เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] – บทที่ 494 ห้าเทพมือกระบี่

บทที่ 494 ห้าเทพมือกระบี่

การต่อสู้ในเขตสนามรบศักดิ์สิทธิ์จุดที่หนึ่งและจุดที่สองได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

นี่คือการต่อสู้ระดับยอดปรมาจารย์ ทุกการเคลื่อนไหวได้รับการฉายผ่านจอถ่ายทอดสดบนท้องฟ้า ยอดมือกระบี่จากต่างถิ่นและชาวเมืองนับหมื่นคนต่างก็พากันเงยหน้าจ้องมองด้วยความตื่นเต้น

 คิดไม่ถึงเลยนะว่าเจียงฟานจะถึงกับกล้าลอบสังหารท่านเจ้าเมืองฉุย 

 นี่เท่ากับเขาทำผิดกฎหมายร้ายแรงของจักรวรรดิเลยนะ ไม่ทราบว่าไปกินดีหมีหัวใจเสือมาจากไหนกัน? 

 เหอเหอเหอ ผิดกฎหมายแล้วจะทำไม ฉุยเฮาเฟิงกลับออกหน้าต่อสู้แทนวิหารที่ถูกตรวจสอบ หากการตรวจสอบวันนี้สิ้นสุดลง โดยที่วิหารเมืองหยุนเมิ่งเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ฉุยเฮาเฟิงก็ต้องถูกนำตัวไปประหารอยู่ดี 

 นั่นสิ ต่อให้ฉุยเฮาเฟิงสามารถเอาชนะเจียงฟานได้สำเร็จ แต่ถ้าวิหารประจำเมืองหยุนเมิ่งไม่สามารถผ่านการตรวจสอบได้ การต่อสู้ของเขามันจะมีประโยชน์อันใด? 

 สุดท้ายเขาก็ต้องตายอยู่ดีสินะ 

มือกระบี่จากต่างถิ่นจับกลุ่มพูดคุยกันอย่างครื้นเครง

บนถนนที่ทอดนำขึ้นสู่ยอดเขา

ท่านอ๋องแห่งแคว้นไห่อันยิ้มออกมาด้วยความอำมหิต

ชายฉกรรจ์ในชุดสีเทารีบนำเก้าอี้มาจัดวางให้ท่านอ๋องได้นั่งรับชมการถ่ายทอดสดบนท้องฟ้าอย่างสบายอารมณ์ เมื่อท่านอ๋องนั่งลงแล้ว พลังลมปราณและรังสีอำมหิตก็ยิ่งแผ่ออกมาจากร่างกายด้วยความหนาแน่นมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับรอยยิ้มที่อยู่บนริมฝีปากซึ่งขยายขนาดใหญ่ขึ้นเช่นกัน

ในจังหวะนั้น บังเกิดเสียงหัวเราะดังออกมาจากป่าข้างทาง

 อุ๊วะฮ่าๆๆๆ ประเสริฐ ข้ารู้ดีอยู่แล้วว่าท่านต้องไม่ตาย ข้ารู้ดีอยู่แล้ว… 

ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับฉุยเฮาเฟิงอยู่หลายส่วน เดินออกมาเงยหน้าจ้องมองจอถ่ายทอดสดของสนามรบศักดิ์สิทธิ์จุดที่สองพร้อมทั้งระเบิดเสียงหัวเราะอย่างมีความสุข

รอบกายของชายหนุ่มยังมีกลุ่มคนอีก 6 ถึง 7 คนกำลังปลอบโยนเขาอย่างมีความสุขเช่นกัน

 นั่นใครน่ะ? 

ท่านอ๋องแห่งแคว้นไห่อันขมวดคิ้ว

หัวหน้ากลุ่มชายฉกรรจ์ในชุดเทาที่ยืนอยู่ด้านข้าง รีบขยับเข้ามาก้มหัวกระซิบว่า  กราบเรียนท่านอ๋อง นี่คือฉุยหมิงโหลว เป็นบุตรชายของท่านเจ้าเมืองฉุย เมื่อพบว่าบิดาของตนเองยังไม่ตาย เขาจึงหัวเราะด้วยความดีใจขอรับ 

 ฉุยหมิงโหลว? 

ดวงตาของท่านอ๋องพลันเป็นประกายวูบวาบด้วยความโกรธแค้น

บุคคลผู้นี้เป็นเพื่อนร่วมสถาบันของบุตรชายเขา และที่สวีหวั่นหลัวเดินทางมายังเมืองหยุนเมิ่ง ก็เป็นเพราะได้รับเทียบเชิญจากฉุยหมิงโหลวผู้นี้นี่เอง

แต่หลังจากนั้น บุตรชายสุดที่รักของเขากลับต้องถึงแก่ความตาย ฉุยหมิงโหลวไม่แม้แต่จะมอบคำอธิบายสักคำเดียว มิหนำซ้ำ ฉุยเฮาเฟิงผู้เป็นบิดายังออกหน้าปกป้องฆาตกรอย่างหลินเป่ยเฉิน รวมถึงแทรกแซงการสืบสวนของเจ้าหน้าที่มือปราบอีกด้วย

ความผิดครั้งนี้ให้อภัยไม่ได้

 รีบไปจัดการมันซะ 

ท่านอ๋องแห่งแคว้นไห่อันจ้องมองไปยังฉุยหมิงโหลวพลางออกคำสั่ง  กรงหลังรถม้าของข้ายังว่างเปล่าอยู่พอดี จับมันไปใส่ไว้ในกรง… หากขัดขืนก็ฆ่าทิ้งได้เลยไม่ต้องปล่อยไว้ 

 ข้าน้อยรับคำบัญชา 

ลมหายใจต่อมา กลุ่มชายฉกรรจ์ในชุดสีเทาก็ชักกระบี่ออกจากฝักและพุ่งเข้าไปห้อมล้อมพวกของฉุยหมิงโหลวอย่างรวดเร็ว

 บุคคลปริศนาในเขตสนามรบศักดิ์สิทธิ์จุดที่สาม คนผู้นี้ ถ้าข้าจำไม่ผิด เขาคือกระบี่เทพปฐพี หนึ่งในกลุ่มห้าเทพมือกระบี่ของเว่ยหมิงเฉิน 

เฒ่าทะเลพูดในความเงียบ

หลินเป่ยเฉินมองไปยังจอถ่ายทอดสดของสนามรบจุดที่สาม และอดถามออกมาไม่ได้  กลุ่มห้าเทพมือกระบี่หรือขอรับ? อยู่ดีๆ โผล่มาได้อย่างไรกัน? 

เฒ่าทะเลพ่นลมผ่านทางจมูกด้วยความไม่พอใจ  นี่เจ้าไม่ได้ศึกษาข้อมูลของศัตรูบ้างเลยหรือไร เจ้าคิดว่าข้างกายของเว่ยหมิงเฉินผู้ยิ่งใหญ่เกรียงไกรคนนั้น… จะมีบริวารเพียงแค่สี่มือกระบี่องครักษ์เท่านั้นหรือ? 

 ยังมีคนอื่นด้วยหรือขอรับ? 

หลินเป่ยเฉินเบิกตาโตอย่างคิดไม่ถึง

คนบ้าอะไรทำไมถึงได้มีลูกน้องเก่งๆ เยอะขนาดนี้วะ?

เฒ่าทะเลหัวเราะเยาะ  สำหรับคนที่มีสถานะสูงส่ง เจ้าคิดว่าเป็นเรื่องแปลกหรือไร? 

หลินเป่ยเฉินพูดอะไรไม่ออกอีกแล้ว

นั่นสินะ

เว่ยหมิงเฉินย่อมไม่ได้มีลูกสมุนฝีมือฉกาจเพียงแค่สี่องครักษ์ประจำตัวอยู่แล้ว

เมื่อเป็นเช่นนี้ก็หมายความว่าเว่ยหมิงเฉินยังคงมีขุมกำลังซ่อนตัวอยู่อีกเป็นจำนวนมาก

 ใครจะออกมาสู้กับข้า? 

เสียงคำรามดังออกมาจากม่านพลังของสนามรบจุดที่สาม  จงรีบไสหัวออกมาตายเสียดีๆ 

แน่นอนว่าย่อมเป็นเสียงท้าทายของกระบี่เทพปฐพีคนนั้น

หัวใจของหลินเป่ยเฉินกระตุกวูบ เขามองหน้าเฒ่าทะเลและพูดว่า  ผู้อาวุโสขอรับ… 

 หยุดก่อน 

เฒ่าทะเลยกมือห้าม  เจ้าคงอยากให้ข้าหรือองค์หญิงยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือใช่หรือไม่? 

หลินเป่ยเฉินยิ้มกริ่ม ตอบว่า  ใช่แล้วขอรับ หากองค์หญิงหรือผู้อาวุโสช่วยเหลือพวกเรา ไม่ว่าท่านต้องการสิ่งใดตอบแทน จะเป็นเงินทองหรือศิลาบูชา… 

 ข้าสามารถขอได้ทุกอย่างเลยใช่หรือไม่? 

เฒ่าทะเลมองหน้าหลินเป่ยเฉินไม่วางตา จนเด็กหนุ่มรู้สึกหนังหัวชายิบ  ถ้าข้าจะขอให้เจ้ามาเข้าร่วมกับเผ่าพันธุ์ชาวทะเล เจ้าจะตกลงหรือไม่? 

 เรื่องนั้น… 

หลินเป่ยเฉินมีสีหน้าลำบากใจ  เราคุยกันไปแล้วไม่ใช่หรือขอรับ เรื่องใหญ่เช่นนี้ จะให้ตัดสินใจอย่างกะทันหันมันก็กระไรอยู่… 

นักพรตหญิงชินพลันหัวเราะในลำคอเสียงดังเฮอะ

องค์หญิงแห่งท้องทะเลเพียงยิ้มเล็กน้อย และพูดว่า  การตรวจสอบวิหารและอัญเชิญเทพเจ้า เป็นพิธีกรรมของเหล่าสาวกผู้ศรัทธาในตัวของเทพีกระบี่ แต่พวกเราชาวทะเลไม่ใช่สาวกของเทพีกระบี่ ด้วยเหตุนี้ จึงไม่สามารถยื่นมือเข้าไปแทรกแซงได้เด็ดขาด เว้นแต่ว่าเจ้าอยากจะแปรพักตร์หันหน้าเข้าหาเทพเจ้าองค์อื่นเพื่อเอาตัวรอดเท่านั้น… 

หลินเป่ยเฉินเบิกตาโตด้วยความตกตะลึง

นี่ไม่ใช่เรื่องที่อยู่นอกเหนือความคาดหมายสักเท่าไหร่

แต่เขาก็ยังอดตกใจไม่ได้อยู่ดี

อย่างนั้นก็หมายความว่าเขาต้องรอให้เทพีกระบี่สร้างปาฏิหาริย์อย่างเดียวเท่านั้นสินะ

องค์หญิงแห่งท้องทะเลพูดออกมาอีกครั้งหนึ่งว่า  ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ตัวตนของเฒ่าทะเลและตัวข้าเองมีความพิเศษมากกว่าชาวทะเลทั่วไป เพราะฉะนั้น จึงไม่สมควรลดตัวลงมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวของจักรวรรดิเป่ยไห่เด็ดขาด 

หืม?

ทันใดนั้น หลินเป่ยเฉินก็นึกถึงกองทัพเรือรบและการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่อลังการขององค์หญิงแห่งท้องทะเลเมื่อหลายวันก่อน

แล้วเด็กหนุ่มก็เริ่มเข้าใจอะไรบางอย่าง

 หากเป็นเช่นนั้น… 

หลินเป่ยเฉินกัดฟันกรอด  ข้าก็คงต้องไปตามหาสหายของข้าแล้ว… 

ได้เวลาที่เขาต้องแสดงฝีมือจริงๆ เสียที

แต่ในจังหวะนั้นเอง…

 อาจารย์เจ้าคะ ให้ข้าออกไปต่อสู้เถิดเจ้าค่ะ 

เยว่เว่ยหยางที่ยืนเงียบอยู่ตลอดพลันส่งเสียงออกมาเป็นครั้งแรก

หลินเป่ยเฉินพูดสวนกลับไปโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด  นักบวชเยว่ เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่… 

ใครจะรู้เลยว่านักพรตหญิงชินกลับพยักหน้าพูดว่า  ระมัดระวังตัวด้วยแล้วกัน 

 รับทราบแล้วเจ้าค่ะ ท่านอาจารย์ 

เยว่เว่ยหยางประสานมือคำนับ พยักหน้า จากนั้นจึงหันมามองหลินเป่ยเฉินและพูดว่า  อิอิ พี่เป่ยเฉิน อย่าได้ประเมินผู้อื่นต่ำเกินไปนะเจ้าคะ 

พูดจบแล้ว นางก็กางปีกกระบี่บนแผ่นหลัง

วูบ!

เยว่เว่ยหยางกลายเป็นเพียงลำแสงสีเงินสายหนึ่งพุ่งวาบตรงลงไปที่เขตสนามรบศักดิ์สิทธิ์จุดที่สาม

 นี่มัน? 

หลินเป่ยเฉินหันขวับกลับมามองหน้านักพรตหญิงชินด้วยความไม่อยากเชื่อ

นี่มันเท่ากับส่งเยว่เว่ยหยางออกไปตายไม่ใช่หรือ?

นักพรตหญิงชินกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย  เดี๋ยวภายหลังเจ้าก็รู้เอง 

หลินเป่ยเฉินขมวดคิ้วอย่างใช้ความคิด

บัดนี้ บริเวณด้านล่างของภูเขาได้มีลำแสงแห่งความร้อนแรงพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า ส่งผลให้มวลอากาศปั่นป่วนเล็กน้อย คลื่นความร้อนแผ่กระจายไปรอบทิศทาง…

บรรยากาศกลับกลายเป็นฤดูร้อนขึ้นมาในทันที

ผู้โจมตีคนที่สี่ได้ปรากฏตัวออกมาแล้ว

เห็นได้ชัดว่าขุมกำลังของทางฝั่งเมืองเฉียนหาวมีความน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง

 นี่คือมือกระบี่เทพอัคคี! 

เฒ่าทะเลกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

หลินเป่ยเฉินดวงตาเป็นประกายวูบวาบ

ว่าไงนะ

เทพอัคคีอย่างนั้นหรือ?

คงต้องถึงมือเขาแล้วใช่ไหม

เด็กหนุ่มหันหน้าไปมองตานักพรตหญิงชิน  คู่ต่อสู้คนนี้ ให้โอกาสข้าน้อยได้… 

นักพรตหญิงชินปฏิเสธโดยเร็วไว  ไม่ต้องเป็นห่วง คราวนี้เรามีคนที่จะส่งออกไปอยู่แล้ว 

เอ๋?

รอยยิ้มประจบประแจงของหลินเป่ยเฉินแข็งค้างอยู่บนใบหน้า

นี่มันหมายความว่าอย่างไรกัน?

มีผู้ช่วยเหลือมาจากภายนอกอย่างนั้นหรือ?

ในขณะที่หลินเป่ยเฉินกำลังตกตะลึงอยู่นั้น เขาก็เห็นลำแสงสีเงินพุ่งขึ้นจากใจกลางตัวเมืองหยุนเมิ่ง มันระเบิดแสงเจิดจ้าตัดผ่านผืนฟ้าและตกลงไปในเขตของสนามรบศักดิ์สิทธิ์จุดที่สี่ด้วยความหนักแน่นแม่นยำ

ใครกันนะ?

พลังลมปราณที่แผ่ออกมาไม่มากไม่น้อย

ไม่รีบไม่ร้อน

ไม่ได้ทำให้บรรยากาศปั่นป่วน

แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด มันกลับเป็นคลื่นพลังที่ทำให้ทุกคนรู้สึกจิตใจสงบขึ้นมาทันตา

หลินเป่ยเฉินรู้สึกว่าตนเองคุ้นเคยกับพลังลมปราณเช่นนี้ชอบกล

แต่เขาก็คิดไม่ออกอยู่ดีว่าบุคคลปริศนาผู้นี้คือใครกันแน่

 

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]

Status: Ongoing

หืมมม วิชานี้น่าสนใจดี แชะ ! ติ๊งง คุณได้รับแอพพลิเคชั่นวิชากระบี่ทะลวงจันทร์ ต้องการติดตั้งหรือไม่ ! ด้วยสมาร์ทโฟนในมือของเจ้าแกะดำหลิวเป่ยเฉิน ทำให้เขาสามารถผงาดบนโลกจอมยุทธ์นี้ได้อย่างง่ายดาย…. แต่ข้าไม่เอาหรอก ใครมันจะอยากอยู่โลกแบบนี้กัน YouTube ก็ไม่มี Facebook ก็เข้าไม่ได้ ข้าขอกลับโลกเดิมไปนั่งเล่นเกมในห้องแอร์เย็น ๆ ดีกว่าโว้ยยย !!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท