ตอนที่ 1817 สิทธิ์
“หึ ซ่งถิงมันช่างมีโชคเสียจริงๆ เชียนเย่ตายลงด้วยมือของเย่หยวนทำให้มันได้รับสิทธิ์เข้าร่วมงานชุมนุมการต่อสู้แห่งกอไผ่อย่างไม่ต้องลงมือใดๆ”
“พลังฝีมือของมันแสนจะอ่อนแอไปแล้วก็คงทำอะไรไม่ได้มากมาย ข้าว่าให้เย่หยวนไปทั้งๆ อย่างนี้มันยังจะดีกว่าเสียอีก!”
“น่าเสียดาย พลังฝีมือของเย่หยวนนั้นมันสามารถเข้าร่วมชุมนุมการต่อสู้แห่งกอไผ่ได้แล้วแท้ๆ แต่เขากลับยังไม่อาจบรรลุอาณาจักรนภาสวรรค์ขึ้นไปได้”
…
บนลานกว้างหน้าโถงใหญ่ของยอดหลัก ตอนนี้เหล่าศิษย์อาจารย์ทั้งหลายของนิกายต่างมาเพื่อส่งเหล่าศิษย์ที่จะได้ไปเข้าร่วมชุมนุมการต่อสู้แห่งกอไผ่
ศิษย์ที่จะได้เข้าร่วมงานในครั้งนี้มันมีทั้งหมดสี่คนประกอบไปด้วยไป่หลี่ชิงหยาน เจียงเชอเหยียน อี้ชิงเซียงและซ่งถิง
เดิมทีซ่งถิงย่อมไม่มีโอกาสใดๆ ที่จะได้เข้าร่วมงานชุมนุมการต่อสู้แห่งกอไผ่ แต่เมื่อเชียนเย่ตายลงไปมันจึงเกิดช่องว่างขึ้นมา
ด้วยข้อกำหนดด้านอายุแล้วทางนิกายจึงต้องเลือกคนที่เหมาะสมที่สุดรองลงมา และตัวเลือกนั้นมันก็มีเพียงแค่ซ่งถิงเท่านั้น
ซ่งถิงบรรลุขึ้นอาณาจักรนภาสวรรค์หนึ่งดาวได้เมื่อประมาณร้อยปีก่อน ตอนนี้พลังฝีมือของเขาจึงพัฒนาไปอย่างที่ตัวเขาคนก่อนเทียบไม่ติดฝุ่น
ซ่งถิงในตอนนี้มีท่าทางยโสและร่าเริงมาก เพราะไม่ว่าอย่างไรการได้เข้าร่วมชุมนุมการต่อสู้แห่งกอไผ่มันก็เป็นเรื่องที่แสนยิ่งใหญ่
อย่างน้อยๆ มันก็จะช่วยนิกายคชสารมารได้บ้าง
“หึ เย่หยวนจะเก่งกาจมากมายแล้วทำไม? อย่างน้อยๆ ในครั้งนี้มันก็ไม่มีโอกาสเข้าร่วมชุมนุมการต่อสู้แห่งกอไผ่!”
ซ่งถิงนั้นกล่าวขึ้นมาในใจ
เขารู้ดีว่าการที่ตัวเองได้เข้าร่วมชุมนุมการต่อสู้แห่งกอไผ่นั้นมันขัดใจผู้คนมากแค่ไหน แต่เป็นเย่หยวนเองที่ไม่มีปัญญาบรรลุขึ้นมา จะไปโทษใครได้?
อีกด้านตอนนี้ไป่หลี่ชิงหยานกำลังกวาดสายตามองไปทั่วฝูงชนที่มาส่ง
เจียงเชอเหยียนยิ้มออกมาทันทีที่เห็นสภาพนั้น “เลิกมองเถอะ ไอ้เด็กคนนั้นมันคงไม่มากหรอก การบรรลุอาณาจักรนภาสวรรค์ด้วยเวลาเพียงสิบปีนั้นมันไม่ใช่เรื่องที่สามารถทำได้ไม่ว่าจะเป็นใคร หรือว่าเจ้าคิดว่าเขาจะมาส่งเจ้ากัน?”
ไป่หลี่ชิงหยานตอบเบาๆ กลับมา “ก็เขาบอกว่าเขาจะบรรลุนี่!”
ไม่รู้ว่าทำไม แม้แต่ตัวไป่หลี่ชิงหยานเองก็ไม่เชื่อว่าเย่หยวนจะทำได้แต่สายตาของนางก็ยังคงเฝ้ามองหาเย่หยวน
บางทีความคิดสมองของคนเรามันก็ช่างแปลกประหลาด
เจียงเชอเหยียนยิ้มออกมาด้วยท่าทางเย้ยหยัน “แม้ว่าไอ้เด็กคนนั้นมันจะมีแนวคิดที่แข็งแกร่งแต่ความเร็วในการบ่มเพาะของมันก็ไม่ได้รวดเร็วมาก มันย่อมไม่มีทางบรรลุจากอาณาจักรราชันพระเจ้าเก้าดาวขึ้นอาณาจักรนภาสวรรค์มาได้ด้วยเวลาแค่แน่ เจ้าไม่คิดว่าอย่างนั้นหรือ?”
แต่ไป่หลี่ชิงหยานก็ยังยืนกราน “คนอื่นทำไม่ได้ แต่เขานั้น… อาจจะทำได้?”
เจียงเชอเหยียนอดไม่ได้ที่จะหันหน้าหนี “นังเด็กโง่คนนี้นี่!”
การไปร่วมงานชุมนุมการต่อสู้แห่งกอไผ่ครั้งนี้จะถูกนำไปโดยผู้อาวุโสถ่ายทอดประจำยอดพรรณสวรรค์นามซู่เหยียน
เพราะครานี้ยอดพรรณสวรรค์นั้นได้มีศิษย์เข้าร่วมงานชุมนุมการต่อสู้แห่งกอไผ่ถึงสองคน เขาในฐานะผู้อาวุโสถ่ายทอดประจำยอดย่อมต้องรู้สึกภูมิใจ
เขากล่าวคำปลุกใจนิดหน่อยก่อนจะสะบัดแขนบอก “ออกเดินทาง!”
ไป่หลี่ชิงหยานหน้าเสียลงและถอนหายใจยาว “สุดท้ายก็ไม่มีจริงๆ!”
พูดจบนางก็ตามซู่เหยียนบินขึ้นฟ้าไป
“รอก่อน!”
เวลานั้นเองที่มีร่างหนึ่งพุ่งตัวออกมากลางอากาศปิดทางของผู้คนทั้งหลายไว้
“เย่หยวน! เขา… เขาบรรลุอาณาจักรนภาสวรรค์ได้จริง!”
“น่าเหลือเชื่อ! เวลาแค่สิบปีเขากลับบรรลุขึ้นสองขั้นมาได้จนถึงอาณาจักรนภาสวรรค์!”
“หึๆ ซ่งถิงมันคงเจ็บใจมากสิใช่ไหม? เรื่องราวที่แน่นอนอยู่ตรงหน้าจู่ๆ ก็หายวับไปกับตา”
“สมน้ำหน้ามัน! ไอ้หมอนี่มันดูโอหังอวดดีขึ้นมากตั้งแต่วันที่มันรู้ตัวว่าตัวเองได้สิทธิ์เข้าร่วมชุมนุมการต่อสู้แห่งกอไผ่”
…
ตอนนี้ใบหน้าของซ่งถิงนั้นแข็งทื่อจนทำอะไรไม่ถูก เขาไม่นึกไม่ฝันว่าเย่หยวนจะสามารถบรรลุขึ้นมาได้ในวินาทีสุดท้ายเช่นนี้!
เท่านี้สิทธิ์เข้าร่วมชุมนุมการต่อสู้แห่งกอไผ่ของเขาก็คงปลิวหายไปกับสายลมแล้ว
เรื่องเช่นนี้มันยากที่จะยอมรับได้เสียจริง
เจียงเชอเหยียนเองก็มีสีหน้าที่ดูไม่จืดไม่แพ้ซ่งถิง
เพราะนางเพิ่งพูดว่าเย่หยวนไปหยกๆ บอกว่าเขาไม่มีทางบรรลุขึ้นอาณาจักรนภาสวรรค์มาได้
แต่สุดท้ายพูดยังไม่ทันขาดคำ ตดยังไม่ทันหายเหม็นเย่หยวนกลับปรากฏตัวออกมาด้วยคลื่นพลังของอาณาจักรนภาสวรรค์
ไป่หลี่ชิงหยานเองก็ตื่นตกใจอย่างมาก นางไม่นึกเช่นกันว่าเย่หยวนจะสามารถทำได้จริงๆ
สิบปีก่อนตอนที่เย่หยวนบอกนางว่าจะบรรลุอาณาจักรนภาสวรรค์ นางไม่ได้รู้สึกเชื่อในคำพูดนั้นแม้แต่น้อย
ไอ้เจ้าหมอนี่มันสัตว์ประหลาดชัดๆ!
จากอาณาจักรราชันพระเจ้าสู่อาณาจักรนภาสวรรค์ ความยากเย็นนี้คนทั่วๆ ไปต้องใช้เวลากว่าหมื่นๆ ปีถึงจะก้าวผ่านมันไปได้
แต่เย่หยวนนั้นต่างออกไป เขาทำได้ด้วยเวลาแค่สิบปี
เย่หยวนหันหาซู่เหยียนและกล่าว “ผู้อาวุโสซู่ ข้าเองก็ต้องการเข้าร่วมชุมนุมการต่อสู้แห่งกอไผ่”
ซู่เหยียนมองดูเย่หยวนด้วยใบหน้าแสนตกตะลึงก่อนจะพยักหน้ารับ “ไม่นึกเลยว่าเข้าจะสามารถบรรลุมาได้ในวินาทีสุดท้ายเช่นนี้ เจ้าทำให้เฒ่าคนนี้ต้องตกใจจริงๆ! ในเมื่อเจ้าสามารถบรรลุอาณาจักรนภาสวรรค์มาได้แล้วทุกสิ่งอย่างย่อมสามารถจัดวางกันใหม่ได้ ด้วยพลังฝีมือของเจ้า เจ้าย่อมมีสิทธิ์ได้ร่วมงาน”
ได้ยินเช่นนั้นใบหน้าของซ่งถิงก็แข็งค้าง
เขานั้นต่อสู้และกำจัดยอดคนในรุ่นเดียวกันไปมากมายกว่าจะได้ตำแหน่งนี้มา
สุดท้ายคำพูดเดียวของซู่เหยียนนี้กลับทำลายสิทธิ์ของเขาจนสิ้น
ตอนนี้เขาที่พุ่งตัวขึ้นมาบนฟ้าแล้วแต่กลับต้องร่อนลงไปยังยอดหลักอีกครั้ง คนที่เฝ้ามองดูอยู่ด้านล่างคงหัวเราะกันท้องแข็งตายเลยใช่ไหม?
เสียหน้าจริงๆ!
เย่หยวนยิ้มพร้อมยกมือขึ้นคารวะ “ขอบพระคุณผู้อาวุโสซู่ แต่ศิษย์นั้นแท้จริงบรรลุมาได้นานแล้วข้าเพียงแค่เดินทางไปยังโถงหลอมโอสถ มันจึงเสียเวลาไปหน่อย”
ซู่เหยียนนั้นตื่นตกใจไม่น้อยพร้อมถามออกมา “เจ้าเพิ่งบรรลุได้ไม่จำเป็นต้องใช้โอสถใด จะเดินทางไปยังโถงหลอมโอสถด้วยเหตุใดกัน?”
เย่หยวนยิ้มบอก “ข้าได้ยินว่างานชุมนุมการต่อสู้แห่งกอไผ่ครั้งนี้มันเป็นแหล่งชุมนุมของยอดคนทั่วสารทิศ ศิษย์ของบางสำนักถึงขั้นบรรลุอาณาจักรนภาสวรรค์สองดาวได้แล้ว ข้าจึงเดินทางไปยังโถงหลอมโอสถเพื่อหลอมโอสถให้แก่ศิษย์พี่ไป่หลี่”
ไป่หลี่ชิงหยานเบิกตากว้างด้วยความตื่นตกใจทันทีที่ได้ยิน เย่หยวนไปเพื่อหลอมโอสถให้แก่นาง!
ซู่เหยียนถามขึ้นด้วยความสงสัย “เจ้ารู้ศาสตร์การหลอมโอสถ?”
เย่หยวนยิ้ม “ก็พอรู้อยู่บ้าง”
พูดไปเย่หยวนก็ยื่นขวดโอสถไปให้แก่ไป่หลี่ชิงหยาน “ด้วยความสามารถของศิษย์พี่หญิงแล้วโอสถใจม่วงหยกนี้มันน่าจะช่วยให้ท่านบรรลุอาณาจักรนภาสวรรค์สองดาวได้ไม่ยาก”
เมื่อคำพูดเหล่านี้ถูกกล่าวคนทั้งหลายก็แตกตื่นกันทันที!
แม้ว่าไป่หลี่ชิงหยานจะเก่งกาจมากพรสวรรค์แค่ไหน แต่หลังขึ้นอาณาจักรนภาสวรรค์มาได้ความเร็วการบ่มเพาะของนางเองก็ไม่ได้รวดเร็วเหมือนแต่ก่อนแล้ว
เวลาสองร้อยปีมานี้นางทำได้แค่มาถึงอาณาจักรนภาสวรรค์ขั้นปลาย ยังห่างไกลจากขั้นสุดมาก
แต่โอสถของเย่หยวนนี้กลับจะทำให้ไป่หลี่ชิงหยานบรรลุขึ้นอาณาจักรนภาสวรรค์สองดาวได้
มันจะเป็นโอสถวิเศษประเภทใดกัน?
ไป่หลี่ชิงหยานเปิดขวดนั้นออกมาทำให้กลิ่นโอสถสมุนไพรหอมฟุ้งไปทั่วฟ้า นางได้แต่อ้าปากค้างด้วยความตกใจ “โอสถใจม่วงหยกขั้นเทวะ!”
เย่หยวนยิ้ม “รีบๆ กินมันเถอะ ขืนยังจ้องมองมันแบบนั้นฤทธิ์โอสถจะได้จางลงหมดพอดี!”
ไป่หลี่ชิงหยานผงะไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินก่อนจะรีบกลืนโอสถนั้นลงไป
ซู่เหยียนมองดูเย่หยวนด้วยความตื่นตกใจอย่างมาก อารมณ์ความรู้สึกของเขาในตอนนี้มันสับสนจนไม่อาจอธิบายออกมาได้
เด็กคนนี้ไม่ได้มีดีแค่พลังฝีมือที่เยี่ยมยอดเหนือล้ำผู้อื่น แต่เขายังมีวิชาหลอมโอสถที่เก่งกาจไม่แพ้ใครด้วย!
ไม่นานหลังจากไป่หลี่ชิงหยานกลืนโอสถลงไปคลื่นพลังจากร่างของนางก็พุ่งสูงขึ้นจนบรรลุเข้าสู่อาณาจักรนภาสวรรค์ไป
“บรรลุแล้ว! บรรลุได้จริงๆ ด้วย! พระเจ้าช่วยโอสถนี้มันจะมีฤทธิ์แรงเกินไปไหมเนี่ย?”
“เท่านี้ศิษย์พี่ไป่หลี่ชิงหยานก็คงแข็งแกร่งขึ้นไปอีกมาก ความหวังของนิกายเงาจันทร์เราเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลแล้ว!”
“ครั้งนี้เย่หยวนทำให้เราตื่นตกใจกันมากจริงๆ! ไอ้หมอนี่มันจะเก่งกาจจนเกินไปแล้ว!”
ภายใต้สายตาของคนทั้งหลายนั้นไป่หลี่ชิงหยานสามารถบรรลุขึ้นสู่อาณาจักรนภาสวรรค์สองดาวได้สำเร็จ!
…………………………