เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80 – เล่มที่ 3 ตอนที่ 84 ชอบเธอนิดหน่อยแล้ว

เล่มที่ 3 ตอนที่ 84 ชอบเธอนิดหน่อยแล้ว

เซี่ยเสี่ยวหลานตื่นแล้วก็ไม่กล้ามองหน้าโจวเฉิง เพราะเธอตื่นมาพบว่าตัวเองหมอบนอนหลับอยู่บนขาคนอื่น

บนเข่าของโจวเฉิงยังมีร่องรอยที่น่าสงสัยอยู่ดวงหนึ่ง น่าจะเป็นน้ำลายของเธอที่ไหลขณะหลับ?

เซี่ยเสี่ยวหลานแทบทรุด ทำไมเธอหลับน้ำลายไหลได้กันนะ ท่าทางขณะหลับของเธอไม่ใช่ดูดีมาตลอดหรือ!

โจวเฉิงไม่มีท่าทางที่ผิดปกติแม้แต่น้อย

ไม่นำเรื่องเซี่ยเสี่ยวหลานหลับบนขาของตนมาหยอกล้อ

เซี่ยเสี่ยวหลานจึงได้ไม่ถึงขั้นหลบหนีไปด้วยความอับอาย

การกระทำเช่นนี้ทำให้บรรยากาศระหว่างทั้งสองคนคลุมเครือมากขึ้นกว่าเดิม

เมื่อก่อนเซี่ยเสี่ยวหลานไม่ถือว่าโจวเฉิงเป็นเรื่องใหญ่ เพราะในใจเธอมั่นคงเที่ยงตรง

ส่วนตอนนี้น่ะหรือ ราวกับมีบางอย่างที่อธิบายยากเกิดขึ้นเล็กน้อย

มาถึงหยางเฉิงครั้งนี้มิใช่เช้ามืด แต่เป็นพลบค่ำ

เซี่ยเสี่ยวหลานคุ้นเคยเส้นทางสัญจรของหยางเฉิงแล้ว

และเธอก็ไม่กลัวว่าบริเวณใกล้สถานีรถไฟจะมีอันตราย เนื่องจากมีโจวเฉิงอยู่ด้วย

ครั้งนี้ไป๋เจินจูไม่ต้องทำหน้าที่คนนำทางอีกแล้ว เพราะเพียงโจวเฉิงคนเดียวก็สามารถแบกกระเป๋าสินค้าหลายใบได้อย่างง่ายดาย

หลี่เฟิ่งเหมยไม่รับเงินที่เซี่ยเสี่ยวหลานคืนกลับไป ด้านหลิวเฟินรู้ว่าเธอนำเข้าสินค้าจำเป็นต้องใช้ต้นทุนจำนวนมาก

จึงไม่คิดหยุดพักการทำงานหาเงิน อย่าว่าแต่ก่อนที่เซี่ยเสี่ยวหลานจะเดินทางไกล

ขนาดย้ายมายังซางตูแล้วก็ยิ่งอดไม่ได้ที่จะไปโรงงานสกัดน้ำมันวันละหลายหน

กากน้ำมันซึ่งเดิมทีกองรวมกันดุจดั่งภูเขาลูกน้อย ถูกหลิวเฟินนำออกไปจนเป็นช่องโหว่

เธอขนกากน้ำมันขายทั่วทุกสารทิศ เซี่ยเสี่ยวหลานเดินทางรอบนี้

หลิวเฟินได้ให้เงินเธอ 300 หยวน

ตอนแรกครั้งก่อนนำเงินหนึ่งพันแปดร้อยกว่าหยวนกลับมา

เซี่ยเสี่ยวหลานเช่าห้องใช้ไป 120 หยวน

ย้ายบ้านก็ซื้อเครื่องนอนหมอนมุ้งและถ้วยโถโอชามอีก เธอเหลือเงินจำนวนเต็ม

คิดเป็นต้นทุน 1600 หยวน รวมกับส่วนที่หลิวเฟินให้ 300 หยวน รอบนี้เซี่ยเสี่ยวหลานพกเงินมา 1900 หยวน

แน่นอนว่าในจำนวนเงินนี้มีเงินหกร้อยกว่าหยวนเป็นของหลี่เฟิ่งเหมย

หลี่เฟิ่งเหมยไม่ต้องการเงินที่แบ่ง เซี่ยเสี่ยวหลานกลับรวมต้นทุนและกำไร มาร่วมหุ้นในการรับซื้อสินค้าครั้งที่สอง

ต้นทุนเกือบ 2000 หยวน

สินค้าที่เซี่ยเสี่ยวหลานสามารถซื้อได้ย่อมมากกว่าครั้งแรก

เสื้อไหมพรมคอติดขอบลูกไม้และหน้าอกเย็บด้วยลูกปัดหลากสีขายดี เสื้อไหมพรมใบเมเปิ้ลสีเขียวก็ขายดีเช่นกัน

ทว่าครั้งที่สองเซี่ยเสี่ยวหลานไม่คิดนำเข้าเลย สินค้าเธอขายได้รวดเร็ว

สิ่งที่ใช้ประโยชน์มาตั้งแต่ต้นก็คือแบบเสื้อผ้าอันแปลกใหม่

หนึ่งสีขายสองชุดยังพอได้

เมืองขนาดใหญ่อย่างซางตูไม่เกิดการสวมเสื้อผ้าชนกันโดยง่ายดายนัก

อยู่ดีๆ จะให้ซื้อแบบหนึ่งจำนวนหลายสิบตัว เธอไม่ได้ทำการค้าส่งเสียหน่อย!

สิ่งของราคาสูงเพราะหายาก อะไรก็ตามจำนวนเยอะย่อมไม่ล้ำค่า

ถ้าไม่ปฏิบัติตามหลักโดดเด่นไม่มีใครเหมือนนั้น

เสื้อไหมพรมของเซี่ยเสี่ยวหลานจะขายได้ถึงตัวละสามสิบกว่าหยวนหรือ?

อีกอย่างหนึ่ง เพื่อนร่วมชาติเชี่ยวชาญการปลอมแปลงลอกเลียนที่สุด

ต่อให้เสื้อสองแบบนั่นแปลกใหม่สักเท่าไร ขอเพียงมีต้นฉบับเป็นแม่แบบ

เกรงจะมีคนถักรุ่นเลียนแบบใกล้เคียงของแท้ออกมา

ถ้าสาวน้อยสาวใหญ่พากันสวมใส่ออกมาเดินตามท้องถนน เซี่ยเสี่ยวหลานยังขายราคาสูงให้แก่ใครได้อีก!

 คราวนี้ฉันจะซื้อเสื้อคลุมขนสัตว์หลายตัวหน่อย 

ฤดูหนาวของอวี้หนานเย็นเยือก

เซี่ยเสี่ยวหลานต้องการขายเสื้อกันหนาวมากกว่า

แต่เธอวนเวียนในแผงลอยค้าส่งมาสองรอบแล้ว พบว่าที่นี่ไม่มีการค้าส่งเสื้อกันหนาวจำนวนมากเท่าไรจริงๆ

หยางเฉิงมีสภาพอากาศเป็นที่รู้จักกันดี ฤดูหนาวไม่เคยหิมะตก

ความต้องการของคนท้องถิ่นต่อประสิทธิภาพเครื่องแต่งกายฤดูหนาวจึงไม่มากมายขนาดนั้น

โจวเฉิงเห็นเธอพยายามเลือกเฟ้นเสื้อผ้าอย่างตั้งอกตั้งใจ

ปลายจมูกผุดเหงื่อออกมา

 เธอก็เลือกให้ตัวเองสักสองตัวสิ 

หญิงสาววัยรุ่นชอบแต่งตัวทั้งนั้น โจวเฉิงคิดว่าเซี่ยเสี่ยวหลานช่างสมถะเหลือเกิน

เธอหน้าตาสะสวยเช่นนี้ ไม่คิดจะแต่งองค์ทรงเครื่องให้จิ้มลิ้มพริ้มเพราบ้างหรือ?

เมื่อก่อนสถานะไม่เอื้ออำนาย แต่ตอนนี้สภาพคล่องทางการเงินเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น

เซี่ยเสี่ยวหลานเองก็ทำการค้าขายเสื้อผ้า แต่กลับไม่เก็บไว้ให้ตนเองสักชุด

เซี่ยเสี่ยวหลานรู้ดีว่าควรสวมใส่อย่างไรถึงจะน่ามอง

ทว่าใบหน้านี้เรียกความสนใจมากพอแล้ว

หากยังตั้งใจแต่งตัวก็อาจจะก่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ถูกไม่ควรได้

เซี่ยเสี่ยวหลานส่ายหน้า  เสื้อผ้าใหม่ใช้ได้ไม่นาน !

โจวเฉิงไม่เห็นด้วย เสื้อผ้ามิได้มีไว้เพื่อให้คนสวมใส่หรือ

ใส่จนเก่าแล้วก็ค่อยเปลี่ยนใหม่สิ

 ฉันว่าถ้าเธอใส่เสื้อผ้าเหล่านี้ พวกมันจะขายได้ไวยิ่งขึ้นนะ 

ในประเทศยังไม่นิยมการเชิญดาราเป็นตัวแทนถ่ายโฆษณา แต่ในต่างประเทศ

ดาราผู้ดูดีสามารถกระตุ้นการใช้จ่ายได้

ใบหน้านี้ของเซี่ยเสี่ยวหลานแม้ถ่ายภาพยนตร์ยังไร้ปัญหา

เปลี่ยนแปลงลักษณะการแต่งกายเสียหน่อย ก็คือหญิงสาวนำสมัยดีๆ นี่เอง

รูปแบบเสื้อผ้าที่เธอสวมใส่ขึ้นเรือนร่าง

มีแนวโน้มจุดประกายความกระหายจับจ่ายอันแรงกล้าของลูกค้าสตรี

เป็นนางแบบให้กับธุรกิจของตนเอง?

ระหว่างคุณธรรมและการทำกำไร เซี่ยเสี่ยวหลานเลือกอย่างหลังด้วยความแน่วแน่

เธอสำรวจบนแผงค้าส่ง ข้ามเสื้อไหมพรมรัดรูปคอเต่าเหล่านั้น สุดท้ายเลือกเสื้อไหมพรมถักตาห่าง

คอกลมสีเหลืองนวล สำหรับเสื้อคลุมก็ละวางเสื้อขนสัตว์ยาวปานกลางสีพื้นไว้

และเลือกเสื้อนอกสั้นประดับกระดุมเขาสัตว์ลายตารางสีแดง

ท่อนล่างคือกางเกงยีนส์ขาม้าเล็ก

เซี่ยเสี่ยวหลานจินตนาการผลลัพธ์โดยคร่าวๆ ที่ตนเองสวมใส่ออกมาได้ ลูกค้าสตรีประจำซางตูไม่รู้สึกแปลกตานัก

เป็นการจับคู่ซึ่งพบได้ไม่บ่อยในประเทศ

ทว่าในละครญี่ปุ่นมีการแต่งกายที่คล้ายคลึงกัน

เซี่ยเสี่ยวหลานรู้ดีว่าตนเองมีรูปลักษณ์อ่อนหวานทรงเสน่ห์ ทุกวันนี้เธอเพิ่งอายุ 18 ปี ไม่จำเป็นต้องแต่งตัวจนดูผู้ใหญ่เกินงาม

แน่นอนว่าเธอยังต้องการรองเท้าสีขาวเรียบง่ายอีกหนึ่งคู่

กางเกงยีนส์เป็นจุดสำคัญในการนำเข้าสินค้าครั้งนี้ของเซี่ยเสี่ยวหลาน

คนทั่วโลกล้วนกำลังสวมใส่กางเกงยีนส์ ในประเทศก็เริ่มเป็นที่นิยม

ผ้าพันคอและถุงมือราคาไม่แพง เซี่ยเสี่ยวหลานซื้อติดมือกลับไปจำนวนหนึ่ง

เงินที่พกติดตัวถูกใช้จ่ายไปจนหลงเหลือเพียงหนึ่งร้อยกว่าหยวน

เซี่ยเสี่ยวหลานจึงไม่มีอารมณ์ที่จะเตร็ดเตร่อยู่ในหยางเฉิงอีก คิดเพียงจะกลับซางตูทันที

 ไป๋เจินจูที่มารับฉันคราวก่อน เป็นคนน่าเชื่อถือสินะ? 

 ใช่ แต่ฉันไม่เคยพบเขามาก่อน 

โจวเฉิงมีจิตใจระแวดระวังไม่น้อย เกรงกลัวว่าเซี่ยเสี่ยวหลานจะเข้าใจผิด

เซี่ยเสี่ยวหลานไม่จับคู่ไป๋เจินจูและโจวเฉิงเข้าด้วยกันอยู่แล้ว

เธอเหมือนกำลังครุ่นคิดบางอย่าง

 พูดแบบนี้เธอไม่เคยหลอกลวงคนอื่นจริงสิ! 

โจวเฉิงยืดตัวตั้งตรง  ฉันไม่เคยหลอกลวงคนอื่น

คราวหน้าให้เธอดูหนังสือรับรองของฉันได้เลย 

ก่อนจะมายังหยางเฉิง หลิวหย่งได้พูดคุยกับเซี่ยเสี่ยวหลานแล้ว รวมทั้งเรื่องที่โจวเฉิงและคังเหว่ยช่วยชีวิตเขาไว้อย่างไร

ทั้งสองคนทำธุรกิจอะไร ไปจนถึงโจวเฉิงกล่าวว่าตนเองไม่ได้ลักลอบขนสินค้าเถื่อน

บุหรี่ หรือธุรกิจที่โจวเฉิงทำ ก็คือโอกาสทางการค้าซึ่งเซี่ยเสี่ยวหลานได้ค้นพบก่อนหน้านี้

ทว่าไร้เครือข่ายและเงินทองสำหรับการลงทุน

เกินความคาดหมายว่าเธอกับโจวเฉิงคิดในสิ่งเดียวกัน ไม่

โจวเฉิงคิดได้ว่องไวกว่าเธอ ก่อนเธอจะเกิดใหม่ โจวเฉิงก็ริเริ่มธุรกิจบุหรี่แล้ว

ยาสูบเป็นสินค้าผูกขาด โจวเฉิงมีความกล้าบ้าบิ่นมากพอ ปัจจุบันจึงทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ

ดูจากขนาดธุรกิจของโจวเฉิง

โรเล็กซ์ราคาหลายพันหยวนก็ไม่ถือเป็นการสิ้นเปลืองอะไร

โจวเฉิงเต็มไปด้วยปริศนา ทำไมเขาถึงทำธุรกิจได้เล่า?

โจวเฉิงเห็นสีหน้าของเซี่ยเสี่ยวหลานเริ่มเคลือบแคลงอีกแล้ว

เขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรกัน

เห็นได้ชัดวันสองวันนี้ความสัมพันธ์ของพวกเขาใกล้ชิดขึ้น

กำลังพัฒนาไปในทางที่ดีแท้ๆ

เป็นเพราะอาชีพของเขา

เซี่ยเสี่ยวหลานจึงหลบกลับเข้าไปในเปลือกหอยอีกครั้งหรือ?

โจวเฉิงวิเคราะห์อยู่หลายตลบแต่ยังคงไม่เข้าใจ  เธอไม่ชอบอาชีพนี้หรือ? 

โจวเฉิงเม้มริมฝีปากโดยไม่รู้ตัว หากภรรยาของเขาไม่ชอบ และให้เขาเปลี่ยนอาชีพเสียตอนนี้ล่ะ?!

 ไม่ใช่ ฉันทั้งชอบและนับถือ!  เซี่ยเสี่ยวหลานมีความตระหนักรู้ในจุดนี้

โจวเฉิงยังไม่ทันดีอกดีใจ ก็ได้ยินเซี่ยเสี่ยวหลานกล่าวต่อว่า  นับถือไม่ได้แปลว่าจะแต่งงานกับเธอ แต่ความสัมพันธ์ทางไกลระยะยาวมันลำบากมากโข

โจวเฉิง เหมือนฉันจะชอบเธอขึ้นมานิดหน่อยแล้ว 

 

เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80

เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80

เธอคือประธานเซี่ย หญิงผู้แข็งแกร่ง และยังเกิดใหม่เป็น เซี่ยเสี่ยวหลาน หญิงสาวชื่อแซ่เดียวกับเธอที่ฆ่าตัวตายท่ามกลางคำนินทาในยุค 80 เธอมีโอกาสได้เกิดใหม่อีกครั้ง ทำไมต้องมาอยู่อย่างอดสูแบบนี้ด้วยเล่า?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท