เมื่อเห็นซ่งเจียซินกำลังเดินเข้ามาอย่างช้าๆ แม้แต่หลินฟานก็รู้สึกมึนงงเช่นกัน
เพราะเธอช่างเหมือนกับนางฟ้าที่ได้ลงมาเยือนบนโลกของมนุษย์
จากนั้นหลินฟานก็เปิดใช้ดวงตาแห่งความจริงและมองไปที่ซ่งเจียซิน
【คะแนนรูปร่างหน้าตา: 97】
【คะแนนความชื่นชอบ: 75】
หลินฟานจำคะแนนในตอนที่เขาพบกับซ่งเจียซินในครั้งแรกได้ คะแนนรูปร่างหน้าตาของเธอในตอนนั้นคือ 95 คะแนน และความชื่นชอบก็อยู่ที่ 60 คะแนน เท่านั้น
แต่หลังจากที่แต่งตัว คะแนนของเธอก็ขึ้นมาที่ 97 คะแนน
อย่าคิดว่า 2 คะแนนที่เพิ่มมานี้ไม่สำคัญ
ถึงมันจะเป็นการเพิ่มขึ้นมาแค่ 2 คะแนน แต่มันเพิ่มมาจากคะแนนที่สูงถึง 95 คะแนน ซึ่งหาได้ยากอย่างมาก
และเมื่อไหร่กันนะ ที่ความชื่นชอบของเธอได้เพิ่มขึ้นมา?
ณ ในเวลานี้ ซ่งเจียซินได้เดินมาอยู่ตรงหน้าของทุกคนแล้ว
“พี่เจียซิน สุขสันต์วันเกิดนะครับ” ชายหนุ่มคนหนึ่งได้พูดขึ้น พร้อมกับยื่นของขวัญที่ห่อมาอย่างสวยงามให้กับเธอ
“ขอบคุณ” ซ่งเจียซินยิ้มและรับของขวัญมา
หลังจากที่มีคนให้ของหวัญเธอเป็นคนแรกนั้น ทุกคนก็เริ่มเอาของขวัญออกมามอบให้กับซ่งเจียซินเช่นกัน
ในเวลาต่อมา หลินฟานก็ได้เดินเข้าไปหาเธอแล้วพูดว่า “สุขสันต์วันเกิดนะ”
“ขอบคุณมากนะ” ซ่งเจียซินยิ้ม
หลังจากที่ให้ของขวัญกันเรียบร้อยแล้ว ปาตี้ปิ๊งย่างก็ได้เริ่มขึ้นทันที
เนื้อวัวระดับพรีเมียม เนื้อเสียบไม้ กุ๊งมังกรออสเตรเลีย ปลิงทะเล หอยเป๋าฮื้อ และอาหารอื่นๆอีกมากมาย
หนุ่มสาวได้พูดคุยแล้วกินปิ๊งย่างกันอย่างสนุกสนาน บรรยากาศที่นี่ครื้นเครงเป็นอย่างมาก
และในตอนนี้ หลิวหยูหางก็ได้สังเกตเห็นกระดานหมากรุกที่วางอยู่ตรงสนามหลังบ้าน จากนั้นเขาก็พูดขึ้นมา”พี่ฟาน เรามาเล่นหมากรุกด้วยกันดีไหม”
หลังจากที่ย่างเนื้อมาสักพัก หลินฟานเองก็เริ่มรู้สึกเบื่อนิดหน่อย
หลินฟานจึงได้ตอบกลับไปว่า “ได้เลย”
ตอนนี้ทั้งสองได้นั่งอยู่ตรงข้ามกันและต่างจัดกระดานหมากรุกกันอยู่
จากนั้นหลิวหยูหางก็หัวเราะออกมาแล้วพูด “พี่ฟาน ถึงแม้ว่าครั้งล่าสุดผมจะแพ้พี่ในการแข่งรถก็ตาม แต่วันนี้ผมจะใช้หมากรุกกู้หน้าของตัวเองกลับคืนมาให้ได้ ผมจะต่อให้พี่กินเรือกับม้าของผมก่อนเลยเป็นไง”
หลินฟานพูดอย่างประหลาดใจ “ต่อให้ฉันงั้นหรอ?”
นายคงยังไม่รู้ ว่าตอนนี้ฉันมีทักษะหมากรุกระดับมืออาชีพอยู่
และหลิวหยูหางยังต้องการที่จะต่อให้ ?
นี่ไม่ใช่การแสวงหาความพ่ายแพ้หรือยังไง?
หลิวหยูหางพูด “พี่ฟาน ผมไม่ได้คิดจะดูถูกพี่หรอกนะ แต่ทักษะกการเล่นหมากรุกของผม มันแข็งแกร่งเกินไปจริงๆ!”
หลังจากที่พูดจบ เขาก็เดินหมากในทันที
หลินฟานเองก็ลงมือเช่นเดียวกัน
“ตึก ตัก!”
พวกเขาทั้งสองคนต่างพากันเดินหมากรุกลงบนบนกระดานอย่างต่อเนื่อง
ต้องบอกก่อนว่า ฝีมือในการหมากรุกของหลิวหยูหางนั้นดีมากจริงๆ
ถ้าเปลี่ยนเป็นคนธรรมดา ก็เกรงว่าจะสู้กับหลิวหยูหางไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว
แต่คู่ต่อสู้ที่เขาเผชิญหน้าอยู่ตอนนี้ก็คือหลินฟาน
และในเวลาไม่นาน คิ้วของหลิวหยูหางก็ถึงกับขมวดจนเกือบจะชนกัน
จากนั้น หลิวหยูหางก็ได้พูดออกมา “ผมแพ้แล้ว”
คนรอบข้างที่ดูการแข่งอยู่ก็พูดออกมาทันที “คนอย่างหลิวหยูหางแพ้ในการแข่งหมากรุกอย่างนั้นหรอเนี้ย?”
“ไม่จริงน่า หลิวหยูหางเป็นถึงคนที่เคยได้รับรางวัลในการแข่งขันหมากรุกมาก่อนเลยนะ” ผู้ชายอีกคนนึงพูดขึ้น
ในขณะนั้นซุนลูกั่วเองก็ประหลาดใจมากเช่นกัน
เนื่องจากในแวดวงของหมากรุกนั้น ฝีมือในการเล่นของหลิวหยูหางนั้นโด่งดังเป็นอย่างมาก
และหลิวหยูหางก็แทบจะไม่เคยแพ้ใครเลย!
หลิวหยูหางเองก็เคยแสดงทักษะที่แข็งแกร่งของเขาให้ฉันเห็นแล้วด้วย
แต่ดูเหมือนตอนนี้… เขาจะได้แพ้ไปแล้ว ได้ยังไงกัน?
หลิวหยูหางพูด “พี่ฟาน ฝีมือของพี่ ชั่งทำให้ผมประหลาดใจจริงๆ! ดูเหมือนว่าผมจะต้องเอาจริงมากกว่านี้แล้วสินะ เรามาลองเล่นกันอีกซักรอบเถอะ”
หลินฟานได้พยักหน้าตกลง
จากนั้นไม่นาน ใบหน้าของคนรอบข้างก็แสดงสีหน้าของความงุนงงออกมาให้เห็นเต็มไปหมด
เพราะว่าหลิวหยูหางเพิ่งจะขอยอมแพ้ไปอีกรอบเมื่อกี้
แต่ไม่น่าแปลกใจอะไรหรอกที่นายจะแพ้
ทุกคนที่อยู่ในสวนตอนนี้ ต่างก็ให้ความสนใจไปที่หลินฟานกับหลิวหยูหาง ไม่ว่าจะเป็นคนที่ถือบาบีคิวหรือคนที่ถือไวน์แดงอยู่ในมือ พวกเขาก็ต่างยืนอยู่ข้างๆอย่างเงียบๆและคอยจับตาดูทั้งสองคนเล่นหมากรุกกันต่อ
“รุก!”
“รุก!”
“รุกกินเรือ!”
หลินฟานรุกอีกหลายครั้ง และในที่สุดเขาก็กินเรือของหลิวหยูหางได้
ทุกคนที่ดูอยู่ทั้งหมด ต่างพากันรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก
ไม่แม้แต่ตัวเอกของงานวันนี้ ดวงตาที่สวยงามของซ่งเจียซินได้สั่นและส่งแสงประกายวิบวับออกมา
ในขณะที่ทุกคนกำลังให้ความสนใจไปที่เกมหมากรุกอยู่่ ก็ได้มีชายชราผมหงอกค่อยๆเดินเข้ามาที่นี่
ซึ่งในตอนนี้ หลินฟานยังคงเดินเบี้ย ม้า และเรืออย่างต่อเนื่อง ในไม่ช้าเขาพูดขึ้นอีกครั้ง “รุกฆาต!”
รุกฆาต!
หลิวหยูหางถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า ” ผมแพ้อีกแล้วหรอเนี่ย ”
จากนั้นชายชราก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา “หนุ่มน้อย เธอมีทักษะที่ดีมากเลย!”
“คุณปู่ ทำไมปู่ถึงมาที่นี่” ซ่งเจียซินยิ้มและจับมือของชายชรา
ทุกคนที่อยู่รอบๆเองก็เข้ามาทักทายด้วยเช่นกัน “สวัสดีครับคุณปู่ซ่ง”
ซ่งเหวินหมิงได้ยิ้มและพยักหน้าให้กับทุกคนที่นี่
หลังจากนั้นเขาก็ได้พูดกับซ่งเจียซิน “ปู่ก็เพิ่งมาถึงที่นี้ได้สักพักนึงเอง”
และจากนั้นเขาก็ได้ยิ้มให้กับหลินฟาน “ฉันไม่ค่อยเห็นหรอกนะ ที่ชายหนุ่มจะมีทักษะการเล่นหมากรุกเก่งแบบนี้”
“คุณปู่ซ่ง อย่ากล่าวยอผมเลยครับ ผมแค่พอมีฝีมืออยู่นิดหน่อยเท่านั้นเอง” หลินฟานพูด
ซ่งเหวินหมิงกล่าวต่อ “เธอถ่อมตัวเกินไปแล้ว ว่าแต่สนใจจะเล่นกับผู้เฒ่าอย่างฉันดูสักเกมไหมล่ะ?”
ทันใดนั้น หลิวหยูหางก็รีบลุกขึ้นและสละที่นั่งของเขาในทันที
หลินฟานพูดขึ้น”คุณปู่ซ่ง เชิญนั่งได้เลยครับ”
หลังจากที่ซ่งเหวินหมิงนั่งลงแทนที่ของหลิวหยูหาง ทุกคนก็เริ่มให้ความสนใจกันมากขึ้นไปอีก
พวกเขาได้ล้อมรอบหลินฟานและซ่งเหวินหมิงที่กำลังนั่งเล่นหมากรุกกันอยู่
“กินเบี้ย!”
“รุก!”
“กินม้า!”
“รุก!”
ตอนนี้ในสวนจะมีเสียงดังออกมาเป็นระยะๆอยู่ตลอด
แต่พอผ่านไปไม่นานเสียงก็เริ่มเงียบลง
ซ่งเหวินหมิงนิ่งไปสักพักหนึ่ง
จากนั้นเขาก็พูดออกมา “ฉันแพ้แล้ว”
หลินฟานพูด ” ปู่ซ่ง เป็นเพราะคุณอ่อนข้อให้ผมตั้งหาก ”
ซ่งเหวินหมิงได้ยิ้มและส่ายหัว “ วางหมากเพียงตัวเดียวก็สามารถกดดันตัวหมากของฉันได้ถึง 5 ตัว เป็นการวางหมากที่ฉลาดมาก แล้วเธอเล่นโกะเป็นไหม?”(โกะ หรือก็คือ หมากล้อม)
“เล่นเป็นนิดหน่อยครับ” หลินฟานพูด
“จริงหรือ?” ซ่งเหวินหมิงประหลาดใจเล็กน้อยและพูดว่า “งั้นเรามาเล่นโกะซักเกมกันเถอะนะ”
ขณะพูด ซ่งเหวินหมิงก็พลิกกระดานหมากรุก และได้เปลี่ยนเป็นกระดานโกะ
“พ่อหนุ่ม เธอวางก่อนได้เลย”
“ได้ครับ”
หลินฟานหยิบหมากสีดำขึ้นมาและวางลงตรงกลางกระดานอย่างไม่ลังเล
“หือ? วางไปที่จุดเทียนหยวน อย่างนั้นหรอ?” ซ่งเหวินหมิงรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก
( เทียนหยวน คือ จุดสีดำตรงกลางของกระดานโกะ )
เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้ววางหมากสีขาวลงที่จุดดาว
“ตุบ!”
“ตุบ!”
“ตุบ!”
ทั้งสองคนมายังคงวางหมากกันอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้เกิดเสียงกระทบดังออกมาจากสวนหลังบ้านอยู่ตลอดเวลา
คนปกติทั่วไปอาจจะแค่เคยเห็นการเล่นโกะผ่านทางทีวีเท่านั้น
ไม่มีทางที่คนทั่วไปจะรู้กฏของการเล่นโกะเลยด้วยซ้ำ
แต่ดูเหมือนคนที่อยู่ที่นี่ทั้งหมด จะได้รับการฝึกอบรมเรื่องพวกนี้มาตั้งแต่ยังเด็ก
ถึงพวกเขาอาจจะไม่ได้เล่นโกะเก่งกันมากนัก แต่อย่างน้อยพวกเขาก็รู้กฎของการเล่นโกะ
ในตอนแรกนั้น พวกเขายังสามารถตามทันความคิดของหลินฟานและซ่งเหวินหมิง
แต่พอผ่านไปสักพัก ทั้งสายตาและสีหน้าของทุกคนก็แสดงให้เห็นแล้วว่า ไม่สามารถตามความคิดของพวกเขาสองคนได้ทัน
มันเป็นเพราะความแตกต่างของฝีมือในการวางหมากที่ห่างชั้นมากเกินไป
“ตุบ!”
หลินฟานได้ตบหมากลงที่กระดานอีกครั้ง
ซ่งเหวินหมิงได้แต่จ้องมองลงไปที่กระดาน
และหลังจากนั้นไม่นานเขาก็ถอนหายใจออกมาและพูดว่า “ฉันแพ้แล้วล่ะ”
เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดของซ่งเหวินหมิง พวกเขาก็หันไปมองหลินฟานด้วยความรู้สึกที่ประหลาดใจอย่างมาก
เพราะผู้อาวุโสซ่งเป็นผู้เล่นโก๊ะระดับปรมาจารย์ชื่อดัง!
ตอนนี้ซ่งเจียซินเองก็ได้มองไปที่หลินฟานด้วยดวงตาที่สวยงามของเธอ
เธอได้มองดูทุกการเคลื่อนไหวของหลินฟาน และความมุ่งมั่นของเขาก็ทำให้เธอตกตะลึงอยู่พอสมควร
และเมื่อหลินฟานสามารถเอาชนะปู่มาได้ หัวใจของซ่งเจียซินก็เต้นแรงขึ้นมาในทันที
ทั้งคณิตศาสตร์และทักษะการขับรถ เขาก็ทำได้สุดยอด
ตอนนี้… ไม่เว้นแม้แต่หมากรุก ก็ยังเล่นได้อย่างสุดยอด
หลินฟาน นายยังมีความสามารถอะไรที่ซ่อนเอาไว้อยู่อีกหรือเปล่า ?