เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] – บทที่ 481 นับว่าเจ้ารนหาที่ตายจริงๆ

บทที่ 481 นับว่าเจ้ารนหาที่ตายจริงๆ

เจียงจี้หลิวกวาดสายตาสำรวจมองพื้นที่ในกระโจม ก่อนหยุดเล็กน้อยเมื่อพบเข้ากับอู๋เฟิ่งกู และเมื่อเด็กหนุ่มเลื่อนสายตากลับมาจ้องมองหยิงอู๋จีอีกครั้ง ดวงตาของเขาก็เป็นประกายเย็นชามากกว่าเดิม

หยิงอู๋จีใบหน้ากระตุกเล็กน้อย เขาได้แต่ระเบิดเสียงหัวเราะ พูดว่า  ถ้าอย่างนั้น เรียนเชิญคุณชายเจียงนั่งลงก่อน ไม่ว่าคุณชายสงสัยเรื่องใด หากข้ารู้ ข้าก็ยินดีตอบคุณชายทุกประการ 

เจียงจี้หลิวพยักหน้าพูดว่า  ถ้าอย่างนั้นข้าไม่ขอเกรงใจ 

แต่เด็กหนุ่มก็ยังยืนอยู่ที่เดิมขณะสอบถาม  ข้าอยากทราบว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังการจับตัวบริวารของหลินเป่ยเฉินไป เพื่อบีบบังคับให้เขาลงนามในสัญญาส่งมอบความตายฉบับนั้น ใช่ใต้เท้าหยิงหรือไม่? 

 เรื่องนั้น… 

หยิงอู๋จีขมวดคิ้วด้วยความลังเลเล็กน้อย ก่อนตอบ  ข้ารู้ว่ามีเหตุจับตัวคนสนิทของหลินเป่ยเฉินไปกักขังไว้ในกระท่อมร้าง ซึ่งเคยเป็นสำนักงานของพวกชาวทะเล แต่นั่นไม่ใช่ฝีมือของข้า 

 เอ๋?  เจียงจี้หลิวขมวดคิ้ว  ถ้าอย่างนั้นเป็นฝีมือของผู้ใดกัน? 

หยิงอู๋จีมีท่าทางลังเลอีกครั้ง แต่ก็พูดออกมาในที่สุด  ในเมื่อคุณชายเจียงถามเรื่องนี้ ข้าก็ขอเรียนตอบตามความจริงว่าบัณฑิตมัจจุราชและนางเซียนหมอกเขียวนั้น เป็นท่านอ๋องแห่งแคว้นไห่อันจัดจ้างมาทั้งสิ้น พวกเขาถูกส่งมาเพื่อทำการแก้แค้นที่หลินเป่ยเฉินได้เคยสังหารท่านอ๋องน้อยเมื่อครั้งก่อน! 

เจียงจี้หลิวก้มหน้ารับฟังอย่างใช้ความคิด

 ไม่ใช่ 

เขาเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง  ถ้าจะล้างแค้นหลินเป่ยเฉิน ฆ่าเขาให้ตายก็สิ้นเรื่อง เหตุไฉนต้องบังคับให้เขาลงนามในสัญญายอมรับความตายด้วยเล่า? 

หยิงอู๋จีคลี่ยิ้มเล็กน้อย  เพราะพวกมันไม่อยากจะให้มีใครสาวเบาะแสไปถึงตัวไงล่ะ คุณชายต้องไม่ลืมว่าหลินเป่ยเฉินมีที่มาที่ไปไม่ธรรมดา ซ้ำเขายังเป็นผู้ที่ถูกเลือก ด้วยเหตุผลนี้ บัณฑิตมัจจุราชจึงตั้งใจยืมมือคุณชายเจียงสังหารหลินเป่ยเฉิน เพราะนี่คือทางออกที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา 

เจียงจี้หลิวผงกศีรษะ กล่าวว่า  คำถามต่อไปก็คือ บัณฑิตมัจจุราชและนางเซียนหมอกเขียวเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเมืองหยุนเมิ่ง แล้วเพราะเหตุใด พวกเขาถึงสามารถตามหาตัวกงกงและครอบครัวได้พบเจอ ในเวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งวันเท่านั้น? 

รอยยิ้มที่ประดับอยู่บนใบหน้าของหยิงอู๋จีหายวับไปทันที

เจียงจี้หลิวพูดต่อ  ใต้เท้าหยิงคงเป็นคนแจ้งข้อมูลให้พวกเขาได้รับทราบกระมัง? 

 ฮ่าฮ่า ในเมื่อคุณชายเจียงพูดออกมาเอง อย่างนั้นข้าก็ไม่ปิดบังแล้ว 

หยิงอู๋จีพยายามฝืนยิ้มขณะอธิบายต่อ  ใช่แล้ว ข้าคือคนบอกที่อยู่ให้มือสังหารทั้ง 2 คนนั้นรับทราบ นี่คือวิธีการเดียวเท่านั้นที่จะสามารถสังหารหลินเป่ยเฉินได้สำเร็จ ทุกคนต่างก็ปรารถนาให้หลินเป่ยเฉินตกตาย ทางคุณชายเจียงก็มีเป้าหมายเดียวกับพวกเราไม่ใช่หรือ 

เจียงจี้หลิวส่ายหน้า ตอบกลับมาทันที  ท่านคิดผิดแล้ว 

 ผิดอย่างไร 

 พวกเรามีวิธีการที่ต่างกัน พวกเราไม่สมควรร่วมมือกัน 

 แต่ในสายตาของข้า ไม่ว่าใครใช้วิธีการไหน สุดท้ายผลลัพธ์ก็เหมือนกันอยู่ดี 

 นั่นคือสิ่งที่ท่านคิด ไม่ใช่สิ่งที่ข้าคิด 

 ถ้าอย่างนั้น… ข้าก็คงไม่มีอะไรจะพูดกับคุณชายเจียงอีกต่อไป 

 สรุปว่า นอกจากเป็นคนบอกที่อยู่ของพวกกงกงให้บัณฑิตมัจจุราชรับทราบแล้ว ใต้เท้าหยิงยังมีส่วนรู้เห็นในการลักพาตัวมาตั้งแต่แรกสินะขอรับ? 

 ข้าไม่รู้ว่าคุณชายกำลังพูดถึงอะไรอยู่ ข้าเพียงเดินทางไปที่กระท่อมร้างแห่งนั้นก็เพื่อสืบสวนคดี และตอนที่ไปถึงก็ได้พบเจอเพียงแต่ศพของชายฉกรรจ์ชุดดำ 6 คนเท่านั้น ว่ากันว่าพวกเขาเป็นผู้ติดตามของบัณฑิตมัจจุราช และมีพลังอยู่ในขั้นปรมาจารย์ทั้งสิ้น 

 ทั้งหมดที่ข้าสามารถบอกคุณชายเจียงได้ก็มีแต่เพียงเท่านี้ โปรดให้อภัยข้าด้วยที่ไม่สามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพราะเรื่องราวนอกเหนือจากนี้ มันไม่มีสิ่งใดเกี่ยวข้องกับคุณชายเจียงเลยสักนิดเดียว หากไม่มีสิ่งใดแล้ว เชิญคุณชายเจียงกลับไปพักผ่อนเถิด ท่านเพิ่งประสบเหตุแขนขาดมาทั้งสองข้าง เกรงว่าคงต้องพักผ่อนให้เพียงพอแล้ว… ฮ่าฮ่า 

 เพราะเหตุนี้ หลินเป่ยเฉินถึงเข้าใจผิดคิดว่าข้าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการลักพาตัวบริวารของเขา ฮ่าฮ่า ความจริงข้าก็สมควรแขนขาดแล้ว แต่ข้าสัญญากับหลินเป่ยเฉินเอาไว้ว่า จะต้องมอบคำอธิบายให้แก่เขาให้ได้… 

 แล้วคุณชายเจียงต้องการสิ่งใดกันแน่? 

 ใต้เท้าหยิง ได้โปรดติดตามข้าไปอธิบายเรื่องราวทั้งหมด ต่อหลินเป่ยเฉินด้วยตัวของท่านเองเถิด 

 เรื่องนั้น… แหม แหม แหม เกรงว่าข้าคงไม่มีเวลาน่ะสิ เสียดายที่ข้าแยกร่างไม่ได้ ต้องขออภัยคุณชายเป็นอย่างสูง 

หยิงอู๋จีเริ่มมีสีหน้าแข็งกระด้างขึ้นมาบ้างแล้ว

ที่เขายังพูดจาดีกับบุคคลแขนขาดอยู่เช่นนี้ ก็เป็นเพราะเห็นแก่หน้าเว่ยหมิงเฉิน แต่ด้วยระดับพลังในปัจจุบันของเจียงจี้หลิว เด็กหนุ่มไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนเดิมอีกต่อไป และอนาคตก็คงถูกเขี่ยออกจากการเป็นมือกระบี่รับใช้ของเว่ยหมิงเฉินในไม่ช้า

เพราะฉะนั้น เมื่อมาวุ่นวายกับเขามากเกินไป หยิงอู๋จีจึงไม่มีเหตุผลให้ต้องทำตัวสุภาพอีก

 ท่านมีงานสำคัญนักหรือ? 

เจียงจี้หลิวยิ้มมุมปากเหยียดหยาม  ไม่มีสิ่งใดสำคัญมากไปกว่าการขจัดมลทินให้กับข้าอีกแล้ว แม้แต่การส่งเจ้าหน้าที่มือปราบออกไปจับกุมตัวชาวเมือง เพื่อมาเป็นคนงานในเหมืองแร่หิน ก็ไม่มีความสำคัญในสายตาของข้าเลยสักนิด 

หยิงอู๋จีหัวเราะในลำคอ ตอบโต้กลับไป  พวกเราต่างก็ทำงานให้แก่นายท่านเว่ยหมิงเฉินด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าท่านหรือข้า เราล้วนลงเรือลำเดียวกันแล้ว ในเมื่อไม่คิดจะช่วยเหลือกัน อย่างน้อยก็อย่ายื่นมือเข้ามาแทรกแซง มิเช่นนั้น ข้าจะคิดว่าท่านตั้งใจมาก่อกวน หากเรื่องนี้รู้ไปถึงหูนายท่าน เกรงว่าใบหน้าที่หล่อเหลาของคุณชายเจียงคงยิ้มไม่ออกอีกต่อไป 

พลัน สีหน้าของเจียงจี้หลิวแสดงออกถึงความโดดเดี่ยวขึ้นมาในพริบตา

 เฮ้อ… 

เขาถอนหายใจและพูดว่า  ข้าไม่เข้าใจจริงๆ ว่านายท่านจะเลี้ยงสุนัขรับใช้ชั้นเลวอย่างท่านเอาไว้ทำไม เพราะการเลี้ยงท่านเอาไว้ มันก็มีแต่ทำให้ตัวนายท่านต้องแปดเปื้อนความโสโครกเท่านั้นเอง 

หยิงอู๋จีใบหน้ากระตุกด้วยความเดือดดาลขึ้นมาทันที  คุณชายเจียง เห็นแก่หน้าของนายท่าน ข้าจะนับหนึ่งถึงสามให้ท่านได้มีเวลาไสหัวไปจากหน้าข้าซะ แต่หากท่านยังไม่ไป อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจก็แล้วกัน 

 ไม่เกรงใจอย่างนั้นหรือ? 

เจียงจี้หลิวยิ้มออกมาเล็กน้อย

แล้วเขาก็เงยหน้าขึ้น ดวงตาเป็นประกายวิบวาวเหมือนมีกระแสไฟฟ้าสถิต  ท่านคู่ควรที่จะมาพูดจาโอหังเช่นนี้กับข้าแล้วหรือ? 

หยิงอู๋จีที่เดือดดาลเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งแสยะยิ้มออกมาอย่างน่าเกลียดน่ากลัว

เจียงจี้หลิวพูดต่อว่า  ในเมื่อท่านยอมรับออกมาเองว่าเป็นคนให้ข้อมูลแก่พวกของบัณฑิตมัจจุราช ถ้าอย่างนั้น ข้าก็จะพาตัวท่านไปให้หลินเป่ยเฉินลงโทษ ส่วนเขาจะลงโทษท่านอย่างไรบ้างนั้น พวกท่านไปตกลงกันเองก็แล้วกัน 

 แล้วถ้าข้าไม่ไปล่ะ? 

หยิงอู๋จีหัวเราะในลำคอ

เจียงจี้หลิวหุบยิ้ม  ถ้าอย่างนั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ 

 ไม่เกรงใจอย่างนั้นหรือ? 

หยิงอู๋จีเงยหน้าระเบิดเสียงหัวเราะ

 เด็กแซ่เจียง เจ้าปากดีแต่มีมืออยู่หรือไม่? อย่าว่าแต่ชักกระบี่เลย สถานะของเจ้าบัดนี้มีค่าเป็นเพียงเศษขยะข้างถนนเท่านั้น จูปี้ฉีที่คอยปกป้องเจ้าเสมือนไข่ในหินบัดนี้ก็ตายไปแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าหน้าที่ ยังไม่รีบมาจับกุมตัวเด็กเสียสติคนนี้ไปอีก 

เมื่อออกคำสั่งจบแล้ว

เจ้าหน้าที่มือปราบสี่นายก็พุ่งเข้าหามือกระบี่พันหน้า

ทุกคนมีพลังอยู่ในขั้นยอดปรมาจารย์ทั้งสิ้น

นี่คือความมั่นใจของหยิงอู๋จี

เจียงจี้หลิวดวงตาเป็นประกายวิบวาว หัวไหล่ของเขาสะบัดเล็กน้อย

วูบ!

แล้วกระบี่ที่สะพายอยู่บนแผ่นหลังก็ดีดตัวขึ้นจากฝัก

คมกระบี่สาดประกายเจิดจ้า

 อ๊าก… 

เจ้าหน้าที่มือปราบทั้ง 4 นายนั้นส่งเสียงร้องโหยหวน มือข้างที่ถือกระบี่ของพวกเขามีเลือดพุ่งกระฉูด เส้นเอ็นบริเวณข้อมือถูกตัดขาด ใบหน้าพลันขาวซีดปราศจากสีเลือด

 วันนี้ใครก็ตามที่ขวางทางข้า พวกมันต้องตายทั้งหมด 

เจียงจี้หลิวระเบิดเสียงคำรามออกมาบ้าง

กระบี่ของเขากำลังลอยตัวอยู่ในอากาศ เหมือนมีวิญญาณที่ตาเปล่ามองไม่เห็น กำลังควบคุมด้วยความคล่องแคล่ว

และในขณะนี้ กระบี่ก็กำลังพุ่งเข้าไปหาหยิงอู๋จี

 นับว่าเจ้ารนหาที่ตายจริงๆ 

หยิงอู๋จีชักสีหน้าด้วยความหงุดหงิดใจและชักกระบี่ออกมาจากข้างเอว

เช้ง!

 

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]

Status: Ongoing

หืมมม วิชานี้น่าสนใจดี แชะ ! ติ๊งง คุณได้รับแอพพลิเคชั่นวิชากระบี่ทะลวงจันทร์ ต้องการติดตั้งหรือไม่ ! ด้วยสมาร์ทโฟนในมือของเจ้าแกะดำหลิวเป่ยเฉิน ทำให้เขาสามารถผงาดบนโลกจอมยุทธ์นี้ได้อย่างง่ายดาย…. แต่ข้าไม่เอาหรอก ใครมันจะอยากอยู่โลกแบบนี้กัน YouTube ก็ไม่มี Facebook ก็เข้าไม่ได้ ข้าขอกลับโลกเดิมไปนั่งเล่นเกมในห้องแอร์เย็น ๆ ดีกว่าโว้ยยย !!

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท