เศรษฐีผู้ร่ำรวย:เริ่มจากการได้รับซองแดง 7 พันล้านซอง – ตอนที่ 76 : ไม่ต้องไปหรอก

ตอนที่ 76 : ไม่ต้องไปหรอก

จางหยงยังคงชักชวนหลินฟานอยู่อีกพักหนึ่ง แต่มันก็ไร้ประโยชน์

ตอนนี้เขาไม่มีทางเลือกอื่นเหลืออยู่นอกจากต้องยอมแพ้ไปก่อนและปล่อยให้หลินฟาน, เซี่ยปิง และเซี่ยเสว่ กลับไปคิดทบทวนเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง

จากนั้นจางหยงก็ได้ยืนคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินไปยังห้องของที่ปรึกษาหลินฟาน

เขาต้องการให้ซุนเหยาตงช่วยเกลี้ยกล่อมพวกเขา

ที่มหาวิทยาลัยเจียงเป่ย ไม่เคยมีใครได้รับรางวัลระดับชาติในการแข่งขันประกวดแบบจำลองทางคณิตศาสตร์มาก่อนเลย

จางหยงจึงไม่อยากละทิ้งโอกาสในครั้งนี้ไปแบบง่ายๆ

ซุนเหยาตงที่กำลังดื่มชาอยู่นั้นก็รีบลุกขึ้นยืนทันทีหลังจากเห็นจางหยงเดินเข้ามา

จากนั้นเขาก็ยิ้มแล้วพูดว่า “ศาสตราจารย์จาง คุณมาที่นี่เพราะเรื่องการเดินทางของหลินฟานที่จะต้องเตรียมตัวก่อนไปยังเมืองหลวงใช่หรือเปล่า ไม่ต้องห่วง เขาจะต้องไปอย่างแน่นอนและฉันก็เดินเรื่องเอกสารต่างๆเรียบร้อยแล้วด้วย!”


ทุกครั้งที่ซุนเหยาตงพูดถึงหลินฟาน ใบหน้าของเขาก็มักจะยิ้มออกมาอยู่เสมอ

เขายิ้มจนหน้าบาน!

เพราะรางวัลระดับประเทศ!

เป็นรางวัลเดียวของมหาวิทยาลัยเจียงเป่ย!

จากนั้นจางหยงก็กล่าวว่า ” ดูเหมือนหลินฟานไม่ต้องการจะไปที่เมืองหลวง”

“ฮะ?”

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ ก็เหมือนกับมีก้างปลามาติดอยู่ที่คอของซุนเหยาตง น้ำเสียงของเขาถึงกับตะกุกตะกัก

…………

ในตอนนี้ เจิ้งจินเป่ากำลังถูกคนสองคนขวางเอาไว้ที่ทางเดิน

“เจิ้ง จินเป่า ไหนนายบอกว่าการออกแบบระบบระบายน้ำมันง่ายที่สุดไง คงง่ายน่าดูเลยสินะ ง่ายถึงขนาดที่เราไม่ได้แม้แต่รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 3 ของจังหวัดเลยด้วยซ้ำ! ฉันถามมาหลายคนแล้ว และพวกเขาก็ตอบเหมือนกัน ว่าตราบใดที่เลือกโจทย์ระบบระบายน้ำมาทำ ก็ไม่มีหวังที่จะชนะเลิศได้เลยแม้แต่นิดเดียว!” ชายร่างรูปร่างสมส่วนบ่น

“เป้าหมายของฉันในปีนี้คือการชนะเลิศ!” ชายร่างเตี้ยพูด

ทั้งสองคนนี้ ก็ถือเป็นนักวิชาการที่เก่งและอยู่ชั้นแนวหน้าเช่นกัน

พวกเขาให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการแข่งขันประกวดแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ครั้งนี้

แต่ผลลัพธ์ที่ออกมากลับไม่เป็นไปตามที่คาดเอาไว้

เจิ้งจินเป่าที่กำลังถูกถามโดยพวกเขาอยู่นั้น ก็รู้สึกผิดต่อพวกเขาเช่นกัน

และตอนนี้เขาก็พยายามเหลือบมองไปรอบ ๆ ตัว และสังเกตไปเห็นหลินฟานที่เพิ่งกลับมาหลังจากที่ไปพูดคุยจางหยงเมื่อไม่นานมานี่

ดวงตาของเขาทั้งคู่ก็เป็นประกายขึ้นมาทันที ก่อนจะพูดว่า ” ไม่เกี่ยวหรอก มันเป็นเพราะพวกเราที่เลือกระบบระบายน้ำมาแล้ว แต่ไม่สามารถทำมันให้ออกมาดีได้!”

จากนั้นเขาก็เดินไปหาหลินฟาน และพูดว่า “นี่คือเพื่อนร่วมห้องของฉันเอง ชื่อ หลินฟาน แต่ฉันเรียกเขาว่าพี่ฟาน! เขาเป็นคนที่ได้รับรางวัลระดับประเทศสำหรับการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ ! เขาได้เป็นตัวแทนไปแข่งขันต่อที่เมืองหลวง และเผลอๆเขาอาจจะกลับมาพร้อมถ้วยรางวัลชนะเลิศก็เป็นได้!”

“เราขอถามหน่อย ว่าพี่ฟานเลือกคำถามอะไร?”

“ระบบระบายน้ำเหมือนกับเรา!” เจิ้งจินเป่าตอบกลับ

แน่นอนว่าทั้งสองคนรู้อยู่แล้ว เกี่ยวกับเรื่องที่หลินฟานได้รับรางวัลระดับประเทศ

เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีคนพูดกันมากมายอยู่สักพักเลย

แต่พวกเขาก็ไม่ได้รู้ว่า หลินฟานเลือกโจทย์ข้อใด

เจิ้งจินเป่าพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนผู้เฒ่ามากประสบการณ์ ” ปัญหาที่ควรแก้ไม่ใช่ที่ไหนหรอก แต่เป็นตัวของเราเอง”

จากนั้นศีรษะของชายทั้งสองคนก็ตกลงและได้เดินจากไป

และเจิ้งจินเป่าก็จับไปที่ไหล่ของหลินฟาน พร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้ม “พี่ฟานฉันต้องขอบคุณพี่มากเลยที่มาทันเวลาพอดี!”

ก่อนจะเดินแยกกันไป เขาก็หันกลับมาแล้วพูดว่า “ว่าแต่พี่ฟานจะไปเมืองหลวงตอนไหนหรอ?”

หลินฟานพูดว่า “ฉันไม่ไปแล้ว”

“ฮะ?” เจิ้งจินเป่าถึงกับหรี่ตาของเขาลงและได้กระพริบตาอีกสองครั้งด้วยความมึนงง

และจู่ๆซุนเหยาตงก็ได้วิ่งเข้ามาทางนี้

“หลินฟาน ทำไมนายถึงจะไม่ไปแข่งต่อที่เมืองหลวง นั่นเป็นโอกาสที่ดีมากเลยนะ! ด้วยความสามารถที่โดดเด่นของนาย จะต้องชนะได้แน่ๆ และห้องของเราก็จะได้รับเกียรติความดีด้วยเช่นกัน!” ซุนเหยาตงกล่าว

พูดแบบนี้อีกแล้วหรอ?

ครั้งนี้ไม่เพียงแต่หลินฟานเท่านั้นที่พูดไม่ออก

ใบหน้าของเจิ้งจินเป่าที่อยู่ข้างๆก็เต็มไปด้วยเส้นเลือดสีดำเช่นกัน

ที่ปรึกษาซุน คุณจะมาพูดล่อลวงนักศึกษาอีกแล้วหรอ?

ซุนเหยาตงไม่ทราบว่าพวกหลินฟานกำลังคิดอะไรอยู่ และเขากำลังจะพูดประโยคต่อไป

“กริ๊ง!”

ทันใดนั้น ก็ได้มีเสียงกริ่งดังขึ้นมาในมหาวิทยาลัย

หลินฟานชิงพูดขึ้นก่อน “ถึงเวลาเข้าห้องเรียนแล้ว ฉันขอตัวไปก่อนนะที่ปรึกษาซุน”

“เฮ้ นาย… นายช่วยคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกครั้งเถอะนะ” ซุนเหยาตงพูดขอร้อง

ณ หลังห้องเรียน

เจิ้งจนเป่าที่กำลังอยากรู้เป็นอย่างมากจึงได้ถามออกไป “พี่ฟาน ทำไมพี่ถึงไม่ไปแข่งต่อที่เมืองหลวง”

หม่าจงประหลาดใจ ” พี่ฟานจะไม่ไปแข่งต่อที่เมืองหลวงงั้นหรอ ”

เห็นได้ชัดว่าพวกเขารู้ถึงความหมายของการที่ได้ไปแข่งประกวดแบบจำลองทางคณิตศาสตร์

หลินฟานที่ได้ยินก็หาวแล้วพูดว่า “นายจะตื่นเต้นขนาดนั้นไปทำไม อยากไปเมืองหลวงมากขนาดนั้นเลยรึไง?”

“ต้องเสียเวลานั่งเครื่องบินไปเพื่อตอบคำถามนิดหน่อย ฉันว่าเอาเวลาตรงนี้มานอนดีกว่านะ”

นี่…

จะไม่เข้าร่วมการรับรางวัลระดับชาติจริงๆหรอ?

มีตั้งหลายคนที่ฝันว่าอยากจะไปยืนอยู่ที่จุดนั้น

แต่หลินฟาน… บอกว่าเอาเวลาตรงนี้มานอนดีกว่าหรอ?

หม่าจงยังคงพูดต่ออีกสักพัก ก่อนที่อาจารย์เฒ่าจะเดินเข้ามาที่ห้องพร้อมกับหนังสือเรียน

และหลินฟานก็หลับทันทีเมื่อได้ฟังเสียงของอาจารย์เฒ่าที่เป็นเหมือนกับเพลงกล่อมเด็ก

เมื่อหลินฟานตื่นขึ้นมา ก็เป็นเวลาอาหารกลางวันพอดี

เขารับประทานอาหารกลางวันแบบสบาย ๆ และกลับไปที่หอพักเพื่อเตรียมตัวจะนอนอีกครั้ง

ตอนนั้นเอง โทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าของหลินฟานก็ได้สั่นขึ้นมา

12:00. น.

ซองแดงปรากฎ!

“ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณได้รับเงิน 10 หยวน”

“ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณได้รับเงิน 300 หยวน”

……

“ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณได้รับเงิน 10,000 หยวน”

“ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณได้รับเงิน 5 หยวน”

ซองแดงที่เปิดของวันนี้ เขาได้เงินมาทั้งหมด 40,500 หยวน

จากนั้น หลินฟานก็เหลือบมองไปที่ซองแดงที่เขาได้ใช้ไปกับการซื้อเฟอร์นิเจอร์ในราคา 3 ล้านเมื่อวานนี้

เขาบ่นในใจว่า “ซองแดง 300 ซองงั้นหรอ รอให้รวบรวมได้สัก 1,000 ซองแล้วค่อยเปิดทีเดียวแล้วกัน”

และจากนั้นหลินฟานก็วางโทรศัพท์ไว้ข้างๆ แล้วผล็อยหลับไปอีกครั้ง

…………

ในเวลานี้ที่ห้องประชุมขนาดใหญ่ในมหาวิทยาลัยเจียงเป่ย

คณาจารย์ หัวหน้าภาควิชา และคณะอื่นๆของมหาวิทยาลัยคณิตศาสตร์ได้มารวมตัวกัน

พวกเขากำลังพูดคุยซุบซิบกัน ทุกคนที่นี่ต่างงงกันอย่างมาก ว่าทำไมจู่ๆเขาถึงได้แจ้งให้มาประชุมทันที ไม่มีการนัดหมายล่วงหน้าเลย

และเมื่อเวลาผ่านไป ก็ไม่ได้มีแค่อาจารย์ของมหาวิทยาลัยนี้เท่านั้นที่มา แต่มหาวิทยาลัยอื่น ๆก็ส่งตัวแทนมาด้วย … หรือแม้แต่คณบดีของมหาวิทยาลัยก็มาที่ห้องประชุมแห่งนี้ด้วยเช่นกัน

ทุกคนรู้สึกงุนงงเป็นอย่างมาก เพราะไม่ค่อยจะมีการจัดการประชุมใหญ่ขนาดนี้ และดูเหมือนว่าการประชุมในครั้งนี้จะจัดขึ้นโดย สถาบันวิทยาศาสตร์

หูชวน คณบดีแผนกคณิตศาสตร์ ซึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะกำลังจิบชาอย่างสบาย ๆ และเมื่อสักเกตเห็นจางหยงที่นั่งด้วยท่าทางเศร้าๆอยู่ไม่ไกล เขาจึงได้ยิ้มให้ก่อนจะถามไปว่า “ศาสตราจารย์จาง คุณกำลังกังวลอะไรอยู่หรือเปล่า”

จางหยงถอนหายใจ “คณบดีหู คุณน่าจะรู้อยู่แล้วว่ามีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเจียงเป่ยที่ได้รางวัลระดับประเทศในการแข่งขันแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ในปีนี้”

หูชวนพยักหน้าแล้วพูดว่า “ฉันรู้แล้ว เป็นทีมของหลินฟานใช่ไหม นี่เป็นสิ่งที่ดี ทำไมคุณถึงดูไม่มีความสุขเลยล่ะ?”

จางหยงกล่าว “แต่หลินฟานไม่ต้องการไปที่เมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมการคัดเลือกรางวัลระดับชาติ…”

“โอ้ ทำไมเขาถึงไม่เต็มใจ นี่เป็นโอกาสที่ดีมากเลยนะ”

“เด็กคนนั้นรู้รึเปล่าว่าพูดอะไรออกมา?”

“เรื่องนี้ต้องเกลี้ยกล่อม!”

“เขามีปัญหาอะไรหรือเปล่า”

อาจารย์และคณบดีรอบๆ ต่างก็ประหลาดใจอย่างคาดไม่ถึง และทุกคนก็ถามขึ้น

จางหยงกล่าว “ฉันได้พูดทุกอย่างที่ฉันควรจะพูดแล้ว แต่… ดูเหมือนหลินฟานจะไม่สนใจเลย”

หูชวนซึ่งนั่งอยู่นั้นก็คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ในเมื่อเขาไม่ต้องการไปก็ไม่ต้องบังคับให้เขาไปหรอก”

“ฮะ?” จางหยงอ้าปากค้าง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสับสนมากมาย

หูชวนกล่าวต่อ “ฉันเองยังรู้สึกประหลาดใจเลยที่หลินฟานตัดสินใจเข้าร่วมการแข่งขันแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ได้ ตอนแรกฉันคิดแค่ว่าเขามาลงแข่งเล่นๆเฉยๆด้วยซ้ำ”

“และถ้าหลินฟานตัดสินใจไปที่เมืองหลวงอีก ก็จะเหมือนกับการให้เขาไปรังแกนักศึกษาคนอื่น ถือว่าเป็นเรื่องดีเลยนะที่หลินฟานไม่ต้องการไปเมืองหลวง”

“ฮะ?” จางหยงเปิดปากค้าง เขาสับสนยิ่งกว่าเดิม

เศรษฐีผู้ร่ำรวย:เริ่มจากการได้รับซองแดง 7 พันล้านซอง

เศรษฐีผู้ร่ำรวย:เริ่มจากการได้รับซองแดง 7 พันล้านซอง

Status: Ongoing

นักข่าว: คุณใช้เวลานานแค่ไหนในการสร้างรายได้ 1 ล้านหยวน? หลินฟาน: [กระพริบตา]…. นักข่าวข้างถนน: ทำไมคุณถึงกระพริบตา? หลินฟาน: คุณไม่ได้ถามฉันเหรอว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะได้ 1 ล้าน?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท