ไม่นาน อาหารที่เหมือนเดิมทุกประการก็ค่อยๆถูกเสิร์ฟลงบนโต๊ะ
หานเทียนมีความสุขมากที่ได้มาทานอาหารมื้อนี้
อย่างแรกคืออาหารที่นี่อร่อยจริงๆ
อย่างที่สองก็เพราะว่านี่เป็นครั้งแรกที่เธอกับหลินฟานได้มาทานอาหารร่วมกัน
เมื่อเธอรู้ว่าราคาของอาหารมื้อนี้อยู่ที่ 122,000 หยวน หานเทียนก็รู้สึกตกใจมากและในขณะเดียวกันก็มีความสุขมากเช่นกัน
แม้ว่าหานเทียนจะคิดไว้แล้วว่าอาหารของที่นี่น่าจะแพงอยู่บ้าง
แต่ราคา 122,000 หยวนก็ยังเป็นราคาที่เกินจินตนาการของเธอไปมาก
และหลินฟานก็ยอมเสียเงินมากขนาดนี้เพื่อชวนเธอมาทานอาหาร…
เขา…
เมื่อหานเทียนคิดถึงเรื่องนี้ เธอก็รู้สึกเขินอายขึ้นมา
หลังจากรับประทานอาหารสองมื้อติดต่อกัน ท้องของหลินฟานก็รับไม่ไหวแล้ว
และหลังจากที่แยกกับหานเทียน เขาก็ตรงไปที่มหาวิทยาลัยเจียงเป่ยทันที
ในเวลานี้ ที่ปรึกษาซุนเหยาตงก็บังเอิญเห็นหลินฟานเข้าพอดี
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขาวางมือบนไหล่ของหลินฟานแล้วพูด “ฉันบอกแล้วว่านายเป็นนักศึกษาที่มีความสามารถอันโดดเด่น นายทำให้ห้องเรียนของเราได้รับเกียรติ”
“ดูสิ! พวกเราได้ถ้วยอุดมศึกษามาครอง ดีมาก! เป็นเรื่องที่ดีมาก!”
ปากของหลินฟานกระตุกเล็กน้อย
ความสามารถอันโดดเด่นอีกแล้วเหรอ?
ทำให้ห้องเรียนของเราได้รับเกียรติหรอ?
ที่ปรึกษาซุนเหยาตงพูดเป็นอยู่แค่สองประโยคนี้หรือไง
ซุนเหยาตงยังคงพูดต่อ “นายได้คว้ารับรางวัลแห่งเกียรติยศมาให้มหาวิทยาลัย ทางมหาวิทยาลัยเองก็จะให้รางวัลแก่นายอย่างแน่นอน เมื่อถ้วยอุดมศึกษาถูกนำมาถึงที่นี่ นายควรจะได้รางวัลและเครดิต…”
สำหรับสิ่งที่ซุนเหยาตงพูด หลินฟานไม่ได้สนใจแต่อย่างใดเลย
ซุนเหยาตงพูดต่อ “แล้วก็การบรรยายในวันเสาร์นี้ นายจะต้องเตรียมตัวให้ดี และต้องมุ่งมั่นที่จะเอาความรุ่งโรจน์มาให้กับห้องเรียนของเราให้ได้!”
ขณะพูดนั้น เขาก็ตบไปที่ไหล่ของหลินฟานเบาๆ จากนั้นก็เดินจากไปอย่างพึงพอใจ
และในขณะที่หลินฟานกำลังเดินไปยังห้องเรียน ซงหยี่ หม่าจงและเจิ้งจินเปา ก็ได้เข้ามาล้อมเขาไว้
“พี่ฟาน ฉันได้ยินมาว่าพี่ชนะรางวัลระดับถ้วยอุดมศึกษา และพี่ก็ยังเป็นคนที่แก้ปริศนาของโจวได้อีกด้วยใช่ไหม?” ซงหยี่ถาม
หลินฟานตอบเรียบๆ “ใช่แล้ว”
ในทันใดนั้น ซงหยี่, หม่าจงและเจิ้งจินเปาก็มองไปที่หลินฟานราวกับว่ามีแสงสีทองเป็นประกายออกมาจากตัวของเขา!
เทพ?
ใช่เลย!
ต้องเป็นเทพแน่ๆ!
ในสายตาของพวกเขา คนที่จะได้ถ้วยอุดมศึกษามาครองและแก้ปริศนาของโจวได้นั้นไม่ใช่คนแล้ว! แต่เป็นเทพแห่งความรู้!
และในที่สุดทั้งสามก็ตะโกนออกมาพร้อมกัน “พี่ฟาน ฉันขอคุกเข่าให้พี่!”
หลินฟานมองดูท่าทางตลกๆของพวกเขาและอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
ตอนนั้นเอง ซ่งเจียซินก็เดินเข้ามาแล้วยิ้มก่อนจะพูด”ยินดีด้วย ที่ได้รับรางวัลถ้วยอุดมศึกษาเป็นถ้วยแรกของมหาวิทยาลัยเจียงเป่ย”
หลินฟานพูด “ขอบคุณ”
หลังจากหยุดไปชั่วครู่ เขาก็พูดต่อว่า “คือว่านะ คืนนี้เธอว่างไปทานอาหารกันไหม?”
ไม่รู้ว่าทุกวันนี้มีผู้ชายกี่คนที่ต้องการจะชวนซ่งเจียซินไปทานอาหาร
แต่ผู้ชายเหล่านั้นก็ถูกเธอปฏิเสธกลับไปอย่างไม่ใยดีเลย
แต่สำหรับคำชวนของหลินฟาน เธอพยักหน้าเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ดูเหมือนว่า…คืนนี้ฉันจะหลับฝันดีเลยล่ะ”
ตอนนั้นเอง อาจารย์เฒ่าก็เดินเข้ามาในห้องเรียนและเริ่มบรรยายทันที เสียงที่เหมือนเพลงกล่อมเด็กทำให้หลินฟานที่ฟังอยู่ก็ผล็อยหลับไป
เขาหลับสบายมาก
ในตอนเย็น หลินฟานพาซ่งเจียซินไปที่ร้านอาหารสตาร์
“ติ๊ง!”
เมื่อได้เดินผ่านประตูเข้ามา ก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น
พนักงานเสิร์ฟคนเดิมได้พูดต้อนรับหลินฟานอีกครั้ง
เมื่อพนักงานเสิร์ฟเห็นว่าแขกที่เดินเข้ามาคือหลินฟาน ใบหน้าของเธอก็แสดงความประหลาดใจออกมา
เพียงแค่วันเดียว แต่หลินฟานพาสาวสวยถึงสามคนมาทานอาหาร?
และนอกจากนี้ พวกเธอทั้งหมดยังเป็นผู้หญิงที่สวยมากอีก!
เรื่องนี้จะไม่ทำให้เขาประหลาดใจได้ยังไง
หลินฟานไม่สนใจท่าทางของพนักงานมากนัก เขาพูด “มีที่ว่างไหม”
“มีค่ะ” พนักงานเสิร์ฟตอบ
จากนั้นหลินฟานก็ถูกพาไปที่โต๊ะรับประทานอาหารเหมือนกับเมื่อตอนกลางวันอีกครั้ง
ในไม่นานอาหารเลิศรสก็มาเสิร์ฟทีละจาน
ตั้งแต่เข้ามาที่ร้าน ซ่งเจียซินก็ยังคงสงบอยู่เสมอ
เห็นได้ชัดว่าเธอเคยมากินที่ร้านอาหารระดับนี้อยู่บ่อยๆ
เธอไม่รู้สึกแปลกใจกับราคาอาหาร 122,000 หยวนแต่อย่างใด
มันก็แค่อาหารมื้อละ 120,000 หยวน ซ่งเจียซินยังเคยดื่มไวน์ขวดละ 1 ล้านหยวนมาแล้ว
หลังจากรับประทานอาหารกันเสร็จแล้ว หลินฟานก็ขับรถไปส่งซ่งเจียซินกลับบ้านและตรงไปยังชุมชนยี่เกอทันที
เดิมทีหลินฟานตั้งใจว่าจะพาหวงหลิงและฉิวจือเฉียนไปทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารสตาร์
แต่ทั้งสองคนกลับทานอาหารเย็นกันไปเรียบร้อยแล้ว
หลินฟานจึงเลื่อนไปเป็นพรุ่งนี้แทน
…………
ณ ตระกูลเซี่ย
วันนี้ครอบครัวเซี่ย ได้ทำอาหารเย็นแสนอร่อยไว้เพื่อเลี้ยงฉลองให้กับเซี่ยปิงและเซี่ยเสว่ ที่สามารถเอาชนะและได้รับวัลถ้วยระดับอุดมศึกษามา!
เรื่องนี้เป็นเกียรติอย่างยิ่งและควรค่าแก่การฉลอง!
ทั้งครอบครัวมารวมตัวกันกินอาหารเย็นที่บ้าน
ถ้าหลินฟานอยู่ที่นี่ด้วย เขาจะต้องแปลกใจจนร้องออกมาแน่ว่า “เซี่ยหยาน คือคนในครอบครัวของเซี่ยปิงและเซี่ยเสว่จริงๆด้วย!”
เซี่ยหยาน ตักเนื้อย่างจำนวนมากให้กับเซี่ยปิงและเซี่ยเสว่ก่อนจะพูดว่า “กินให้มากๆหน่อย จะได้มีน้ำมีนวลมากกว่านี้”
“อืม” เซี่ยปิงและเซี่ยเสว่พูด
“ดีจริงๆ!” เซี่ยหยานยิ้ม “ฉันได้ยินมาว่าสาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้พวกเธอได้รับรางวัลถ้วยระดับอุดมศึกษามาในครั้งนี้ นั้นเป็นเพราะเพื่อนร่วมทีมที่ชื่อหลินฟานสินะ…”
“ทำไมพวกเธอไม่ชวนคนที่ชื่อหลินฟานมาทานอาหารที่บ้านล่ะ?”เซี่ยหยานถาม
เซี่ยปิงและเซี่ยเสว่หยุดมือทันที เธอนิ่งเงียบไม่ตอบกลับ
จนเซี่ยหยานต้องพูดอีกครั้ง “พวกเธอไม่ได้บอกว่ามีแฟนแล้วหรือไง จะพาฝ่ายชายมาบ้านเมื่อไหร่ละ? พามาให้แม่คนนี้ตรวจดูหน่อยสิ”
เซี่ยปิงและเซี่ยเสว่ยังคงไม่ตอบ แต่หัวของพวกเธอเกือบจะฝังลงไปในชามข้าวอยู่แล้ว
นี่…
เซี่ยหยานอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา เธอชอบเห็นท่าทางแบบนี้ของทั้งสองคน
เซี่ยเทียนที่มีผมหงอกอยู่เต็มหัวก็พูดขึ้นมา “ไม่ต้องพูดถึงเซี่ยปิงและเซี่ยเสว่เลย ตอนนี้ลูกก็ไม่เด็กแล้วเหมือนกัน เมื่อไหร่จะพาแฟนกลับมาที่บ้านบ้าง?”
“ตอนที่ลูกพาเซี่ยปิงและเซี่ยเสว่กลับมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ลูกบอกว่าลูกจะรอให้พวกเธอโตก่อนแล้วลูกจะคิดถึงเรื่องแต่งงาน”
“แล้วตอนนี้เป็นไงละ เซี่ยปิงและเซี่ยเสว่มีแฟนเป็นตัวป็นตนแล้ว ลูกยังจะรอให้พวกเธอแต่งงานจนมีลูก แล้วค่อยคิดเรื่องแต่งงานของตัวเองเหรอ?”
เมื่อเซี่ยหยานได้ยินสิ่งที่พ่อพูด เธอก็อดไม่ได้ที่จะปวดหัว “พ่อค่ะ วันนี้เรามาฉลองให้เซี่ยปิงและเซี่ยเสว่ที่ได้รับถ้วยระดับอุดมศึกษาอยู่นะ อย่าพูดถึงเรื่องนี้เลย มาดื่มกันต่อเถอะ!”
…………
ณ เพรสตัน
ศาสตราจารย์แก่ที่ใส่แว่นกรอบหนาๆกำลังศึกษาบางอย่างอย่างจริงจัง
ตอนนั้นเอง ศาสตราจารย์ที่ชื่อเจฟฟรีส์สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวก็พูดขึ้น “ศาสตราจารย์เอ็ดดี้ คุณจะไปที่เจียงเป่ยในวันเสาร์นี้หรือเปล่า?”
“เจียงเป่ย? จังหวัดนี้ตั้งอยู่ที่ไหน?” เอ็ดดี้ถามกลับ
“มันเป็นจังหวัดในตอนกลางของจีน คุณน่าจะรู้ว่าปริศนาของโจวได้ถูกแก้โดยคนจีน แล้วเขาก็จะจัดการบรรยายที่เจียงเป่ยในวันเสาร์นี้” เจฟฟรีส์พูด
“บรรยายในประเทศจีน?” เอ็ดดี้ขมวดคิ้ว “ทำไมเขาถึงไม่มาที่เพรสตัน”
เจฟฟรีส์ยักไหล่แล้วพูดว่า “นั่นเป็นสิทธิ์ของเขา เราบังคับไม่ได้”
เอ็ดดี้ถอนหายใจแล้วพูดว่า “ถึงฉันจะอยากไปฟังการบรรยายสรุปนี้ก็เถอะนะ แต่น่าเสียดายที่ฉันยังมีเรื่องสำคัญที่ต้องจัดการอีกมาก เกรงว่าฉันจะไปไกลถึงขนาดนั้นไม่ได้”
เจฟฟรีย์พูด “โอเค ถ้าอย่างนั้นฉันจะไปถามศาสตราจารย์เซ็นด์ และศาสตราจารย์เอมิลว่าอยากจะไปที่นั่นด้วยกันไหม”