เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80 – เล่มที่ 2 ตอนที่ 51 ไปเถอะ แจ้งผลให้เธอรู้ด้วยตนเอง!

เล่มที่ 2 ตอนที่ 51 ไปเถอะ แจ้งผลให้เธอรู้ด้วยตนเอง!

ทุจริต?

ทุจริตอย่างไร?

ใบหน้ากลมมนของอาจารย์ซุนแดงก่ำด้วยความร้อนรน

 พี่ฉี ฉันไม่ได้ห่างเธอไปแม้แต่ก้าวเดียว ขนาดเธอไปเข้าห้องน้ำยังตามไปด้วย อาหารกลางวันก็กินในห้องพักครู ไม่มีทางทุจริตได้อย่างแน่นอน! 

อาจารย์ฉีรีบปลอบรุ่นน้องที่กำลังกระวนกระวาย

 อย่าร้อนใจไป ฉันเชื่อว่าเธอเป็นคนมีความตั้งใจและเป็นคนมีความรับผิดชอบ คะแนนของเธอมันค่อนข้างเหนือความคาดหมายน่ะ 

เมื่อมั่นใจว่าอาจารย์ซุนไม่ได้ป้ำเป๋อ อาจารย์ฉีจึงนำกระดาษคำตอบและคะแนนสอบส่งให้แก่อาจารย์ร่วมระดับชั้น เหล่าวัง [1] ประจำมัธยมปลายปีสามก็สงสัย  ไม่มีใครหลุดเผยคำตอบให้จริงๆ หรือ? เช่นนั้นนักเรียนคนนี้ก็เข้าเรียนกลางภาคได้แล้วสิ 

 จะหลุดคำตอบได้อย่างไรกัน วันศุกร์นี้ไม่ใช่ว่าปีสามมีสอบจำลองหรือ? ฉันเอาข้อสอบชุดนั้นมาใช้กับเธอก่อน คำถามก็เป็นเหล่าอาจารย์แต่ละวิชาออก ใครจะสามารถได้คำตอบก่อนการสอบจำลองได้กัน? 

และอย่าลืมว่าอาจารย์ฉีเป็นคนนำข้อสอบกลับบ้านด้วยตนเอง

อีกอย่างสามีของเธอก็เป็นอาจารย์วิชาภาษาอังกฤษ ซึ่งภาษาอังกฤษของเซี่ยเสี่ยวหลานสอบได้คะแนนดีที่สุด

แต่ข้อสอบนี้ไม่ใช่สามีของเธอเป็นผู้ออก ครอบครัวเธอและเซี่ยเสี่ยวหลานก็ไม่มีความเกี่ยวข้องใดต่อกัน อาจารย์ฉีเป็นคนทำสิ่งใดด้วยความเที่ยงตรง จึงคิดว่าเซี่ยเสี่ยวหลานไม่มีทางได้คำตอบล่วงหน้าแน่นอน

สีหน้าของเหล่าวังอัศจรรย์ใจมาก

 จบมัธยมต้นแล้วศึกษาด้วยตัวเองที่บ้านหรือ? 

จุดที่เซี่ยเสี่ยวหลานเสียคะแนนไป ล้วนเป็นวิชาอย่างภาษาจีนและรัฐศาสตร์ซึ่งจำเป็นต้องท่องจำ ชีววิทยาก็คะแนนไม่ดี แต่คะแนนรวมวิชาชีววิทยาแค่เท่าไรเอง? ส่วนภาษาจีนและรัฐศาสตร์ใช้การตั้งมั่นท่องจำในระยะเวลาสั้นๆ สามารถเพิ่มพูนคะแนนให้มากขึ้นได้อย่างแน่นอน สิ่งอื่นไม่ขอกล่าวถึง จริงๆ แล้วคะแนนวิชารัฐศาสตร์ที่เลวร้ายจนทนดูไม่ได้นั่น สามารถนำจุดที่ไม่ควรเสียคะแนนของวิชาภาษาจีนโปะเข้าไป คะแนนรวมของเซี่ยเสี่ยวหลานยังสูงขึ้นได้อีก 40 คะแนนแบบหายห่วง!

40 คะแนนเชียวนะ!

เหล่าวังหัวเราะชอบใจ มีต้นกล้าดีๆ เช่นนี้เพิ่มมาอีกต้น ถ้าเธอตอบว่าศึกษาด้วยตนเองก็ต้องยกนิ้วยอมรับเลย

อย่างไรเสียหากสุดท้ายเธอสอบติดแล้ว ใครจะสนว่าพื้นฐานของเธอคือการเรียนที่บ้านหรือไม่ คนอื่นรับรู้เพียงแต่นักเรียนจากเซี่ยนอีจงสอบติดแล้ว อัตราการเข้าเรียนก็เป็นของเซี่ยนอีจง!

เหล่าวังจัดการเก็บกระดาษคำตอบของเซี่ยเสี่ยวหลานไว้อย่างระมัดระวัง

 รีบเถอะ ต้องแจ้งผลให้นักเรียนคนนี้! 

 เฉินชิ่งห้อง 3 แนะนำมา… 

 อย่างนั้นก็วานเฉินชิ่งนำทางไปเลย! 

อาจารย์ในตอนนี้มีความกระตือรือร้นมากเลยทีเดียว

ฟื้นฟูเกาเข่าได้ระยะหนึ่ง มาตรฐานเหล่าอาจารย์ของเซี่ยนอีจงอาจไม่ทัดเทียมเมืองใหญ่ ทว่าจรรยาบรรณของอาจารย์ส่วนมากไม่เป็นที่กังขา การสอบเข้ามหาวิทยาลัยสามารถเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของคนหนึ่งคนได้อย่างแน่นอน ผู้เข้าสอบบางคนถึงขนาดเรียนซ้ำปีแล้วปีเล่า ยังไม่เคยยอมละทิ้งการสอบเกาเข่าเลยด้วยซ้ำ ตอนนี้ผู้มีความหวังร่วงหล่นลงมาจากความว่างเปล่า ถ้าไม่รู้ก็ไม่เกิดอะไร หากรู้เข้าเซี่ยนอีจงต้องไม่ปล่อยคนไปอยู่แล้ว

เฉินชิ่งถูกเรียกตัวออกมา เหล่าวังและอาจารย์ฉีรอให้เฉินชิ่งหยุดเรียนกลับบ้านไม่ไหว บอกว่าจะไปหาเซี่ยเสี่ยวหลานที่หมู่บ้านชีจิ่งด้วยกันในทันที

เหล่าวังเอาแต่ถามไถ่เรื่องของเซี่ยเสี่ยวหลานตลอดทาง เช่นนักเรียนหญิงคนนี้ทำไมเมื่อก่อนไม่เรียนหนังสือ ปกติเวลาอยู่บ้านทบทวนบทเรียนอย่างไร เฉินชิ่งจะรู้อะไรได้ เขาไม่รู้สถานการณ์เมื่อก่อนของเซี่ยเสี่ยวหลานในหมู่บ้านต้าเหอเลยแม้แต่น้อย บางทีหลังจากเซี่ยเสี่ยวหลานเลิกเรียนกลางคัน เธอคงใช้เวลาอย่างหนักในการศึกษาเล่าเรียนที่บ้านเองจริงๆ ?

อย่างไรเสียดูจากท่าทางของอาจารย์ทั้งสองแล้ว เสี่ยวหลานต้องผ่านการสอบของโรงเรียนแล้วแน่นอน

เหล่าวังยังคงปล่อยให้เขาสงสัยต่อไป ไม่ยอมปริปากบอกว่าตกลงแล้วเซี่ยเสี่ยวหลานสอบได้คะแนนเท่าไร

 รอถึงบ้านเธอ เราก็ได้รู้แล้ว 

อาจารย์ทั้งสองคนพาเฉินชิ่งไปด้วย สามคนขี่จักรยานไปยังหมู่บ้านชีจิ่ง ไม่ต้องบอกเลยว่าเฉินชิ่งสงสัยมากขนาดไหน

สามคนขี่จักรยานด้วยความไวแสง เมื่อถึงหมู่บ้านชีจิ่งก็ร้อนจนเหงื่อแตก เฉินชิ่งเคาะประตูอยู่นานสองนาน ทว่าไม่มีคนบ้านหลิวเปิดประตูตอบรับออกมาเลยสักคน

ที่แท้เป็นเพราะอีกสักพักหลิวหย่งจะเตรียมตัวออกไปทำงานไกล จึงใช้เวลาที่เหลืออยู่ก่อนออกเดินทางไกลช่วยเซี่ยเสี่ยวหลานมากขึ้นอีกหน่อย ตอนนี้การเก็บเกี่ยวประจำฤดูใบไม้ผลิผ่านพ้นไปแล้ว กลางวันไปส่งเทาเทาที่โรงเรียนเสร็จ ผู้ใหญ่สามคนก็ออกไปรับซื้อปลาไหลแทนเซี่ยเสี่ยวหลาน

ถึงแม้ทุกสองวันจะส่งปลาไหลเข้าเมืองซางตูถึง 100 กว่าชั่ง แต่อ่างน้ำในบ้านได้ตุนไว้หลายร้อยชั่งแล้ว

เวลานี้ในมือของเซี่ยเสี่ยวหลานมีเงินไม่มากพอจริงๆ เธอเลยไม่กล้ามือเติบซื้อเนื้อซื้อซี่โครงทั้งวันแล้ว ช่วงนี้คนในครอบครัวเลือกรับประทานปลาหมูมากที่สุด สิ่งนี้นำกลับมาเล็กน้อยพร้อมกับตอนรับซื้อปลาไหล เพราะราคาถูกยิ่งนัก

อาจารย์ทั้งสองรอคอยจนคอแห้งผาก

เฉินชิ่งจึงพาเหล่าวังและอาจารย์ฉีไปบ้านของเขาเพื่อพักดื่มน้ำดื่มท่า

อาจารย์มาเยี่ยมบ้าน!

คนในครอบครัวเฉินชิ่งเกือบจะเลี้ยงดูปูเสื่ออาจารย์ทั้งสองแล้ว เฉินวั่งต๋าออกคำสั่ง มารดาเฉินชิ่งทั้งจะฆ่าไก่ทั้งจะซื้อเนื้อ เหล่าวังรั้งไว้ได้ทันท่วงที  พวกเราไม่ได้มาเพื่อกินข้าวหรอก แค่อยากรีบหาตัวนักเรียนเซี่ยเสี่ยวหลานให้พบโดยเร็ว หากล่าช้าสักหนึ่งวัน อนาคตเธออาจจะสอบได้น้อยลงหลายคะแนน แบบนี้จะเป็นผลดีได้อย่างไร? 

เหล่าวังจดจ่อกับประโยชน์ของส่วนรวมทั้งใจ

เฉินวั่งต๋าจึงกระตือรือร้นมีน้ำใจมากไปกว่านี้ไม่ได้

 เด็กเสี่ยวหลานคนนี้มีความคิดที่ดีนะ สถานะทางบ้านก็ไม่ค่อยดี ทว่าโชคดีที่รู้จักก้าวไปข้างหน้า 

เฉินวั่งต๋าได้วานคนไปตามตัวหลิวหย่งกลับมา

หลิวหย่งตื่นเต้นเสียขนาดตะกร้าใส่ปลาไหลแทบเทกระจาดเลยทีเดียว

 เสี่ยวหลานสอบผ่านแล้ว?! ปีหน้าเธอจะได้สอบมหาวิทยาลัยแล้วจริงๆ หรือ? 

ปลาไหลแดดิ้นอยู่เต็มพื้นรอให้จับ ทว่าหลิวหย่งไม่สนใจมันแล้ว

เงินนั้นสำคัญแน่นอน แต่หากมองให้กว้างไกลขึ้น เงินเล็กน้อยก็ไม่ได้นับเป็นอะไร ถ้าปีหน้าเซี่ยเสี่ยวหลานสอบติดมหาวิทยาลัย สิ่งที่เปลี่ยนแปลงคือโชคชะตาทั้งชีวิตของเธอ!

เหล่าวังหัวเราะร่วนพร้อมพูดปลุกใจหลิวหย่ง

 ยังเหลือเวลาอีกหลายเดือน หากนักเรียนเซี่ยตั้งใจเรียน ระดับปริญญาตรีก็หนีไม่พ้นหรอก 

โดยหลักการแล้วเพียงแจ้งผลการสอบกับสมาชิกในครอบครัวของเซี่ยเสี่ยวหลาน จากนั้นให้เธอรายงานตัวต่อเซี่ยนอีจงโดยเร็วที่สุด หน้าที่ของอาจารย์สองคนก็ถือว่าเสร็จสิ้นแล้ว แต่คนสอบติดปริญญาตรีของเซี่ยนอีจงในปีที่แล้วมีแค่ 8 คนเพียงเท่านั้น เหล่าวังไม่ได้พูดไร้สาระไปเรื่อย เขาให้ความสำคัญกับต้นกล้าอย่างเซี่ยเสี่ยวหลานผู้นี้มากทีเดียว

เขาอยากพบกับเซี่ยเสี่ยวหลานเสียหน่อย

อดทนรอให้ความตั้งใจนี้เป็นจริงแทบไม่ไหว รอถึงพรุ่งนี้ก็ยิ่งไม่ได้

หลิวหย่งตบต้นขาฉาด  เสี่ยวหลานไปส่งของในเมืองซางตูแล้ว… 

 เช่นนั้นก็ไปเมืองซางตู 

อาจารย์ฉีเองก็สงสัยจนจะขาดใจเสียให้ได้ ภาษาอังกฤษเรียนได้ ทำไมผลสอบภาษาจีนถึงออกมาแย่ขนาดนั้น? เธออยากพบหน้าเซี่ยเสี่ยวหลานเช่นกัน จะต้องคุยกับเซี่ยเสี่ยวหลานด้วยเหตุผลอย่างเป็นเรื่องเป็นราว!

วันนี้เซี่ยเสี่ยวหลานอยู่ที่เมืองซางตูค่อนข้างนาน

ที่บ้านตุนปลาไหลไว้ตั้งหลายร้อยชั่ง ใจเซี่ยเสี่ยวหลานไม่ใช่ไม่รีบ เลี้ยงไว้ชั่วคราวนั้นไม่มีปัญหา แต่ถ้าเลี้ยงนานไปแล้วปลาไหลผอมลง คนที่จะขาดทุนคือเธอ อีกอย่างสินค้าตั้งหลายรอยชั่งก็ใช้เงินทุนจำนวนมาก หากเซี่ยเสี่ยวหลานไม่ขายจำนวนมากหน่อย คงไม่เหลือต้นทุนไปรับซื้อของกันพอดี! เงินที่ได้จากการขายกากน้ำมันก็เอามารับซื้อปลาไหลหมดแล้ว วันนี้เซี่ยเสี่ยวหลานจึงบรรทุกเพิ่มเป็นร้อยกว่าชั่ง รีบไปให้ทันตลาดสินค้าเกษตรช่วงเช้ารวมสองแห่งทั้งทางเหนือและใต้ของเมือง แถมยังสอบถามพวกภัตตาคารหรือร้านบะหมี่ว่ารับปลาไหลหรือไม่ไปตลอดทาง ทำงานยุ่งจนเที่ยงวัน เธอถึงได้เปลี่ยนปลาไหลที่นำมาเป็นเงินสดใส่ไว้ในกระเป๋าได้

เสียเวลาไปมากกว่าครึ่งวัน ถ้าไม่รีบไปส่งสินค้าอีกก็จะสายแล้ว

ทางด้านภัตตาคารหวงเหอ จูฟ่างรู้ว่าวันนี้เซี่ยเสี่ยวหลานต้องมาส่งของแน่ เวลาส่งของที่ชัดเจนไม่เคยระบุไว้ แต่เซี่ยเสี่ยวหลานไม่เคยผิดนัดสองวันส่งของหนึ่งครั้ง คราวก่อนต่อให้มีธุระ เซี่ยเสี่ยวหลานก็วานลุงของเธอมาแทน ความสัตย์ซื่อน่าเชื่อถือในการทำธุรกิจของเซี่ยเสี่ยวหลานเป็นที่ประจักษ์แล้ว

มารดาจูฟ่างฉุนกึกอยู่ทีเดียว อย่างไรเสียในมือก็พอมีอิทธิพลอยู่บ้าง วันนี้เตรียมพร้อมมาพบกับปีศาจสาวพราวเสน่ห์ที่ทำจูฟ่างหลงใหลหัวปักหัวปำ

มารดาจูฟ่างแต่งกายพิถีพิถันเป็นพิเศษ เสื้อผ้าที่ใส่ รองเท้าที่สวม ทรงผมที่ตกแต่งอย่างละเอียดลออ ท่าทางที่สงบนิ่งสง่างาม แค่เห็นก็แตกต่างกับคนงานธรรมดาสามัญ

จูฟ่างลูกรักมารดาคนนี้คิดเพียงว่ามารดาของเขาให้ความสำคัญต่อเซี่ยเสี่ยวหลาน อันที่จริงเธอตั้งใจจะวางอำนาจต่อเซี่ยเสี่ยวหลานต่างหาก

แต่อาจเป็นเพราะรอนานไปเสียหน่อย ความยิ่งใหญ่ของมารดาจูฟ่างจึงเบาบางลงไปบ้าง เซี่ยเสี่ยวหลานยังคงไม่โผล่มา ราวกับกลายเป็นเซี่ยเสี่ยวหลานที่แสดงอำนาจต่อเธอแทน เมื่อเซี่ยเสี่ยวหลานขี่จักรยานปรากฏตัวในสายตา เปลือกตาของมารดาจูฟ่างก็เบิกโพลงอย่างบ้าคลั่ง

ไม่ได้ ไม่ได้ ทรงเสน่ห์ยิ่งกว่าที่เธอจินตนาการไว้เสียอีก ตระกูลจูจะยอมรับปีศาจสาวเช่นนี้ไม่ได้หรอก!

เชิงอรรถ

[1] 老 เหล่า ใช้เรียกนำหน้าในหมู่คนที่สนิทสนมกัน แสดงถึงความอาวุโสของผู้ที่ถูกเรียก บางครั้งก็เป็นการเรียกเพื่อหยอกเย้า

 

เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80

เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80

เธอคือประธานเซี่ย หญิงผู้แข็งแกร่ง และยังเกิดใหม่เป็น เซี่ยเสี่ยวหลาน หญิงสาวชื่อแซ่เดียวกับเธอที่ฆ่าตัวตายท่ามกลางคำนินทาในยุค 80 เธอมีโอกาสได้เกิดใหม่อีกครั้ง ทำไมต้องมาอยู่อย่างอดสูแบบนี้ด้วยเล่า?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท