

ตอนที่ 64 : ของขวัญสำหรับพ่อแม่

หลินเสี่ยวเหยาพูดอย่างตกใจ “คุณเพิ่งพูดว่า…เท่าระ…เท่าไหร่นะ?”

“สร้อยคอเจ้าหญิงแสงจันทร์ ราคา 188,888 หยวน ไฟแช็กไพลินราคา 48,888 หยวน สร้อยข้อมือหยก ราคา 46,666 และเป็ดแมนดารินทองคำบริสุทธิ์ราคาอยู่ที่ 36,666 หยวน” พนักงานพูดราคาของทั้งหมดออกมา

แต่หลินเสี่ยวเหยาไม่ได้ฟังโปะโยคหลังๆที่พนักงานพูดออกมาเลย

มีเพียงแค่ราคาของสร้อยคอเท่านั้นที่เธอได้ยินอย่างชัดเจน!

188,888 หยวน!

หลินเสี่ยวเหยาไม่เคยใช้เงินในการซื้ออะไรมากมายขนาดนี้มาก่อนในชีวิตของเธอเลย!

หากนำเงินจำนวนนี้มากองรวมไว้ด้วยกัน เกรงว่ามันคงสูงพอๆกับส่วยสูงของเธอแน่ๆ

มันเหมือนกับว่าเธอไม่ได้ใส่สร้อยคอเอาไว้เลย!

แต่เหมือนกับว่าเธอได้นำเอาเงินมาห้อยเอาไว้ที่คอมากกว่า!

หลินเสี่ยวเหยารีบถอดสร้อยออกทันทีและรีบพูด “พี่ มันแพงเกินไป หนูไม่เอาแล้ว”

หลินฟานมองดูเธอที่เป็นกังวลด้วยรอยยิ้ม “น้องบอกช้าเกินไปแล้ว พี่จ่ายเงินเรียบร้อบแล้วล่ะ”

“อา? พอจะ…มีวิธีอะไรไหมคะ” หลินเสี่ยวเหยาลองหันไปถามพนักงานดู

เห็นได้ชัดเลยว่าเธอต้องการที่จะคืนเครื่องประดับเหล่านี้

จากนั้นหลินฟานก็บีบแก้มที่น่ารักของหลินเสี่ยวเหยาและยิ้มออกมา “ชั่งมันเถอะ จะอยากเอาไปคืนทำไม ! น้องใส่มันอย่างสบายใจได้เลย”

“นี่น้องลืมไปแล้วหรอว่าห้างหยินซานทั้งหมดเป็นของพี่ แค่นี้ไม่เป็นไรหรอก ก็ไม่ต่างอะไรจากการเอาของในบ้านตัวเองมาออกมาใช้”

เมื่อหลินเสี่ยวเหยาได้ยินเช่นนั้น เธอก็ค่อยๆล้มเลิกความคิดที่จะคืนสินค้าแล้วได้พูดต่อ “พี่ชาย พี่พูดว่า…ให้ฉันสวมมันไว้ได้อย่างสบายใจงั้นหรอ พี่ไม่คิดว่าฉันจะโดนลักพาตัวมั่งหรือไง?

หลังจากพูดจบ เธอก็หันไปมองรอบๆ ราวกับว่าจะมีใครมาขโมยสร้อยคอไปตลอดเวลา

หลินฟานยิ้มออกมาแล้วพูด “น้องก็สวมมันเอาไว้ใต้เสื้อไง จะเอาออกมาโชวให้คนอื่นเห็นทำไมล่ะ?”

“นั่นสิ!” จากนั้นหลินเสี่ยวเหยาก็สวมมันไว้ที่คออีกครั้ง และซ่อนมันไว้ใต้เสื้อของเธอ

จากนั้นหลินฟานและหลินเสี่ยวเหยา ก็เดินไปที่ลานจอดรถอย่างช้าๆ

ในตอนนั้นเอง กงเล่อฉีที่ได้เป็นหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งมาเมื่อไม่นาน เขาได้บังเอิญเห็นหลินฟาน ในขณะที่เดินลาดตระเวนอยู่รอบห้างสรรพสินค้า

เมื่อเห็นหลินฟานแวบแรก กงเล่อฉีก็รู้สึกเหมือนกับว่า เคยเห็นชายคนนี้จากที่ใหนมาก่อน และจากนั้น เขาจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วเปิดภาพบางอย่างเพื่อทำการเปรียบเทียบ

ในวินาทีต่อมา กงเล่อฉีถึงกับเบิกตากว้าง เขารีบยืดหลังตรงทันที ราวกับเป็นทหารลาดตระเวนที่บังเอิญเดินมาเจอกับหัวหน้า

มันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลย ที่เขาจะมีท่าทีแบบนี้

เพราะหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยคนล่าสุด ได้ไปมีปัญหากับหลินฟานและถูกไล่ออกในทันที

จากเรื่องในวันนั้น จึงทำให้กงเล่อฉีได้ขึ้นเป็นหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยคนใหม่นั่นเอง

นั่นเป็นบทเรียนอันแสนน่ากลัวที่เขาได้รับรู้!

กงเล่อฉีไม่ต้องการที่จะทำผิดพลาดแบบหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยคนเก่า

และหลังจากที่หลินฟานได้เดินออกไปแล้ว กงเล่อฉีก็ค่อยๆผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น

เขากำลังรู้สึกลังเลอยู่สักพัก แต่หลังจากนั้นก็ได้หยิบโทรสัพท์ออกมาแล้วกดโทรออก

……

โจวเฉิงจุนป็นผู้จัดการทั่วไปของห้างหยินซานที่จังหวัดชิงซี

ในตอนนี้ เขาได้ออกไปข้างนอกเพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือทางธุรกิจบางอย่างอยู่

“กริ๊งงง!”

ทันใดนั้นเอง โทรศัพท์ในกระเป๋าโจวเฉิงจุนก็ดังขึ้นมา

โจวเฉิงจุนขมวดคิ้วเล็กน้อย

เขาเป็นคนที่เกลียดการถูกขัดจังหวะในขณะทำงาน

จากนั้นโจวเฉิงจุนก็หันไปหาชายวัยกลางคนที่นั่งตรงข้ามอยู่กับเขาแล้วพูดว่า “ขออภัยอย่างยิ่ง ผมขอออกไปรับโทรศัพท์สักครู่นะครับ”

หลังจากที่กดรับ เขาก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจ “หัวหน้ากง นายมีอะไร?”

เมื่อกงเล่อฉีได้ยินโจวเฉิงจุนพูดด้วยเสียงที่ไม่ค่อยพอใจ เขาก็ระมัดระวังมากขึ้นก่อนจะพูดว่า “คุณโจว เมื่อสักครู่คุณหลินได้เข้ามาซื้อของที่ห้างหยินซานของเรา”

คุณหลิน?

โจวเฉิงจุนรู้สึกสับสนเล็กน้อยในตอนแรก

และในเวลาต่อมาเขาก็ยืนขึ้นอย่างกะทันหันพร้อมกับอุทานออกมา ‘ว่าไงนะ’

“ใช่คุณหลินที่เคยมาในรอบที่แล้วหรือเปล่า” โจวเฉิงจุนพูดอย่างกังวล

“ใชครับ” กงเล่อฉีตอบกลับ

โจวเฉิงจุนพูดอย่างตื่นเต้น “โอเค! นายทำได้ดีมาก ฉันจะรีบกลับไปในเร็ว ๆ นี้!”

หลังจากวางสาย โจวเฉิงจุนก็รีบพูดกับชายวัยกลางคนที่อยู่ตรงข้ามว่า “ขออภัยเป็นอย่างยิ่ง ดูเหมือนที่ห้างของผมจะมีเรื่องด่วนที่ต้องจัดการในทันที ไว้เรามาพูดถึงเรื่องการร่วมมือในครั้งถัดไปนะครับ”

แม้ว่าเรื่องความร่วมมือจะเป็นสิ่งสำคัญ

แต่ถ้าเทียบกับคุณหลิน มันก็ไม่มีอะไรสำคัญกว่าเลย

ถึงจะเป็นแค่เพียงการพบเจอธรรมดาๆก็ตาม

หลังจากที่โจวเฉิงจุนพูดจบ เขาก็รีบเดินออกไปในทันที

ชายวัยกลางคนที่นั่งตรงข้ามบ่นพึมพำด้วยความงุนงง “คุณหลิน? ใครในชิงซีที่สามารถทำให้โจวเฉิงจุนใส่ใจได้มากขนาดนี้กัน หรือว่าจะเป็นคนจากที่อื่น?”

……

ถึงโจวเฉิงจุนจะอยู่ไม่ไกลจากห้างหยินซาน

แต่ดูเหมือนว่าเขาจะมาไม่ทันหลินฟานซะแล้ว ชั่งน่าเสียดายจริงๆ

กงเล่อฉีพูด “คุณหลินเพิ่งขับ Mercedes-Benz big G ออกไปเมื่อไม่นานนี้”

โจวเฉิงจุนพูดอย่างช่วยไม่ได้ “อย่างงั้นหรอ”

จากนั้นเขาก็ตบไหล่กงเล่อฉีและพูดว่า “หัวหน้ากง นายทำได้ดีมากเลย! แต่ครั้งหน้าถ้านายพบคุณหลินอีก นายต้องรีบโทรมาหาฉันทันทีเลยเข้าใจนะ”

“ครับผม!” กงเล่อฉีพูดอย่างตื่นเต้น

……

หลังจากที่หลินฟานกลับมาถึงบ้าน เขาก็เอาไฟแช็กและสร้อยข้อมือมาให้พ่อกับแม่ของเขาในทันที

หลินเถาถึงกับยิ้มหน้าบานแล้วพูดว่า “ไฟแช็คนี้ชั่งสวยซะเหลือเกิน ฉันไม่เคยเห็นไฟแช็กที่สวยขนาดนี้มาก่อนเลย แถมถือสบายมือมากด้วย!”

หลินเสี่ยวเหยาพูด “แน่นอนสิคะพ่อ ก็ไฟแช็คที่พ่อถืออยู่มีราคาตั้ง 48,888 หยวนเลยนะ”

“อะไร? เท่าไหร่นะ?” หลินเถาอุทานด้วยความตกใจ

“48,888?” ต้าเหว่ยสัวที่กำลังเพลิดเพลินกับสร้อยข้อมืออยู่ก็ตกใจมากเช่นกัน “แล้วสร้อยข้อมือของแม่ล่ะ?”

“46,666 หยวนค่ะแม่” หลินเสี่ยวเหยาพูด

ทันทีที่ได้รู้ราคา ต้าเหว่ยสัวก็ตำหนิหลินฟานในทันที “เสี่ยวฟาน ทำไมลูกถึงต้องซื้อของแพงขนาดนี้มาด้วย รีบเอามันกลับไปคืนที่ร้านเลยนะ”

ต้าเหว่ยสัวเป็นคนขยันและประหยัดมาตลอดชีวิต หลังจากที่เธอแต่งงาน เธอก็ซื้อแต่แหวนทองแดงใส่มาโดยตลอด

แต่อยู่ดีๆเธอก็ได้สร้อยข้อมือราคาหลายหมื่นหยวนมา มันจึงทำให้เธอรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ

“ผมซื้อมาแล้ว เอาไปคืนได้ที่ไหนกัน” หลินฟานยิ้ม “นี่เป็นแค่เรื่องเล็กน้อย แม่ไม่ต้องกังวลนะ ใส่มันอย่างสบายใจได้เลย ไว้ในอนาคตผมจะซื้อของที่ดีกว่านี้ให้แม่มาให้แม่เยอะๆเลย”

หลินเถาแตะไฟแช็กอีกครั้งแล้วพูดว่า “ใช่แล้ว ลูกกตัญญูต่อเรา เราควรยอมรับมันอย่างมีความสุขจะดีกว่านะ”

แน่นอนว่าเขาชอบไฟแช็กตัวนี้เป็นอย่างมาก

แต่หลินเถาก็รับรู้ได้อย่างรวดเร็วว่าต้าเหว่ยสัวกำลังจ้องเขม็งมาที่ตัวเอง

เขาจึงไอออกมาสองครั้งแล้วพูดว่า “เสี่ยวฟาน เรารู้ว่าตอนนี้ลูกมีเงินเยอะมาก แต่ก็อย่าใช้จ่ายเงินมั่วซั่วแบบนี้อีก”

ต้าเหว่ยสัวพูดได้ต่อ “ถ้าใช้เงินเกี่ยวกับเรื่องการแต่งงานพ่อกับแม่จะมีความสุขมากกว่านี้นะ … เสี่ยวฟานตอนนี้ลูกเองก็ถือว่าประสบความสำเร็จในอาชีพการงานแล้ว ลูกจะพาแฟนมาให้พ่อกับแม่เห็นกันเมื่อไหร่หรอ?”

เมื่อได้ยินคำพูดของต้าเหว่ยสัว หลินฟานเองก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึง ฉินหยู่ซวน, เซี่ยปิง, เซี่ยเสว่, ฉิวจือเฉียน และคนอื่น ๆ อีกในใจ

ในไม่นานนักเขาก็ได้ตอบกลับไป “ถ้ามีโอกาศในอนาคตเดี๋ยวผมจะพามา”

เวลาที่อยู่กับครอบครัวมักจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว

เพียงแค่ชั่วพริบตาก็เป็นเวลามืดค่ำแล้ว

หลินฟานกำลังนอนอยู่บนเตียงและจ้องไปที่หน้าจอโทรศัพท์

【ใช้เงิน 320,000 ได้รับซองแดง 32 ซอง ต้องการเปิดทั้งหมดหรือไม่? 】

นี่คือสิ่งที่เขาได้รับหลังจากซื้อเครื่องประดับและเสื้อผ้าของน้องสาวในวันนี้

“ใช่!”

【ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณได้รับเงิน 10 หยวน 】

【ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณได้รับเงิน 5 หยวน 】

【ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณได้รับเงิน 50,000 หยวน 】

【ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณได้รับทักษะผู้รักษาประตูมืออาชีพ 】

ซองแดง 32 ซอง หลิน ฟาน ได้รับเงินรวม 173,200 หยวน

เขาถึงใช้เงินไป 320,000 หยวนและได้เงินคืนมา 170,000 ซึ่งเกือบจะถึง 50%

แน่นอนว่า หลินฟานไม่เคยสนใจจำนวนเงินเลย

เขามุ่งความสนใจไปที่ทักษะผู้รักษาประตูมืออาชีพ

[ทักษะผู้รักษาประตูมืออาชีพ สัมผัสประสบการณ์ที่เหนือกว่าคนทั่วไป และเอาชนะคู่ต่อสู้ด้วยทักษะที่แยบยลและยอดเยี่ยม เพิ่มเสน่ห์พิเศษ 】

หลินฟานแตะที่คางและพึมพำ “ทักษะผู้รักษาประตู? มันดูน่าสนใจทีเดียว”

เศรษฐีผู้ร่ำรวย:เริ่มจากการได้รับซองแดง 7 พันล้านซอง

เศรษฐีผู้ร่ำรวย:เริ่มจากการได้รับซองแดง 7 พันล้านซอง

Status: Ongoing

นักข่าว: คุณใช้เวลานานแค่ไหนในการสร้างรายได้ 1 ล้านหยวน? หลินฟาน: [กระพริบตา]…. นักข่าวข้างถนน: ทำไมคุณถึงกระพริบตา? หลินฟาน: คุณไม่ได้ถามฉันเหรอว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะได้ 1 ล้าน?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท