หลินเป่ยเฉินถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
เขาหันกลับมามองหน้าหลิงไท่ซวีและพูดว่า อาจารย์ใหญ่ขอรับ เรื่องราวต่อจากนี้ ข้าน้อยขอสะสางต่อเอง
เจ้าเนี่ยนะ?
หลิงไท่ซวีขมวดคิ้วด้วยความไม่มั่นใจ เจ้าจะทำได้หรือ?
หลินเป่ยเฉินพยักหน้า ข้าน้อยจะพยายาม
ประเสริฐ แต่อย่าฝืนเกินไปก็แล้วกัน ถ้ารู้สึกว่าตกอยู่ในอันตรายเมื่อใด ให้ร้องขอความช่วยเหลือจากข้าทันที เข้าใจหรือไม่? หลิงไท่ซวีพูดด้วยความห่วงใย หลินเป่ยเฉิน เจ้ารู้หรือไม่ว่าในชีวิตนี้ ข้าไม่เคยต้องมาเป็นกำลังเสริมให้กับใครมาก่อน นอกจากเจ้าคนเดียวเท่านั้น
ถึงแม้ชายชราจะไม่เต็มใจ แต่สุดท้าย หลิงไท่ซวีก็หมุนตัวเดินจากไปในที่สุด
บนหน้าผาหินขณะนี้ จึงหลงเหลือหลินเป่ยเฉินอยู่กับไป๋ชินหยุนเพียงลำพังเท่านั้น
คิดว่าทำเช่นนี้แล้ว ข้าจะไม่ฆ่าเจ้าหรือไง?
ไป๋ชินหยุนยังคงมีดวงตาเป็นสีแดงก่ำ เสียงพูดเย็นชา ไม่มีความหวั่นไหวแม้แต่น้อย
หลินเป่ยเฉินตอบรับกลับไปด้วยความจริงใจ เจ้าอาจจะลืมเลือนไปอย่างหนึ่ง
คือสิ่งใด?
ไป๋ชินหยุนถึงกับชะงักงัน
หลินเป่ยเฉินพูดว่า ข้ายังเป็นหนี้เจ้าอยู่หนึ่งแสนเหรียญทองคำ หากเจ้าฆ่าข้าทิ้ง เจ้าก็ไม่มีวันได้เงินจำนวนนั้นกลับคืนอีกแล้ว
ไม่ใช่เลย
ไป๋ชินหยุนส่งเสียงหัวเราะในลำคอด้วยความตลกขบขัน อย่าลืมสิว่าเจ้ามีศิลาบูชาจากเหมืองหินอยู่อีกตั้งเท่าไหร่ เมื่อเจ้าตายไปแล้ว ข้าก็จะได้ครอบครองศิลาเหล่านั้นแต่เพียงผู้เดียว
ให้ตายสิ
หลินเป่ยเฉินเบิกตาโตด้วยความตกตะลึง ปีศาจไร้การศึกษาอย่างเจ้า เหตุไฉนถึงได้มีนิสัยเดียวกับข้าเลยเนี่ย
ไป๋ชินหยุนตอบว่า คนโฉดย่อมเรียนรู้จากคนโฉดด้วยกัน บอกตามตรงเลยนะ นับตั้งแต่ที่ข้ามาอยู่ในโลกนี้และได้อยู่เคียงข้างเจ้า ข้าก็ได้เรียนรู้อะไรมากมายเลยล่ะ
หลินเป่ยเฉินต้องยกมือขึ้นมานวดขมับตนเองด้วยความปวดหัวอีกครั้ง
นี่เขาควรจะภูมิใจดีไหมนะ?
สุดท้าย เด็กหนุ่มก็ถอนหายใจออกมา
และกลับมาพูดถึงประเด็นสำคัญของพวกเขาต่อจากเดิม
ข้ามีเหตุผลให้ต้องไปที่นครเจาฮุย
หลินเป่ยเฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น มีหนทางใดบ้างไหมที่จะทำให้เจ้าไม่ต้องฆ่าข้า?
ไป๋ชินหยุนนิ่งเงียบ
หลังจากนั้นเนิ่นนาน นางก็พูดออกมาอย่างแช่มช้า อย่าบังคับข้า
หลินเป่ยเฉินหัวใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม
เขาตัดสินใจโกหกเล็กน้อย
ข้าสู้กับเจ้าไม่ได้หรอก
หลินเป่ยเฉินมีน้ำเสียงจริงจังมากที่สุดในชีวิต ข้าแค่ไม่อยากทำร้ายความรู้สึกระหว่างพวกเรา พูดตามตรง ข้ายังคงมีไพ่ตายที่เอาไว้ใช้ต่อสู้กับเจ้าได้อีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นวิชาฝ่ามือลำแสงพิฆาต หรือการยืมพลังศักดิ์สิทธิ์จากเทพีกระบี่ เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าข้าเป็นใคร เจ้าคิดหรือว่าเทพีกระบี่จะนั่งมองผู้ที่ถูกเลือกของตนเองโดนปีศาจฆ่าตายง่ายๆ เช่นนั้น?
ถ้าไม่ลอง แล้วจะรู้ได้อย่างไร
ดวงตาที่เป็นสีแดงก่ำของไป๋ชินหยุนพลันกลับกลายเป็นเหมือนมีเปลวไฟร้อนแรงพุ่งออกมา…
ปีกกระบี่บนแผ่นหลังหลินเป่ยเฉินกางออกกว้างเต็มความยาวกว่าสิบวา ขนบนปีกที่เป็นใบมีดแหลมคมสะท้อนประกายแวววาว ขณะนี้ หลินเป่ยเฉินมีภาพลักษณ์สูงส่งและสง่างามไม่ต่างไปจากเทพเจ้าแห่งแสงสว่างตัวจริง
พลังศักดิ์สิทธิ์แผ่ออกมาจากร่างกายของเขาอย่างช้าๆ
เด็กหนุ่มถือกระบี่สายฟ้าอยู่ในมือขวา
มือซ้ายถือปืนไรเฟิล 98k
ส่วนปืนยิงจรวด Type 69 นั้นมีอานุภาพการทำลายล้างรุนแรงมากเกินไป สภาพร่างกายในปัจจุบันของหลินเป่ยเฉินยังไม่แข็งแกร่งมากพอที่จะใช้งานมันได้
แอป NetEase Cloud Music ถูกเปิดใช้งาน
เพลงกระบี่ไร้เทียมทานถูกเล่นออกมาในโหมดหูฟัง ทำให้มีแต่หลินเป่ยเฉินคนเดียวเท่านั้นที่ได้ยิน
เด็กหนุ่มไม่ลืมใช้วิชาโลหิตกระชากวิญญาณด้วยเช่นกัน
ทั้งหมดนี้คือไพ่ตายที่เขามีอยู่ในมือ
นั่นทำให้พลังการต่อสู้ในปัจจุบันของหลินเป่ยเฉินพุ่งขึ้นสูงเทียบเท่ากับยอดปรมาจารย์ตอนกลาง
ดูเหมือนเจ้าจะแข็งแกร่งกว่าเดิมเยอะเลยนะ
ไป๋ชินหยุนเลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยความประหลาดใจ
ก่อนที่ร่างของนางจะลอยขึ้นไปในอากาศ
บนแผ่นหลังของเด็กสาวก็มีปีกสีแดงสดงอกออกมาเช่นกัน
ข้าเองก็ไม่อยากฆ่าเจ้า แต่การตัดสินใจของเจ้าทำให้ข้าผิดหวัง
น้ำเสียงของไป๋ชินหยุนเย็นชาและเข้มขรึม
ข้าก็เป็นความหวังของเผ่าพันธ์ข้าเช่นกัน มีผู้คนมากมายต้องเสียชีวิตเพื่อส่งข้ามาอยู่ในโลกใบนี้ เพราะฉะนั้น ในเมื่อเจ้าไม่ยอมรับฟังคำแนะนำจากข้า หลินเป่ยเฉิน ข้าก็มีหน้าที่ต้องฆ่าเจ้าให้ได้
แล้วบรรยากาศที่น่าสยองขวัญก็แผ่ปกคลุมโลกทั้งใบอีกครั้ง
ครืน!
พื้นดินบนยอดหน้าผาใต้เท้าหลินเป่ยเฉินถึงกับสั่นสะเทือน
ก้อนหินบางส่วนพังถล่มทลายลงไปจากหน้าผา ได้ยินเสียงสายน้ำไหลหลากอยู่ห่างไกลออกไป มวลอากาศบนท้องฟ้าวิปริตแปรปรวน ราวกับว่าพื้นดินกำลังจะถล่มและผืนฟ้ากำลังจะทลายในอีกไม่ช้า
กระบี่สีแดงเพลิงเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นในมือของไป๋ชินหยุน
เพลงกระบี่สยบโลกา!
ไป๋ชินหยุนคำรามชื่อกระบวนท่าที่ตนเองกำลังจะใช้ออกมาด้วยเสียงก้องกังวานปานมังกรคำรณ ต่อจากนั้น เด็กสาวก็ตวัดกระบี่ในมือจากข้างบนลงข้างล่าง
หลินเป่ยเฉินไม่มีเวลาคิดสิ่งอื่นใดอีกแล้ว เขากระพือปีกบนแผ่นหลัง และฉากหลบการโจมตีได้อย่างฉิวเฉียด
ขณะนี้ ปีกกระบี่ของเขากำลังแผดแสงสว่างเจิดจ้าชวนให้ผู้คนรู้สึกแสบตา
หลินเป่ยเฉินเคลื่อนไหวเป็นเพียงเงาเลือนรางในอากาศ เพียงพริบตาเดียว เขาก็ปรากฏตัวอยู่ห่างออกไปไกลถึงครึ่งลี้
ในเวลาเดียวกันนั้น ลำแสงกระบี่สีแดงเข้มก็ตามติดมาไม่ห่างกาย ลำแสงกระบี่เหล่านั้นผ่ายอดเขาข้างทางแตกแยกออกจากกันเป็นสองส่วน
แม้ลำแสงกระบี่จะหายไปแล้ว แต่แรงสั่นสะเทือนที่ภูเขาด้านล่างยังคงอยู่
บนหน้าผาหินที่เด็กหนุ่มและเด็กสาวยืนคุยกันอยู่เมื่อสักครู่ ถูกแบ่งแยกออกเป็นสองฝั่งเช่นกัน คือฝั่งตะวันออกกับฝั่งตะวันตก
ส่วนพื้นผิวของหน้าผาตรงบริเวณที่ถูกตัดผ่ากลางนั้นมีความเรียบลื่นราวกับกระจกแก้ว
นี่คือการตัดยอดเขาด้วยกระบี่เดียวที่แท้จริง
หลินเป่ยเฉินเห็นดังนั้นหัวใจก็แทบกระดอนออกมาอยู่นอกหน้าอก
แข็งแกร่งเหลือเกิน!
นี่หรือคือพลังปีศาจที่แท้จริง?
พลังที่แข็งแกร่งเช่นนี้ สามารถทำลายล้างโลกได้ทั้งใบไม่ยากเลย
เด็กหนุ่มกระชับปืนไรเฟิล 98k ในมือซ้าย และเหนี่ยวไกยิงโดยไม่ต้องเล็ง
ฟิ้ว!
กระสุนลำแสงพุ่งออกไปจากที่เก็บเสียงปลายกระบอกปืน
วูบ!
ไป๋ชินหยุนคุกเข่าลงบนพื้นดิน และตวัดกระบี่ในมือขึ้นมาปัดป้องกระสุนลำแสงได้อย่างแม่นยำ เพียงวินาทีเดียวเท่านั้น พลังลมปราณของนางก็สามารถสลายการโจมตีจากกระสุนลำแสงได้หมดสิ้น
มวลพลังแผ่ออกไปรอบบริเวณ
รอบกายเด็กสาวก่อเกิดเป็นคลื่นพลังสีแดงเข้ม
ยิ่งทำให้ไป๋ชินหยุนดูมีสง่าราศีน่าเกรงขามมากกว่าเดิม
แต่เมื่อเผชิญหน้าแรงกระแทกจากกระสุนปืน 98k ตัวของไป๋ชินหยุนก็ถึงกับไถลไปด้านหลังไกลสามถึงสี่วา
ไม่ต่างจากที่หลินเป่ยเฉินคาดการณ์ไว้สักเท่าไหร่
นั่นหมายความว่าปืนไรเฟิล 98k ไม่มีอานุภาพรุนแรงมากพอที่จะทำอันตรายปีศาจร้ายในระดับไป๋ชินหยุนได้สำเร็จ แต่แน่นอนว่าหากนางไม่ได้ยกกระบี่ขึ้นมาปัดป้องกระสุนได้ทันเวลา การโจมตีในครั้งนี้ ก็คงสร้างความเสียหายให้กับเด็กสาวได้มากกว่าที่เป็นอยู่
ถ้าอ่าน เซียนกระบี่มาแล้ว ถึงบทนี้แล้วยังไม่จุใจ งั้นไปอ่านกันต่อได้ที่เว็บ Enjoybook.co เพราะที่นั่นลงนำไปแล้วกว่า 30 ตอน !! #อ่านก่อนใครได้ที่เว็บเอนจอย