หลังจากสบถคำหยาบออกมาอีกหลายคำ หลินเป่ยเฉินถึงได้เริ่มดูข้อมูลการสมัครสมาชิกอย่างจริงจัง
ค่าสมัครสมาชิกรายเดือน 1,000 เหรียญทองคำ
ค่าสมัครสมาชิกราย 3 เดือน 2,500 เหรียญทองคำ
ค่าสมัครสมาชิกราย 6 เดือน 4,500 เหรียญทองคำ
ค่าสมัครสมาชิกรายปี 8,000 เหรียญทองคำ…
แม่งเอ๊ย
จะแพงไปไหนวะนั่น?
แล้วทำไมเขาต้องสมัครด้วยล่ะ?
หลินเป่ยเฉินสัญญากับตนเองว่า ถ้าวันนี้เขาเสียเงินจ่ายค่าสมาชิกให้แอปแต่งรูปหน้าโง่นี่ เขาไม่ขอเป็นลูกคนอีกต่อไป
หลินเป่ยเฉินกำลังจะกดลบแอปเมจิก คาเมร่าออกไปจากโทรศัพท์อยู่แล้ว
แต่จังหวะที่กำลังจะกดอนุญาตถอนการติดตั้ง เด็กหนุ่มก็นึกขึ้นมาได้ว่าเขาไม่ควรปล่อยให้พลังลมปราณกว่า 5 GB ต้องสูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์
หลังจากจ้องมองข้อมูลการสมัครสมาชิกอยู่นาน สุดท้ายหลินเป่ยเฉินก็ต้องถอนหายใจออกมา
นี่คือครั้งแรกเลยนะที่เขายอมเสียเงินให้แอปพลิเคชันพวกนี้
บางทีมันอาจจะมีฟังก์ชันต่อต้านปีศาจก็ได้มั้ง?
แล้วถ้าเกิดมันช่วยแก้ปัญหาที่เขาพบเจอในขณะนี้ได้ล่ะ?
เอ่อ…
เอาวะ ลองสมัครดูหน่อยก็แล้วกัน
อีกอย่าง ตอนนี้เขามีเงินอยู่เหลือเฟือ
ในสำนักฝากเงิน หลินเป่ยเฉินยังมีทรัพย์สินเก็บอยู่อีกกว่า 10,000 เหรียญทองคำ
จ่ายแค่นี้ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอกน่า
คนรวยย่อมได้ในสิ่งที่ต้องการอยู่แล้ว
ในที่สุด หลินเป่ยเฉินก็กดจ่ายค่าสมัครสมาชิกรายเดือน 1,000 เหรียญทองคำ โดยให้หักเอาจากยอดเงินในแอปวีแชท หลังจากนั้น เขาก็กดเข้าไปในตัวแอปเมจิก คาเมร่าและเริ่มสำรวจดูความสามารถต่างๆ เป็นลำดับแรก
เฮ้อ…
แม่งเหมือนแอปเมจิก คาเมร่าทั่วไปเลยนี่หว่า ไม่เห็นจะแตกต่างเลยสักนิด…
เอ๊ย ตรงนี้มีฟังก์ชันความสามารถพิเศษ…
ฟังก์ชันเปลี่ยนใบหน้า? ฟังก์ชันเปลี่ยนเพศ?
หลินเป่ยเฉินอดหัวเราะออกมาไม่ได้เมื่อเห็นปุ่มแสดงความสามารถทั้งสองชนิดนั้น
ไม่เลวเหมือนกันนะเนี่ย
นอกจากสามารถเปลี่ยนใบหน้าได้แล้ว ยังเปลี่ยนเพศได้ด้วย
น่าสนใจขึ้นมาแล้วสิ
เด็กหนุ่มนิ่งคิดเล็กน้อยก็กดถ่ายเซลฟี่ตนเองหนึ่งรูป
แช๊ะ
ภาพถ่ายออกมาชัดเจน แสดงถึงความหล่อเหลา ดูดีมีเสน่ห์เด่นชัด
เฮ้อ ทำไมเรามันหล่อขนาดนี้วะเนี่ย
หลินเป่ยเฉินถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่าย
จากนั้น เขาก็ลองกดใช้ฟังก์ชันเปลี่ยนใบหน้า
มีหน้าต่างเด้งเตือนขึ้นมาว่า…
กรุณาเลือกรูปภาพที่ท่านจะใช้สลับใบหน้า
หา?
ที่แท้การเปลี่ยนใบหน้าที่ว่านั่น ก็คือการสลับใบหน้าจากรูปภาพอื่นนี่เอง
หลินเป่ยเฉินเริ่มเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว
ถ้าอยากสลับใบหน้ากับใคร ก็ต้องเตรียมรูปถ่ายของคนคนนั้นเอาไว้ด้วย
แต่ในคลังเก็บรูปภาพของหลินเป่ยเฉิน มันก็มีแต่รูปถ่ายเซลฟี่ของเขาคนเดียวนี่สิ
คนเราจะสลับใบหน้ากับตัวเองได้ยังไงกันเล่า
ดังนั้น หลินเป่ยเฉินจึงหันไปจ้องมองมี่หรู่หยานด้วยแววตาเป็นประกาย
เอายัยเด็กคนนี้เป็นหนูทดลองก็แล้วกัน
หลินเป่ยเฉินยกโทรศัพท์ขึ้นเล็งกล้องไปที่มี่หรู่หยาน เมื่อได้มุมที่ชัดเจนแล้ว เขาก็กดถ่ายรูป
แต่นี่ไม่ใช่เรื่องที่เหมาะสมเลย
ฟังก์ชันการเปลี่ยนใบหน้าของแอปเมจิก คาเมร่าจะทำให้เกิดอะไรขึ้นบ้างก็ไม่รู้
ถ้าเกิดมันมีฟังก์ชันสามารถส่องทะลุเสื้อผ้าได้ แบบนั้นมี่หรู่หยานก็ต้องเปลือยกายล่อนจ้อนเลยน่ะสิ?
แหม ถ้าทำได้จริงก็ถือว่าสวรรค์อวยพรแล้ว
แต่เขาคือหลินเป่ยเฉิน ผู้ชนะการแข่งขันค้นหาผู้มีพรสวรรค์ประจำเมือง แล้วเขาจะทำเรื่องบัดสีบัดเถลิงแบบนั้นได้อย่างไร?
แช๊ะ
เด็กหนุ่มกดถ่ายรูปรัวๆ โดยไม่ลังเล
แล้วรูปถ่ายมี่หรู่หยานก็ปรากฏขึ้นในโทรศัพท์มือถือของเขา โชคร้ายที่ฟังก์ชันส่องทะลุเสื้อผ้าที่หลินเป่ยเฉินแอบหวังเอาไว้ไม่ปรากฏขึ้นมา
เด็กหนุ่มถอนหายใจด้วยความเสียดาย กดเลือกรูปภาพของมี่หรู่หยานมาสลับใบหน้ากับรูปภาพของเขา เรียบร้อยดีแล้วก็กดปุ่มยืนยัน
วูบ!
บนหน้าจอโทรศัพท์ รูปภาพทั้งสองรูปกำลังเลื่อนเข้ามาซ้อนกัน แล้วก็เกิดลำแสงเป็นประกายแวววาวระยิบระยับ
หืม?
สลับหน้ากันแล้วใช่ไหมเนี่ย?
รูปภาพได้สลับใบหน้ากันเรียบร้อยแล้ว
หลินเป่ยเฉินขมวดคิ้วด้วยความมึนงง
แค่นี้เองเหรอ?
เขาหันกลับไปมองมี่หรู่หยานโดยไม่รู้ตัว
ทันใดนั้น เด็กหนุ่มก็ต้องสะดุ้งโหยงจนเกือบจะโยนโทรศัพท์ในมือทิ้งไป
นั่นมันตัวเขาเองนี่นา!
นี่มันอะไรกันครับเนี่ย?
ทำไมมี่หรู่หยานถึงได้มีใบหน้าเป็นเขาได้ล่ะ?
หลินเป่ยเฉินตกใจสุดขีดที่เห็นว่ามี่หรู่หยานซึ่งนั่งอยู่ข้างกองฟางไม่ห่างจากเขา ได้กลายเป็นเขาโดยสมบูรณ์แล้ว
หรือถ้าจะพูดให้ถูกต้องก็คือ นางมีใบหน้าเหมือนเขาทุกกระเบียดนิ้วต่างหาก
เหมือนกันจนแยกไม่ออก
ไม่มีส่วนไหนต่างกันสักนิดเดียว
หลินเป่ยเฉินรู้สึกเหมือนกำลังส่องกระจกอย่างไรอย่างนั้น
ประเด็นสำคัญก็คือดูเหมือนว่ามี่หรู่หยานกลับไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ นางหันมาสบตามองหลินเป่ยเฉินด้วยความประหลาดใจ และไม่เข้าใจเลยว่าทำไมอยู่ดีๆ หลินเป่ยเฉินถึงได้หันมาจ้องมองตนเองด้วยความตกตะลึงขนาดนั้น
สิ่งที่เกิดขึ้นมันน่าเหลือเชื่อมากเกินไป.ไอรีนโนเวล.
หลินเป่ยเฉินต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่กว่าจะรวบรวมสติกลับมาได้อีกครั้ง
ตกลงว่าแอปเมจิก คาเมร่ามีประโยชน์อย่างไรกันแน่?
เห็นได้ชัดว่าฟังก์ชันการเปลี่ยนใบหน้ามีประโยชน์สำหรับการปลอมตัวอย่างยิ่ง
เพียงเขาเอาโทรศัพท์ไปถ่ายรูปภาพใครก็ได้ หลินเป่ยเฉินก็จะสามารถปลอมตัวเป็นคนผู้นั้นได้โดยทันที
นับว่าเป็นฟังก์ชันที่น่าสนใจมากทีเดียว
ในวินาทีนั้น หลินเป่ยเฉินรับรู้แล้วว่าแอปเมจิก คาเมร่ากำลังจะเป็นสิ่งที่มาช่วยชีวิตเขาเอาไว้แท้ๆ
เขาแค่ต้องเอาโทรศัพท์ออกไปถ่ายรูปใครก็ได้สักคนสองคน จากนั้นก็ปลอมตัวเป็นคนเหล่านั้นเสีย เพียงเท่านี้ต่อให้พวกถังกู่จินพลิกแผ่นดินเมืองหยุนเมิ่งตามหาเขา ก็ไม่มีวันหาเจออีกแล้ว
การหลบหนีจึงไม่ใช่เรื่องที่ยากลำบากอีกต่อไป
หลินเป่ยเฉินฉีกยิ้มออกมาด้วยความดีใจสุดขีด
ความกดดันทั้งมวลสลายหายไป
เด็กหนุ่มหันกลับไปมองที่มี่หรู่หยานอีกครั้งและคำถามก็เกิดขึ้นในใจโดยทันทีว่า…
แล้วจะสลับใบหน้ากลับคืนยังไงหว่า?
ถึงเขาจะทำเรื่องราวที่น่าขายหน้าเป็นปกติ แต่ไอ้การที่จะยกใบหน้าตัวเองให้คนอื่นง่ายๆ มันทำได้ที่ไหนกันล่ะ
คนเราไม่ควรเอาใบหน้าของคนอื่นมาอยู่บนหน้าตัวเองตลอดไปไม่ใช่หรือ
เมื่อสำรวจดูในแอปเมจิก คาเมร่าอยู่อีกพักใหญ่ หลินเป่ยเฉินก็พบกับปุ่ม ‘เลิกทำ’ แต่การจะใช้งานฟังก์ชันนี้มีค่าใช้จ่ายครั้งละ 1 เหรียญทองคำ เด็กหนุ่มกัดฟันกดจ่ายเงิน และแล้วใบหน้าของมี่หรู่หยานก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมในที่สุด
เรียบร้อย แค่นี้ก็สลับใบหน้าคืนมาได้แล้ว
นับว่าเป็นแอปที่เกิดมาเพื่อผลาญเงินผู้ใช้งานจริงๆ
ขนาดจะกดออกคำสั่งเลิกทำยังต้องจ่ายเงิน
หลินเป่ยเฉินใบหน้ากระตุกด้วยความฉุนเฉียว
แต่ไม่นานต่อมา เขาก็เริ่มวางแผนการขั้นต่อไปอย่างจริงจัง
ผ่านไป 10 ลมหายใจ
หลินเป่ยเฉินลุกขึ้นกำลังจะเดินออกไปจากกระท่อมน้อย
มี่หรู่หยานลุกขึ้นยืนโดยทันทีและถามว่า ท่านจะไปไหนหรือ…เจ้าคะ?
หลินเป่ยเฉินหันกลับมาตอบว่า ข้าจะไปหาอุปกรณ์สำหรับการเปลี่ยนโฉมปลอมแปลงตัว เจ้ารออยู่ที่นี่ห้ามไปไหน เดี๋ยวข้ากลับมา เข้าใจนะ
พูดจบแล้ว เด็กหนุ่มก็เปิดประตูเดินออกไปจากกระท่อม
มี่หรู่หยานขยับเท้าออกมาข้างหน้าได้สองก้าว แต่แล้วนางก็หยุดและเดินกลับไปนั่งข้างกองฟางอีกครั้ง
รู้สึกไม่สบายใจและหวาดระแวง
ถึงก่อนหน้านี้มี่หรู่หยานจะแสดงฝีมือการต่อสู้ออกมาได้น่าประทับใจ แต่อย่างไรนางก็เป็นเพียงเด็กสาวอายุ 14-15 ปี ยังไม่มีความแข็งแกร่งมากพอที่จะรองรับสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันเช่นนี้
เขาจะจากไปเช่นนี้เลยหรือ?
แล้วถ้าเขาไม่กลับมาเล่า?
หรือว่าข้าจะไปมอบตัวดีนะ? อย่างน้อยก็น่าจะช่วยปกป้องครอบครัวของข้าได้?
ตอนที่มี่หรู่หยานกำลังคิดฟุ้งซ่าน ประตูกระท่อมก็เปิดออกอีกครั้ง หลินเป่ยเฉินสอดตัวผ่านเข้ามาระหว่างช่องว่างของประตู
ดวงตาของมี่หรู่หยานเป็นประกายแวววาวขึ้นมาทันที
ความวิตกกังวลทั้งหมดสลายหายไป
ในมือของหลินเป่ยเฉินหอบหิ้วเสื้อผ้ามาด้วยสองชุด เขาเดินเข้ามาหยุดยืนอยู่เบื้องหน้านางและพูดว่า คุณหนูมี่ กรุณายืนอยู่เฉยๆ อย่าขยับ ข้ากำลังจะทำการแปลงโฉมเปลี่ยนใบหน้าให้พวกเราสองคน…
ท่านสามารถเปลี่ยนใบหน้าได้ด้วยหรือเจ้าคะ? มี่หรู่หยานถามด้วยความเหลือเชื่อ
หุหุ พูดแล้วจะหาว่าคุย ข้าเนี่ยแหละอัจฉริยะเรียกพี่… หลับตาลงก่อนเถิด แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็พอ…
มี่หรู่หยานหลับตาลงอย่างว่านอนสอนง่าย
หลินเป่ยเฉินยื่นมือออกไปลูบคลำใบหน้าของมี่หรู่หยานและนวดคลึงอยู่ประมาณสองสามรอบ
เชี่ย!
มี่หรู่หยานผิวดีอะไรขนาดนี้
ยิ่งสัมผัสหลินเป่ยเฉินก็ยิ่งติดใจ
ถึงเด็กสาวจะรู้สึกเขินอายไม่ใช่น้อย แต่นางก็ปล่อยให้หลินเป่ยเฉินลูบคลำใบหน้าต่อไปแต่โดยดี
เรียบร้อยแล้ว
หลินเป่ยเฉินพูด
บัดนี้ รูปถ่ายของมี่หรู่หยานได้สลับใบหน้ากับรูปถ่ายของสตรีผิวคล้ำวัย 40 เศษที่อยู่ในแอปเมจิก คาเมร่าเรียบร้อย
ส่วนใบหน้าของหลินเป่ยเฉินเองก็สลับกับใบหน้าของสาวสวยอายุ 25 – 26 ปีคนหนึ่งได้อย่างไม่มีปัญหาเช่นกัน
การเปลี่ยนใบหน้าสำเร็จด้วยดี
มี่หรู่หยานหันกลับมามองหน้าหลินเป่ยเฉินด้วยความตกตะลึง นางยกมือขึ้นสัมผัสใบหน้าของตนเองและพูดออกมาด้วยความเหลือเชื่อ สุดยอดไปเลยนะเจ้าคะ
หลินเป่ยเฉินสามารถปลอมแปลงใบหน้าได้อย่างรวดเร็ว
มิหนำซ้ำ ยังสามารถแปลงโฉมให้เปลี่ยนไปได้เหมือนคนละคน
มี่หรู่หยานมีความรู้สึกเหมือนตนเองกำลังฝันไป
หลินเป่ยเฉินยกมือขึ้นมาจับคางตนเองอย่างใช้ความคิด ก่อนที่จะส่งเสื้อผ้าของสตรีวัยกลางคนชุดหนึ่งมาให้มี่หรู่หยาน อย่าลืมดัดเสียงของเจ้าด้วยล่ะ เอาให้เสียงแหบกว่านี้หน่อยก็ดี แล้วเวลาเดินก็ทำหลังงอๆ หน่อย… คนเราสามารถจดจำกันได้จากท่าเดิน เจ้าเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ด้านหลังกองฟางกองนั้น… จำไว้ว่าห้ามทิ้งเสื้อผ้าของเจ้าเอาไว้ที่ไหนแม้แต่ชิ้นเดียว เพราะมันจะเป็นเบาะแสให้คนอื่นตามตัวพวกเราได้
มี่หรู่หยานใบหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอายขณะเดินเข้าไปที่ด้านหลังกองฟางและเริ่มต้นเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว
แต่ด้วยความที่ใบหน้าของสตรีผิวคล้ำมีความดำเข้มมากเกินไป จึงมองไม่ออกเลยว่านางกำลังอยู่ในอาการหน้าแดง
หลินเป่ยเฉินยิ้มกริ่ม เดินเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ด้านหลังกองฟางอีกกองหนึ่ง
เขาถอดเสื้อผ้าของตนเองออก และสวมใส่เสื้อผ้าของสตรีที่ขโมยมาจากด้านนอก เมื่อสวมใส่เรียบร้อยแล้วก็ตรวจสอบดูว่าไม่มีหลักฐานใดหลงเหลืออยู่ ถ้าเขาไม่ทิ้งเบาะแสอะไรเอาไว้เลยสักอย่าง พวกเจ้าหน้าที่มือปราบก็ไม่มีทางตามตัวเจอแน่นอน
เฮ้อ ใครจะไปคิดวะเนี่ยว่าวันหนึ่งเราต้องปลอมตัวเป็นผู้หญิง… รู้ถึงไหนคงอายไปถึงนั่น ดีไม่ดีอาจจะโดนหาว่าเป็นโรคจิตด้วยซ้ำ
แต่เมื่อสวมใส่เสื้อผ้าสตรีแล้ว หลินเป่ยเฉินกลับพบว่าตนเองรู้สึกดีขึ้นมาเสียอย่างนั้น
แต่ร่างกายของเขายังเป็นเด็กหนุ่ม ดูไม่ค่อยเข้ากับเสื้อผ้าที่สวมใส่เท่าไหร่
โดยเฉพาะตรงส่วนกึ่งกลางของร่างกาย มันตุงออกมาซะขนาดนั้น ถึงใบหน้าจะเป็นหญิงสาว แต่ก็เป็นจุดที่ผิดสังเกตแน่นอน…แล้วแบบนี้เขาจะแก้ไขอย่างไรดี?
หลินเป่ยเฉินกังวลอยู่แล้วว่าความลับจะแตก ดังนั้น เขาต้องหาวิธีแก้ปัญหานี้ให้ได้ก่อนที่จะเดินออกไปพบเจอผู้คน
จริงด้วยสิ แอปเมจิก คาเมร่ามันมีฟังก์ชันเปลี่ยนเพศด้วยไม่ใช่หรือไง?
พลัน ความคิดนั้นก็ได้ผุดวาบขึ้นมาในสมองของเด็กหนุ่ม