เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80 – เล่มที่ 3 ตอนที่ 75 มอบเสื้อไหมพรมได้คุ้มค่า!

เล่มที่ 3 ตอนที่ 75 มอบเสื้อไหมพรมได้คุ้มค่า!

 เสี่ยวหลาน เธอกลับมาแล้วหรือ? 

นานๆ ครั้งเซี่ยเสี่ยวหลานจะได้พักผ่อนอยู่บ้าน เธอจึงอาสาเดินไปส่งเทาเทาที่โรงเรียน

ขณะเดินผ่านประตูบ้านตระกูลเฉิน ก็เจอกับเฉินชิ่งที่ใบหน้าแสดงถึงความยินดีเรียกไว้

 อือ โรงเรียนหยุดสุดสัปดาห์หรือ? เนื้อหาที่ฉันให้พี่อ่านทบทวนเป็นอย่างไรบ้าง? 

เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ได้พบกับเฉินชิ่งหลายวันแล้ว ก่อนจากเขตอันชิ่งไป เธอได้ให้บทเรียนสรุปเองบางส่วนแก่เขาไว้

เฉินชิ่งไม่มีคนคอยแนะแนว ดังนั้นผลลัพธ์จะดีหรือไม่จึงพูดได้ยาก

 เนื้อหามีประโยชน์มาก วิธีช่วยจำในการท่องคำศัพท์ที่เธอว่าสุดยอดจริงๆ

แม้ระยะเวลาที่ฉันเรียนจะไม่นานนัก หากพยายามต่อไปต้องมีการพัฒนาที่ก้าวกระโดดแน่นอน…

ว่าแต่เสี่ยวหลาน เมื่อวานมีคนมาขวางฉันที่ประตูหน้าโรงเรียน

พูดบางสิ่งที่ไม่น่าฟังเอาเสียเลย 

เฉินชิ่งรู้สึกว่าพฤติกรรมของตนช่างเหมือนแม่บ้านปากยื่นปากยาวยิ่งนัก แต่มีคนเจตนาร้ายหมิ่นประมาทเซี่ยเสี่ยวหลาน

ถ้าเขาไม่กล่าวเรื่องนี้ออกมา เซี่ยเสี่ยวหลานจะมีความระแวดระวังได้อย่างไร

 เป็นเด็กสาววัยรุ่นคนหนึ่งใช่หรือไม่? 

เซี่ยเสี่ยวหลานคิดว่าคงเป็นเซี่ยหงเซี๋ย

เซี่ยต้าจวินเป็นคนไม่มีความคิด

หวังจินกุ้ยและเซี่ยหงเซี๋ยก็น่าจะไม่ฉลาดเฉลียว ล้วนเป็นอาวุธในมือของคนอื่น

คนฉลาดโดยแท้จริงมักจะหลบซ่อนอยู่หลังม่านตลอด คอยเอาเปรียบจนกว่าจะหมดสิ้นประโยชน์

อีกทั้งยังมีชื่อเสียงดีงาม เช่นครอบครัวเซี่ยจื่ออวี้ น้องชายแท้ๆ

ของเซี่ยจื่ออวี้เพิ่ง 10 ขวบจึงยังไม่รู้ว่าในภายภาคหน้าจะดีหรือร้าย

แต่ไม่ว่าเป็นเซี่ยจื่ออวี้ เซี่ยฉางเจิงหรือจางชุ่ย ก็คือคนฉลาดแกมโกงทั้งหมดของบ้านตระกูลเซี่ย!

เฉินชิ่งรู้สึกประหลาดใจ  เธอรู้จักเขาด้วยหรือ? 

 มีอะไรที่ไม่รู้จักกัน คงจะเป็นลูกพี่ลูกน้องของฉันนั่นแหละ! คนตระกูลเซี่ยไม่มีทางมีความสุขที่เห็นฉันใช้ชีวิตเป็นอย่างดี ฉันจะขยันและก้าวหน้า

ทำให้พวกเขารับไม่ได้จนต้องอดกลั้นเอาไว้เอง! 

เซี่ยเสี่ยวหลานตอบด้วยความกระตือรือร้น เฉินชิ่งคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก

ทว่าในใจของเธอราวกับเรื่องนี้ไม่ควรค่าให้แม้แต่กล่าวถึง

 แต่ถ้าเขาก็พูดซี้ซั้วกับคนอื่นด้วย… 

เฉินชิ่งไม่มีทางปล่อยให้ชื่อเสียงของเซี่ยเสี่ยวหลานได้รับความเสียหาย

มุมมองต่อความถูกผิดของวัยรุ่นนั้นแยกแยะขาวดำออกจากกันโดยสิ้นเชิง

คนตระกูลเซี่ยพล่ามเรื่องเหลวไหล มิใช่เป็นการข่มเหงตระกูลหลิวซึ่งมีสมาชิกน้อยกว่าหรือ? ถ้าตระกูลเซี่ยคิดเช่นนั้นก็ผิดแล้ว คนหมู่บ้านชีจิ่งรักใคร่สามัคคีกัน ทุกคนในหมู่บ้านคือผู้สนับสนุนของเซี่ยเสี่ยวหลาน

สำหรับเรื่องนี้ เฉินชิ่งเต็มไปด้วยความมั่นใจ!

เซี่ยเสี่ยวหลานมีแผนการของตนเอง และไม่สะดวกอธิบายรายละเอียดแก่เฉินชิ่ง

จึงได้แต่ตอบกำกวมกลับไป

 ฉันรู้ว่าพี่เป็นห่วงฉัน แต่ตอนนี้หน้าที่สำคัญอันดับแรกคือตั้งใจเรียนเพื่อต่อสู้กับการสอบเกาเข่าปีหน้า

พี่ไม่ต้องสิ้นเปลืองพลังงานให้แก่คนที่ไม่สำคัญหรอก ส่วนฉันหรือ? ตัวตรงไม่กลัวเงาเอนเอียง [1] คุณครูของอีจงไม่ยกเลิกคุณสมบัติการเข้าสอบของฉันด้วยเหตุนี้ก็เพียงพอแล้ว

ฉันคิดว่าตระกูลเซี่ยไม่มีน้ำยาที่จะมาทำลายการเรียนของฉันได้หรอก! 

เฉินชิ่งตะลึงงัน

วาจาของเซี่ยเสี่ยวหลานแสดงออกถึงจิตใจอันกว้างใหญ่

ทำเอาเฉินชิ่งละอายเพราะรู้สึกด้อยกว่า

กังวลเพียงเพราะข่าวลือเล็กน้อยหรือ?

คนตระกูลเซี่ยมีคุณสมบัติแบบนั้นที่ไหนกัน!

 ทางโรงเรียนให้ความสำคัญกับเธอมาก ขอเพียงคะแนนของเธอมั่นคงไปตลอด ใครในเซี่ยนอีจงก็ล้มเธอไม่ได้! 

ความคิดอ่านของเฉินชิ่งได้เปิดกว้างสว่างไสวในบัดดล

การกระทำที่จงใจให้ร้ายเซี่ยเสี่ยวหลานของคนตระกูลเซี่ยนั้นไร้ค่าไปโดยปริยาย

เซี่ยเสี่ยวหลานสามารถสอบติดปริญญาตรี หรือแม้แต่อาจสอบได้ปริญญาตรีชั้นนำด้วยซ้ำ

โรงเรียนย่อมคุ้มครองประโยชน์ของนักเรียนแน่นอน หากเซี่ยนอีจงยืนหยัดอยู่ฝั่งเซี่ยเสี่ยวหลาน

คนตระกูลเซี่ยก่อความวุ่นวายไปทุกหนแห่งจะมีผลอะไรได้?

ครอบครัวเกษตรกรจากหมู่บ้านต้าเหอ ไม่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของเซี่ยนอีจง

และไม่มีทางยับยั้งเซี่ยเสี่ยวหลานในการเข้าร่วมสอบเกาเข่าปีหน้าได้

ถ้าเซี่ยเสี่ยวหลานสอบติดมหาวิทยาลัย อาชีพในอนาคตก็แบ่งสรรจัดการโดยรัฐ

คนตระกูลเซี่ยทำได้เพียงยืนกระทืบเท้าอยู่ข้างๆ เท่านั้น ยอมไม่ได้หรือ? ยอมไม่ได้ก็มีแต่ต้องทนเอาไว้!!

ต่อให้ตระกูลเซี่ยมีนักศึกษาหญิงคนหนึ่ง

เป็นบุคคลผู้สำคัญดุจหงส์ฟ้าทองในชนบท ทว่าลาจากตระกูลเซี่ยและหมู่บ้านต้าเหอไป

เซี่ยจื่ออวี้ทั้งไร้สิทธิ์และอำนาจ

จะอาศัยสิ่งใดสร้างความเดือดร้อนแก่เซี่ยเสี่ยวหลานกัน?

เฉินชิ่งไม่ได้โง่เง่า เขามีปู่เฉินวั่งต๋าที่ประสบการณ์ชีวิตช่ำชองอยู่ทั้งคน

เฉินชิ่งมีความหวังที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ภายใต้ระดับการศึกษาแบบนี้ของเขตอันชิ่ง

สติปัญญาของเขาย่อมอยู่เหนือมาตรฐานเฉลี่ย ทว่าแม้เขาฉลาดมากสักเพียงใด เขาก็เป็นเพียงชายหนุ่มชนบทผู้ไม่เคยออกจากเขตอันชิ่ง

วิสัยทัศน์ที่คับแคบจำกัดความคิดอ่านของเขา เมื่อเขาต้องการช่วยเหลือเซี่ยเสี่ยวหลาน

วิธีที่คิดได้คือการใช้ความรุนแรงบังคับตระกูลเซี่ยให้จำนนเท่านั้น

คำพูดของเซี่ยเสี่ยวหลานเปิดระบบความคิดของเขาให้กว้างขึ้น

ขอแค่ยอดเยี่ยมเพียงพอ ไม่ว่าคนตระกูลเซี่ยจะพูดหรือทำอะไร ล้วนไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตของเซี่ยเสี่ยวหลานเลยแม้แต่น้อย

ในทางกลับกันหลังจากเซี่ยเสี่ยวหลานสอบติดมหาวิทยาลัย ก็จะเป็นอิสรเสรีดั่งใจหวัง ตอนนั้นตระกูลเซี่ยจะรู้สึกกังวลเองว่าในอนาคตเซี่ยเสี่ยวหลานจะจัดการพวกเขาอย่างไร!

คำกล่าวที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจของเซี่ยเสี่ยวหลานกล่อมเฉินชิ่งจนเคลิบเคลิ้ม

แววตาที่ชายหนุ่มมองเธอสะท้อนความยินดีและชื่นชม เซี่ยเสี่ยวหลานอุทานขึ้นอย่างตกใจและรีบร้อน  เกือบลืมไป ฉันต้องส่งเทาเทาที่โรงเรียน พวกเราค่อยคุยกันใหม่นะ! 

เฉินชิ่งอ้าปากค้าง อยากถามเซี่ยเสี่ยวหลานว่าเธอจะไปโรงเรียนวันไหน แต่เธอกลับจูงเทาเทาเดินไปไกลแล้ว

เซี่ยเสี่ยวหลานส่งเทาเทาถึงประตูเล็กของโรงเรียนประถม หลิวจื่อเทายังเป็นเด็กซุกซนเจ้าเล่ห์

อยู่ๆ ก็ถามเซี่ยเสี่ยวหลาน

 พี่ พี่เฉินชิ่งอยากคบหากับพี่ใช่หรือไม่? 

เซี่ยเสี่ยวหลานบีบหน้าเขา  เป็นเด็กเป็นเล็กสนใจเยอะแยะจริง

พี่ไม่ได้อยากคบกับพี่เฉินชิ่ง เราอย่าพูดเรื่อยเปื่อยกับคนอื่นเข้าล่ะ 

หลิวจื่อเทาทำทีลับๆ ล่อๆ มองไปรอบๆ ว่าไร้ผู้คน ซุกหน้าอยู่ข้างหูเซี่ยเสี่ยวหลานพลางบอกเล่าเรื่องบางอย่าง  เมื่อวานอาเฉินแอบถามผมว่าพี่ไปไหนแล้ว ถ้าบอกเขาก็จะให้ลูกกวาด แต่ผมบอกว่าไม่รู้! 

เซี่ยเสี่ยวหลานลูบศีรษะของเทาเทา  เข้าไปเรียนเถอะ

พี่รู้ว่าเทาเทาฉลาดที่สุด! 

เทาเทาได้รับคำชมหนึ่งประโยค รีบเข้าโรงเรียนอย่างว่านอนสอนง่าย

รอยยิ้มของเซี่ยเสี่ยวหลานค่อยๆ หายไปจากใบหน้า

สะใภ้ใหญ่เฉินเอื้อเฟื้อ อัธยาศัยดี แต่มีนิสัยชอบซุบซิบ

เวลานี้ยังไม่มีความคิดร้ายต่อเซี่ยเสี่ยวหลาน ทว่าสะใภ้ใหญ่เฉินไม่เข้าใจว่าอะไรคือขอบเขตของการคบค้าสมาคมระหว่างมนุษย์

ไม่เข้าใจว่าความเป็นส่วนตัวคืออะไร เพราะอยู่ใกล้เกินไป

สะใภ้ใหญ่เฉินจึงคิดว่าเธอสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของเซี่ยเสี่ยวหลานได้?

ความหวังของเซี่ยเสี่ยวหลานในการย้ายไปอาศัยที่ซางตูยิ่งเพิ่มสูงมากขึ้น หมู่บ้านชีจิ่งเล็กมากเกินไป ไม่มีทางพัฒนาที่ดีกว่านี้แน่นอน

เธอคือ ‘เซี่ยเสี่ยวหลาน’ เป็นผู้ไม่ขึ้นตรงกับใคร ต่อให้เธอชอบเฉินชิ่ง เธอก็ไม่ยินยอมแบกฉลาก ‘ลูกสะใภ้ตระกูลเฉิน’ ในเร็ววันแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นเธอไม่มีความรู้สึกชายหญิงต่อเฉินชิ่ง

แล้วทำไมต้องเอ้อระเหยลอยชายอยู่ในหมู่บ้านทั้งวัน ทำให้บ้านเฉินเข้าใจผิดโดยเปล่า?

ไม่รู้ว่าหูหย่งไฉช่วยเธอหาบ้านที่เหมาะสมได้หรือยัง

หวังว่าเสื้อไหมพรมที่มอบให้ไปตัวนั้นจะเกื้อกูลได้

ภรรยาของหูหย่งไฉโปรดปรานเซี่ยเสี่ยวหลานมากทีเดียว

หญิงสาวชนบทที่มาพบญาติโดยไม่ทราบเหตุผล

โดยปกติแล้วภรรยาของหูหย่งไฉไม่ยินดีตอบรับ

เธอกลัวว่าญาติมิตรผู้ยากจนจะมาเยือนเพื่อเอาเปรียบแต่เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ใช่คนเช่นนั้น

เธอมาเยือนไม่ใช่เพราะต้องการผลประโยชน์ใด แต่มาเพื่อมอบผลประโยชน์ให้ด้วยซ้ำ!

ญาติมิตรหรือไม่ไม่สำคัญ ไปมาหาสู่กันบ่อยครั้งยังสนิทสนมกว่าญาติได้

ภรรยาของหูหย่งไฉรับเสื้อไหมพรมไว้ย่อมเบิกบานใจ ตอนกลางคืนก็หมุนตัวหน้ากระจก

ยิ่งผ่านไปยิ่งชอบเสื้อไหมพรมตัวนี้ ช่างเหมาะสมกับอากาศของช่วงนี้เหลือเกิน

วันต่อมาเธอจึงใส่ไปทำงาน ถึงหน่วยงานก็ดีเยี่ยมเหลือเกิน เห็นศัตรูตัวฉกาจในห้องสำนักงานก็สวมใส่เสื้อแบบเดียวกัน

แค่สีสันไม่เหมือนกันเท่านั้น

ภรรยาของหูหย่งไฉไม่สบอารมณ์ ศัตรูคู่อาฆาตเองก็เช่นกัน

 เธอว่าสายตาคู่นี้ของฉันไม่เลวสินะ แต่การกระทำของเธอนั้นเร็วไปหรือเปล่า? 

ภรรยาหูหย่งไฉส่งเสียงหึออกมา  ถ้ารู้เร็วว่าเธอมีอยู่ตัวหนึ่ง

ฉันก็ไม่ใส่มันแล้ว! อย่างไรเสียก็เป็นของที่คนอื่นให้มา… 

ศัตรูคู่อาฆาตกลับตกตะลึง กึ่งเชื่อกึ่งสงสัย  เสื้อไหมพรมตัวละ 35 หยวน ใครให้เธอกันล่ะ? 

เสื้อไหมพรมตัวนี้ราคา 35 หยวนเชียวหรือ?!

ที่ใส่อยู่บนร่างกายคือเสื้อไหมพรมที่ไหนกัน เป็นต้าถวนเจี๋ย [2] ชัดๆ ภรรยาหูหย่งไฉเสียใจที่เมื่อครู่บอกช้าเกินไป พอถามจากปากศัตรูคู่แค้นแล้ว

เสื้อไหมพรมนี้คือเสื้อแบบใหม่จากหยางเฉิง เป็นสินค้าส่งออกโดยแท้จริง

เมื่อวานมีคนขนเงินมาก็ยังซื้อสินค้ายอดนิยมไม่ได้เลย ในใจของภรรยาหูหย่งไฉจึงรื่นเริงบันเทิงอย่างสุดซึ้ง

เมื่อกลับถึงบ้านเธอชมเซี่ยเสี่ยวหลานซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับหูหย่งไฉ

ไม่เพียงแต่เร่งเร้าหูหย่งไฉรีบหาบ้านแทนเซี่ยเสี่ยวหลาน

ตนเองก็ลงมือสอบถามคนรู้จักใกล้ตัว เป็นการช่วยเหลือเช่นเดียวกัน ทว่าความใส่ใจในความคืบหน้านั้นต่างกัน

เซี่ยเสี่ยวหลานยังรอไม่ถึงวันที่โจวเฉิงกลับจากเซี่ยงไฮ้ เธอก็ได้พบกับบ้านใหม่ที่ตนต้องการจะเช่าแล้ว

    

เชิงอรรถ

[1] 身正不怕影子斜 ตัวตรงไม่กลัวเงาเอนเอียง หมายถึง

คนเที่ยงตรงไม่ว่าทำสิ่งใดย่อมไม่รู้สึกหวาดหวั่น ไม่กลัวคำนินทาว่าร้ายของคนอื่น

[2] ต้าถวนเจี๋ย หมายถึง ธนบัตรจำนวนสิบหยวน

 

เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80

เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80

เธอคือประธานเซี่ย หญิงผู้แข็งแกร่ง และยังเกิดใหม่เป็น เซี่ยเสี่ยวหลาน หญิงสาวชื่อแซ่เดียวกับเธอที่ฆ่าตัวตายท่ามกลางคำนินทาในยุค 80 เธอมีโอกาสได้เกิดใหม่อีกครั้ง ทำไมต้องมาอยู่อย่างอดสูแบบนี้ด้วยเล่า?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท