เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] – ตอนที่ 17.2

ตอนที่ 17.2

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล ตอนที่ 17.2

ตอนที่ 17.2

วันนี้ก็ยังคงเป็นวันที่ยุ่งวุ่นวายมากเหมือนเดิม

แคลอฮันอยากจะเห็นหน้าของลูกสาวให้เร็วขึ้นเสียหน่อย เขาก้าวข้ามขั้นบันไดทีละสองขั้น สามขั้น กลับมาถึงที่บ้าน

 เทีย พ่อมาแล้ว! หืม? ท่านพี่ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะครับ 

การที่ชานาเนสมานั่งอยู่ในห้องรับรองของตนมันเป็นทัศนียภาพที่แปลกตามาก แคลอฮันถึงกับเดินถอยหลังออกไปข้างนอกห้องครู่หนึ่ง แล้วเดินกลับเข้ามาใหม่ เพื่อตรวจสอบอีกรอบให้แน่ใจว่านี่เขากลับมาที่บ้านตัวเองแน่หรือเปล่า

 แคลอฮัน 

 ครับ ท่านพี่ 

 มานั่งตรงนี้สักครู่หน่อยมั้ย 

อึก!

แคลอฮันกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ จนลูกกระเดือกปูดโปน

บรรยากาศมันมีอะไรแปลกๆ

แคลอฮันมองเข้าไปในห้องของเทียที่ประตูเปิดกว้างทิ้งไว้ หลังจากที่เช็กแล้วว่าลูกสาวนอนหลับไปแล้ว เขาก็นั่งลงบนโซฟาตามที่ชานาเนสสั่งอย่างว่าง่าย

 วันนี้เทียหลับเร็วจังเลยนะครับ ฮ่าฮ่า 

เขาแสร้งหยอกล้อเพื่อคลายบรรยากาศกระอักกระอ่วนแต่มันกลับใช้ไม่ได้ผลกับชานาเนส นางมองแคลอฮันที่กำลังเช็ดฝ่ามือที่ชื้นไปด้วยเหงื่อลงกับหน้าตัก ก่อนจะเอ่ยพูดกับเขาด้วยสีหน้านิ่งขรึมไร้ความรู้สึก

 ฟีเรนเทียวันนี้คงจะเหนื่อยหน่อย เมื่อตอนกลางวันเกิดเรื่องก็เลยตกใจมากน่ะ 

 ระ…เรื่องหรือครับ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเทียหรือครับ 

แคลอฮันสะดุ้งตกใจรีบเอ่ยถามเสียงดัง ชานาเนสจึงยกนิ้วขึ้นแตะริมฝีปาก

 คิดจะปลุกลูกสาวหรือยังไง 

แคลอฮันปิดปากเงียบทันที

 วันนี้เมื่อตอนกลางวัน… 

ชานาเนสอธิบายเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อตอนกลางวันให้แคลอฮันฟังด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

แตกต่างจากที่นางคิดว่าเขาจะต้องโมโหจนวิ่งเต้น แคลอฮันกลับทำเพียงแค่ถอนหายใจเฮือกใหญ่เท่านั้น

 แคลอฮัน ฟีเรนเทียอาจจะเป็นเด็กฉลาดก็จริง แต่ก็ยังเป็นแค่เด็ก เป็นวัยที่ต้องการการดูแลเอาใจใส่นะ 

ชานาเนสตำหนิเสียงเข้ม

 ปล่อยเด็กทิ้งเอาไว้คนเดียวแบบนี้ทุกวัน ในฐานะพ่อได้ตระหนักบ้างหรือเปล่า 

 …ข้าคิดน้อยเองครับ 

แคลอฮันไม่อาจเงยหน้าขึ้นได้

 ถึงอย่างนั้นก็เถอะ คงไม่ได้คิดจะเลิกทำงานที่ทำอยู่ตอนนี้แล้วมาเกาะติดอยู่ข้างกายฟีเรนเทียหรอกใช่มั้ย 

 ระ…เรื่องนั้น ทราบได้ยังไง 

 เจ้าคนอ่อนปวกเปียก 

คล้ายกับจะรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเช่นนี้ ชานาเนสส่ายหน้าด้วยความระอาใจ

 คิดว่าท่านพ่อจะสุขภาพแข็งแรงแบบนี้ไปตลอดหรือไร แคลอฮัน? 

คำถามของนางทำให้ไหล่ของแคลอฮันผวาเฮือก

เมื่อเกิดมาในตระกูลมากอำนาจอย่างลอมบาร์เดีย มันเป็นปัญหาที่เขาครุ่นคิดมาตลอดนับตั้งแต่วัยที่เริ่มคิดอะไรได้เอง

 ทิ้งความคิดโง่ๆ ว่าถ้าหากแค่โค้งกายให้ต่ำอยู่นิ่งๆ แล้วจะหลบเลี่ยงพายุได้ไปเสียเถอะ 

ความกระหายในอำนาจของเบเจอร์เป็นสิ่งที่พี่น้องทุกคนต่างก็รู้กันเป็นอย่างดีและถ้าหากตำแหน่งเจ้าตระกูลว่างลง ความกระหายนั่นจะต้องก่อให้เกิดปัญหาพายุลูกใหญ่ขึ้นอย่างแน่นอน

 ตอนนี้เจ้าไม่มีอำนาจพอที่จะปกป้องฟีเรนเทียด้วยซ้ำแล้วถ้าหากจู่ๆ ท่านพ่อเป็นอะไรไปขึ้นมา จะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเจ้าสองพ่อลูกล่ะ 

ชานาเนสกำลังให้คำแนะนำกับน้องชายคนเล็กด้วยความจริงใจเป็นครั้งแรก

 โล่งอกที่เจ้าน่ะหัวดี ทั้งยังมีภาพลักษณ์ภายนอกที่ซื้อใจมิตรสหายได้ง่าย เรื่องติดต่อกับคนอื่นก็คงไม่ยากอะไร ดังนั้นจงใช้เรื่องนั้นให้เป็นประโยชน์ สร้างอำนาจของตัวเองขึ้นมาเสีย แคลอฮัน 

ชานาเนสลุกขึ้นจากที่นั่งหลังจากพูดจบ

แคลอฮันที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ความคิดรีบร้อนลุกขึ้นตาม ก่อนจะโค้งศีรษะลาผู้เป็นพี่สาว

ชานาเนสเดินด้วยท่วงท่าสง่าไม่ก่อให้เกิดแม้กระทั่งเสียงฝีเท้ายามก้าวเดินไปจนถึงประตู แต่แล้วจู่ๆ นางก็หันหลังกลับไปเอ่ยพูด

 ตั้งแต่พรุ่งนี้ถ้าหากเจ้าไม่อยู่บ้าน ก็ส่งฟีเรนเทียมาหาข้า ข้าไม่ได้มีงานเยอะเหมือนเจ้าอยู่แล้ว 

 ขอบคุณครับ ท่านพี่ 

พอเห็นว่าแคลอฮันตกอกตกใจเป็นอย่างมาก ชานาเนสจึงคลี่ยิ้มบางหาดูได้ยาก แล้วเดินออกจากห้องไป

เมื่อเหลือตัวคนเดียว แคลอฮันจึงเปิดประตูห้องของเทียออกอย่างระมัดระวัง

เขาลูบหน้าผากกลมมนของบุตรสาวที่กำลังหลับสนิทส่งเสียงดังฟี้ ก่อนจะเอ่ยพูดสั้นๆ

 ขอโทษนะ เทีย 

เขาคิดว่าตัวเองมอบความรักให้ลูกสาวแทนส่วนของแม่ที่จากไปอย่างเต็มที่แล้วแท้ๆ แต่บทบาทของพ่อแม่มันไม่ได้จบลงเพียงแค่นั้น

แคลอฮันลูบหน้าผากของเทีย สาบานกับตัวเองอย่างแน่วแน่อีกครั้ง ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น เขาจะต้องปกป้องลูกสาวให้ได้

ทันทีที่อาสทาน่าเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังจากกลับมาถึงพระราชวัง เขาก็ได้รับการเรียกตัวจากจักรพรรดินี

จักรพรรดินียิ้มกว้างต้อนรับพระโอรส

 เดินทางราบรื่นดีมั้ย เจ้าชาย? 

หรือว่าจะยังไม่ทราบข่าว

อาสทาน่าลังเลไม่อาจตอบอะไรออกไปได้

จักรพรรดินีทอดพระเนตรพระโอรสที่เป็นเช่นนั้นอยู่ครู่หนึ่ง เอ่ยเสียงต่ำด้วยใบหน้าที่ยังคงยิ้มแย้ม

 ไม่ฟังคำพูดของข้าเลยสินะ ทั้งๆ ที่ข้าก็สั่งแล้วเชียวว่าไปตระกูลลอมบาร์เดียให้ระมัดระวังพฤติกรรมด้วย 

 ขออภัยพ่ะย่ะค่ะ เสด็จแม่ 

อาสทาน่าผู้หยิ่งยโส เฉพาะเมื่ออยู่ต่อหน้าจักรพรรดินีเท่านั้นที่เขาจะกลายเป็นโอรสผู้ถ่อมตนและว่าง่าย

 เอาไว้เจ้าชายจะต้องถือของขวัญแทนคำขอโทษที่ข้าจัดการให้ไปยังคฤหาสน์ลอมบาร์เดียด้วยล่ะ 

 แต่ว่า…! อึก! 

จักรพรรดินีบีบกรามของเจ้าชายที่ตั้งใจจะเอ่ยประท้วงจนเจ็บปวดไปหมด

 เจ้าชาย 

 พ่ะย่ะค่ะ…สะ…เสด็จแม่ 

 วันนี้อับอายมากใช่มั้ย 

 …พ่ะย่ะค่ะ? 

จักรพรรดินีลูบใบหน้าของอาสทาน่าด้วยความอ่อนโยน ราวกับไม่เคยบีบกรามจนเขาเจ็บไปหมด

 ตอบมาสิ เจ้าชาย 

 …พ่ะย่ะค่ะ อับอายพ่ะย่ะค่ะ 

 เรื่องใด 

 ข้า ข้าคือคนที่จะเป็นรัชทายาท เป็นผู้นำอาณาจักรแห่งนี้พ่ะย่ะค่ะ แต่ แต่พวกนั้น… 

 แต่พวกนั้นทำตัวราวกับเป็นเจ้าของอาณาจักรนี้ใช่มั้ย 

จักรพรรดินีหัวเราะราวกับแค่ล้อเล่น

 ลอมบาร์เดียน่ะเป็นคนแบบนั้น เป็นพวกคนที่เชื่อมั่นในอำนาจของเงินทองเล็กๆ น้อยๆ จนสูญเสียความเคารพนับถือในตัวราชวงศ์ 

นัยน์ตาของจักรพรรดินีส่องประกายเป็นปรปักษ์อย่างชัดเจน

 เพราะฉะนั้นจงอย่าได้ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้เสียล่ะ เจ้าชาย 

ว่าแล้วเชียว เสด็จแม่เข้าใจความรู้สึกของเขา!

 และเด็กที่ชื่อฟีเรนเทียนั่น สักวันจะต้องเสียใจที่เคยทำตัวไร้มารยาทกับเจ้าชายของเรา แม่คนนี้จะทำให้เป็นเช่นนั้นเอง 

อาสทาน่าพยักหน้าแข็งขัน

 ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีใด ข้าก็จะทำให้เป็นเช่นนั้น ดังนั้นเจ้าชายเพียงแค่เชื่อฟังคำพูดของข้าก็พอ 

 พ่ะย่ะค่ะ เสด็จแม่ 

จักรพรรดินีกอดอาสทาน่าเอาไว้ในอ้อมกอดของพระนาง

มองจากภายนอกแล้ว ช่างเป็นภาพของบุตรชายกับมารดาที่งดงามมากเสียจริง

Related

Related

 

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

Status: Ongoing

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 이번 생은 가주가 되겠습니다 I shall master this family 김로아 คิมโรอา เขียน หนทางการขึ้นเป็นเจ้าตระกูลของหญิงสาวผู้กลับมาชาติมาเกิดใหม่ถึงสองครั้งสองครา เมื่อ ฟีเรนเทีย ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และได้มาเกิดใหม่ในตระกูลลอมบาร์เดียที่ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรแลมบลู ในฐานะหลานสาวของเจ้าตระกูลที่เกิดจากมารดาสามัญชนทำให้โดนรังเกียจจากคนในตระกูล เมื่อพ่อและปู่ขอเธอตายจากไป เธอถูกขับไล่ออกจากตระกูล สองปีหลังจากนั้น ตระกูลลอมบาร์เดียก็ล่มสลาย แต่แล้ว เมื่อเธอประสบอุบัติเหตุอีกครั้งและมีโอกาสได้ย้อนกลับมาเมื่อตอน 7 ขวบ ครั้งนี้เธอจึงตั้งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงอนาคตและตั้งใจจะขึ้นเป็นเจ้าตระกูลคนถัดไปให้ได้ หนทางแห่งการขึ้นเป็นเจ้าตระกูลจะลำบากยากเย็นเพียงไหน มาเอาใจช่วย ฟีเรนเทียได้ใน “ชาตินี้ข้าจะเป็นเจ้าตระกูล”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท